Lore Master: “เปิดประตู Vault แห่ง Fallout สู่เรื่องราวเบื้องหลังของ Vault มากมายหลายแบบใน Fallout ทุกๆ ภาค”

[KHNN-K860]

Lore Master: “เปิดประตู Vault แห่ง Fallout สู่เรื่องราวเบื้องหลังของ Vault มากมายหลายแบบใน Fallout ทุกๆ ภาค”



สำหรับแฟนเกมตระกูล Fallout แล้วคงจะรู้กันดีว่าหนึ่งในสิ่งที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำตัวของเกมก็คือ เหล่า Vault หรือหลุมหลบภัยมากมายหลายแห่งที่เราจะได้พบในเกมในแต่ละภาค โดย Vault แต่ละแห่งภายในเกมนั้นต่างอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวปูมหลังที่น่าสนใจ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จัก Vault เหล่านั้นกันครับ

Vault 92



Vault 92 ถูกสร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์ในการเก็บรักษา “ศิลปะ” ให้คงอยู่ต่อไปบนโลกหลังวัฒนธรรมล่มสลายเพราะสงคราม เหล่าศิลปินชื่อดังทั้งหลายของอเมริกาได้ถูกรับเชิญให้เข้ามาเป็นผู้อยู่อาศัยภายใน Vault 92 ทั้งหมดที่ว่ามาคือสิ่งที่ถูกบอกเล่าแก่ผู้ถูกเชิญแต่ความจริงแล้ว Vault 92 มีเบื้องหลังที่ดำมืดมากยิ่งกว่านั้น ภายใน Vault 92 ทุกมุมล้วนถูกติดตั้งไว้ด้วยลำโพงที่ซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ ลำโพงเหล่านี้คอยส่งข้อความสะกดจิตเหล่าผู้อยู่อาศัยภายใน โดยมีเป้าหมายในการล้างสมองพวกเขาให้กลายเป็นสุดยอดทหารที่ทำตามคำสั่งทุกอย่างและต่อสู้โดยไร้ ซึ่งความหวาดกลัว เป้าหมายดังกล่าวล้มเหลวหลังจากเหล่าผู้อยู่อาศัยเกิดอาการคลุ้มคลั่งและไล่ล่าสังหารกันเองภายใน Vault

Vault 34



เป็น Vault ที่ดูเหมือนจะสุขสบายปลอดภัยหากเทียบกับ Vault แห่งอื่นๆ เนื่องจากมันมีพื้นที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยเสบียงและอาวุธ แต่ผลของความสบายกลับสร้างผลกระทบอันเลวร้ายแก่ Vault แห่งนี้ เมื่อประชากรของ Vault เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนล้น ประชาชนบางกลุ่มต้องการเข้าถึงอาวุธที่ถูกเก็บไว้แต่ถูก Overseer (ตำแหน่งผู้นำของ Vault แต่ละแห่งปฏิเสธ) นำไปสู่การประท้วงและการก่อจลาจล ผู้คนบางส่วนภายใน Vault จึงหลบหนีออกไปสู่โลกภายนอกแต่ผลของความขัดแย้งดังกล่าวทำให้ประตู Vault ถูกปิดตาย ซ้ำร้ายไม่นานนักเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ก็เกิดขัดข้อง ส่งผลให้แก๊สปฏิกรณ์ปนเปื้อนเข้าสู่ภายใน Vault สังหารผู้คนภายจนแทบหมด ส่วนผู้รอดชีวิตก็กลายเป็นเหล่า Ghoul เรื่องทั้งหมดเกิดจาก Chris Haversham ผู้มีหน้าที่ดูแลเตาปฏิกรณ์เข้าใจผิดคิดว่าตนเองกำลังกลายพันธุ์กลายเป็น Ghoul จากการทำหน้าที่ดูแลเตา ส่งผลให้เขาตัดสินใจทิ้งหน้าที่หนีออกมาจาก Vault นำไปสู่การขัดข้องและการล้มตายของเหล่าผู้อยู่อาศัยทั้งหมด

