Fan Theory ทฤษฏีที่ทีมพัฒนาอาจไม่เคยบอกจาก 4 เกมดัง
Fan Theory คือการที่สาวกของสื่อบันเทิงใดๆได้คิดลงลึกหาความหมายที่ซ่อนอยู่ในสื่อบันเทิงนั้นๆ เป็นเหมือนเครื่องพิสูจน์ว่าคุณเป็นแฟนตัวยงของสื่อบันเทิงที่คุณชอบจริงๆหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนต์ วิดิโอเกม หรือแม้แต่เนื้อเพลงก็ยังได้ fan theory ก็เหมือนกับความคิดเห็น สามารถโต้เถียงได้ และพวกเราก็สามารถคิดทฤษฎีของเราเองได้เช่นกัน แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามันถูกหรือผิดได้ 100% ยกเว้นเสียแต่จะได้รับการยอมรับจากเจ้าของภาพยนต์/เกม ผมได้เข้าไปอ่านใน subreddit /r/FanTheories และเลือกทฤษฎีที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังครับผม
Sid Meiers Civilization คือโลกหลังความตายของผู้นำในอดีต
เคยสังเกตไหมว่า ทำไมผู้เล่นรับบทเป็นผู้นำแค่คนๆเดียว แม้เวลาจะผ่านไปนานหลายร้อยหลายพันปี มีอำนาจล้นฟ้าอยู่เพียงคนเดียวภายในอาณาจักรของเรา ย้อนกลับมาดูคำพูดของผู้บรรยายที่บอกผู้เล่นว่า ประชาชนของท่านวิงวอนให้ท่านกลับมาอีกครั้ง ท่านจะสามารถสร้างอาณาจักรที่ยืนหยัดต่อบททดสอบแห่งกาลเวลาได้หรือไม่
ผู้นำทุกคนที่ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้นั้นได้เสียชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริงไปแล้ว แต่ผู้เล่นคือคนฟื้นคืนชีพให้กับพวกเขาอีกครั้ง ให้เขาได้กลับมาปกครองอาณาจักรตั้งแต่ยุคแรกเริ่มจนไปถึงเวลาในอนาคต ผมเชื่อว่าความปรารถนาของเหล่าผู้นำคือการมีอำนาจ และการเป็นใหญ่ในสังคมโลก ความปรารถนาเหล่านั้นได้เป็นจริงในโลกหลังความตายแห่งนี้
FTL: Faster than Light ผู้เล่นคือ AI
FTL เป็นเกมกลยุทย์ที่เราต้องควบคุมลูกเรือและระบบต่างๆในยานอวกาศ แต่มันมีจุดน่าสงสัยอยู่มาก
ในตัวเกม ถ้าเราเสียลูกเรือไปทั้งหมด เราจะแพ้ทันที แต่ตราบใดที่เรามีลูกเรืออยู่เราก็สามารถควบคุมยานต่อไปได้ ลูกเรือ 3 คนแรกที่มาตอนเริ่มเกมตายหมดก็ไม่เป็นไร หมายความว่า 3 คนนั้นไม่มีใครเป็นกัปตัน แล้วทำไมเราถึงแพ้ถ้าหากคนอื่นตายหมด แต่เรายังอยู่? เพราะเราคือ AI เป็นปัญญาประดิษฐ์ ไม่มีตัวตนที่จับต้องได้นั่นเอง
เราสามารถควบคุมระบบทั้งหมดของยานได้ และสามารถหยุดเวลาเพื่อคำนวณการตัดสินใจการกระทำครั้งต่อไป อย่างเช่น เลือกเป้าหมายการโจมตี จัดการะบบพลังงาน จัดชุดคำสั่งให้ลูกเรือ แน่นอนว่าไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถหยุดเวลาและคำนวณได้รวดเร็วแบบนี้ ยกเว้นเสียแต่เป็นคอมพิวเตอร์ เป็นปัญญาประดิษฐ์
ผู้เล่นคือ AI ในฐานะกัปตัน (C.A.P.T.A.I.N.)
