น่าดีใจเมื่อได้เห็นเกมขับรถอาเขตที่มีศักยภาพออกภาคต่อซึ่งผ่านการขัดเกลามาอย่างดี Flatout 2 จาก Bugbear ปรับปรุงตัวเองจนโดดเด่นเหนือภาคก่อนของมันในปี 2005 ที่เร้าใจแต่ไม่ตราตรึง เพราะภาคนี้มีทั้งจำนวนรถที่มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า (มาพร้อมกับรถกระบะ, รถบ้าน และรถสปอร์ตรุ่นใหม่ๆ) เส้นทางแข่งที่โดดจากของเก่า 36 ไปเป็น 60 แห่ง มีพื้นที่ส่วนที่ทำลายได้กับมินิเกมที่ใช้ระบบฟิสิกส์ Ragdoll เพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว ตบท้ายด้วยการเล่นออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ตผ่าน GameSpy ได้พร้อมกัน 8 คน
สิ่งที่กล่าวไปทั้งหมดคงไม่สำคัญหากเกมการเล่นมีรูปแบบย่ำแย่ แต่ภาคนี้ยกระดับตัวเองขึ้นมาได้เพราะมีนักแข่งรถคอยบดขยี้ไม่เลือกมาพร้อมกับวัตถุข้างทางที่ทำลายได้ไม่อั้น สร้างความตื่นเต้นได้ทุกไมล์ยิ่งกว่าโรลเลอร์โคสเตอร์ตกรางซะอีก เอนจิ้นฟิสิกส์ Bugbear ยังคงน่าประทับใจเช่นเคย (มันทำให้สิ่งก่อสร้าง, เครื่องกีดขวาง, นั่งร้าน กระจุยกระจายเป็นเศษซากเต็มสนามหลังจากถูกชน)
เช่นเดียวกับกฎการชนของนิวตันอันซับซ้อนและระบบขับขี่ซึ่งถูกปรับปรุงได้สมจริงขึ้น รถรุ่นต่างๆ ตอบสนองต่อจอยอนาล็อกและเกมแพดได้ดีกว่าเดิมโดยไม่ทำให้การควบคุมพวงมาลัยไวเกินจริงเหมือนภาคแรก
ด้านกราฟิกก็น่าประทับใจพอกัน ทั้งรายละเอียดและความหลากหลายของสองฟากสนามแข่งซึ่งได้รับการปรับปรุงขนานใหญ่ รถใหม่ๆ มีสกินคมชัดขึ้น รวมถึงวัตถุในฉากที่ทำลายได้ต่างจัดสรรมาอย่างดี เสียงเอฟเฟ็กต์ก็ใช้ได้ และซาวด์แทร็กสร้างความรู้สึกถึงพลังขับเคลื่อนได้อย่างลงตัวด้วยเพลงสุดฮิตจากวง Nickelback กับ Motley Crue
โหมดอาชีพที่มีหลายเลเวลของ Flatout 2 เพิ่มจากภาคก่อนขึ้นเยอะ ส่วนของออนไลน์ก็น่าเล่นขึ้นมาก (ทั้งแข่งแบบชนกันเอง และมินิเกมที่ใช้ระบบฟิสิกส์ Ragdoll) แม้ว่า AI ในโหมดผู้เล่นเดี่ยวยังมีสปีดที่ยอดแย่อยู่บ่อยครั้งแต่ก็ช่วยนำความท้าทายมาให้คุณไม่น้อยหากขับขี่ตามกฎอย่างคงเส้นคงวา