Vault 108



ถูกออกแบบมาเพื่อทดลองเรื่องของความขัดแย้งในการขึ้นสู่ตำแหน่งและอำนาจ โดย Overseer คนแรกของ Vault รู้ตัวว่าตนเองจะต้องตายลงภายใน 40 เดือนหลังเข้าไปภายใน Vault และเพื่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างที่ต้องการทดสอบ นอกจาก Overseer แล้วตำแหน่งอื่นๆ ภายใน Vault ไม่ได้ถูกแต่งตั้งให้ใครทั้งนั้น นอกจากนั้นระบบไฟฟ้าของ Vault ยังถูกออกแบบมาให้ชำรุดลงภายใน 20 ปีแถมท้ายด้วยการที่ Vault 108 เป็น Vault ที่ไร้ซึ่งสื่อบันเทิงใดๆ ทั้งสิ้นสภาพแวดล้อมขั้นต้นของ Vault 108 ถึงจะดูย่ำแย่แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายมากนัก จนกระทั่งห้องทดลองโคลนนิ่งที่อยู่ภายในเข้ามาเกี่ยวข้อง Gary คือชื่อของร่างโคลนทั้งหลายที่ถูกสร้างขึ้น มี Gary ถูกสร้างออกมาหลายรุ่น แต่ล่ะรุ่นเริ่มมีลักษณะนิสัยรุนแรงและมีความต้องการทำร้ายเหล่าผู้คนที่ไม่ใช่โคลนมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดมนุษย์ปกติทั้งหมดใน Vault ก็ถูกร่างโคลนทั้งหลายสังหารจนหมด หลงเหลือแต่เพียงเหล่าร่างโคลนรุ่นหลังที่พูดได้เพียงประโยคเดียว…..Gary

Vault 112



หนึ่งใน Vault ชื่อดังที่แฟนเกม Fallout 3 หลายคนน่าจะจดจำกันได้ดี Vault 112 เป็นที่สถานที่สำหรับทดลอง Virtual Reality โดยตัว Vault ถูกออกแบบมาให้รองรับสมาชิกจำนวน 85 คน ซึ่งจะหลับใหลและใช้ชีวิตอยู่ในแคปซูล ภายในโลกจำลองอันแสนสงบสุขจนกว่าจะถูกเวลาตื่นขึ้นเมื่อ Vault ถูกเปิด แต่เรื่องราวกลับไม่เป็นไปอย่างที่วางแผนเพราะ Stanislaus Braun Overseer ของ Vault กลับหลงใหลในอำนาจและการได้เป็นผู้บังคับชีวิตของเหล่าสมาชิกคนอื่นๆ ในโลกเสมือนจริง ส่งผลให้สมาชิกคนอื่นๆ ตกเป็นของเล่นของ Braun ซึ่งเขากลั่นแกล้งและทรมานจิตใจด้วยวิธีต่างๆในโลก Virtual Reality ที่เขาเป็นผู้ควบคุม

Vault 22



Vault 22 ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานีทดลองในการเป็น Vault ที่สามารถเลี้ยงดูตนเองได้โดยอาศัยการพัฒนาพันธุ์พืช ซึ่งจะถูกใช้เป็นอาหารหลักของผู้อยู่อาศัยใน Vault แม้การทดลองในช่วงต้นจะดูเหมือนประสบความสำเร็จแต่สุดท้าย Vault แห่งนี้ก็เข้าสู่การล่มสลายและกลายเป็นหนึ่งใน Vault สุดสยองชื่อดังที่สุดแห่งหนึ่งใน Fallout พืชที่ถูกทดลองได้กลายพันธุ์และปลดปล่อยเอาสปอร์ออกมา เมื่อมนุษย์สูดเข้าไปในร่างกายส่งผลให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ถูกเรียกว่า Spore Carrier ซึ่งจะทำการแพร่เชื้อใส่คนอื่นๆ ต่อไป เหล่าผู้รอดชีวิตจาก Vault 22 ได้หลบหนีออกไป และรอบๆ พื้นที่ของ Vault มีป้ายเตือนจำนวนมากถูกติดเอาไว้

Vault 106



เป็นอีกหนึ่ง Vault ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นสถานที่ทดลอง เป้าหมายการทดลองของ Vault 106 คือการทดสอบผลข้างเคียงของยาหลอนประสาท 10 วันหลังประตู Vault ถูกปิด สารเคมีซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจก็ถูกปล่อยเข้าสู่ภายในระบบ ส่งผลให้ประชากรเสียสติและเข้าสู่ความคลุ้มคลั่งอย่างรวดเร็ว แม้จะมีผู้รอดชีวิตอยู่บ้างภาย แต่ทั้งหมดก็ไม่อยู่ในสภาพปกติแม้แต่คนเดียว ผู้เล่นที่เดินทางเข้าไปภายใน Vault แห่งนี้จะได้รับผลกระทบจากยาดังกล่าวและทำให้เห็นภาพหลอนตลอดระยะเวลาที่อยู่ภายใน Vault แห่งนี้

