เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา
-
23rd February 2016 19:58
#1
นรก สวรรค์ บาป มีจริงหรอ
นรก คืออะไร มีจริงหรอใครบอก ใครพิสูจน์ได้บ้าง
สวรรค์ก็เช่นกัน
บาปหรอ ผมคิดว่าน่าจะมาจาก การกระทำและส่งผลออกมามากกว่า เช่น ด่าพ่อล่อแม่ก็จะลำบากใจ กระทำคือด่าพ่อล่อแม่ ผลคือลำบากใจ
รู้สึกงมงายไหมกับศาสนาพุทธ ผมเบื่อมากครับ
อ้างบาป นรก สวรรค์ อะไรก็ไม่รู้
-
-
23rd February 2016 20:04
#2
มีจริงครับ อยู่แถวๆรังสิตคลองสาม
-
-
23rd February 2016 20:09
#3
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
BoonTew
มีจริงครับ อยู่แถวๆรังสิตคลองสาม
สวรรค์ใช่ไหมครับ อ บ น รู้ๆกัน
-
-
23rd February 2016 20:11
#4
I have a grenade ho ho ho
ิอยู่ที่การกระทำของเราครับ เราคิดว่าไง เหมื่อนอากาศหล่ะครับมองไม่เห็นแต่มีอยู่จริง อีกอย่างเราไม่ควรไปหาว่าใครงมงายศาสนาไหนงมงาย เราว่าเขาไม่ได้ครับ คิดในใจอ่ะได้
ปล.สมมุตินะครับ คุณลองนึกภาพสิ ชาวบ้านนับร้อยเห็นบางอย่างในแม่น้ำแล้วบอกว่านั้นคือพญานาค แล้วคุณก็เดินไปบอกชาวบ้านว่า "งมงาย" คุณนึกภาพสิคุณจะเจออะไร นรก หรือ สวรรค์
ส่วนตัวแล้ว ผมก็ไม่เชื่อหรอกว่ามีจริง รอผมตายก่อนเดียวจะมา คอมเม้นท์ บอกแล้วกัน
-
-
23rd February 2016 20:36
#5
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
BoonTew
มีจริงครับ อยู่แถวๆรังสิตคลองสาม
สงสัยบาปหนัก ไปลงกระทะทองแดงแถวนั้นบ่อยแน่ๆ 555+
You mad bro? No? Okay.. Whatever you say..
-
-
23rd February 2016 20:40
#6
อะไรที่พิสูจน์ไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า ''ไม่มี'' นะครับ ผมคิดว่าอย่างนั้น
เอาง่ายๆ ยกตัวอย่างใกล้ตัว สัญญาณ Wi-Fi ในบ้าน คุณมองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ ใช่มั๊ยครับ?? แต่มันมีอยู่จริงครับ
คนเรามักตัดสินสิ่งอื่นว่า ''มี'' หรือ ''ไม่มี'' จากอายตนะทั้ง 6 เท่านั้นครับ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ถ้านอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้ จะถือว่า ''ไม่มี'' ซึ่งมันไม่ถูกต้องครับ
ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ ก็คงมีแค่ ''ความเชื่อ'' เท่านั้นแหละครับ
ส่วนตัวผมไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่?? แต่เชื่อว่ามี
และที่รู้ๆ ทุกครั้งที่ผมทำผิดศีล 5 จะรู้สึกไม่สบายใจครับ อันนี้รู้สึกได้เลย ถ้าทำบ่อยๆมันจะเข้าไปอยู่ในฝันเลย ทำให้ฝันร้ายบ่อยๆ ตื่นมาใจไม่ดี รู้สึกหมองๆไงไม่รู้ ไม่เบิกบาน
แต่พอได้ทำบุญ ทำความดี ใจมันพองโต รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ บอกไม่ถูก เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง
ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นที่ใจเองครับ รับรู้ได้เองโดยอัตโนมัติเลย
Intel Core i7 4790k / MSI Z97 Gaming 5 / GALAX GTX980 SOC 4GB
AMD Phenom II X6 1090T / Asrock 890GX Extreme 3 / Power Color HD5970 2GB
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 6 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
23rd February 2016 21:01
#7
นรกสวรรค์มีจริงหรือเปล่าผมก็ไม่รู้นะ
คุณอยากจะทำอะไรก็เอาที่คุณสบายใจแหล่ะครับ
ไม่ว่าผลบุญหรือว่าเวรกรรมที่ทำ มันก็ไม่ไปไหนหรอก มันก็ตกอยู่กะลูกกะหลานคุณนะแหล่ะ
-
-
23rd February 2016 21:08
#8
นรก สวรรค์ ผมไม่รู้
แต่ในเรื่อง บาป กับ บุญ มีคนอธิบายให้ผมฟังว่า
ถ้าไม่มีบุญหรือกรรม ทำไมคนเราถึงเกิดมาไม่เท่ากัน ทำไมบางคนเกิดมาไม่ต้องทำงานก็มีเงินใช้จนตาย บางคนเกิดมาหาช้ำกินค่ำ ปากกัดตีนถีบ
สุดแล้วแต่คุณจะตีความครับ
การกระทำทุกอย่างย่อมส่งผลถึงกันและกัน สุดแต่ว่าจะมากแค่ไหนเท่านั้นเอง
-
-
23rd February 2016 21:22
#9
คิดในอีกแง่มุมหนึง
สวรรค์ คือ กลอุบายให้เราทำความดี
นรก คือ กลอุบาย ไม่ให้ ทำชั่ว
บุญ คือ ความอิ่มเอมใจ
บาป คือ ทุกข์กายทุกข์ใจ
แค่ความคิดเห็นส่วนตัวครับ ความเชื่อพวกนี้มันมีมาตั่งแต่ไหนแต่ไรที่มีมนุษย์บังเกิดขึ้นมาแล้วครับ เอาที่คุณสบายใจเลย ^ ^
-
-
23rd February 2016 21:52
#10
เคยมีคนถามพระวิปัสสนา รูปหนึ่งครับ เรื่อง นรก สวรรค์ (ผมจำชื่อพระไม่ได้)
ท่านบอก นรก สวรรค์ มีจริง พิสูจน์ได้ ตอนที่ยังเป็นๆอยู่นี่แหละ แต่ต้องนั่งสมาธิจนจิตละเอียดเท่านั้น ถึงจะไปรู้ ไปเห็นได้
ไม่มีวิธีพิสูจน์ วิธีอื่น มีแค่วิธีนี้วิธีเดียว และไปเห็นได้คนเดียวเท่านั้น เป็นปัจจัตตัง คือ เห็นเฉพาะคนปฎิบัติเท่านั้น จะให้คนอื่นเห็นเหมือนกับตนนั้นไม่ได้
ยกตัวอย่าง เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว คนที่กินแล้วบอกว่าเปรี้ยว มาอธิบายให้คนที่ไม่รู้จักรสเปรี้ยวมาก่อน คงจะอธิบายไม่ถูกแน่ๆ มันต้องลองกินด้วยตัวเองถึงจะรู้ ว่า เปรี้ยว มันเป็นยังไง เป็นต้น
ผมเองก็ฟังเขาเล่าต่อมาอีกทีเหมือนกัน เพราะทำไม่ได้ถึงขนาดนั้น ศีล 5 ยังขาดๆหายๆเลย
นรก สวรรค์ เค้าว่าพิสูจน์ได้ ส่วนคนที่บอก พิสูจน์ไม่ได้ เพราะ ''มีความสามารถไม่พอที่จะพิสูจน์ได้'' มากกว่า
Intel Core i7 4790k / MSI Z97 Gaming 5 / GALAX GTX980 SOC 4GB
AMD Phenom II X6 1090T / Asrock 890GX Extreme 3 / Power Color HD5970 2GB
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
23rd February 2016 22:02
#11
จนถึงทุกวันนี้ ผมยังงง ว่าช่วยตัวเอง บาปมั้ย
-
-
23rd February 2016 22:26
#12
เรื่องนรกสวรรค์หลังความตาย ผมไม่ค่อยเชื่อ
