Dragon Age II
บทสุรปโคตรตำนานแห่งมังกร!!
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เครดิตโดย Overclockzone (เกมนี้ผมเล่นจบแต่ ผมไม่ลงนะครับ สไตล์ของผมมันร็อคเกิน)
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พื้นฐานที่ควรรู้ Dragon Age 2
(โดย pongkrit03)
จะแบ่งเป็น 2 ส่วนนะครับ คือ ของเก่า (เหมือน origins) และของใหม่ (สิ่งที่เปลี่ยนไป)
ของเก่า
1.เกมส์นี้ศัตรูจะเลเวลขึ้นตามเรานะครับ ข้อดีคือเราจะไปที่ไหนก่อนก็ได้อย่างอิสระ แต่ข้อเสียคือการเก็บเลเวลไม่ได้ช่วยให้อะไรง่ายขึ้นเลย (ค่าประสบการณ์ที่ได้เขียนย่อว่า XP )
2.การตายของตัวละครคือการหมดสภาพต่อสู้ แต่ถ้าหมดสภาพครบ 4 คนถือว่าตายจริงๆ ... หลังจากจบการต่อสู้แล้วคนที่หมดสภาพก่อนหน้านี้จะฟื้นมา โดยมีบาดแผลติดตัว 1 อย่าง ทำให้ความสามารถลดลง ซึ่งเราสามารถทำให้บาดแผลนี้หายไปได้โดยใช้ item ชื่อ injury kit และคนที่ตายจะได้ xp เท่ากับคนที่เหลืออยู่ xp จะได้เท่ากันทุกคน ไม่มีการเฉลี่ยว่าหาร 3 หรือหาร 4 ดังนั้นพกคนไปเยอะที่สุดครับ การกลับบ้านหรือหรือ สลับตัวเพื่อนร่วมทีม ที่จุดสลับตัวก็รักษาได้เช่นกันครับ
3.สกิลของเกมส์นี้มีอยู่ 3 แบบด้วยกันนะครับ แบบแรกคือ Activated แบบกดใช้เดี๋ยวนั้นเลย แบบที่สองคือ Sustained คือเปิดค้างไว้ได้โดยจะเสีย mp max บางส่วน เรียกว่าค่า upkeep ถ้าปิดแล้วจะได้ mp max กลับมา และแบบที่สามคือ Passive ติดตัวตลอดเวลาไม่ต้องเสียอะไรและไม่ต้องกดเปิด
4. อาชีพ warrior กับ rouge จะใช้ค่า Stamina ในการใช้สกิล ส่วน Mage จะใช้ Mana ซึ่งมันก็คล้ายๆกัน แต่ต่างตรงที่ Mana สามารถเติมได้ด้วย Lyrium Potion แต่ Stamina ต้องใช้ Stamina Potion
5.ในการต่อสู้คุณมีปาร์ตี้สูงสุด 4 คน สามารถควบคุมได้ทีละ 1 ตัว โดยตัวที่เหลือที่คุณไม่ควบคุมจะทำการโจมตีตาม Tactics ที่คุณตั้งไว้ (แต่ตัวที่คุณควบคุมต้องสั่งเอง)
6.กดปุ่ม F5 เพื่อ quick save ได้ โดยจะมีเพียงเซฟเดียว ควรกดทุก 5 นาที กดก่อนเจอศัตรู และกดก่อนพูดคุยกับตัวละครต่างๆ ถ้าเจอบทสนทนาลักษณะทางเลือกที่ไม่ส่งผลในทันทีและคุณไม่แน่ใจ แนะนำให้เซฟเป็นไฟล์แยกต่างหากอีกไฟล์นึงก่อนเลือกทางเลือกนั้น เพื่อที่สามารถย้อนกลับมาเลือกใหม่ได้เสมอ
