เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา
-
เรียนมหาลัยต่างจากเรียนมัธยมยังไงบ้างครับ?
รบกวนช่วยบอกความแตกต่างหน่อยครับ จะได้เตรียมใจถูกหนะครับ
เช่น มหาลัยเขาเรียนกันยังไง หาเพื่อนได้เหมือนตอนมัธยมมั้ย อาจารย์เป็นยังไง อะไรประมาณนี้ครับ ไม่ก็เล่าประสบการณ์ในมหาลัยครั้งแรกก็ได้นะครับ
-
-
เอาคร่าวๆได้ใจความ
งานเยอะ เรียนเยอะ ช่วงแรกๆ ปี 1
แต่จะสบายตอน ปี 3 อิสระเยอะ เลือกลงวิชาเรียนได้ ใน แต่ล่ะวัน
อาจารย์ บาง ม. บางวิชา เข้ม เคร่ง เรื่อง งานต่างๆต้องแปะ!!! สังคมจะไม่เหมือนช่วง มัธยม ครับ ไม่ค่อยได้เฮฮาทำตัวปารตี้ บ้าๆบอๆ ไร้สาระ แล้ว เพราะโตๆกันหมดแล้ว
สามารถหา งาน ทำ คุ่ ด้วยไปได้ เลย!!!
ป.ล คุณเข้าไปแล้วก็จะได้รุ้เองครับชีวิตมหาลัยคือชีวิตการเรียนในแบบผุ้ใหญ่!เต็มตัว
-
-
จากประสบการณ์นะ (ม.รังสิต) หาเพื่อนง่ายนะ แต่เข้ามาแรกๆอาจจะไม่ชิน สังคมมหาลัยมันค่อนข้างมีหลายกลุ่มเพราะมาจากต่างสังคมกันเลยอาจเข้ากันได้ยากในช่วงแรกๆ หลังๆก็จะเบาๆลงคุยกันโอเคขึ้น ส่วนการเรียนแล้วแต่มหาลัยเลยบางวิชาก็เช็คชื่อห้ามขาดเกิน 3 ครั้งงี้ บางวิชาก็ไม่เชคชื่อไม่เข้าสักคาบก็ได้ ส่วนอาจารย์ก็แล้วแต่คนบางคนก็ใจดี บางคนก็เข้ม ห้ามหลับ ห้ามคุย ห้ามเล่นมือถือ ห้ามขาด ห้ามป่วย ห้ามตาย ขาดเกินไปดรอปเรียนใหม่
-
-
ความรับผิดชอบ ความตรงต่อเวลาต้องมาก่อนเลยครับ(แล้วแต่คณะ สาขาที่เรียนนะ)
คณะผม Digital media ที่ sripatum
แรกๆผมไม่มีเพื่อนเลย ตอนไปสมัครไปสมัครพร้อมเพื่อน พอสมัครได้เพื่อนก็ไม่เอาแยกไปอยู่ ม อื่น(คงจะเป็นเพราะสังคม) แต่ผมก็เรียนอยู่กับเพื่อน ผญ ที่มาจาก รร เดียวกัน
เข้าเรื่องเลยดีกว่า
ผมได้เพื่อนก็ตอนเข้ารับฟังปฐมนิเทศน์ นักศึกษาใหม่ แรกๆก็ไม่รู้จักหรอก นั่งฟังไปนานๆมันเบื่อจนเริ่มที่จะคุยกัน แรกๆก็คุยเรื่องมาจาก รร ไหน อะไรทำนองนั้นละ ก็ได้เพื่อนมาจากตรงนั้นด้วย รับน้องด้วย กิจกรรมด้วย ในที่เรียนด้วย
อาจารย์เป็นยังไง
คณะผม อาจารย์เค้าคอยติดตามเรื่องการเรียนให้ เหมือนตอน ม ปลาย แต่จะมาเคร่งครัดตรงการตรวจงาน การส่งงาน อาจจะมีบางท่านที่ไม่ค่อยถูกชะตาสักเท่าไหร่ แต่พอไปเรียนวิชานอกคณะก็เจออาจารย์ใจดีนะ (เรียกอาจารย์ว่าแม่แทน ๕๕) บางทีก็เจอไม่ดีบ้าง(แบบให้เกรดยากอะไรทำนองนั้น)
ถามเพิ่มเติมได้หากอยากฟังตรงไหน
-
-
เมื่อคุณเดินออกมาจากห้องสอบคุณจะรู้เลยว่าต้องลงเรียนใหม่รึเปล่า
-
-
งานเยอะขึ้นครับ ต้องรับผิดชอบมากขึ้น ค่าใช่จ่ายมากขึ้น เวลาว่างมีบ้างแต่เอาไว้นอนหมด
