พุทโธเลี่ยน พุทธแบบไทยๆที่น่าทำความรู้จัก

[exodus]

ก่อนหน้านี้ผมได้ไปอ่านบทความของ อ.นิธิ เอี่ยวศรีวงศ์ ดังนี้

ศาสนาผี(นับถือผี)เปิดพื้นที่ให้พุทธศาสนามากขึ้นตั้งแต่ยุคโบราณ ดังนั้นหลวงพ่อที่เป็นพระพุทธรูปต่างๆเป็นที่นับถือไม่ใช่ฐานะ “เจดีย์” ของพุทธ แต่เป็นที่สิงสถิตของผีที่มีอานุภาพยิ่งใหญ่

ศาสนาผีเป็นฐานรากอันแข็งแกร่งมาแต่ยุคดึกดำบรรพ์นานหลายพันปีของไทยและอุษาคเนย์(อาเซียน) ต่อมาจึงรับสิ่งละอันพันละน้อยของศาสนาพราหมณ์กับพุทธ โดยเลือกเอาส่วนที่ไม่ขัดกับหลักผี เข้ามาประดับประดาศาสนาผี เพื่อให้ดูดีมีสง่าราศี และทันสมัย น่าเลื่อมใสศรัทธาขึ้น

ด้วยเหตุนี้เองจึงควรทำความเข้าใจตามพฤติกรรมที่เป็นจริง ว่าไทยนับถือศาสนาผี-พราหมณ์-พุทธ (ไม่ใช่พุทธ-พราหมณ์-ผี)

ข้อความวรรคแรกของบทความแสดงให้เห็นว่า หลายคนไม่ได้กราบพระเพราะเป็นเพียงอนุเสาวรีย์ทางศาสนาเฉยๆ แต่กราบเพราะเราเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ หรือมีอำนาจวิเศษบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเรา
ตัวของโครงสร้างของแนวคิดในลักษณะนี้รับมาจากการนับถือผีเต็มๆ เพียงแต่เปลี่ยนจากผี เป็นพระพุทธรูป เปลี่ยนจากหมอผี เป็นเกจิอาจารย์ทางสงฆ์
แม้กระทั่งแนวคิดในเรื่องของอำนาจวิเศษอย่างอำนาจผี ก็ถูกแทนที่ด้วยอำนาจพุทธคุณ แต่ระบบทางความเชื่อยังเป็นระบบเดิม

ลักษณะเด่นประการสำคัญนอกเหนือจากบทความนี้คือ การให้ - ผลตอบแทน ตอนนี้เราไม่ได้เชือดเป็ดเชือดไก่บูชาผีเพื่อหวังโชคลาภ เราเปลี่ยนเป็นการทำบุญแทน โดยหวังสิ่งตอบแทนไม่ว่าจะเป็นโชคลาภ ความสำเร็จ หลายๆคนซื้อดอกไม้ธูปเทียนกราบไหว้สักการะ พร้อมกับภาวนาขอนู่นนี่นั่นหรือเพื่อเป็นศิริมงคล แนวคิดผลตอบแทนยังส่งอิทธิพลอย่างมากจากศาสนาผีในเชิงโครงสร้างของความเชื่อ

หลายคนยกพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้เป็น "พระเจ้า" มากกว่าที่จะเป็นเพียงศาสดาท่านหนึ่งในความรู้สึก มีอำนาจวิเศษมากมาย มีความปราดเปรื่องและสติปัญญาสูงส่งกว่าอินทร์ พรหมณ์ ยม ยักษ์ ซึ่งมันเป็นรูปแบบเดียวกับสมัยก่อนที่เราเคยมี "เจ้าแห่งผี" เมื่อครั้งบรรพกาล เพียงแต่เราปลดเจ้าแห่งผีลง และเอาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปนั่งตำแหน่งนั้นแทน ถึงจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่จากความรู้สึกต่อความเชื่อ หลายๆคนก็เป็นไปในทางนี้

