ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 9 จากทั้งหมด 9
  1. #1
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    78
    กล่าวขอบคุณ
    35
    ได้รับคำขอบคุณ: 79

    Post สงครามทมิฬ สิ้นสุริยะ ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของสงคราม จบตอน (มือใหม่มาก ติชมได้)

    สงครามทมิฬ สิ้นสุริยะ
    ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของสงคราม


    เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2020 หรือเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ชาวสหรัฐฯ ทั้งประเทศต่างพากันร่วมเฉลิมฉลอง วันชาติสหรัฐฯ หรือ วันประกาศอิสรภาพสหรัฐฯ ปีที่ 244 กันอย่างคึกคัก ที่บริเวณหน้าทำเนียบขาว ประชาชนนับพันกำลังยืนฟังคำกล่าวสุนทรพจน์ของ นาย โรเจอร์ มิลเลอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่ประธานาธิบดีผิวสีกำลังกล่าวสุนทรพจน์อยู่ ก็มีลำแสงสีแดงพุ่งลงมาจากท้องฟ้า แสงนั้นได้ทอดลงมาที่บริเวณที่ประธานาธิบดี และผู้คนจำนวนมากยืนอยู่ ผู้คนพากันแตกตื่น กรีดร้อง และวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต

    “ คุ้มกันประธานาธิบดี ” หัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยตะโกนขึ้น และเมื่อสิ้นสุดเสียงนั้น มีวัตถุประหลาดพุ่งลงมาบนพื้นตรงตำแหน่งที่แสงสีแดงปรากฏขึ้น พุ่งลงมาเร็วมากราวกับดาวหางที่กำลังจะพุ่งชนโลก และมันก็หยุดลงก่อนจะกระทบกับพื้น ก่อให้เกิดลมพัดจนฝุ่นฟุ้งไปทั่วบริเวณนั้น ทุกคนเงียบ และแทบจะไม่เชื่อเลยว่าสิ่งที่เกิดต่อหน้าเป็นเรื่องจริง วัตถุที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทุกคน ซึ่งลอยอยู่เหนือจากพื้นราว 50 เมตร รูปทรงปิระมิดฐานสี่เหลี่ยมสีดำคว่ำหัวลง ตรงปลายแหลมของปิระมิดมีผลึกสีแดงประดับอยู่ มันมีขนาดใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอลสองสนามต่อกัน ปืนทุกกระบอกหันไปที่ปิระมิดนั้นทุกคนยังตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในขณะนั้นเองก็มีวัตถุขนาดเล็กพุ่งออกมาจากปิระมิด

    “ ฟิ้ว...ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ ” เสียงวัตถุเหล่านั้นพุ่งออกมาและกระทบกับพื้นจนพื้นดินสั่นสะเทือน เมื่อสิ้นเสียงวัตถุที่ตกลงมานั้นคือหุ่นยนตร์ ซึ่งอยู่ในท่าคุกเข่าเพื่อรับแรงกระแทก และค่อยๆยืนขึ้น นัยต์ตาทั้งสองข้างของมันทุกตัว เปล่งแสงสีแดงออกมา ทุกคนกรีดร้อง ปืนทุกกระบอก อาวุธทุกชนิด ได้ยิงเข้ามาที่กองทัพหุ่นยนตร์ราว 20 ตัวเห็นจะได้

    “ปัง ปัง ปัง ปัง...เปรี้ยง...ตูม....ตูม” ปืนทุกกระบอกรัวกระสุนอย่างไม่ยั้งจนหมดกระสุน

    พระเจ้าช่วย...หุ่นยนตร์พวกนั้นไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน พวกหุ่นยนตร์ยืนเป็นวงกลม จึงปรากฏแสงสีแดงตรงกลางวงกลม ค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยๆจนแสบตา และหลังจากแสงประหลาดนั้น ทุกคนยังอยู่ และไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่...“ นั้น! ดูตรงกลางพวกหุ่นยนตร์นั้นสิ ” ชายคนนึงตะโกนขึ้นมา ซึ่งภาพที่เห็นคือ มีหุ่นยนตร์สีแดงที่สวมผ้าคุมอยู่ตรงกลางวงหุ่นยนตร์