ผมว่าปี 1-2 สบายสุดและ ผมกำลังขึ้นปี 4 ไหนจะต้องไปฝึกงาน ไหนจะต้องทำ Thesis
**ปล.ผมเรียนสถาปัตย์ครับ
-
-
เอาง่าย ๆ มัธยม ง่ายกว่า อีก - -
เรียน มหาลัยง่ายกว่ามัธยมเยอะ
-
-
มหาลัย เวลาเรียนจะน้อยกว่า มัธยมครับ วันๆเรียน วิชา 2 วิชา
แต่วิชาหนึ่งอาจจะเรียนติดกัน 4 ชั่วโมงก็มี มันชิวๆกว่าครับ
แต่เรื่องงานแรกๆอาจจะดูว่าน้อย แต่หลังๆจะเริ่มรู้สึกว่ามันเยอะกว่ามัธยม
ความรับผิดชอบส่วนตัวต้องมีครับ ไม่มีใครมาตามเราส่งงานหรือเข้าเรียน
เรื่องการหาเพื่อน สำหรับผมมีเพื่อนเก่าอยู่แล้วเลยไม่ค่อยลำบากเท่าไร
แต่ถ้าไปตัวคนเดียวก็น่าจะหาเพื่อนได้ไม่ยากครับ
เรื่องอาจารย์อันนี้ก็ทั่วๆไปครับแล้วแต่คน ส่วนตัวปี 1 สบายที่สุดครับ
-
-
1. ไม่มีคนมาคอยบังคับชีวิตคุณว่าต้องไปเรียนตอนใหน กี่โมง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของคุณ
2. อาจารย์จะไม่แคร์คุณหากคุณไม่สนใจเรียน หรือไม่เข้าเรียน เขาจะบอกคุณก็ตอน F ออกมา แต่บางคนก็อาจจะบอกก่อน(ส่วนมากจะเป็นจารย์ที่อายุไม่มาก พวกนี้จะค่อนข้างแคร์)
3. ติดเหล้า ติดเกมส์ได้ แต่ต้องบริหารเวลาให้เป็น ไม่งั้น รอรับ F
4. ไม่มีคำว่าเพื่อนที่แท้จริงในห้องเรียน (ห้องผมนะ ถ้าไม่เห็นแก่ตัวก็เอาตัวไม่รอดอะ พอมีงานไรมา****แทบไม่เคยบอกกัน ต้องไปตามสืบเอา)
5. รับน้อง ถ้าไม่ถูกใจหรือมันรุนแรงเกินไป ไม่ต้องเข้า มันเป็นสิทธ์ของคุณ ยกเว้นม คุณจะเป็นพวกโซตัสขึ้นสมอง รับน้องกะเอาโหดก็ซวยไป
-
-
1.อิสระ เรียนน้อย เวลาว่างเยอะ
2.ลงทะเบียนเรียนเอง
3.เรียนน้อยกว่า แต่ยากกว่า
4.คะแนนเก็บน้อย ส่วนมาก สอบเอา
5.สังคมจอมปลอม เพื่อนแย่ ก็ซวยไป
6.เดินทางไกล ถ้าไม่ได้นอนหอ
7.กิจกรรมเยอะ
8.เพื่อนจะไม่สนิทเหมือนมัธยม
-
-
มหาลัย จะยืดหยุ่นกว่าขึ้นอยู่กะเราลงเรียนด้วย ของผมมีตั้งแต่ เรียน อาทิตย์ละ 2วันวันละ 6 ชม ยัน เรียน 7 วันวันละ 1ชมครึ่ง
ส่วนเรื่องหาเพื่อนหาง่ายครับแต่คุณต้องเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วยในการเลือกเพื่อน
ความเครียดจะเพิ่มขึ้นหลัง Mid term แต่มหาลัยก่อนสอบจะรวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย (แล้วจะรู้จักคำว่า ตกมีนด้วย)
บางมหาลัยอาจต้องดรอปแบบกระดาษหนะขอบอกว่าวิ่งกันทั่ว ม เลยทีเดียว
เกมเหล้า จัดได้ไม่เป็นไร แต่ตอนก่อนสอบต้องจริงจัง ไม่งั้นจะได้รู้จักคำว่า เปอร์ ทาย เกรดต่ำกว่า 1.5 สำหรับบาง ม 1เทอมบินเลย บาง มให้โอกาศเป็น 2 เทอมติด และจะจบต้องไม่ต่ำกว่า 2.0