7.ค่า Threat คือค่าที่บ่งบอกความเป็นอันตรายของตัวคุณต่อพวกศัตรู โดยศัตรูจะโจมตีคนที่มีค่า Threat สูงที่สุดเป็นอันดับแรก โดยค่า Threat จะสูงตามความสามารถในการทำ dmg และทำ critical ... อย่างไรก็ตามมีบางสกิลที่ช่วยเพิ่มลดค่า Threat ได้เอง
8.ปุ่ม H ทำให้ตัวละครทุกคนหยุด และไม่เดินตามตัวละครหลักที่คุณควบคุมอยู่
9.ปุ่ม Ctrl + A ทำให้คุณเลือกทุกคนได้ ซึ่งถ้าคุณเลือกทุกคนอยู่นั้น จะไม่มีใครทำ tactics เลย คุณสามารถสั่งให้ทุกคนโจมตีศัตรูตัวเดียวกันได้โดยวิธีนี้ ถ้าต้องการจัดกลุ่มเป็นคู่ กด shift แล้วเลือกตัวละคร
10.การกด Tab ทำให้เรามองเห็นชื่อ item ชื่อ npc ต่างๆได้ง่าย (เผื่อมีคนไม่รู้)
11.ทุกอาชีพมี Class 2 เรียกว่า Specialization โดยเราจะเลือกครั้งแรกได้ที่เลเวล 7 และครั้งที่สองที่เลเวล เราสามารถมี class 2 ได้ 2 class ในตัวเดียวกัน สำหรับเพื่อนเราก็จะมีสกิล Specialization เฉพาะตัวของพวกเขาเอง
12.เกมส์นี้จบที่เลเวล 20 - 25 โดยประมาณ ดังนั้นวางแผนอัพสกิลกันให้พอดี
13.หน้า Tactics คือส่วนสำคัญที่คุณต้องพยายามเข้าใจ คุณสามารถเซ็ตให้เพื่อนคุณต่อสู้เหมือนเซ็ตบอท ซึ่งจะทุนแรงในการบังคับเองได้มาก และสำคัญสำหรับการเล่นระดับโหมด normal ขึ้นไป ลองอ่านรายละเอียดดูที่หน้า 1 ล่างๆนะครับ
14. Codex คือรายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติม เช่น คุณหยิบจดหมายหรือหนังสือขึ้นมา มันจะขึ้นที่มุมซ้ายล่างของหน้าจอว่า codex ถ้าคุณคลิ๊กซ้ายเข้าไป มันจะบอกว่าจดหมายหรือหนังสือนี้เขียนว่าอะไรบ้าง แต่คุณไม่จำเป็นต้องอ่าน codex เลยก็ได้ครับ
15.การพูดคุยหรือตัดสินใจบางอย่างมีผลต่อค่าความชอบและความชังของเพื่อนในทีมด้วย ซึ่งค่าทั้งสองอย่างนี้ถ้าไปทางใดมากๆ จะทำให้เพื่อนเราได้รับสกิลพิเศษที่แตกต่างออกไป แล้วแต่เราจะเลือก
16. เพื่อนเราที่พักอยู่ camp แม้จะไม่ได้มาบู้กับเรา พวกเขาก็จะได้ XP เพิ่มตามเราเหมือนกัน ทั้งแต้ม Skills ด้วย
17. Rune คือหินที่ใส่ในอาวุธที่มีช่องเพื่อเพิ่มความสามารถพิเศษ สามารถใส่ได้ฟรีโดยไปคุยกับ Sandal (คนแคระตัวเล็ก) ในบ้านเรา
18. Resistance คือค่าความต้านทาน Fire , Ice , Electrical , Nature (พวกพิษ) , Physical (เช่นการล้ม) และ Spirit (พวกพลังวิญญาณ) จะมีสีที่แตกต่างกัน
19. Main Quest คือเควสที่ต้องทำ แต่ Quest หมวดอื่นนั้นทำไม่ทำแล้วแต่เรา แต่ถ้าทำจะได้ของตอบแทน
20.เพิ่มช่องเก็บของได้โดยการซื้อ BackPack
ของใหม่