ผมเชื่อเรื่องนรกกับสวรรค์บนดินมากกว่า
ถ้าโลกนี้มีแต่คนชั่วๆมันก็คงเหมือนนรก ถ้าโลกนี้มีแต่คนดีๆก็คงคล้ายสวรรค์
-
-
23rd February 2016 22:56
#13
I have a grenade ho ho ho
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
482566789
จนถึงทุกวันนี้ ผมยังงง ว่าช่วยตัวเอง บาปมั้ย
นั่นสิท่าน ผมคือจอมวายร้ายสำหรับเหล่าเด็กๆ อิอิ
-
-
23rd February 2016 23:41
#14
เป็นทุกร้อน ไม่สบายใจ กระวนกระวาย กินไม่ได้นอนไม่หลับ - นรก
สุขสบายใจ แจ่มใส อิ่มเอิบ สงบ - สวรรค์
แค่นี้แหละครับ เรื่องอื่นก็พิจารณาเอา อันใหนดีเหมาะสมก็นำมาใช้
ส่วนเรื่องพิสูจน์ได้ไม่ได้นี่ ผมว่าไม่ควรเอาไปเทียบกับคลื่นวิทยุนะครับ เพราะคลื่นวิทยุมันสามารถพิสูทจ์ได้ว่ามีจริง ทดสอบได้จริง แถมนำมาใช้งานได้อีก
ส่วนนรกสวรรค์ในความเชื่อนั่น ผ่านมาเป็นร้อยปี จนออกนอกอวกาศ ดำดิ่งลงท้องทะเลก็ยังพิสูทจ์ไม่ได้ หาหลักฐานอะไรไม่ได้นะครับ มีแค่ปากปล่าวกับตัวอักษรบนหน้าหนังสือที่ไม่รู้ผ่านมือใครมาบ้าง
-
-
24th February 2016 00:15
#15
-
-
24th February 2016 00:39
#16
มีจริงครับ สวรรค์ไม่ได้อยู่ในอก นรกไม่ได้อยู่ในใจ วิธีพิสูจน์มีในอินเตอร์เนตเยอะแยะ แต่ต้องเป็นคนจริง เอาจริง ไม่เหลาะแหละ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัตตังครับ ปฏิบัติเอง เห็นเอง รู้เอง บอกคนตาบอดไป คนตาบอดก็ไม่เชื่อ ส่วนตัวพิสูจน์แล้วว่า สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ไม่จริงนั้นยังไม่เคยพบ
-
-
24th February 2016 01:16
#17
ไม่รู้สิ ผมยังไม่เคยตาย แต่ผมก็อยากรู้นะ แต่ผมก็ไม่อยากตาย แต่เอาจริงๆ ไม่ตายก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ อยากรู้แต่ยังไม่อยากตาย
ู^
^
^
อันบนมันไร้สาระ ผมฟังจากคนเฒ่าคนแก่มา เค้าก็ว่ามีนะ ถามใครที่ใหน มีหมด แต่ก็เล่าต่อๆกันมาอีกทีแหละ สำหรับผม สุข คือ สวรรค์ ทุกข์ คือ นรก
-
-
24th February 2016 01:27
#18
ส่วนตัวคิดว่าเป็นแค่สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้ทำความดีเว้นความชั่วนะครับ คนกลัวนรกจะได้ไม่กล้าทำบาป
-
-
24th February 2016 01:46
#19
จริงไม่จริงไม่รู้ แต่เอาข่าวมาบอกต่อ ว่า ไอน์สไตน์ ได้คิดสูตร ไว้เมื่อ 100 ปีที่แล้ว และคนสมัยนั้นคงมองเขาว่าบ้า ที่คนพบสูตร คลื่นความโน้มถ่วง ของจักวาร
แต่กว่าจะค้นพบสูตรที่เขาคิดไว้ก็ต้องใช้เวลา ตั้ง 100 ปีถึงจะพิสูจได้ และคำถามในใจคือเขาเอาสูตร มาจากไหน และคนสมัยนั้นมองเขาว่ายังไง
เพราะฉนั้นอย่าผึ้งตัดสินใจว่าสิ่งนั้น มีจริงหรือไม่จริงนะครับ
ข่าวตามนี้ลองอ่านเล่นๆดูนะ
คลื่นความโน้มถ่วง Gravitational Wave มีอยู่จริง ยืนยัน 100 ปีทฤษฎีสัมพัทธภาพของ ไอน์สไตน์ ถูกต้อง !