Vault 77



ขณะที่ Vault แห่งอื่นอาจเต็มไปด้วยปัญหาอย่างประชากรที่สูงเกินไปหรือเสบียงที่มีไม่เพียงพอ แต่ Vault 77 กลับอยู่ในสภาพที่ตรงกันข้ามอย่างสุดขั้ว เพราะ Vault 77 นั้นมีสมาชิกเพียงแค่ “คนเดียว” โดยภายใน Vault มีชายหนุ่มคนหนึ่งถูกขังไว้ในเพียงลำพังพร้อมกับเหล่าตุ๊กตาของเล่น ไม่นานชายหนุ่มก็เข้าสู่สภาวะเสียสติจากการต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวเป็นเวลายาวนาน เขาเริ่มคิดว่าเหล่าตุ๊กตานั้นมีชีวิตและพูดคุยกับพวกมัน หลังออกจาก Vault ได้สำเร็จเขาออกเดินทางไปกับตุ๊กตา Vault Boy และได้สังหารเหล่านักค้าทาสกลุ่มหนึ่ง ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในชื่อ The Puppet Man

Vault 87



อีกหนึ่ง Vault สุดสยองที่เป็นผลลัพธ์จากการทดลอง Vault 87 เป็นสถานที่ทดลองของกลุ่ม Enclave ที่สมาชิกของ Vault ชุดแรกถูกใช้เป็นเหยื่อในการทดสอบ Forced Evolutionary Virus ไวรัส FEV ได้ทำการเปลี่ยนร่างของเหยื่อให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์หลากหลายรูปแบบอย่างเช่น Super Mutant และ Centaur ถึงแม้จะกลายพันธุ์ไปแล้วแต่สายพันธุ์ใหม่เหล่านี้ยังคงความฉลาดของมนุษย์ไว้เช่นเดิม มีเพียงอารมณ์รุนแรงเท่านั้นที่ถูกพัฒนา เหล่าคนกลายพันธุ์นั้นต้องการที่จะรักษาสายพันธุ์ตนเองเอาไว้แต่ไม่สามารถสืบพันธุ์ด้วยวิธีธรรมชาติได้ นำไปสู่การออกล่าหาลักพาตัวเหยื่อผู้โชคร้ายรุ่นใหม่มาบังคับให้รับเชื้อไวรัส FEV

Vault 11



Vault 11 ไม่ได้มีเชื้อไวรัส หรือพืชกลายพันธุ์จากนรก มันไม่ได้มียาหลอนประสาท แถมยังมีขนาดที่พอดี มีเสบียงที่เพียงพอแต่ชะตากรรมของสมาชิกใน Vault แห่งนี้ก็จบลงอย่างไม่สวยงามอีกเช่นเคย เงื่อนไขในการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขภายใน Vault แห่งนี้ก็คือเหล่าสมาชิกภายใน Vault ต้องการ “บูชายัญ” ชีวิตมนุษย์คนหนึ่งใน Vault ให้แก่ AI คอมพิวเตอร์ซึ่งควบคุมระบบ Vault แห่งนี้ทุกๆ ปี ระบบดังกล่าวเป็นไปโดยการอาศัยการเลือกตั้งของสมาชิกว่าใครจะเป็นผู้ถูกคัดเลือกให้ต้องตาย ระบบดังกล่าวส่งผลให้เกิดการแบ่งกลุ่มที่เรียกว่า Bloc ซึ่งเป็นเหมือนกับพรรคการเมืองซึ่งมีอิทธิพลต่อคะแนนโหวตแต่ละครั้ง
จุดจบของ Vault 11 มาถึงเมื่อ Justice Bloc ซึ่งเป็น Bloc ที่มีอำนาจมากที่สุดได้ทำการข่มขู่หญิงสาวนาม Katherine Stone ให้ร่วมหลับนอนกับสมาชิกของ Bloc เพื่อแลกกับการที่สมาชิกจะไม่โหวตให้สามีของเธอ Nathan Stone ต้องถูกเลือกไปบูชายัญ แต่สุดท้ายเมื่อเหล่าสมาชิกกลับโหวตส่งสามีของเธอไปบูชายัญเหมือนเดิม Katherine จึงทำการลงมือสังหารสมาชิกของ Justice Bloc เพื่อล้างแค้นก่อนออกมาเปิดเผยและสารภาพเรื่องราวทั้งหมดส่งผลให้เธอถูกเลือกให้เป็นทั้งเหยื่อที่ต้องถูกบูชายัญในปีต่อไปและเป็น Overseer คนใหม่ของ Vault
เมื่อขึ้นเป็น Oversser แล้ว Katherine ตัดสินใจล้างระบบใหม่แทนที่การลงคะแนนเสียงเลือกเหยื่อไปบูชายัญเป็นการสุ่มเลือกแทน เหล่าสมาชิกของ Bloc ที่ไม่พอใจได้ก่อการปฏิวัติเพื่อยึดอำนาจนำไปสู่สงครามภายใน ทำให้สมาชิกใน Vault แทบทั้งหมดต้องจบชีวิตลง หลงเหลือเพียงผู้รอดชีวิต 5 ราย ผู้รอดชีวิตทั้ง 5 ตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมกันโดยการปฏิเสธที่จะไม่มีใครถูกบูชายัญต่อหน้าคอมพิวเตอร์ แต่ทั้ง 5 ก็ต้องตกตะลึงเมื่อค้นพบว่านั่นคือสิ่งที่เจ้าคอมพิวเตอร์ต้องการมาโดยตลอด ข้อความแสดงความยินดีถูกฉายพร้อมถ้อยคำสรรเสริญถึงการเป็นคนไม่เห็นแก่ตัวของเหล่าสมาชิกถูกแสดง ซ้ำร้ายประตู Vault ก็ถูกเปิดเพื่อให้สมาชิกสามารถเดินทางออกจาก Vault ไปได้หากต้องการ หลังค้นพบความจริงผู้รอดชีวิต 4 รายตัดสินใจฆ่าตัวตายตามเดิม มีเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่รอดชีวิตออกไปจาก Vault 11 และไม่มีใครรู้ว่าเขาหรือเธอเป็นใคร