1.สมุนไพรจะเก็บสะสมในลักษณะถ้ามีครบ จะสามารถทำสูตรใหม่ๆได้เพิ่ม ไม่ได้ใช้แล้วหมดไปเหมือนแต่ก่อน ถ้ามีสูตรกับเก็บสมุนไพรถึง ก็สามารถทำยาได้ไม่อั้น (แต่การทำยาจะต้องใช้เงินแทน)
2.ชุดใส่ให้เพื่อนไม่ได้ สำหรับ Varric อาวุธก็เปลี่ยนไม่ได้ แต่เราสามารถอัพเกรดเกราะให้เพื่อนเราได้เป็นการชดเชย
3.Junk Item คือไอเท็มขยะ ขายทิ้งอย่างเดียว
4.ของที่ขายพ่อค้าไปแล้ว จะหายไปตลอดกาล -*-
5.ชุดเกราะต่างๆไม่มีค่า Fatigue (ความเหนื่อยล้า) อีกแล้ว ดังนั้นใส่เกราะหนักได้เต็มที่ อาวุธก็ไม่มีค่า Armor penetration (เจาะเกราะ)แล้วด้วย แต้มSkills พวกทำยา ทำกับดัก การเจรจาสื่อสาร บลาๆๆ ก็ถูกตัดออกทั้งหมด
6. ปุ่ม R ช่วยให้คุณโจมตีใส่ศัตรูที่อยู่ใกล้โดยอัตโนมัติ และช่วยให้คุณเก็บของที่อยู่ไกล้ได้ด้วย ใช้ให้เป็นประโยชน์สูงสุด
7.ของขวัญถ้าได้มา จะเป็นเควสให้ของขวัญเลย ไม่ต้องมานั่งจำอีกต่อไปว่าใครต้องให้ของแบบไหน
8.เวทใช้ไม่โดนพวกเดียวกันเอง ยกเว้นโหมด nightmare
9.เวลาขายของ จะมีสัญลักษณ์รูปดาวบอกเราว่าไอเท็มนี้ดีแค่ไหน ช่วยในการตัดสินใจ ดาวเยอะก็ยิ่งดี
10.ภาคนี้ไม่มี Spell Combo อีกแล้ว แต่มีการ Combo ข้ามสายอาชีพแทน ซึ่งเรียกว่า Cross Class Combo ที่ทำให้ dmg ของเราและเพื่อนแรงขึ้นได้เป็นทวีคูณ หน้า 1 มีเขียนเรื่องนี้ไว้อย่างละเอียดนะครับ
11.สามารถทำให้มี subtitle ได้โดยไปปรับที่ audio และสามารถให้โชว์เลข dmg ได้โดยปรับที่ interface
12.การเจรจามีสัญลักษณ์ Conversation ช่วยแปล อ่านความหมายได้จากหน้าแรก
13.คุณสามารถ restat กับ skill ได้ โดยการดื่มยา MakerSign ซึ่งมีขายที่ Black Emperium DLC
เพื่อนร่วมทีมและตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ
เช่นเดียวกับภาคแรก เกมส์นี้เล่นง่ายหรือยากไม่ได้อยู่ที่เลเวลหรือชุดเกราะ แต่อยู่ที่ทีมเวิร์คระหว่างเรากับเพื่อนร่วมทีมเป็นสำคัญ ดังนั้นคุณต้องเข้าใจบทบาทของอาชีพต่างๆอย่างถ่องแท้
1.Warrior นักรบเกราะหนัก แบ่งเป็นสองสายหลักๆ คือสายโล่ห์เน้นอึดไว้ Tank และสายดาบใหญ่ไว้เป็นตัว DD (Damage Dealer) และพอจะ Tank ได้บ้าง
2.Rouge สองสาย คือ ธนู กับ อาวุธคู่ เน้น DD ทั้งคู่แต่ต่างที่ระยะใกล้กับไกล rouge สามารถปลดล็อกกล่องสมบัติได้
3.Mage ทำได้ทุกอย่างทั้งโจมตี , ก่อกวน และรักษาอาการบาดเจ็บ