http://www.zolkorn.com/news/other/co...ational-waves/
-
-
24th February 2016 02:01
#20
นี่คือคำพูดของคนที่ไม่ได้ศึกษาพุทธศาสนามาให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน เมื่อไม่รู้ก็ย่อมไม่เกิดปัญญา พุทธแท้นั้นสอนอยู่ใน
หลักความเป็นจริงของโลกหรือ อริยสัจ4 แต่ผู้สอนยุคใหม่บางคนอาจจะทำให้หลักคำสอนผิดเพี้ยนไปไม่มากก็น้อย
ก็อย่าง ลัทธิจานบิน เป็นต้น ประเทศไทยสมัยโบราณเคยนับถือผีมาก่อนต่อมาได้รับพราหมณ์เข้ามาและรับพุทธสุดท้าย
ไม่แปลกที่วัฒนธรรมความเชื่อจะผสมปน ๆ กันอยู่ ทำให้บางคนที่ไม่รู้มองว่าทำไมคนพุทธงมงาย แต่พุทธแท้นั่นไม่ใช่เลย
บาปบุญเป็นกุศโลบายให้คนทำความดี อย่างคำพูดที่ว่า "สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ" สิ่งที่มองไม่เห็นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี
อากาศคุณมองเห็นมันหรือเปล่าก็ไม่เห็นแต่สัมผัสได้ รู้สึกได้ การกระทำของคุณก็เช่นกัน(กรรม แปลว่า การกระทำ) และ
สุดท้ายถ้าคุณบอกว่าศาสนาพุทธงมงามแล้วไซร้ ถ้าคุณได้ทำความเข้าใจศาสนาอื่น ๆ ที่เป็นเทวนิยม คุณจะรู้ว่าศาสนา-
พุทธต่างกันมาก เพราะไม่ต้องสวดอ้อนวอนขอจากใคร แต่ทำด้วยตัวของเราเองและแน่นอนมันไม่ง่าย
-
-
24th February 2016 02:01
#21
มันขึ้นอยู่กับว่า พุทธที่คุณว่ามันเป็นแบบไหนก็เท่านั้นเองครับ
ผมก็นับถือพุทธนะ อธิบายให้ง่ายได้ใจความ
บุญ = ดี
บาป = ไม่ดี
กรรม = การกระทำ
ผลกรรม = ผลของการกระทำ
เป็นสิ่งที่ไม่ว่าศาสนา และพื้นฐานของมนุษย์ หากมีสามัญสำนึก และปัญญาก็จะพิจรณาแยกแยะได้ เห็นถูกคือถูก เห็นผิดคือผิด มนุษย์แยกจากสัตว์เดรัชฉานก็ตรงนี้ คือสามารถทำตามหลักเกนฑ์ที่สมมุติขึ้นมาได้ เช่นไหนดี ไหนเลว แต่สัตว์มันทำตามสัญชาติญานเพื่อความอยู่รอดเท่านั้น
นรก มีจริงไหม ตอบไม่มี สวรรค์ มีจริงไหม ตอบว่าไม่มี เพราะคนในกระทู้นี้ หรือผมก็ยังไม่เคยไปเที่ยวดูงานในนรก หรือสวรรค์ แต่ถ้าพูดให้เข้าใจ เป็นการเปรียบเทียบในความรู้สึก สวรรค์ในอก นรกในใจ พอจะนึกภาพออกไหม คือความสุขและความทุกข์ เป็นต้น ที่ที่ดี กับที่ที่ไม่ดี ก็มีให้เห็นตามปกติรอบตัวเรา
ส่วนสถานที่นรกแบบนั้นว่ามีหรือไม่ ศาสนาพุทธ แก่นแท้แล้วก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นอยู่ดี
แก่นของศาสนาพุทธคือ อริยะสัจจสี่ คือความเป็นจริง 4 ประการ
1 ทุกข์ ความไม่สบายกายและใจ
2 สมุทัย สาเหตุของความทุกข์
3 นิโรธ หนทางทำให้ความทุกข์หายไป
4 มรรค คือข้อปฏิบัติที่พระพุทธองค์ทรงกำชับไว้ให้ปฏับัติอย่างนี้ และจะพ้นทุกข์
ที่พูดมาไม่เห็นมีอะไรที่เป็นมิติที่ 4 หรืออย่างไรเลยครับ ไม่เห็นลึกลับตรงไหนด้วยซ้ำ
ข้อสำคัญ หากรู้ว่ามีนรก ก็จะทำให้คนไม่ทำชั่ว รู้จักละอายบาป ส่วนทาน คือความดี ก็หมายถึงการรู้จักสละประโยชน์ตนเอง และผู้อื่น...ก็เท่านั้นเอง
"ชอบหันหลังกลับทุกครั้ง.. เมื่อตอนเวลาหันหลังหนีศัตรู"
-
-
24th February 2016 02:08
#22
ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ครับ ทฤษฏีเรื่องชีวิตหลังความตายมันขึ้นอยู่กับแต่ละความเชื่อของแต่ละศาสนา
ดังเช่น พุทธศาสนาเชื่อเรื่องสังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด แต่กลับกัน
ชาวสุเมเรียนกลับเชื่อว่าเมื่อตายไปแล้ว ไม่มีชีวิตหลังความตาย ไม่มีการกลับไปเกิดใหม่ เมื่อตายไปแล้วไม่กลายเป็นสิ่งใดนอกจากการดับสูญ แต่ก็ยังมีโลกแห่งความรู้ของดวงวิญญาณ(อันนี้ผมไม่แน่ใจจำไม่ได้)
แล้วยังมี "จารวาก" อีกนะครับ จารวากคือลัทธิที่มีการกล่าวถึงในคัมภีร์ของฮินดู พุทธ หรือแม้แต่เชน ซึ่งมุ่งสอนถึงรูปธรรมที่เป็นจริงรับรู้ได้จริงและสัมผัสได้ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง
และสิ่งที่เป็นนามธรรมเช่น โมกษะ นิพพาน บุญบาป ชีวิตหลังความตายและโลกหน้านั้นไม่มีอยู่จริงและยังปฏิเสธการมีตัวตนของพระเจ้าด้วย
จุดมุ่งหมายของจารวากคือ การเสพย์สุขจากกายเนื้อที่สัมผัสสิ่งได้ สิ่งนั้นถือเป็นความสุขและการทำดีคือการนำสู่ความสุข
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
24th February 2016 10:52
#23
นรก สวรรค์มีจริงหรือ?