หลาายๆคนใช้คำว่า พุทโธเลี่ยนในเชิงดูถูก ใช้ในลักษณะของการเย้ยหยัน หากเปรียบเทียบกับ พุทธนิกายเถรวาท(คือพุทธในไทย ยึดพระไตรปิฎกและภาษาบาลี) พวกเขาก็จะบอกว่าคนเหล่านี้งมงาย หากแต่ว่าคนที่ยืนกรานว่าตนเป็นพุทธเองนั้น ถ้าไม่ได้เดินตามหนทางในไตรปิฎกที่ยึดถือ และผสมจารีตของศาสนาผีเข้าไปโดยที่ไม่ได้รู้เท่าทันของมัน ก็ไม่ได้ต่างอะไรกันสักเท่าไหร่ ต่อให้คุณไม่ได้ไปขูดหวยจากต้นไม้ใหญ่ หรือไหว้วัวแปดขาก็ตาม เพราะฉะนั้นการศึกษาส่วนของศาสนาผี และเข้าใจโครงสร้างของมัน ผมว่ามันก็ไม่ได้เสียหายอะไร มากกว่าที่จะมองว่ามันเป็นเพียงความงมงาย แต่ไม่รู้ว่าความงมงายที่ว่า มันมีรูปแบบเป็นยังไง เพราะปัจจุบัน พุทธ ผี พราหมณ์ มันกลืนกันจนแยกออกได้ยากว่าอะไรเป็นอะไร บางอย่างที่คุณมั่นใจว่าเป็นพุทธแน่ๆ มันอาจเป็นแค่พุทธที่รับมาเพราะมันเข้าทางของศาสนาผีเท่านั้นก็ได้

ย๊าวยาวเนอะ

[CanDiiZ]

พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้งมงาย

แล้วก็อีกอย่าง ไอ่คำว่าไม่เชื่อ อย่าลบหลู่นี่ มันเป็นเกราะป้องกันชั้นดี DEF 9999

แต่จริงๆศาสนาพุทธคือวิทยาศาสตร์ ทุกสิ่งต้องพิสูจน์ได้

ถ้าไม่เชื่อ ต้องพิสูจน์

พุทธโธเลี่ยนไทยทั้งหลาย ไม่ได้นับถือพุทธเลย อย่างที่บอกข้างบนนั่นแหละ

เป็น ผี - พราหมณ์ - พุทธ

ตราบใดที่ยังไปขูดต้นไม้ ไหว้ผี กราบจิ้งจกสองหาง ก็อย่าเรียกตัวเองว่าพุทธเลย

พวกพุทโธเลียน ส่วนมากจะนับถือผี นับถือเกจิ นับถือของขลัง

มันก็เลยเกิด พุทธพาณิชย์ ขึ้นมาดูดเงินพวกพุทโธเลียน

เอาง่ายๆใหญ่ๆเลย พุทธพาณิชย์ ก็มีลัทธิจานบินแถวปทุม ที่มีหลวงเจ๊เป็นผู้นำ

วัดท่าไม้ เศรษฐีเรือทอง ที่แปะตามหลังรถ นี่ก็พุทธพาณิชย์

จะมีชีวิตดี ค้าขายดี ไม่ได้เกี่ยวกับผีหรอก

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว

กรรม คือ ผมของการกระทำ

กระทำแต่กรรมดี ก็ได้สิ่งดี ถ้ากระทำแต่กรรมชั่วก็เจอแต่สิ่งชั่วๆ



// ร่ายซะยาวเลย ไปบวชแพพ -0-

[BoonTew]

แทะเปลือก เคี้ยวกระพี้ อย่างว่าแก่นมันแข็งย่อยยาก

[tronss9]

เข้ามาฟังด้วยครับ

[nakiann123]

ผมเลิกศึกษาพุทธมานานโข

ทุกวันนี้ขลุกอยู่แต่กับยิว

[next_step2012]

ปัญญาท่านเกิดแล้วท่านทั้งหลาย!!!
น้ำตาผมแทบไหล!!! ที่มีบุคคลผู้มีปัญญาของแท้บังเกิดที่นี่ ปัญญาที่ไม่ได้มาจาก สมมุติปรุงแต่ง ที่ศึกษาเล่าเรียนเพื่อให้เข้าใจตามๆกันมา "ท่านเคยบีบมะนาวใส่ปากมั้ยครับ หากเคย ให้นึกคิดภาพตามผมพูดนะครับ "เมื่อสัมผัสแรกที่มะนาวโดยลิ้น จะเกิดอาการบางอย่าง หากเราเอาภาษามนุษย์มาพูดสวมทับสื่อความหมาย เพื่อให้คนอื่นเข้าใจได้นั้น ก็ต้องบอกว่าเปรี้ยว ใช่มั้ยครับ แต่จริงๆแล้ว มันไม่ใช่เปรี้ยว ไม่มีภาษาพูด นั่นแหละ ที่เรียกว่าปัจจุบันอารมณ์ ให้รู้ตรงนั้น เข้าใจตรงนั้น เมื่อเข้าใจแล้วก็แล้วกัน ไม่ได้อะไร ธรรมะแท้จริง สอนไม่ได้ เข้าใจมั้ยครับ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ สอนอะไร ท่านเพียงแต่ชี้ให้เข้าใจในสิ่งที่ตัวเรามีอยู่แล้ว
ปล.ความคิด ทำอะไรชีวิตที่นิ่งเงียบไม่ได้
นิพพานัง ปรมัง สุขขัง