ทีมที่ดีควรจะมีอย่างน้อย 1 ตัวรับหน้าที่ Tank และมี Rouge อย่างน้อย 1 ตัวไว้ไขกล่องสมบัติ และในโหมด hard ขึ้นไปควรมีระยะไกลอย่างน้อย 2 ตัว ให้เล็งๆไว้ก่อนเลยว่าจะเอาใครเข้าทีมบ้าง ทีมประกอบด้วยอาชีพอะไรบ้าง และใช้พัฒนาสกิลไปในแนวไหน ดูได้จากส่วนสกิลที่หน้าแรกเช่นกัน
เมื่อวางแผนในใจคร่าวๆได้แล้ว มาลุยกันเลยครับ
Walkthroughs
(โดย pongkrit03)

ชี้แจงก่อนเริ่ม
เนื่องจากช่วงนี้ผมมีงานหนักด้วย(ทำวันเสาร์อีกต่างหาก) ดังนั้นผมจะทำเฉพาะ Main Quest กับ Companions Quest นะครับ แล้วก็เฉพาะ Side Quest สำคัญๆพอครับ ตัว Walkthrough ของผมอ้างอิงจากเกมส์ Dragon Age 2 เวอร์ชั่นแรก ที่ลงแพทเสริม DLC The Exiled Prince และ The Black Emporium แล้ว
ขอบอกก่อนว่าเกมส์นี้เวลาเล่นคุณจะได้เจอสถานการณ์ที่มีหลายทางเลือกอยู่ตลอดเวลา และการเลือกของคุณจะส่งผลต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะในภาค 2 ถือว่าส่งผลต่อเนื่องมากกว่าภาคแรกเสียด้วยซ้ำ หลายๆเควสถ้าเลือกผิดคุณจะอดเล่นเควสถัดๆไป หรือเปลี่ยนเควสกันไปเลยทีเดียว ดังนั้นผมขอแนะนำให้คุณเลือกตามที่ผมเล่นไปก่อนเพื่อจะได้ตามการเล่นของผมไปได้ หลังจากจบรอบแรกคราวนี้คุณค่อยเล่นเองตามใจชอบน่าจะดีกว่านะครับ
และอีกเช่นเคย คือใน Walkthrough ของผมจะไม่เปิดเผยเรื่องชนิดหมดเปลือก ผมอาจจะบอกทางเลือก แต่อาจจะไม่บอกผลลัพธ์ก็ได้ ผมจะพยายาม spoil ให้น้อยที่สุด เพื่อให้ไปลุ้นตื่นเต้นกันเองเอาตอนเล่นจริงนะครับ ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถถามคนในบอร์ดนี้ได้ครับ รบกวนถมขาวนิดนึงถ้าคิดว่าสปอยนะครับ
ขั้นเริ่มต้นหลังจากเลือกตัวละครและอาชีพแล้ว คุณจะได้เลือกระดับความยาก ผมขอแนะนำดังนี้
-ถ้าคุณไม่เคยจับเกมส์ Dragon Age ภาคแรกมาก่อน ให้เลือก Normal (แต่จะดีที่สุดถ้าคุณไปหาภาคหนึ่งมาเล่นก่อน เพราะจะทำให้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น และภาคหนึ่งก็ทำดีมากๆด้วยครับ)
-ถ้าคุณเคยเล่น Dragon Age Origins มาแล้วให้เลือก Hard
-ถ้าคุณเซียนจากภาคแรกชนิดที่เรียกว่าลุย Nightmare ของภาคแรกมาแล้ว ภาคนี้ผมก็แนะนำให้เล่น Nightmare ไปเลยครับ
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเปลี่ยนระดับความยากได้ระหว่างเกมส์ครับ ดังนั้นไม่ต้องพะวงอะไรมากนัก ผมแนะนำว่าคุณควรจะปริ้นส์ส่วนของ Walkthrough ออกมานะครับ เพื่อที่จะได้อ่านและเล่นไปด้วยได้พร้อมๆกัน
