จากการวิเคราะห์คราวๆ คิดว่าเมพดุ้นยูคาริ1991จะเป็นโรคนี้ Asperger(โรคเดียวกะผม)

[liger0000]

นพ.ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา
จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น

โรคแอสเพอร์เกอร์ (Asperger's Disorder) หรือที่เดิมเรียกว่า แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม (Asperger's Syndrome) เป็นความบกพร่องของพัฒนาการรูปแบบหนึ่งที่มีลักษณะเฉพาะตัว อยู่ในกลุ่มเดียวกับโรคออทิสติก (Autistic Disorder) แต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดอยู่บ้างพอสมควร

นับเป็นเวลา 70 กว่าปีแล้วที่มีการรายงานผู้ป่วยโรคนี้ และมีการพูดถึงก่อนที่นายแพทย์ ลีโอ แคนเนอร์ (Leo Kanner) จิตแพทย์ สถาบันจอห์น ฮอปกินส์ จะรายงานผู้ป่วยที่มีลักษณะอาการของโรคออทิสติกด้วยซ้ำ โดยตั้งแต่ปี ค.ศ.1934 นายแพทย์ ฮานส์ แอสเพอร์เกอร์ (Hans Asperger) กุมารแพทย์ ชาวออสเตรีย พูดถึงเด็กที่มีลักษณะเข้าสังคมลำบาก หมกมุ่นกับการทำอะไรซ้ำๆ ประหลาดๆ แต่กลับพูดเก่งมาก และดูเหมือนจะฉลาดมากด้วย แต่ด้วยวิกฤตหลังสงครามโลกครั้งที่สองทำให้ไม่มีใครสานต่องานวิจัย จึงเงียบหายไปจนนักวิจัยรุ่นหลังนำมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง



ลักษณะอาการและการวินิจฉัย

เกณฑ์การวินิจฉัยโรคแอสเพอร์เกอร์ ตามคู่มือการวินิจฉัยโรค DSM-IV โดยสมาคมจิตแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา (The American Psychiatric Association's Diagnostic and Statistic Manual of Mental Disorder - Forth Edition, 1994) จัดโรคแอสเพอร์เกอร์ (Asperger's Disorder) อยู่ในกลุ่ม การวินิจฉัยโรคที่เรียกว่า พีดีดี ความบกพร่องของพัฒนาการแบบรอบด้าน (PDDs – Pervasive Developmental Disorders)

หลักเกณฑ์ในการวินิจฉัยโรคแอสเพอร์เกอร์ มีดังนี้

A. มีคุณลักษณะในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ผิดปกติ โดยแสดงออกอย่างน้อย 2 ข้อต่อไปนี้

1. บกพร่องอย่างชัดเจนในการใช้ท่าทางหลายอย่าง (เช่น การสบตา การแสดงสีหน้า กิริยา หรือท่าทางประกอบการเข้าสังคม)

2. ไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนในระดับที่เหมาะสมกับอายุได้

3. ไม่แสดงความอยากเข้าร่วมสนุก ร่วมทำสิ่งที่สนใจ หรือร่วมงานให้เกิดความสำเร็จกับคนอื่นๆ (เช่น ไม่แสดงออก ไม่เสนอความเห็น หรือไม่ชี้ว่าตนสนใจอะไร)

4. ไม่มีอารมณ์หรือสัมพันธภาพตอบสนองกับสังคม

B. มีพฤติกรรม ความสนใจ หรือกิจกรรมที่จำกัด ซ้ำๆ เป็นแบบแผน โดยแสดงออกอย่างน้อย 1 ข้อ ต่อไปนี้

1. หมกมุ่นกับพฤติกรรมซ้ำๆ (stereotyped) ตั้งแต่ 1 อย่างขึ้นไป และความสนใจในสิ่งต่างๆมีจำกัด ซึ่งเป็นภาวะที่ผิดปกติทั้งในแง่ของความรุนแรงหรือสิ่งที่สนใจ

2. ติดกับกิจวัตร หรือย้ำทำกับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่มีประโยชน์โดยไม่ยืดหยุ่น

3. ทำกิริยาซ้ำๆ (mannerism) (เช่น เล่นสะบัดมือ หมุน โยกตัว)