    “มาซุ โนรอค"เสียงดังมาจากหุ่นสีแดง ซึ่งมันไม่ใช่ภาษามนุษย์โลกแน่

    “อ้อ...ไม่สินะ ข้าลืมไป” เสียงดังมาจากหุ่นสีแดงนั้น พร้อมหน้ากากที่เปิดออก ใบหน้าที่ปรากฏหลังหน้ากากนั้นเป็นใบหน้าของมนุษย์ ผมสีดำ ม่านตาสีดำ แต่ผิวสีแดง ไม่สิผิวใสมากจนเห็นเนื้อข้างในต่างหากละ

    “สวัสดี! ชาวดาวสีฟ้า ไม่นึกเลยนะว่าดาวของเจ้า จะต้อนรับชาวต่างดาวเช่นนี้” หุ่นสีแดงนั้นขยับปากพูด พร้อมอมยิ้ม ในขณะนั้นปากกระบอกปืนทุกกระบอกก็ยังเล็งมายังกลุ่มหุ่นยนตร์นั้นอยู่

    “พวกท่านเป็นใคร และต้องการอะไรจากเรา” ผู้นำชาติสหรัฐฯตะโกนถาม

    “ข้ามีนามว่า คูโรอ็อก จากดาวเคราะห์แดง ดาวเคราะห์ดวงที่สี่ในระบบสุริยะจักรวาล”

    “ดาวเคราะห์ดวงที่สี ดาวอังคารนะหรอ! ฮะ...ฮา พูดเป็นเล่นหนะ” ประธานาธิบดีไม่เชื่อ พร้อมหัวเราะจนลืมสำรวมมารยาท

    “พวกเจ้าไม่เชื่ออย่างงั้นหรอ ฮึ! ข้าว่าแล้วว่าพวกชาวดาวสีฟ้า จะต้องกล่าววาจาเยี่ยงนี้” ชาวดาวอังคารพูดพร้อมก้าวไปข้างหน้า เดินมุ่งหน้าไปหาประธานาธิบดี

    “พวกเจ้ายิงสิ ยิงมาเลย...ทำไม! ไม่กล้าละสิ” คุโรอ็อกแสดงความกราดเกรี้ยว พร้อมเดินมาจนหยุดอยู่ต่อหน้าประธานาธิบดีที่มีชุดคุ้มกันประธานาธิบดีรายล้อยอยู่หนาแน่น ห่างระยะไม่ถึง 3 เมตร ด้วยซ้ำคุโรอ็อกตะโกนออกมา“บูม!” ทุกคนสะดุ้ง

    “ฮะฮ่า...กลัวหรอ ข้าล้อเล่น ข้าเป็นเพียงแค่ผู้นำสารเท่านั้น” คุโรอ็อกกล่าว พร้อมยื่นผลึกสีแดงให้กับประธานาธิบดี “รับไป”

    “ทุกคนถอยไป ถ้าชายผู้นี้มาจากดาวอังคารจริงๆ ถ้าพวกเค้าจะมาทำลายเราจริงๆ คงไม่ยืนเฉยอย่างงี้หรอก ทุกอย่างคงจะถูกทำลายอย่างย่อยยับเหมือนในหนังแล้วหละ” ท่านประธานาธิบดีกล่าว พร้อมเดินออกมาจากกลุ่มรักษาความปลอดภัย ยื่นมือรับผลึก

    หลังจากที่ประธานาธิปดีจับแท่งผลึก ก็เกิดภาพขึ้น เป็นภาพพร้อมเสียงที่ปรากฏขึ้นบนผิวหน้าของปิระมิดทุกหน้า ภาพนั้นแสดงถึงบุคคลซึ่งแลดูสูงอายุ ลักษณะทางกายภาพเหมือนกันทุกประการกับ คุโรอ็อก ใส่ชุดเกราะสีแดง-ทอง ไม่สิต้องชุดหุ่นยนตร์ จะชุดอะไรก็ช่างเหอะ

    “ข้าคือผู้นำดาวแดง นามว่า มาร์คัส ที่ข้าส่งสารนี้ไปให้กับพวกเจ้า เพื่อให้พวกเจ้าได้รู้ว่า เจ้าไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตเพียงชนิดเดียวบนสุริยะจักรวาล และจักรวาลอื่นๆก็ยังมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญา และด้อยปัญญากว่าเจ้า แต่สิ่งที่ข้าจะบอกพวกเจ้านั้นไม่ใช่เรื่องนี้ ข้าจะมาเตือนถึงภัยสงคราม...สงครามระหว่างดวงดาว ที่พวกเจ้ากำลังจะประสบ และพวกข้าจะให้ความช่วยเหลือพวกเจ้าในศึกครั้งนี้เอง จำไว้ว่านี่คือศึกที่พวกเจ้ามิอาจต่อกรได้หากพวกเจ้าไร้ซึ่งพวกข้า”


    ภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ และทิ้งท้ายให้ชาวโลกคาใจว่าทำไมเราต้องรวมศึก นี้คือศึกอะไร แล้วภาพนั้นก็ดับไป

    “นี้คือสารที่ข้านำมาให้แก่ท่าน หวังว่าท่านคงจะตัดสินใจว่าพวกเจ้าจะร่วมรบกับพวกข้านะ” บุรุษจากดาวอังคารกล่าว

    “ไม่มีทาง สงครามครั้งนี้ไม่ใช่สงครามของเราชาวโลก มันเป็นสงครามของพวกท่าน เรายังจะต้องทำสงครามกับอะไรยังไม่รู้เลย” ประธานาธิบดีแสดงสีหน้าไม่สู้ดี และยังสงสัยในสิ่งที่ได้พบ

    “ฮา.....ฮะๆๆ น่าขันสิ้นดี เจ้าจะได้รู้แน่ว่าเจ้าจะเจอศึกอันใดและใครคือศัตรูของเจ้า ตรองให้ดีก่อน”

    “ศึกครั้งนี้...อาจจะเป็นพวกท่านก็ได้ที่นำศึกสงครามมาแก่เรามวลมนุษยชาติ ข้าขอเชิญท่านกลับไปได้แล้ว ท่านมาจากที่ไหนก็กลับไปจากที่ๆท่านมาเถอะ” ประธานาธิบดียื่นคำขาดและไม่ถามแม้แต่เหตุผล และชี้นิ้วไปที่ปิระมิด

    “งั้นข้าคงต้องให้เจ้ารู้เองสินะ ข้าคิดไม่ผิด...พวกดาวสีฟ้ามันขลาดและเขลา ท่านพ่อน่าจะฟังข้านะ ช่างเถอะ! ถ้าเจ้าพร้อมเมื่อไร เจอก็ติดต่อกับดาวของข้าผ่าน “ผลึกแดง” ที่เจ้าถึงก็แล้วกัน” คุโรอ็อกพูดไปยิ้มไปเพราะตนเป็นฑูต ที่เดินทางมาโลกตามบัญชาของมาร์คัสผู้เป็นบิดา ชายผิวแดงสะบัดผ้าคลุมอย่างไม่พอใจ พร้อมหันหลังแล้วเดินออกมา หลังโดนปฏิเสธทั้งคำเชิญ มิหนำซ้ำยังโดนไล่อีก แต่ก็ยิ้ม

    แล้วลำแสงสีแดงก็ปรากฏอีกครั้ง แสงนั้นส่องไปยัง คุโรอ็อก กับสมุนหุ่นยนตร์ และทั้งหมดก็หายไปกับแสงพร้อมกับปิระมิด

    แค่นี้ก่อนนะครับง่วงนอนมาก

    ต่อจากเมื่อวาน

    หลังจากเหตุการที่มีมนุษย์ดาวอังคารปรากฏขึ้น ข่าวทุกสำนักในโลก ไม่ว่าจะเป็น CNN , BBC ,NHK , CCTV , อัลจาซีร่า และสำนักข่าวต่างๆ ต่างพากันวิเคราะห์วิจารณ์ และตีความจากเหตุการที่เกิดขึ้น ประชาชานทั่วโลกตื่นตระหนก "บ้างก็หาว่าประเทศมหาอำนาจพยายามจัดฉากขึ้นเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า ตนเป็นผู้นำของโลก" "บ้างก็โยงไปใส่เรื่องคำทำนาย" "บ้างก็หาว่าสหรัฐปกปิดเรื่องนี้มาโดยตลอด และมันยอมเปิดเผยต่อสาธารณชนได้รู้" เกิดความขัดแย้งขึ้นอย่างรุนแรงของสังคม มีฝูงชนจำนวนมากรวมตัวและประท้วงทางการสหรัฐที่ได้ทำการปฏิเสธชาวดาวอังคาร และมีอีกกลุ่มที่สนับสนุนการปฏิเสธเกิดการจราจลครั้งใหญ่ ในหน้าสถานฑูตประเทศสหรัฐอเมริกา ทุกประเทศจะเกิดการปะทะ และนองเลือดของคนสองกลุ่ม