มาต่อกันอีกเรื่องที่หลายๆท่านมีความข้องใจกันนะคะ ว่า นรก สวรรค์ มีจริงหรือไม่? มาอ่านกันเลยค่ะ
-------------------------------------------
เนื่องจากความเคลือบแคลงสงสัยในจิตของข้าพเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนรก สวรรค์นั้นมีมาช้านาน โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในยุคก่อนมักจะพูดอบรมเด็กๆ อยู่เสมอจนติดปากว่า
ผู้ใดทำชั่ว จะต้องไปชดใช้กรรมในเมืองนรก และถ้าผู้ใดสร้างสมแต่ความดี ก็จะได้ไปเสวยสุขในสวรรค์ เป็นเทวดา นางฟ้ากัน
ซึ่งข้าพเจ้าก็ฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปงั้นเอง หาได้ใส่ใจไม่ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน เลื่อนลอยหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ที่เอามาหลอกเด็ก โดยสร้างภาพความน่ากลัวต่างๆในเมืองนรกให้ผู้รับฟังเห็น จะได้เกิดความหวาดกลัวที่จะกระทำความชั่ว ในเวลาเดียวกันก็สร้างภาพความสวยงามและความสะดวกสบายอย่างเลิศลอยในสวรรค์ชั้นฟ้า ให้ผู้รับฟังจะได้เกิดความกระตือรือร้นที่จะกระทำความดี เพื่อจะได้ไปเสวยสุขในสวรรค์กับเขาบ้าง
แต่ถึงแม้ข้าพเจ้าก็ยังเห็นดีด้วยที่มีคนเชื่อ เพราะถ้าเชื่อเขาก็จะได้ละเว้นความชั่วทำแต่ความดีซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับตัวเขาเองและสังคมส่วนรวม
แต่หลังจากข้าพเจ้าได้สอบถามปัญหาหลวงพ่อเรื่องผี และได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อช่วยอธิบายให้ฟังโดยละเอียด(ดังที่ข้าพเจ้าได้เขียนเล่ามาในตอนต้น) ก็ทำให้ข้าพเจ้าฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ในคำอธิบายนั้นหลวงพ่อได้เอ่ยถึงท่านเทพฤทธิ์ซึ่งเป็นเทวดา อีกทั้งยังพูดถึงเทวดาชั้นภูมิต่างๆพรหม และพระนิพพาน
เอ!...ถ้ายังงั้น นรก สวรรค์ พรหม และพระนิพพานก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่นำมาเล่าขานอย่างไร้สาระนะซี?
ด้วยเหตุนี้เอง ในวันหนึ่งข้าพเจ้าจึงเลียบเคียงมาถามหลวงพ่อว่า
หลวงพ่อครับเมื่อวานก่อนผมถามหลวงพ่อถึงเรื่องผี หลวงพ่อก็ได้เมตตาอธิบายให้ผมฟังแล้ว อีกทั้งยังได้พูดพาดพิงไปถึงเทวดาและพรหมอีกด้วย ถ้าอย่างงั้นนรกสวรรค์ที่เขาพูดๆกันนั้นก็มีจริงใช่ไหมครับ
หลวงพ่อหัวเราะและมองหน้าข้าพเจ้าแล้วถามว่า เออ!..คุณมนู รู้จักเต่าไหม?