4. สนใจหมกมุ่นกับเพียงบางส่วนของวัตถุ

C. ความผิดปกตินี้ ก่อให้กิจกรรมด้านสังคม การงาน หรือด้านอื่นๆที่สำคัญ บกพร่องอย่างมีความสำคัญทางการแพทย์

D. ไม่พบพัฒนาการทางภาษาที่ล่าช้า อย่างมีความสำคัญทางการแพทย์

E. ไม่พบพัฒนาการทางความคิดที่ช้า อย่างมีความสำคัญทางการแพทย์ หรือมีความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง พฤติกรรมการปรับตัว และมีความอยากรู้เห็นในสิ่งรอบตัวในช่วงวัยเด็ก

F. ความผิดปกติไม่เข้ากับ พีดีดี ความบกพร่องของพัฒนาการแบบรอบด้าน ชนิดเฉพาะอื่น หรือโรคจิตเภท (Schizophrenia)



ระบาดวิทยา

การศึกษาด้านระบาดวิทยา พบว่ามีความชุกของโรคประมาณ 1 คนต่อประชากร 1,000 คน ซึ่งถ้าเทียบกับออทิสติกแล้ว พบว่ามีความชุกสูงกว่าเล็กน้อย



การดูแลรักษา

โรคแอสเพอร์เกอร์ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาที่จำเพาะเจาะจงให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถช่วยเหลือให้มีพัฒนาการทางด้านสังคมดีขึ้นได้มาก สามารถช่วยให้เด็กเรียนรู้ และใช้ชีวิตอยู่ร่วมในสังคมได้ตามปกติ สำหรับแนวทางในการดูแลรักษาใช้แนวทางเดียวกับการดูแลรักษาผู้ที่เป็นออทิสติก โดยเน้นแก้ไขในด้านที่เป็นปัญหา ควบคู่ไปกับการส่งเสริมในด้านที่เป็นความสามารถของเด็ก เป็นสำคัญ

ที่ไปhttp://www.happyhomeclinic.com/au03-asperger.htm

ปล.เมพดุ้นยูคาริคือชื่อเก่าของอีหมอนี้ และชื่อ Eucliwood Hellscythe, มันเรียกยากและทำให้เนโครแมนเซอร์เสื่อมเสียชื่อเสียจึงขอให้ชื่อยูคาริ1991แทน

[Eucliwood Hellscythe]

แง....เนื้อหาเดิมไม่ต้องย้ำก็ได้นะ

โดนแทงใจอ่ะแงๆ

[liger0000]

ผมหวังดีนะ คือถ้ารู้ตัวช้านี้คุณเรียนจบมานี้เตรียมเป็น ฮิคคิโคโมริอยู่บ้าน ประกอบอาชีพนีตแบบผมได้เลย ไม่มีใครรับแอสเพอร์เกอร์เข้าทำงาน ยกเว้นเส้น+ดังจริงๆแบบน้องเชาร์ หรือได้งานทำก็ไม่เกิดในที่ทำงาน แต่ถ้าชอบทางหลวงมากๆจริงๆ แนะนำเข้าวิศวะโยธาเลย แล้วไปทำอาชีพวิศวะกรออกแบบถนนหรือเสาไฟฟ้า อย่าเรียนอะไรที่ต้องไปทำงานกับคนอื่นเด็ดขาด ไม่งั้นหายนะเลย ทุกวันนี้ผมต้องไปหาหมอทุกอาทิตย์ แถมเจอโรคกลัวการทำงาน โรคซึมเศร้าและสารพัดโรคทางจิตมาเสริมอีก กินยาซึมเศร้าก็แพ้ เลิกกินก็แย่ ยาซึมเศร้ามันยาเสพติดชัดๆ เลิกกินยากมาก ขนาดหายเศร้าก็ยังต้องกิน

ปล.ซ้ำทำใจ เพราะผมเจอฤทย์ยาแล้วมันแพ้จนสมองจะเสื่อมเต็มทีแล้ว

[Eucliwood Hellscythe]

คือ...ตอนนี้หนูได้กระดาษมาใบนึงแล้ว และหนูก็กำลังทำเดอะซิสอยู่

หนูไม่ได้แสดงอาการทางร่างกายขนาดนั้นหรอกนะ

ตอน 14-15 เคยเป็นช่างติดตั้งเวทีหมอลำ ตอนนี้หากินกับร้านอาหาร/งานแต่ง รู้สึกเรื่องนี้จะพูดหลายครั้งอยู่นะ

[Msguzs]

