ถ้าหุ่นยนต์ฉลาดกว่ามนุษย์

[=Galaxy Ag=Z]

ถ้าหุ่นยนต์ฉลาดกว่ามนุษย์

ศาสตราจารย์ Stephen Hawking นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เตือนว่าในอนาคตหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์หรือ Artificial Intelligence อาจฉลาดกว่ามนุษย์ และอาจนำไปสู่สงครามระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ ศาสตราจารย์ Hawking ยังแนะนำให้มนุษย์เริ่มโครงการสำรวจและก่อตั้งอาณานิคมบนดาวดวงอื่นอย่างจริงจัง เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติจากหายนะที่เกิดจากเทคโนโลยี

ศาสตราจารย์ Stephen Hawking ซึ่งป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นประสาททำให้ไม่สามารถขยับตัวหรือพูดได้ และต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ผลิตโดยบริษัทเทคโนโลยี Intel ในการพูดสื่อสารกับคนทั่วไป กล่าวกับ Financial Times ว่าในอนาคตที่ไม่ไกลจนเกินไป หุ่นยนต์แบบปัญญาประดิษฐ์หรือ Artificial Intelligence อาจฉลาดล้ำหน้ามนุษย์ไปไกล หาก AI มีโปรแกรมที่สามารถพัฒนาตัวเองได้

Steven Hawking

นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ผู้นี้อธิบายว่า ความรู้ด้านพันธุวิศวกรรมในปัจจุบันอาจช่วยให้สามารถพัฒนาพันธุกรรมของมนุษย์ให้ฉลาดขึ้นหรือแข็งแรงขึ้นได้ แต่ต้องใช้เวลานานอย่างน้อยก็อีกราว 18 ปีกว่าที่จะเริ่มเห็นผล ในทางกลับกันคอมพิวเตอร์สามารถเพิ่มระดับความฉลาดหรือความเร็วในการประมวลผลได้เป็น 2 เท่าในทุกๆ 18 เดือน ดังนั้นจึงมีโอกาสที่คอมพิวเตอร์จะพัฒนาตนเองจนฉลาดแซงหน้ามนุษย์เนื่องจากมนุษย์นั้นถูกจำกัดด้วยกระบวนการวิวัฒนาการทางชีวภาพที่ล่าช้า

รายงานของมหาวิทยาลัย Oxford ได้เตือนว่า รัฐบาลประเทศต่างๆ ควรวางแผนป้องกันสงครามหุ่นยนต์ ซึ่งหมายถึงการต่อสู้ระหว่างหุ่นยนต์สังหารที่สามารถตัดสินใจเลือกเป้าหมายได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องอาศัยการควบคุมของมนุษย์

ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารหลายคนของบริษัทเทคโนโลยีใน Silicon Valley ต่างออกมาเตือนในลักษณะเดียวกันถึงอันตรายของการหลงใหลได้ปลื้มและการลงทุนเพื่อพัฒนาปัญญาประดิษฐ์โดยไม่มีการควบคุม

บริษัทเทคโนโลยี Google เป็นหนึ่งในบริษัทที่ทุ่มเทเม็ดเงินมหาศาลในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีล้ำยุคจำพวกอุปกรณ์ Smart ต่างๆ รวมทั้งเครื่องบินโดรนและรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และเมื่อต้นปีนี้ Google เพิ่งซื้อบริษัทผลิตหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ชื่อ DeepMind ด้วยวงเงิน 400 ล้านดอลล่าร์

ศาสตราจารย์ Stephen Hawking กล่าวว่าตนยินดีกับประโยชน์ด้านต่างๆ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพราะอย่างน้อยตนก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีดังกล่าวในการดำรงชีวิต แต่ในทางกลับกันเทคโนโลยีที่ว่านี้ก็อาจถูกใช้ไปในด้านการทำลายล้างและคุกคามชีวิตมนุษย์ได้เช่นกัน และยิ่งเกิดเทคโนยีใหม่ๆ มากเท่าไร ก็หมายถึงมีโอกาสมากขึ้นที่เทคโนโลยีเหล่านั้นจะถูกใช้ไปในทางที่ผิดจนเกิดเป็นหายนะต่อโลกและมวลมนุษย์

Killer robots campaign

ศาสตราจารย์ Hawking บอกด้วยว่า หายนะดังกล่าวอาจเกิดขึ้นในเวลา 1,000 ปีหรือ10,000 ปีจากนี้ แต่เชื่อว่าต้องเกิดขึ้นแน่ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องมีการสำรวจอวกาศ เพื่อหาแหล่งที่ตั้งอาณานิคมใหม่ของมนุษย์ เพื่อไม่ให้เมล็ดพันธุ์ของมนุษยชาติสูญสลายไปหากเกิดสงครามกับหุ่นยนต์ขึ้นจริงๆ


รายงานจาก Financial Times / เรียบเรียงโดยทรงพจน์ สุภาผล

Credit : http://www.voathai.com/a/rise-of-mac...s/2545290.html

[Rang Zozor]

ถ้าหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ ฉลาดกว่าเมื่อไร มันคงจะปลดล็อคระบบที่ควบคุมมันอยู่ได้สบายๆ

และถ้ามันคิดว่าเราคือภัยของโลกนี้.....จงเป็นไปตามนั้น (เหมือนในหนังเป๊ะ)

[jeditrainer]

ผมว่ายังใช้เวลาอีกนานกว่าจะถึงจุดนั้นได้ ถ้ามนุษย์จะสร้างหุ่นยนต์ที่มี AI ก้าวข้าม Fuzzy Logic อย่างสมองมนุษย์ได้
มนุษย์เองก็ต้องพัฒนาเทคโนโลยีไปไกลกว่าทุกวันนี้มากพอสมควรแล้วครับ ถ้ามองตรง ๆ จะรู้เลยว่าเทคโนโลยีบนโลก
เพิ่งพัฒนาแบบก้าวกระโดดเมื่อไม่กี่สิบปีมานี้เอง และถ้าใครหาข้อมูลมาเยอะพอจะรู้ว่าเทคโนโลยีนมันได้(หรือรั่วไหล)มาจาก
NASA และจากเขตหวงห้ามในเนวาด้ามาไม่น้อยเลย...คงรู้กันนะว่าคืออะไร อย่าลืมว่าจักรวาลนี้ไม่มีแค่เพียงมนุษย์นะครับ
และมนุษย์ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่ด้วยซ้ำไปในจักรวาล

[Kellidev]

ศาสตราจารย์เป็นแฟน terminator แน่เลย ผมเองก็กำลังศึกษาเรื่อง AI อยู่ แต่เป็นแค่ AI คู่สนทนาเฉยๆ คล้ายฟ้าใสหรือ siri นั่นแหละ

[sattawat1979]

เหมือนในหนังเลยแฮะ สงครามหุ่นยนต์

แต่ผมอยากได้เทคโนโลยีทางการแพทย์มากกว่านะ คิดค้นยาที่รักษาโรคร้ายต่างๆได้ เช่น เอดส์ มะเร็ง เบาหวาน อะไรพวกนี้อ่ะ แบบเอาให้หายขาด

หรือไม่ก็ช่วยยืดอายุเฉลี่ยมนุษย์ให้นานกว่าเดิม อะไรแบบนี้ น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่านะ

[hanabishi]

คงเหมือนหนังหลายๆเรื่อยเช่น I robot,machina