แต่ถ้าถามผมว่า ชอบแบบไหนผมชอบ มัธยม
เพื่อนที่ซี้ๆกันของผมก็ได้ตอนรับน้องนั่นแหละ
และเวลาทำกิจกรรมก็เต็มที่ วาง Ego ลงแล้วจะสนุกกับมหาลัย
อาจารย์มีหน้าที่แค่ สอน ให้คำแนะนำ และให้คะแนนคุณ แต่บางท่านเหมือนพ่อแม่เลยทีเดียวหายากหน่อยแต่มี
ปี1 ก็ห้าวๆให้น้อยหน่อยนะครับโดยเฉพาะที่ร้านเหล้า
-
-
แรกๆก็หนุกดีครับ ไปเที่ยวบ้าง ไปนู่นไปนี่กับเพื่อนแทบทุกวัน นัดกันไปเรียน ทำงาน อ่านหนังสือ
แต่หลังๆจะค้นพบว่าการนอนอยู่ห้องเป็นกิจกรรมที่สนุกที่สุด
-
-
ส่วนใหญ่ก็จะคล้ายๆกันกับที่ เม้นบนๆ ได้กล่าวมา แต่ถ้าอยากรู้ว่าที่ๆ จขกท.เรียนเป็นยังไง ลองเอาไปเซิร์ทกูเกิ้ลดูครับ ตามด้วยคำว่า pantip แต่บางที่ก็หาไม่เจอ = =
-
-
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
อีเย็น
แรกๆก็หนุกดีครับ ไปเที่ยวบ้าง ไปนู่นไปนี่กับเพื่อนแทบทุกวัน นัดกันไปเรียน ทำงาน อ่านหนังสือ
แต่หลังๆจะค้นพบว่าการนอนอยู่ห้องเป็นกิจกรรมที่สนุกที่สุด
F กี่ตัวแล้วจ๊ะ
-
-
เอาหลักก็งานเยอะขึ้นครับ เรียนสบาย สอบก็เลวร้ายบางวิชา บางวิชาก็ปล่อย
แต่โหดร้ายสุดน่าจะเป็นโปรเจค กับการดองงานครับ อันนี้ไม่ได้ ไม่ได้นอน เคยทำงานห่ามรุ่งแต่งานก็ไม่เสร็จมาแล้ว เพราะเวลาไม่พอ- -*
นี้ขนาดทำกันหลายคน
-
-
เรียนพร้อมเพื่อน จบพร้อมแพทย์ #วิศวะ
-
-
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
Zaraki Kempaji
F กี่ตัวแล้วจ๊ะ
3 จร้าาาาา
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
ส่วนตัวผมว่าความรับผิดชอบต้องเยอะขึ้นมาก เพราะอะไร
1. ตารางเรียนมันไม่แน่นอน ซึ่งพ่อกับแม่ไม่รู้
2. วันที่ขี้เกียจจัดๆ เราสามารถบอกกับพ่อแม่ได้สบายๆว่า วันนี้ไม่มีเรียน วันนี้หยุด วันนี้ อ ไม่มา
3. นี่จะเป็นสิ่งที่เสี่ยงมาก ในการที่จะเรียนไม่จบ
4. เข้าเรียนให้ อ เช็คชื่อทุกคาบ โอกาส F ก็ลดลงไปเยอะแล้วครับ
5. เข้าเรียนสำคัญที่สุดเรียนไม่ได้เรื่องแต่เข้าห้องบ่อยๆ ให้ อ เห็นหน้า ว่าเรามาแต่เช้ามานั่งเรียน ส่งงานครบๆ อ เค้าก็ช่วยเราไม่ให้เรา F ได้ ความสัมพันธ์กับอาจารย์สำคัญมาก
ต่างกับ มัธยม ตรงที่ มันมีเรียนทุกวัน จ-ศ จ-ส ว่าไป เข้ากี่โมงกลับกี่โมง อันนี้ถ้าที่บ้านเคร่งจะโดดเรียนก็ไม่ได้อยู่แล้ว เข้าไปเรียนๆเล่นๆ ยังไงก็จบ ถ้าไม่ขาดเรียนเยอะ
มหาลัย นอกจากจะเข้าครบแล้ว งานต้องครบด้วย และสอบต้องได้บ้าง ไม่ใช่กามั่วได้เหมือน มัธยม
ถ้าคิดว่าหมดนี่กระจอก เรื่องเล็ก ก็เรียนจบมหาลัยได้สบายๆ
