สมมติว่าผมเป็นคนเงียบ ๆ แล้วถ้าผมอยากจะสร้างอีกบุคลิกมาเก็บไว้ เป็นบุคลิกที่มีความร่าเริงแจ่มใส ชอบคุย มีปฏิสัมพันธ์ดี
แล้วบางสถานการณ์ผมก็เอาบุคลิกร่าเริงขึ้นมาใช้พูดตอบโต้กับผู้คนทั่วไป แบบนี้เป็นไปได้ไหม ถือว่าเป็นโรคจิตชนิดนึงไหมครับ?
สมมติว่าผมเป็นคนเงียบ ๆ แล้วถ้าผมอยากจะสร้างอีกบุคลิกมาเก็บไว้ เป็นบุคลิกที่มีความร่าเริงแจ่มใส ชอบคุย มีปฏิสัมพันธ์ดี
แล้วบางสถานการณ์ผมก็เอาบุคลิกร่าเริงขึ้นมาใช้พูดตอบโต้กับผู้คนทั่วไป แบบนี้เป็นไปได้ไหม ถือว่าเป็นโรคจิตชนิดนึงไหมครับ?
ไม่บ้าครับ ดูปกติดี ถ้าอยู่คนเดียวเป็นคนเงียบๆอะนะ สำหรับผมอยู่คนเดียวร่าเริงแจ่มใสอะเขาเรียกบ้า =w=
≡MOTOR≡
steam dota2 ว่างๆแอดมาหน่อย
ผมนี่แจ่มใสได้ทุกเวลา สงสัยบ้าจริงๆ อยุ่คนเดียวผมยังยิ้มได้เลย
ใจล้วนๆอะครับช่วงประถมผมเงียบมากโดนแกล้งตลอด พอขึ้นมัธยมอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองมันก็ทำได้อะครับ แต่ผมเลือกที่จะไม่เก็บบุคลิกเก่าใว้นะ
ตรงๆว่าไม่รู้จะเอาใว้ทำไมใครๆก็อยากคุยกับคนที่ร่าเริงแจ่มใส จริงใหมครับหรือนายชอบเพื่อนที่ตอบแค่ อืม หือ อือ
ไม่รุ้สินะ ผมรู้สึกตัวก็มีสองบุคลลิก ขรึมสุดขัว(เป็นตอนอยู่กับคนทั่วๆไป) กับร่ั่วสุดขีด(เป็นตอนอยู่กับคนที่สนิท)
เป็นไปได้ครับ แต่ถ้าเรารู้ว่า ความคิดของคนเราเนี้ยมันเกิดๆดับ มันไม่มีอะไรตายตัว มันเกิดขึ้นแล้วก็ดับของมันเองโดยที่ไม่ต้องไปควบคุม
เราก็จะเห็นว่าสิ่งที่เป็นคนเลือกทำสิ่งต่างๆนั้นไม่ใช่ความคิด แต่เป็น จิตใจของเราเอง ต่อให้เราพยายามเป็นคนอื่นหรือสร้างบุคลิกอื่นขึ้นมา
สุดท้ายแล้วเราก็ต้องกลับมาเป็นธรรมชาติของตัวเราเองอยู่ดีครับ
จะมีกรณีนึงที่มีคนๆนึงคิดว่าเขาถูกอีกบุคลิกนึงครอบงำตัวเองไว้ เขาทำทุกอย่างเพื่อยับยั้ง บุคลิกเหล่านั้นไม่ให้เกิดขึ้น โดยพยายามจินตนาการว่าเขาได้ลบความคิดเหล่านั้นที่ผุดขึ้นมาในหัว เป็นการกระทำที่โง่มากครับ เพราะทุกอย่างในตัวของคนเรามันเกิดๆดับๆของมันเอง บุคลิกมันก็เปลี่ยนและถูกสร้างขึ้นตามกาลเวลา ตามพฤติกรรมที่ทำ ถ้าหยุดเฉยๆปล่อยวาง เขาก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมโดยไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ อันนี้ผมพูดเพราะผมเคยเป็นมาก่อนครับ วิตกกังวล ระแวงความคิดของตัวเอง กลัวว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นคนอื่น
ส่วนแบบเจ้าของกระทู้ แล้วผมมองว่าแล้วแต่คน ถ้าหากเป็นพวกโรคจิต ไม่ได้มีจิตใจที่อยากโต้ตอบกับคนอื่นแต่ทำทั้งหมดไปเพราะเพื่อแสดง ผมว่าไม่ใช่โรคจิต
แต่เป็นการทำร้ายตัวเองเปล่าๆ ไม่ได้ทำให้ชีวิตมีความสุขสักนิด
แต่ถ้าทำแล้วมันมีความสุข ผมว่ามันเป็นธรรมชาติของเขาเองอยู่แล้วแหละครับ