ผมหวังดีนะ คือถ้ารู้ตัวช้านี้คุณเรียนจบมานี้เตรียมเป็น ฮิคคิโคโมริอยู่บ้าน ประกอบอาชีพนีตแบบผมได้เลย ไม่มีใครรับแอสเพอร์เกอร์เข้าทำงาน ยกเว้นเส้น+ดังจริงๆแบบน้องเชาร์ หรือได้งานทำก็ไม่เกิดในที่ทำงาน แต่ถ้าชอบทางหลวงมากๆจริงๆ แนะนำเข้าวิศวะโยธาเลย แล้วไปทำอาชีพวิศวะกรออกแบบถนนหรือเสาไฟฟ้า อย่าเรียนอะไรที่ต้องไปทำงานกับคนอื่นเด็ดขาด ไม่งั้นหายนะเลย ทุกวันนี้ผมต้องไปหาหมอทุกอาทิตย์ แถมเจอโรคกลัวการทำงาน โรคซึมเศร้าและสารพัดโรคทางจิตมาเสริมอีก กินยาซึมเศร้าก็แพ้ เลิกกินก็แย่ ยาซึมเศร้ามันยาเสพติดชัดๆ เลิกกินยากมาก ขนาดหายเศร้าก็ยังต้องกิน

ปล.ซ้ำทำใจ เพราะผมเจอฤทย์ยาแล้วมันแพ้จนสมองจะเสื่อมเต็มทีแล้ว

น่าเห็นใจมากครับ
ก่อนหน้านี้ผมก็คิดว่าตัวเองเป็นโรคจิตเหมือนกันแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองไม่เป็นอะไร ไม่ต้องไปหาหมอหรอก
ไปๆมาๆ ผมเริ่มรู้สึกว่าบางที มันถึงเวลาที่เราต้องรับผิดชอบต่อตัวเองและคนร้อบข้างบ้าง คือต่อให้เราไม่ได้เป็นโรคจิตแต่ก็ต้องลองไปคุยกับหมอ ขอคำปรึกษาจากหมอบ้าง
หมอบอกว่าเรื่องของผมเป็นแค่ความคิด ออกกำลังกายทำกิจกรรมจะช่วยบรรเทาอาการลง หมอให้ยามากิน 3 ชุด กินแล้วง่วงนอนมาก แต่ยาช่วยได้จริงๆ
แต่หลังจากนั้นผมเลิกกินยาแล้วหันมาทำกิจกรรมออกกำลังกายแทน สิ่งที่ได้จากการไปหาหมอคือความอบอุ่นใจ อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้ที่จะยอมรับสภาพของตัวเอง
พาตัวเองไปอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคุณหมอ

[sattawat1979]

ผมก็เป็นเหมือนกันนะ โรคอะไรอย่างที่ว่ามานี่ เป็นมานานแล้วด้วย แต่ผมไม่สน

คือผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเข้าสังคม เพื่อนน้อย แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกถึงความบกพร่องอะไรเลย ผมไม่เคยเหงา ผมมีอะไรในชีวิตให้ทำเยอะแยะ

หลายครั้งที่ผมเพิกเฉยต่อสังคมรอบข้าง รู้สึกเบื่อหน่าย แรกๆก็รู้สึกเหมือนกันว่าเป็นตัวประหลาด แต่นานๆเข้าผมก็เลิกสนใจมันไปแล้ว

คนเรามีความชอบ รสนิยม และบุคลิกต่างกันไปนะครับ จะให้คนเรามันเหมือนกันหมดนั้นไม่ได้

อย่าตัดสินคนอื่นว่าเป็นตัวประหลาดเพียงเพราะว่า ''เขาไม่เหมือนเรา''



หรือถ้าปรับตัวเข้ากับสังคมไม่ได้ ก็ไม่ต้องปรับครับ ไม่จำเป็นเลย ถ้าปรับไปแล้วมันไม่ใช่ตัวตนของคุณ จะฝืนความรู้สึกไปทำไม

เป็นตัวตนที่คุณเป็นนั่นแหละดีที่สุด โดยไม่ไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนเป็นพอ จงมั่นใจในตัวเอง

[Endless33]

คือ...ตอนนี้หนูได้กระดาษมาใบนึงแล้ว และหนูก็กำลังทำเดอะซิสอยู่

หนูไม่ได้แสดงอาการทางร่างกายขนาดนั้นหรอกนะ

ตอน 14-15 เคยเป็นช่างติดตั้งเวทีหมอลำ ตอนนี้หากินกับร้านอาหาร/งานแต่ง รู้สึกเรื่องนี้จะพูดหลายครั้งอยู่นะ

เดอะซิส หนูขำหวะ 555

[chavalit1997]

เทพดุ้นอายุเท่าไรละครับผม

[Cagoman]

เดอะซิส What!? 555555555555555

[THE MIZ]

มันคืออะไร !?