-
-
แล้วแต่มหาลัยครับ ของผมได้อาจารย์ดี เพื่อนก็ดี เลยพากันเรียนจบได้สบายๆ ถึงจะเรียนยากเป็นบางตัวก็เถอะ ส่วนตัวค่อนข้างชอบชีวิตมหาลัยมาก ค่อนข้างอิสระ ช่วงไหนไม่มีเรียนก็ออกไปนู่นไปนี่ได้ เช้าๆตอนนั่งรอเพื่อนที่ป้ายรถเมล์ก็ส่องหญิงขึ้นวินมอไซค์ สุดยอดจริงๆครับ ชีวิตในรั้วมหาลัย เอาซะไม่อยากเรียนจบเลย (แต่ก็จบมาแล้ว) เหนื่อยหน่อยก็ตอนปี 4 อ่ะครับของผม ทำสัมมนาเทอมแรก เทอมหลังโปรเจ็ค ทำข้ามวันข้ามคืนไม่ได้หลับได้นอนเลยทีเดียว
-
-
มีคำถามเพิ่มนะครับ แหะๆ
-การลงวิชาเรียนนี้คืออะไรเหรอครับ ประมาณว่าต้องลงเรียนอะไรก็ได้ให้หน่วยกิตครบอย่างนี้ใช่มั้ยครับ
แล้วมีวิชาบังคับให้ต้องเรียนมั้ยครับ แบบว่าไม่ต้องลงเรียนเอง เขาลงมาให้เลย
-ตารางเรียนกำหนดกันยังไงครับ เป็นวิชาที่เราลงเรียนรึเปล่าครับ
-คนในสาขาเดียวกัน เรียนด้วยกันหมดเลยมั้ยครับ หรือว่าต่างคนต่างเรียนในวิชาที่ลง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ~FeaR~ : 22nd June 2015 เมื่อ 11:36
-
-
-การลงวิชาเรียนนี้คืออะไรเหรอครับ ประมาณว่าต้องลงเรียนอะไรก็ได้ให้หน่วยกิตครบอย่างนี้ใช่มั้ยครับ
แล้วมีวิชาบังคับให้ต้องเรียนมั้ยครับ แบบว่าไม่ต้องลงเรียนเอง เขาลงมาให้เลย
แล้วแต่มหาลัย บางมหาลัย เอามาให้เลย บางมหาลัยต้องไปลงเอง
-ตารางเรียนกำหนดกันยังไงครับ เป็นวิชาที่เราลงเรียนรึเปล่าครับ
ใช่
-คนในสาขาเดียวกัน เรียนด้วยกันหมดเลยมั้ยครับ หรือว่าต่างคนต่างเรียนในวิชาที่ลง[/QUOTE]
ต่างคนต่างเรียนในวิชา แต่ส่วนมากก็เจอหน้ากันเพราะวิชามันไม่ต่างกันมากหรอก ยกเว้นพวกอิ้นดี้
-
-
แล้วไม่ทราบว่าการเรียนเตรียมความพร้อม จำเป็นต้องเรียนไหมครับ?
-
-
ใหม่ๆปี1 โดนทั้งกิจกรรมโดนทั้งเรียน ยังสบายๆ พอปี2เท่านั้นละของจริง ปี1ไม่เคยมีDมีF พอมาปี2ตั้งใจยังไงก็มาทัังD ทั้ง F
HearthStone(US)=======> Srinoomha#1317
-
-
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
~FeaR~
แล้วไม่ทราบว่าการเรียนเตรียมความพร้อม จำเป็นต้องเรียนไหมครับ?
บางที่จะเตรียมความพร้อมเฉพาะพวกสอบตรง กับโควต้า
HearthStone(US)=======> Srinoomha#1317
-
-
ผมไม่รู้นะว่าใครเป็นเหมือนผม
ผมรู้สึกว่า ผมอยู่มหาลัย สบายกว่า ตอนอยู่มัธยม
หรือเป็นเพราะว่า ระดับการศึกษามัธยม มันสูงกว่า มหาลัยที่ผมเรียน
ความรู้สึกเหมือน จบ อ็อคฟอร์ด แล้วไปเรียน กศน.
ถ้าบางคนจะรู้สึกสลับกัน
-
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
Forum Rules