ข้าพเจ้าชักงงไม่แน่ใจหลวงพ่อ ว่าได้ยินคำถามของข้าพเจ้าหรือไม่ แต่ก็รีบตอบว่า โธ่!..หลวงพ่อ ต.เต่าหลังตุงใครๆก็รู้จัก แต่มันไม่เกี่ยวกับนรก สวรรค์ที่ผมถามนี่ครับ
เกี่ยวซี่คุณ เพราะฉันไม่อยากเป็นเต่ายังไงล่ะ คุณรู้ไหมว่าเต่าน่ะมันอยู่ในน้ำแหวกว่ายอาหารกินร่วมกับปลาเป็นประจำ แต่บังเอิญมันมีคุณสมบัติพิเศษเดินขึ้นไปเที่ยวบนบกได้ และก็ได้ไปเห็นห้วย หนอง บึงต่างๆมากมาย สามารถแยกแยะได้ว่าสถานที่ใดอุดมสมบูรณ์น่าอยู่น่าอาศัยกว่ากัน แต่ด้วยเต่านั้นมีความผูกพันกับปลาในหนองน้ำเก่า จึงย้อนกลับมาบอกปลาว่า ท่านทั้งหลายหนองน้ำที่ท่านอยู่กันในขณะนี้นั้นมันแคบ อาหารก็หาได้ยาก อีกทั้งน้ำก็กำลังจะเสียไม่น่าอยู่เลย แต่ถัดจากหนองน้ำนี้ไปอีกเพียงหกศอกเท่านั้น มีบึงใหญ่น้ำใสสะอาด อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก หากท่านทั้งหลายเชื่อข้าพเจ้า ก็ขอให้พุ่งตัวกระโดดขึ้นไปบนขอบสระแล้วยอมว่ายบนบกกระเสือกกระสนด้วยตนเองสักชั่วอึดใจ ก็จะข้ามไปเสวยสุขอยู่ในบึงใหญ่นั้นได้โดยไม่ต้องลำบากยากเข็ญอีกต่อไป
หลวงพ่อหยุดเล่าพร้อมกับถามข้าพเจ้าว่า ถ้าคุณเป็นปลา คุณจะยอมเชื่อเต่า พุ่งตัวจากหนองน้ำขึ้นไปบนบก ข้ามไปสู่บึงใหญ่หรือไม่?
ข้าพเจ้านิ่งคิดด้วยเหตุผลโดยสมมุติเอาตัวเองเป็นปลา สักครู่ก็ตอบไปว่า
เอ!..หลวงพ่อครับ ถ้าผมเป็นปลาก็คงจะเชื่อเต่าได้ยากอยู่ดี เพราะไม่แน่ใจว่ามีบึงอยู่จริงตามที่เต่าพูดหรือไม่ หรือถ้าบึงมีอยู่จริงก็ไม่แน่ใจว่า จะห่างจากหนองน้ำที่อยู่เพียงแต่หกศอกจามที่เจ่าพูด หากผมเสี่ยงพุ่งขึ้นไปว่ายบนบก กว่าจะถึงบึงที่เต่าว่าก็อาจจะเอาชีวิตไปทิ้งเสียก็ได้
รวมความว่าถ้าหากคุณเป็นปลา คุณก็คงยอมทนทุกข์ทรมานอยู่ในหนองน้ำเก่าของคุณต่อไปใช่ไหม? หลวงพ่อถาม
ครับ เพราะผมไม่กล้าเอาชีวิตไปเสี่ยงกับอนาคตที่ยังมองไม่เห็นและยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าบึงมีจริงอย่างที่เต่าบอกหรือำไม่? ข้าพเจ้าตอบอย่างมั่นใจ
นี่แหละ ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงไม่อยากเป็นเต่าไงล่ะ เพราะคุณมันพวกปลาหลงหนองน้ำเก่า หลวงพ่อพูดยิ้มๆ แล้วกล่าวต่อว่า
ถ้าฉันบอกคุณในขณะนี้ว่า นรก สวรรค์ พรหม มีจริง คุณจะเชื่อหรือไม่?
ยิ่งฉันบอกต่อไปว่า มิใช่มีแต่โลกมนุษย์เพียงแห่งเดียว หากยังมีอบายภูมิ ๔ ซึ่งเป็นภูมิต่ำกว่ามนุษย์ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉานอีก และภูมิที่สูงกว่ามนุษย์ก็ยังมี สวรรค์ภูมิ อีกถึง ๖ ชั้น ได้แก่ จาตุมหาราช ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี และปรนิมมิตวสวัสดี นอกจากนั้นยังมีพรหมอีกถึง ๒๐ชั้น คือรูปพรหม ๑๖ชั้น และอรูปพรหมอีก ๔ชั้น รวมแล้วเขาเรียกว่า ไตรภูมิน่ะ คุณจะเชื่อหรือ?