ชีวิตผมรายล้อมไปด้วยกำลังใจและคำคมรอบกาย แต่สิ่งเหล่านั้น ไม่เคยผลักดันให้ผม "ต่อสู้" ได้เลย
ได้อยู่แล้วครับเมื่อก่อนผมร่าเริงนะ บ้าๆ แต่พอลองทำเข้มๆมาดๆหน่อย บ้าน้อยลง ผมนี่ติดเลยครับ
นี่ก็ร่าเริงนิดหน่อยส่วนใหญ่เงียบๆนะ
ชีวิตจริงไม่ใช้นิยาย ที่ตัวเอกจะมีสองบุคลิกที่ดีสุดๆและชั่วสุดๆ
โรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar Disorder)
โรคอารมณ์สองขั้วเป็นความผิดปกติทางอารมณ์ ผู้ที่เป็นจะมีอารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน 2 แบบ แบบแรกมีลักษณะอารมณ์และพฤติกรรมออกเป็นแบบซึมเศร้า แบบที่สองมีลักษณะคึกคักพลุ่งพล่าน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้ครับ 555+ http://http://www.rcpsycht.org/detai...php?news_id=79
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kiraraoo : 25th May 2015 เมื่อ 18:57
เวลาผมอยู่กับคนที่ไม่ค่อยสนิทผมก็เงียบๆไม่ค่อยพูดพูดน้อยแบบเขิญอายๆบอกไม่ถูกเหมือนกัน
แต่เวลาอยู่กับพวกที่สนิทโอ้โห่พูดมากซะจนเค้ารำคาญกันเลย 55
Facebook :: Buddy Lord
ปกติผมจะเป็นคนเงียบๆ โลกส่วนตัวสูง ขี้อาย พอเมาเนื้อดู คุยหญิงเป็นว่าเล่น เล่นมุกฮากระจาย เพื่อนมันยังบอกผมเลย มึJเหมือนคนใหม่เลย ตอนมึJเมา มึJนิสัยดีมากๆ กูอยากให้มึJเป็นแบบนี้ตลอดไปเลยว่ะ
ขึ้นอยู่กับการรับรู้และควบคุมตัวเองครับ ถ้ายังรู้สึกตัวมีสติอยู่ตลอดเวลา รู้สึกตัวว่าทำอะไร จดจำเหตุการต่างๆได้ อันนี้เรียกว่า"การใส่หน้ากาก" ครับ เป็นกลไกธรรมชาติของสัตว์สังคมทุกชนิดครับ เพราะเราต้องดำรงชีวิตอยู่ในสังคมครับ เป็นกลไกการเอาตัวรอดครับ
ถ้าสงสัยว่าในกรณีที่กลไกนี้ไม่ทำงาน(ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่)จะเกิดผลตอบรับอย่างไรจากสังคม ภายในบอร์ดเรามีนายเอ่อ....Euc....od....Hel...ythe (เติมเองนะ)เป็น Case Study ครับ....(หยอกเล่งน่า....)
แต่ถ้าสูญเสียความสามารถข้างต้นขึ้นมา แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ครับ เพื่อตัวคุณเองและครอบครัว เพราะไม่ใช่เรื่องดี หรือเท่เลย(ชีวิตจริงมันยิ่งกว่า Anime ครับ) ลองคิดดูครับหากวันนึงด้านเงียบๆของคุณจิตตก เกิดคิดฆ่าตัวตายขึ้นมาล่ะครับ อันนี้ยังดี เพราะตายแล้วก็คงจบกัน(มั้ง)
แต่ถ้าเป็นกรณีที่แย่คือถ้าด้านใดด้านหนึ่งเกิดคลั่งขึ้นมา หยิบมีดกระซวกไส้คนในบ้านคุณ อาจเป็น พ่อ อาจจะเป็น แม่ หรือพี่น้องคุณ โดยที่คุณไม่รู้ตัวเลย พอรู้สึกตัวอีกทีคุณก็กลายเป็นฆาตกรไปแล้ว ไปนอนร้องไห้หนักมากอยู่ไม่คุกก็โรงบาลบ้าดูครับ....
ปล. อาการที่เราเรียกว่าคนบ้าจริงๆแล้วเค้าถือว่าเป็น "ผู้ป่วย" ประเภทหนึ่งครับ สิ่งที่เค้าต้องการคือ การรักษา กับความเข้าใจและโอกาศในสังคมครับ ไม่ใช่การ "เหยียบย่ำ" หรือ "รังเกียจ" จากคนในสังคมครับ....