    ในขณะนั้นเอง ในที่ประชุมลับ ไม่ระบุสถานที่แน่ชัด มีกลุ่มคนกำลังถกเถียงกันอยู่ มีทั้งคนที่แต่งเครื่องแบบทหาร และใส่ชุดสูท พร้อมเอกสารกองอยู่จำนวนมากบนโต๊ะประชุม

    " ไหนใครช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจ ถึงเหตุการที่เกิดขึ้นหน่อย..สิ " น้ำเสียงที่ไม่พอใจและพูดอย่างกระแทกของประธานาธิบดีสหรัฐ

    " ผมว่ามันแค่อาจจะมาประกาศตนให้ทราบ " ชายใส่แว่นพูด

    " แต่ก็เห็นชัดว่าพวกเค้ามาเตือน " เสียงขึ้นผู้หญิงแทรกขึ้นมา

    " งั้นหรอเตือนว่าเราจะเกิดสงครามระหว่างดวงดาว น่าขำผมว่าเราเอาเวลาไปคิดอย่างอื่นดีไหมครับ คุณผู้หญิง " เสียงชองชายในชุดทหารกล่าว

    " แล้วถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆละเราจะรับมือยังไง " หญิงผู้นั้นแย้งขึ้น

    " เราจะถล่มมันทุกอย่างด้วยอาวุธที่เรามีครับท่าน " ทหารชั้นผู้ใหญ่ตอบ

    " อาวุธหรอ...เราทุกคนก็เห็นชัดแล้วนิว่าอาวุธที่เรามีทำอะไรมันไม่ได้เลย " หญิงวันกลางคนลุกขึ้นยืนและพูด

    " แต่เรายังไม่ได้ใช้นิวเคลียร์ นั้นแหละคือไม้ตายของเรา " ทหารชั้นผู้ใหญ่กล่าวพร้อมอมยิ้ม

    " เอาละ เอาละ วันนี้เราอาจจะพลาด เพราะเราไม่ได้ตั้งตัวรับกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมต้องรู้ให้ได้ว่า เจ้าเอเลี่ยนสีแดง ที่พูดต่อหน้าผมมันคือตัวอะไรและมันต้องการอะไรจากเรา เราจะรับมือกับสิ่งมีชิวิตนอกโลกเหล่านี้ได้ไหม หาจุดอ่อนของมัน แล้วเราจะชนะศึกทุกครั้ง" คำพูดที่หยิ่งผยอง คำพูดที่หยิ่งในชาติพันธุ์ ของประธานาธิบดีสหรัฐ

    "แปะๆๆ.....แปะๆๆ...แปะๆๆๆ"ทุกคนในที่ประชุมปรบมือ

    " แต่ท่านค่ะ...เราอาจสามารถหลีกเลี่ยงสงครามได้นะคะ" หญิงวัยกลางคนกล่าวขึ้น และทุกคนเงียบ

    " เราไม่ได้รบชนะทุกครั้ง เราแพ้สงครามเวียดนาม เราต้องสูญเสียกำลังพลที่โซมาเลีย เราสูญงบประมาณทางทหารจำนวนมหาศาลไปกัยสงครามที่อิรก ฉันเสียลูกชายไปค่ะ" หญิงคนนั้นน้ำตาซึม

    " เรามองข้ามการฑูต การฑูตที่จะไม่ทำให้ต้องเสียเลือดเนื้อ คิดดูก่อนเถอะคะท่านประธานาธิบดี " หญิงคนนั้นพูดพร้อมกับนั้งลง และหยิบน้ำกระดาษชำระมาซับน้ำตา

    " ผมเสียใจด้วย โอเคงั้น ทุกคน! รวบรวมนักิทยาศาสตร์ที่รู้ และสิ่งที่เรารู้กับพวกเอเลี่ยนต่างดาวทั้งหมดมาให้ผม อีกสามวันเราจะสรุปผลและดำเนินการ " เมื่อโดนติง ประธานาธิบดีจึงฉุดคิดและเลื่อนการสรุปการประชุมต่อไป