ยิ่งหากฉันบอกว่ายังมีแดนที่สูงสุดที่สูงยิ่งกว่าพรหม คือพระนิพพานเข้าไปอีก คุณก็ยิ่งไม่เชื่อเข้าไปใหญ่ ทั้งนี้เพราะคุณยังเป็นมนุษย์ปุถุชนทั่วๆไป หลงคิดเอาเองว่ามีแต่โลกมนุษย์ที่คุณอยู่เพียงแห่งเดียว ใครจะพูดถึง นรก สวรรค์ พรหม นิพพาน แล้วไม่ยอมเชื่อเด็ดขาด
เปรียบดังเช่นฝูงปลาที่หลงหนองน้ำเน่าไม่มีผิด ไม่ว่าเต่าจะพูดชักชวนไปอยู่ที่ ห้วย หนองบึง ทะเลสาบ ที่ดีเพียงไร ปลาเหล่านั้นก็หาเชื่อไม่ ด้วยคิดเอาว่าโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลของพวกตนนั้นคือหนองน้ำเก่าที่ตนอยู่เพียงแห่งเดียวเท่านั้นเอง คุณเองก็เป็นเช่นปลาหลงหนองน้ำเน่านะ ที่ยังคิดว่ามีเพียงโลกมนุษย์ที่คุณอยู่เพียงแห่งเดียว
ข้าพเจ้าโดนหลวงพ่อสรุปให้เป็นปลาหนองน้ำเน่าเข้าให้แล้วอย่างจัง แต่ไม่ยอมถอย หัวเราะแหะๆ ถามย้ำเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่า
ผมอยากฟังจากปากหลวงพ่อมากกว่าที่จะฟังจากคนอื่นน่ะครับ รวมความว่า นรก สวรรค์ พรหม และนิพพานนั้นมีจริงๆ ใช่ไหมครับ
เอ!..คุณมนุญ นี่จะบังคับให้ฉันเป็นเต่าให้ได้นะ หลวงพ่อพูดยิ้มๆ
เต่าน่ะเวลาเดินคุณเห็นไหมว่ามันเดินส่ายหัว และคุณรู้ไหมว่ามันส่ายหัวทำไม? หลวงพ่อย้อนถามอีก
เป็นธรรมชาติของเต่ามั้งครับ ข้าพเจ้าตอ
ไม่ใช่! เต่าส่ายหัวเพราะมันเอือมระอาปลาหน้าโง่ที่หลงหนองน้ำเน่ายังไงล่ะ คุณจะให้ฉันต้องเดินส่ายหัว เพราะเอือมระอามนุษย์หลงโลกอย่างพวกคุณเหมือนเต่าหรือไง? หลวงพ่อหัวเราะ พอเห็นข้าพเจ้าหน้าเสียก็เมตตาพูดต่อไปว่า
เรื่องนรก สวรรค์ พรหม และพระนิพพาน มีจริงหรือไม่นั้น ฉันในฐานะเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอยืนยันตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่ามีจริง
และฉันเองก็ตั้งใจไว้ว่าอีกไม่นานฉันจะพูดเรื่อง ไตรภูมิ ออกอากาศที่สถานีวิทยุกระจายเสียง ๐๔ ตาคลี ซึ่งคุณรับผิดชอบอยู่ คุณเตรียมจัดเวลาออกอากาศให้ฉันก็แล้วกัน หากคุณสนใจก็อัดเทปไว้จะได้รู้โดยละเอียดถึงนรกขุมต่างๆสวรรค์ ๖ ชั้น พรหม ๒๐ ชั้น และพระนิพพานด้วยดีไหมล่ะ?