ไม่บ้าหรอกครับ บุคลิคซ้อนคือเวลาคุณเป็นอีกคนนึงคุณก็จะเป็นอีกคนนึงสมบูรณ์แบบ
คือคุณคิดว่าคุณคือคนนี้ทั้งจิตใจและสมอง แบบจริงๆเลยอ่ะครับ อันนั้นคือปัญหาทางจิต (ลองดู บอดี้ ศพ#19 น่าจะอธิบายได้เข้าใจง่ายดี)
ส่วนที่คุณบอกมาน่าเป็นแบบการเข้าหาสังคมอะไรแบบนั้นมากกว่าครับ ประมาณว่า มีคนสองคนที่คุณชอบ กับ ไม่ชอบ
ตัวตนที่คุณคุยกับคนที่ชอบก็ดี และแน่นอน ตัวตนที่คุยกับคนไม่ชอบก็คงจะไม่อยากคุย ไม่แฮปปี้ อะไรแบบนั้นมากกว่าครับ
เป็นได้ไม่มีอะไรเสียหายเลย
อย่างปัจจุบันผมก็เป้นคน ง่ายๆๆ ตลกๆ โกรธง่ายหายเร็ว อาจจะมีบ้างเวลาที่เราต้องการความเป็นส่วนตัวบ้างอะไรบ้าง
บ้างครั้งก็ออกไปนั่งดูวิว เเล้วเปิดเพลงเเนวนี้ฟัง
PC---I5-4590/asrock H97M Pro4/RAM 16 GB/GTX 1060 3GB OC/HDD 1 TB/SSD 120 GB/Rx-630W
NB---i3-5005U/RAM 8GB/920M 2GB/HDD 500 GB
ปกติ ผมคนเดียว ก็หลายบุคลิก หลายอารมณ์นะครับ
แต่บางที ผมเปลี่ยนกระทันหัน เพื่อนมันชอบบอกผมว่า กินยาไม่เขย่าขวด 55+
เวลาผมอยู่กับเพื่อน ผช ผมจะแมน ๆ แบบใจซื้อใจ
แต่เวลาอยู่กับแฟน กับเพื่อน ผญ ผมจะอ่อนน้อม เป็นผู้ชายเอาใจ เงียบ ๆ 5555
คุณมโนเองไง คุณมโนไปก็มีได้ 2 บุคคิล อะ
มันถูกนิยามว่า "การปรับตัว" ครับ
รอวันโดนแบน
ก็แค่ปรับตัวให้เป็นคนสดใสร่าเริง ทำใจให้สบายครับ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับใจล้วนๆว่าเราจะเป็นคนยังไง เราสามารถเลือกเองได้ครับ
คิดว่ามันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม + จิตใจ + สังคมด้วยนะ ตัวอย่างง่ายๆ เรานี่แหละ เมื่อก่อนเป็นคนเงียบๆ ไม่คุยกับใครเลย ถามคำตอบคำ
เพื่อนน้อยมากที่สุด แต่ก็เป็นคนดี แล้วบังเอิญวันนั้นมันมีสถานการณ์หนึ่งที่ทำให้เราเจ็บแปล้บที่ใจ (เจ็บเจียนตาย) ร้องไห้หนักมาก ตอนนั้นอยากฆ่าตัวตาย
แต่ดีที่มีเพื่อนมาห้ามไว้ทัน จนกระทั่งเวลาผ่านไป เราจะไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ แต่มันกลับกลายเป็นข้อดีนะ มันเปลี่ยนบุคลิกเรา
เป็นคนที่พูดเก่ง อารมณ์ดี ร่าเริงเหมือนคนบ้า (บางทีเวลาอยู่คนเดียวคุยกับตัวเองก็มี) รู้สึกมีเพื่อนเยอะขึ้น รู้สึกไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป
เมื่อก่อนเรายิ้มใครไม่เป็น แต่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างนั้นเลย สรุปรวมๆ คือมันอยู่ที่ตัวเราครับ ยิ่งคนที่ขี้อาย อ่อนโยน ถ้าไม่เจอแบบเรามันคงจะเปลี่ยนยากอยู่หรอก..
อีกอย่างถ้าจะคิดว่าเป็นโรงจิตไหมเนี่ย บอกตรงๆ ถ้าเป็นโรคจิต คงเป็นโรคจิตกันทั้งโลกล่ะครับ
ภาษาในทางเปรียบเปรยหลายๆคนเรียกมันว่า "หน้ากาก" แทนซะมากกว่า
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การปรับตัวเพื่ออยู่กับสังคมจึงเป็นสิ่งจำเป็นทีเดียวนะครับ แต่หลายคนก็ไม่ค่อยชอบใจ ไอ้คำว่า "ใส่หน้ากากเข้าหากัน" จึงเป็นคำเปรียบเปรยในทางลบซะมากกว่า ซึ่งผมว่ามันไร้สาระ เพราะสุดท้ายแล้วการที่เราอยู่ร่วมกันในสังคมกับคนอื่นได้ก็เพราะไอ้ หน้ากาก เหล่านี้อยู่ดี
รอวันโดนแบน
ผมก็มี2บุคลิกครับ อยู่ออฟฟิศผมเป็นลูกจ้าง พออยู่กับแฟนผมเป็นขี้ข้าครับ