[liger0000]

จริงๆผมกำลังศึกษาเรื่องความข้องเกี่ยวของ โอทาคุ ฮิคคิโคโมริและแอสเพอร์เกอร์อยู่นะ คุณสมบัติของโอทาคุแท้ๆมันคล้ายๆโรคนี้มาก ชอบอะไรอย่างหนึ่งมากๆ(แต่ด้วยlive style มันอยู่กับคอมมากเลยเข้าหาโลก2Dโลกเสมือนจริงมาก ทำให้กลายเป็นพวกติดกมอนิเมะโดยปริยาย) แล้วปัญหาต่างก็ที่แอสเพอร์เผชิญ เข้าสังคมไม่ได้โดนกีดดันทางสังคมจนสุดท้าย ก็กลายเป็นฮิคคิโคโมริไป

ผมค้นพบอะไรหลายๆอย่างนะเช่น พวกแอสเพอร์เกอร์นี้ถ้าเจอพวกเดียวกันจะคุยกันรู้เรื่อง ทั้งๆที่ปกติคุยกับคนปกติไม่รู้เริื่อง และบางทีก็รวมตัวกันเป็นชุมชนกันเลยได้ด้วยซ้ำไม่แปลกเลยย่านอากิฮาบาระจึงเหมือนแหล่งพักใจสำหรับพวกนี้ เพราะเป็นศูนย์รวมเพื่อนพวกเดียวกันนั้นเอง ต่างประเทศเองก็มีCommunity ของพวกนี้อยุ่เยอะ เป็นชมรมบ้าง เว็ปบอร์ดบ้าง มีบริษัทจัดหางานที่รวมกันเป็นเครือข่ายพวกนี้ด้วยซ้ำ

[BoonTew]

ถ้าโพสต์แล้วไม่มีใครมาเม้น รับรองได้มีอกแตกตายไม่ก็ย้ายที่สิงสู่แน่นอน

[482566789]

ผมก็เป็นเหมือนกันนะ โรคอะไรอย่างที่ว่ามานี่ เป็นมานานแล้วด้วย แต่ผมไม่สน

คือผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเข้าสังคม เพื่อนน้อย แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกถึงความบกพร่องอะไรเลย ผมไม่เคยเหงา ผมมีอะไรในชีวิตให้ทำเยอะแยะ

หลายครั้งที่ผมเพิกเฉยต่อสังคมรอบข้าง รู้สึกเบื่อหน่าย แรกๆก็รู้สึกเหมือนกันว่าเป็นตัวประหลาด แต่นานๆเข้าผมก็เลิกสนใจมันไปแล้ว

คนเรามีความชอบ รสนิยม และบุคลิกต่างกันไปนะครับ จะให้คนเรามันเหมือนกันหมดนั้นไม่ได้

อย่าตัดสินคนอื่นว่าเป็นตัวประหลาดเพียงเพราะว่า ''เขาไม่เหมือนเรา''



หรือถ้าปรับตัวเข้ากับสังคมไม่ได้ ก็ไม่ต้องปรับครับ ไม่จำเป็นเลย ถ้าปรับไปแล้วมันไม่ใช่ตัวตนของคุณ จะฝืนความรู้สึกไปทำไม

เป็นตัวตนที่คุณเป็นนั่นแหละดีที่สุด โดยไม่ไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนเป็นพอ จงมั่นใจในตัวเอง

ก็คุณได้ซื้อความสุขให้กับตัวเองเเล้วไงไม่เเปลกเลยครับ เเต่เขาอีกคนนึงเหมือนเขายังไม่เจอสิ่งที่ต้องการไง คือถ้าเขาโพสเอาสนุกผมก็สนุกนะผมชอบด้วย เเต่ถ้าเพราะเขาเป็นโรคนี้จริงๆผมว่าควรรักษานะ จริงๆ

[Paahod]

หัดคุยกับคนอืนบางไรบางออกไปดูโลกกว้างบ่อยไปที่เจอคนเยอะ