Commanding Automated Planning and Tactical Artificial Intelligence Network
เกมซีรีย์ The Elder Scrolls คือไอเทม Elder Scrolls
ตัวเกมในทุกๆภาคถูกเรียกชื่อว่า The Elder Scrolls ตามชื่อไอเกมในเกม แท้จริงแล้วม้วนกระดาษนั้นคืออะไรกันแน่
ในเว็บไซต์ uesp.net ได้จำกัดความไอเทม Elder Scroll ไว้แบบแปลกๆว่า They are fragments of creation from outside time itself, and their use in divining prophecies is but a small part of their power. They simultaneously do not exist, yet always have existed. มันคือเศษเสี้ยวจากการสร้างที่อยู่เหนือกาลเวลา ใช้มันในการพยากรณ์คืออำนาจเพียงเล็กน้อยของมัน การมีอยู่ของพวกมันไม่มีอยู่จริง แต่ก็มีอยู่จริงตลอดเวลา
เคยมีคนตั้งทฤษฎีไว้ว่า Elder Scroll(ไอเทม) มีทุกผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ทั้งหมด ในแต่ละหน้าของมัน ถ้าจะให้พูดอีกอย่างคือ อะไรที่สามารถเกิดขึ้นได้จะถูกเขียนขึ้นใน Elder Scroll เป็นเหมือนดั่งจักรวาลอนันต์รวมอยู่ในตัว Scroll ทุกๆเหตุการณ์ โอกาส และการกระทำที่จะเกิดขึ้นในตัว Scroll
Elder Scrolls เป็นเหมือนกระจกที่ไว้ส่องดูจักรวาลเหล่านั้น ,เมื่อเราซื้อเกม The Elder Scroll มาเล่น ไม่ว่าจะเป็นภาคไหน เราจะเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง โลกที่เราเลือกทางเลือกของเราเองได้ ทุกๆคนเล่นเกมและเลือกทางเดินที่ต่างกันออกไป อย่างเช่น เลือกที่จะไปช่วย Empire หรือ Stormcloaks เลือกที่จะฆ่าหรือไว้ชีวิต Paarthurnax ที่จริงแล้วที่นี้คือโลกใบเดียวกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เหมือนกัน เกือบจะเท่ากัน แต่เป็นคนละจักรวาล
ถ้าเราย้อนกับไปดูคำอธิบายที่ว่า มันคือเศษเสี้ยวจากการสร้างที่อยู่เหนือกาลเวลา การมีอยู่ของพวกมันไม่มีอยู่จริง แต่ก็มีอยู่จริงตลอดเวลา คำว่า เหนือกาลเวลา กับไม่มีอยู่จริง แต่ก็มีอยู่จริง มันน่าจะเป็นเป็นอะไรที่มองเห็นแต่ไม่มีอยู่จริง อะไรที่อยู่ในโลกเสมือน
ตัวเกมไม่ได้ตั้งชื่อตามไอเทมล้ำค่าที่ในเกม แต่ตัวเกมนั้นแหละ คือสิ่งล้ำค่านั้น ตัวเกมคือ The Elder Scrolls
ในภาค Skyrim ถ้าเราเปิดใช้ Elder Scrolls ภายในเกม เราจะเห็นแสงวาบออกมา ทำให้เราเบลอ มองอะไรไม่ค่อยชัด นั่นคือเราเปิด Scrolls มาเห็นจักรวาลของตัวเราเอง เป็น recursive(การเรียกใช้งานตัวเองของฟังก์ชั่น) การที่เห็นแสงวาบ เพราะเป็น error ของการ recursive
3 ตัวละครหลักใน GTA V แสดงให้เห็นถึง 3 ยุคของ GTA ภาคก่อนๆในอดีต
Trevor Phillips: Trevor นั้นเป็นคนประหลาด วิกลจริต อารมณ์ร้อนแรง และดูบ้าที่สุดใน 3 คน เขาแสดงให้เห็นถึง GTA ภาค 1 และ 2 ที่เล่นแล้วมีแต่ความบ้าระห่ำ ขับรถชนคน หนีตำรวจ ไม่คิดอะไรมาก Trevor ทำให้เราได้ฟีลของเกม 2 เกมนี้อีกครั้ง ทั้งภารกิจ Rampage ของเขาที่คล้ายกับ Kill Frenzy หรือแม้แต่สกิลพิเศษของตัว Trevor เอง ถึงแม้ทั้งคู่จะมีภารกิจเนื้อเรื่อง แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นหลักถ้าเราจะเล่นเป็น Trevor หรือเล่น GTA 1 และ 2 เล่นเอาล้วนๆ
Franklin Clinton: เรื่องราวของ Franklin เป็นแนว จากอีกาสู่หงส์ฟ้า ที่ตัวเอกค่อยๆยกระดับฐานะความร่ำรวยของตัวเองไปเรื่อยๆ เหมือนกับเนื้อเรื่องใน GTA 3, Vice City และ San Andreas จากคนปกติธรรมดาที่ไม่ได้ชั่วร้ายอะไร อยากจะยกฐานะตัวเองให้สูงขึ้นจากเดิม แต่เมื่อเขาถูกชวนมาทำอาชญากรรม เขาก็ทำมันมาเรื่อยๆและเสี่ยงที่จะทำเรื่องเลวร้ายขึ้นเรื่อย เพื่อชีวิต(ทางการเงิน)ที่ดีกว่า และตัว Franklin ก็เหมือน CJ จาก San Andreas ด้วยชาติพันธุ์อีกต่างหาก
Michael De Santa: Michael เป็นคนที่ใช้ชีวิตหลังจากขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของการเป็นอาชญากร และต้องการเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตแต่เขาก็ค้นพบว่ามันมันไม่ง่ายอย่างที่คิด ตัวเขาแสดงให้เห็นถึง GTA รูปแบบใหม่ จาก GTA IV (และ DLC story) ที่โฟกัสลงไปในเนื้อเรื่อง ตัวละครที่มีหลายแง่มุม อย่าง Niko ในภาค IV เขาได้เริ่มชีวิตใหม่ใน Liberty City แต่ครอบครัวที่มีเส้นสายกับการก่ออาชญากรรมทำให้เขาต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบากเสมอ เขาทั้งสองคนรู้ดีว่า อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถหนีจากปลายกระบอกปืนได้
Credit:http://www.juropy.com/2015/05/fan-th...9%80%E0%B8%84/