    " ปิดการประชุม "


    เช้าวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 แถวเกาะแมนฮัตตัน บริเวณหน้าเทพีเสรีภาพ ประเทศสหรัฐอเมริกา

    ชายแก่สองคนนั้นตกปลาอยู่บนเรือ ทั้งสองคนรู้สึกได้ถึงลมที่แรงมาก พัดลงมาจากบนหัวของพวกเค้า ทั้งสองคนเงยหน้ามองหาแหล่งกำเนิดของลมนั้น " โอ้...พระเจ้า " ชายแก่ทั้งสองคนอุทานพร้อมกันหลังที่ทั้งสองคนเงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า สองเฒ่าแทบจะไม่เชื่อสายตาตนเอง สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ามันเป็นสิ่งที่เค้าสองคนไม่เคยพบเจอมาก่อน ยานอวกาศลำใหญ่มีลักษณะเป็นวงกลมแบน คล้ายจาน ลอยอยู่บนหัวของพวกเขานับสิบลำ ขนาดของมันพอๆกับ เครื่องบินรบ F35 เลยทีเดียว หลังจากนั้นไม่นานมันก็พุ่งออกไป ตรงไปที่ทำเนียบขาว ชายแก่สองคนจับหมวกแก๊ป แล้วตะโกนบอกว่า "โชคดี ไอ้ลูกชาย" แล้วทั้งสองคนก็ตกปลาต่อ

    "เรียกศูนย์...เรียกศูยน์ พบวัตถุบินไร้สัญชาติกำลัง บินตรงไปที่ทำเนียบขาว มีจำนวน 11 ลำ...ย่ำมีจำนวน 11 ลำ" เสียงของนักบินเครื่องบินขับไล่ของกองทัพสหรัฐตรวจพบวัตถุประหลาด

    "เอาละนักบิน ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร สอยมันลงมาซะ" เสียงตอบกลับจากศูยน์ " รับทราบ "นักบินตอบทันที

    "ฟ้าว.........ววว" เสียงเครื่องบินขับไล่ ที่กำลังบินเพื่อทำลายวัตถุประหลาดนั้น เครื่องบินขับไล่จำนวน 10 ลำและ วัตถุลึกลับต่อสู้กันบนกลางเวหา เหนือกรุงวอซิงตัน ดี.ซี. ผู้คนในเมืองต่างหยุดดูราวกับต้องมนต์สะกด บ้างก็ถ่ายคลิปวีดีโอไว้

    "วี๊ด....ดดด" เกิดเสียงดังขึ้นพร้อมมีแสงสีม่วงพุ่งไปที่เครื่องบินขับไล่ลำหนึ่ง " ตูม...มมม " เสียงระเบิดดังสนั่น เครื่องบินขับไล่ระเบิดแลัวร่วงลงมาจากท้องฟ้า ผู้คนในเมืองเห็นดังนั้นต่างพากันตกใจ และแตกตื่น ความโกลาหลเกิดขึ้นในช่วงพริบตา ต่างคนต่างวิ่งเข้าหาที่กำบัง อย่างไม่คิดชีวิต เสียงกรีดร้อง ดังขึ้นไปทั่วถนนเมืองกรุงในยามเช้า ที่แออัด

    "ล๊อคเป้าหมาย ล๊อกเป้าหมาย....ยิง" นักบินขับไล่กำลังจะสอยจานผีด้วย มิชไชน์ "ไสหัวโตๆพร้อมกับยานกระป๋องของแกไปจากดาวของกูซะ ไอ้พวกเอเลี่ยนระยำ" เสียงเอ่ยของนักบินที่โกรธแค้น จรวดมิซไซน์พุ่งออกไปจากเครื่องบิน พุ่งตรงไปยังจานบินลำหนึ่ง จานบินลำนั้นหลบได้ แต่ " ฟิ้ว...ตูม...บูมมม ครื้นนนน " จานบินลำนั้นกลับพุ่งชนตกสูงอย่างเต็มแรงและตกในที่สุด " เย้! ไงละเจ้าพวกบ้า ฮะ..ฮา เห็นฝืมือของชาวโลกรึยัง" นักบินมองไปยังจุดที่เครื่องบินตก แต่พอหันกลับมาก็เห็นแสงสีม่วง พุ่งเข้ามาที่เครื่องบินของตน "บรึม...มมม" เครื่องบินขับไล่ที่เหลือก็ต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต แต่ก็ล้วนพ่ายแพ้ยานต่างดาวเหล่านั้น เครื่องบินขับไล่ถูกทำลายทั้งหมด