Vault 21



หนึ่งใน Vault ไม่กี่แห่งที่สมาชิกภายในไม่ถูกสังหารหรือเสียสติกันหมด Vault 21 ถูกสร้างโดยเน้นเรื่องของความเท่าเทียม ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่การออกแบบพื้นที่ไปจนถึงวิถีชีวิตของผู้คนภายใน Vault ตั้งอยู่บนแนวคิดในเรื่องของความเท่าเทียมกัน ความขัดแย้งทุกอย่างของสมาชิกภายใน Vault ถูกตัดสินด้วยเกมการพนันที่อาศัยโอกาส สังคมของ Vault 21 เป็นสังคมแห่งความเท่าเทียมที่ไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบใคร เหล่าสมาชิกที่ถูกคัดเลือกให้เข้ามาอยู่อาศัยภายใน Vault แห่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นนักพนันตัวยงและรูปแบบการใช้ชีวิตดังกล่าวก็ส่งต่อไปถึงลูกหลาน
แต่ชะตากรรมของ Vault 21 และเหล่าผู้อยู่อาศัยภายในก็ต้องเดินมาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อ Robert House ค้นพบที่ตั้งของ Vault แห่งนี้และชนะเดิมพันสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ Vault ในการเล่น Poker สุดท้าย House ก็ขับไล่เหล่าผู้อยู่อาศัยทั้งหมดออกไปแยกชิ้นส่วนของ Vault ไปขายและเปลี่ยนส่วนบนสุดของ Vault ให้กลายเป็นโรงแรมชื่อดัง

Vault 3



เป็นอีกหนึ่ง Vault ที่ชะตากรรมของเหล่าผู้อยู่อาศัยภายในต้องพบจุดจบ แต่จุดจบของ Vault 3 นับได้ว่าเป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะ Vault 3 ถือได้ว่าเป็น Vault อีกแห่งที่ประชาชนภายในอยู่อาศัยกันอย่างสงบสุขไร้ซึ่งการทดลองและปัญหาภายใน แต่เมื่อท่อน้ำภายในชำรุดส่งผลให้ Vault ต้องถูกเปิดออกเพื่อติดต่อกลับโลกภายนอก แก๊งค์ Raider ในชื่อ The Fiends ก็ได้ทำการบุกเข้าโจมตี Vault และสังหารผู้คนภายในทั้งหมดก่อนจะเข้ายึดครอง Vault 3 ไปบนฐานทัพของตนเอง

Vault 68 และ 69



เป็นสอง Vault ที่สองพี่น้องสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมายในการทดลองปฏิกิริยาทางสังคมของมนุษย์ในสภาพแวดล้อมที่สุดขั้วโดย Vault ทั้งสองมีอัตราส่วนชายหญิงที่แตกต่างกันอย่างมหาศาล Vault 68 มีผู้อยู่อาศัยเป็นหญิง 1 คน ต่อผู้ชาย 1000 คน ขณะที่ Vault 69 มีชาย 1 คน ต่อผู้หญิง 1000 ทั้งสอง Vault ยังไม่เคยปรากฏตัวภายในเกมและถูกพูดถึงเฉพาะในหนังสือ Fallout Bible

::]Credit[::

http://tech.online-station.net/view/...80%E0%B8%A3-2/

และ

http://tech.online-station.net/view/...9%80%E0%B8%A3/

[max@100%]

ก็ว่าละมันมีความหมายยังไงตอนนี้รู้ละของแต่ละที่ ขอบคุณครับบบ

[opaljj]

เเต่ละที่เถื่อนใช้ได้...

[aunaugust]

ขยันอัพข่าวจริงๆ..เลยท่าน !!

[Patrenko]

สมพอโลกมันล่มสลายมีแต่คนไม่เต็ม lol

[leonskey]

Vault 69 ชาย 1 หญิง 1000