ดีซีครับหลวงพ่อ ข้าพเจ้าตอบรับด้วยความดีใจ ในขณะที่ข้าพเจ้าถามเรื่องนรก สวรรค์นี้ หนังสือไตรภูมิ ยังมิได้ออกอากาศที่สถานีวิทยุ ๐๔ และทันทีที่หลวงพ่อพูดออกอากาศ ข้าพเจ้าก็ให้พันจ่าอากาศเอกกริช บำรุงพงษ์ บันทึกเทปไว้ฟัง
และต่อมาพลอากาศโท ม.ร.ว. เสริม ศุขสวัสดิ์ จึงได้มาขอเทปจากสถานีวิทยุ ๐๔ ไปถอดแล้วจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มให้ศิษย์รุ่นหลังๆได้อ่านกันมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งข้าพเจ้าเองก็แอบภาคภูมิใจอยู่ลึกๆเพราะด้วยคำถาม นรก สวรรค์ ของข้าพเจ้าข้อนี้เอง ได้มีส่วนช่วยผลักดันให้หลวงพ่อต้องพูดถึงเรื่องไตรภูมิ
ดังนั้นท่านผู้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนรกสวรรค์ พรหมและพระนิพพานก็จงรีบหาหนังสือไตรภูมิ ของหลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร อ่านเสีย แล้วจงใช้วิจารณญาณของท่านพิจารณาด้วยตนเองต่อไปเถิด
คัดจากหนังสือ สู่แสงธรรม ของ ของ พล.อ.ต.มนูญ ชมภูทีป
ที่มา : http://www.bloggang.com/mainblog.php...oup=10&gblog=3
-
-
24th February 2016 12:23
#24
คนที่บอกมีจริง ผมไม่ค่อยเชื่อ เพราะไม่มีหลักฐานพิสูจน์
คนที่บอกไม่มีจริง ผมยิ่งไม่เชื่อเลยครับ นอกจากมันจะเคย"ลองไปดู"และ"กลับมา"เล่าให้ฟังจริงๆว่าไม่มี
มองเป็นกุศโลบายที่โน้มน้าวให้คนทำดีหลีกทำชั่วก็ได้ครับ
ลองมองมั่วๆตามหลักวิทย์บางทีทุกชีวิตในจักรวาลอาจมาจากที่เดียวคือศูนย์กลางที่ไหนสักแห่ง
เมื่อหมดสิ้นชีวิตก็กลับไปที่นั่น และภาพของสถานที่นั้นก็อาจเปลี่ยนไปโดยอิงจากความทรงจำเรา
ทำให้นรกสวรรค์แตกต่างกันไปตามแนวคิดที่เราสั่งสมมา(ศาสนา)
คนทำดีก็มีแต่ควาทรงจำดีๆทำให้จิดตอบสนองในสิ่งดี พบเจอแต่สิ่งดี(สวรรค์)
คนทำชั่วก็เช่นกัน จิตตอบสนองทำให้เจอแต่สิ่งไม่ดี (นรก)
ประมาณเป็นระบบออโต้ ให้ความทรงจำเราสะท้อนเป็นภาพออกมา
-
-
24th February 2016 13:21
#25
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
helos
คนที่บอกมีจริง ผมไม่ค่อยเชื่อ เพราะไม่มีหลักฐานพิสูจน์
คนที่บอกไม่มีจริง ผมยิ่งไม่เชื่อเลยครับ นอกจากมันจะเคย"ลองไปดู"และ"กลับมา"เล่าให้ฟังจริงๆว่าไม่มี
มองเป็นกุศโลบายที่โน้มน้าวให้คนทำดีหลีกทำชั่วก็ได้ครับ
ลองมองมั่วๆตามหลักวิทย์บางทีทุกชีวิตในจักรวาลอาจมาจากที่เดียวคือศูนย์กลางที่ไหนสักแห่ง
เมื่อหมดสิ้นชีวิตก็กลับไปที่นั่น และภาพของสถานที่นั้นก็อาจเปลี่ยนไปโดยอิงจากความทรงจำเรา
ทำให้นรกสวรรค์แตกต่างกันไปตามแนวคิดที่เราสั่งสมมา(ศาสนา)
คนทำดีก็มีแต่ควาทรงจำดีๆทำให้จิดตอบสนองในสิ่งดี พบเจอแต่สิ่งดี(สวรรค์)
คนทำชั่วก็เช่นกัน จิตตอบสนองทำให้เจอแต่สิ่งไม่ดี (นรก)
ประมาณเป็นระบบออโต้ ให้ความทรงจำเราสะท้อนเป็นภาพออกมา
มีจริงสิครับ
ขนาดตำนานเทพกรีกยังมีจริงๆเลย
โพไซดอนตัวเป็นๆเลยอยู่แถวรัชดา จะไปสักการะแต่ละทีเงินหายจากกระเป๋าไป 2,000+
อูยยยยย เจนขนลุกเลยค่ะ
-
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
Forum Rules