    "กริก....กริก.... กริก.... กริก.... กริก.... กริก" เสียงรถถัง รถลำเลียงพลส่งเข้ามาที่กลางเมือง " ทุกคนกระจายกำลัง เล็งเป็นหมายไปที่ยานผี รอสัญญาน" เมื่อรถทุกคันจอดหยุดนิ่ง ประตูรถลำเลียงพลเปิดออก

    " เร็ว เร็ว เร็ว... ไป ไปไป" ทหารจำนวน หนึ่งกองร้อยที่ลงมาจาก ยานลำเลียงพลที่พวกเค้านั่งมา กำลังประทับเล็ง ไปบนท่องฟ้า เมื่อยานบินโผล่ มีเสียงคำสั่ง " ยิง...ง "

    ปังๆๆๆๆๆ ... พรึดๆๆๆๆๆ ฟิ้วๆๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆๆๆ เป็นเสียงที่อาวุธทุกชนิดยิง เข้าไปที่จานบิน เสียงอาวุธเหล่านั้นยากจะอธิบายเป็นภาษาเขียนได้ ดังสนั่นกึกก้อง และเงียบสงบ เกิดกลุ่มควันปืน แรงระเบิด เป็นจำนวนมาก

    เฮ้....เย้....! พวกทหารดีใจที่จัดการกับศัตรูต่างดาวได้ แต่ไม่เลยมันไม่ได้ถูกทำลายแถมยังไม่เป็นรอยขีดข่วยเลย เหล่าทหารตกตะลึ่ง แสงสีม่วงยิงออกมาจากยาน ยิงสวนไปยังที่ทหารเหล่านั้นยิงเข้ามา เสียงระเบิดตังสนั่น " ตูม....ม " ทุกอย่างพินาศ จบแล้วจบสิ้นกันแล้ว อาวุธทุกอย่างบนโลกมนุษย์ ไม่สามารถทำอะไรมันได้เลยหรอ

    " กริ๊งงงง...กริ๊งงงงง"มีโทรศัพท์โทรเข้ามาที่ทำเนียบขาว " สวัสดีค่ะ ค่ะเราจะต่อสายไปยังท่านประธานาธิบดีให้ค่ะ " เลขานุการกล่าว

    " สวัสดี ....อะไรนะ! อาวุธทที่ดีที่สุดของเรา ที่ส่งไปถูกทำลายหมดเลยหรอ " ประธานาธิบดีรับสาย

    " ครับ...ผมจึงขอให้ท่านประธานาธิบดี อนุญาตให้ใช้นิวเคลียร์ด้วยครับท่าน "

    " ยังไม่อนุญาต "

    " แต่ว่าท่านครับ "

    " อีก10นาทีผมจะโทรไป "

    " รับทราบครับท่าน "

    กรึก!...ท่านประธานาธิบดีวางสายโทรศัพท์

    " ฟู่..." ท่านประธานาธิบดีสหรัฐฯถอนหายใจ มือกุมขมับครุ่นคิด

    เหตุการณ์เลวร้ายนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกาเพียงแห่งเดียว แต่มันเกิดขึ้นทุกเมืองใหญ่ของโลก

    การจากไปของ มนุษย์ต่างดาวสีแดง
    และการกลับมาพร้อมกับการทำลายล้างของยานบินที่ใช้ลำแสงสีม่วงทำลายล้างทุกสิ่ง
    มนุยษ์จะสูญสิ้นจริงหรือ
    แล้วมนุษย์ต่างดาวทั้งสอง เป็นพวกเดียวกันหรือไม่
    มนุษยชาติจะรอดจากเรื่องเลวร้ายครั้งนี้ได้อย่างไร


    โปรดติดตามตอนต่อไป

    จบตอนที่ 1

    ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาแวะชม รออ่านตอนที่ 2 เลยนะครับเร็วๆนี้แน่นอน ชอบหรือไม่ชอบยังไง บอกได้เลยนะครับ ติชม หรือ อยากให้เนื้อเรื่องดำเนินต่อไปยังไง แสดงความเห็นได้เต็มที่

    ขอบพระคุณครับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Mozart : 8th November 2011 เมื่อ 12:08

  2. #2
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ที่เดิม...ที่เรายังรักกัน
    กระทู้
    516
    กล่าวขอบคุณ
    345
    ได้รับคำขอบคุณ: 363
    ใช้ได้เลยนะคะ ว่าแต่ แต่งดึกมากๆเลยง่ะ แหม่มเพิ่งตื่น เลยมาแต่งของแหม่มต่อ
    ปล. ยังไม่หายดีเลย

    By STORMWIND [Female]

  3. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  4. #3
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    78
    กล่าวขอบคุณ
    35
    ได้รับคำขอบคุณ: 79
    ครับ ขอบคุณมากครับ ครั้งแรกเลยนะครับเนี้ย

  5. #4
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ที่เดิม...ที่เรายังรักกัน
    กระทู้
    516
    กล่าวขอบคุณ
    345
    ได้รับคำขอบคุณ: 363
    แหม่มว่าแก้เถอะ แบบนี้เหมือนกับบทสนทนา บทละคร ระวัังท่าน Mozart จะกลายเป็นร่างอวตารของใครบางคนนะคะ
    ด้วยความหวังดี

    By STORMWIND [Female]

  6. #5
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    78
    กล่าวขอบคุณ
    35
    ได้รับคำขอบคุณ: 79
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Stormwind อ่านกระทู้
    แหม่มว่าแก้เถอะ แบบนี้เหมือนกับบทสนทนา บทละคร ระวัังท่าน Mozart จะกลายเป็นร่างอวตารของใครบางคนนะคะ
    ด้วยความหวังดี

    By STORMWIND [Female]
    แก้ยังไงหรอครับ แบบว่ายังไงช่วยแนะนำหน่อยพอดีมือใหม่มาก ยังไม่เข้าใจครับ แบบว่าโดนสวมบท หรืออ้างสิทธิหรอครับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Mozart : 8th November 2011 เมื่อ 02:43

  7. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ที่เดิม...ที่เรายังรักกัน
    กระทู้
    516
    กล่าวขอบคุณ
    345
    ได้รับคำขอบคุณ: 363
    อ่อ ไม่ค่ะๆ แบบว่า

    ท่าน Mozart แต่งแบบนี้อ่ะ

    มาวิน : อาเบะ ฉันคิดถึงแกว่ะ

    อาเบะ : ยาราไนก๊า !!!

    จริงๆแล้วน่าจะเป็นแบบนี้มากกว่า

    "อาเบะ ฉันคิดถึงแกว่ะ" ชายหนุ่มรูปงามนามมาวินได้พูดกับอดีตเพื่อน(กูรัก***ว่ะ)

    "ยาราไนก๊า !!" เขาพูดคำยอดฮิตออกมาพร้อมกับวิ่งตรงไปหามาวินราวกับไมไ่ด้เจอกันนานแสนนาน

  8. #7
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Thrones
    กระทู้
    1,744
    กล่าวขอบคุณ
    41
    ได้รับคำขอบคุณ: 5,032
    Blog Entries
    2
    แต่งดีอะ ดูดีเลยนะ ไม่ดูทื่อไปหรือ ปัญญาอ่อนไป

  9. #8
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    78
    กล่าวขอบคุณ
    35
    ได้รับคำขอบคุณ: 79
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Rex อ่านกระทู้
    แต่งดีอะ ดูดีเลยนะ ไม่ดูทื่อไปหรือ ปัญญาอ่อนไป
    ขอบคุณครับ กำลังอัพเดทเรื่อยๆ นะรออ่านต่อ แล้วมาด่าผมต่อ อิอิ ขอบคุณที่ติชมครับ คุณ STORMWIND ขอบคุณนะครับที่ติชม ตอนนี้ผมได้แก้ไขตามที่ท่านบอกแล้วครับ และแก้บทสนทนาบางบท ที่อ่านแล้วยังไม่ค่อยลื่นหูนัก ขอบคุณที่ติชมและจะพัฒนาฝีมือต่อไป

  10. #9
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ที่เดิม...ที่เรายังรักกัน
    กระทู้
    516
    กล่าวขอบคุณ
    345
    ได้รับคำขอบคุณ: 363
    มันต้องแบบนี้เสะ เยี่ยมๆ

    By STORMWIND [Female]


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top