และก็สำหรับคนใช้หน้าจอ 1024x768 ถ้าพบว่าต้องเลื่อนแท๊บด้านล่างไปซ้ายขวาเพื่ออ่านหน้านี้ คุณสามารถแก้ได้โดยไปที่ view > zoom แล้วปรับ custom เหลือซัก 90% ก็จะโอเคครับ
เนื้อหา+ความเข้าใจจากภาคแรก

สำหรับคนไม่เคยเล่นมาก่อน หรือคนที่เคยเล่นแล้วต้องการทบทวนความจำ บางส่วนเป็นความเข้าใจผมเอง ถ้าผิดพลาดก็ขออภัย เอาแบบคร่าวๆพอนะ
Darkspawn : เกิดจากพวก Mage ที่ไปทำเวทต้องห้าม ถูกกลืนกิน(Corruption) หรืออย่างไรก็ตามแต่ พวกนี้โผล่มาจากเมืองใต้ดิน (อาณาจักร Deep Road) เพื่อทำลายทุกอย่าง กระทั่งพวกมนุษย์ทุกคนกำลังจะแพ้ กลุ่มที่เรียกตัวว่า Grey Warden (ผู้พิทักษ์สีเทา) ก็ปรากฏตัว พวกเขามาจากหลายเผ่าพันธุ์ ทุ่มทุกอย่างเพื่อหยุด Darkspawn ให้จงได้ และพวกเขาก็ชนะในที่สุด กระทั่งเวลาผ่านไป 4 ศตวรรษ กองทัพ Darkspawn กลับมาอีกครั้ง แต่ Grey Warden เหลือน้อยคน ผู้ที่กู้วิกฤติครั้งนั้นได้คือตัวเอกของเราในภาคแรก Grey Warden น้องใหม่ที่สามารถรวบรวมชนเผ่าทุกเผ่ามาปรองดอง ทวงบัลลังค์คืนให้แก่กษัตริย์ Alistair ผู้เป็นพวกพ้องของเขาเอง และสังหาร Archdemon ได้ในที่สุด ในภาคสองถูกขนานนามว่า Hero of Ferelden
Mage : คือคนที่ใช้เวทได้ เป็นเหมือนพรสวรรค์ที่ตกจากฟ้า บางคนเกิดมาก็มีเวทมนตร์เอง แต่เป็นเพียงส่วนน้อย คนพวกนี้จะถูกส่งตัวไปกักขังที่ Circle of Magi ตามกฏหมายเนื่องด้วยเหตุผลว่าคนที่เป็นเมจสามารถติดต่อสู่โลกอีกมิติที่เรียกว่า Fade ได้ซึ่งในโลกนั้นมีพวกปีศาจร้ายอยู่ และถ้าเมจถูกปีศาจสิงเข้าจะเกิดภัยมหันต์ เพราะเหตุนี้เมจจึงต้องมีการควบคุม นอกจากนี้เมจยังมีเวทเลือดต้องห้ามอยู่ ซึ่งเป็นเวทที่มีพลังทำลายล้างมหาศาลแต่ก็จะถูกปีศาจครอบงำได้ง่าย ผู้ใช้เวทเลือดจะถูกเรียกว่า Blood Mage และจะถูกฆ่าล้างโดยไม่ละเว้นทั้งจาก Templar และ Mage อื่นเอง
Templar : กองกำลังฝึกฝนตนเองเพื่อต่อสู้กับ Mage โดยเฉพาะ กลุ่มคนพวกนี้มีขึ้นเพื่อควบคุม Mage ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง พวกเขาเสพ lyrium (แร่ชนิดหนึ่ง) เพื่อให้ตัวเองมีพลังแฝงพอที่จะต้านทานเวทมนตร์ได้ กองทัพ Templar ปกติจะคอยดูแลหอ Circle of Magi และคอยตามจับเมจที่หนีหรือไม่ยอมเข้า Circle of Magi และเรียกพวกเมจหนีทหารนี้ว่า Apostle และใครที่ไม่เชื่อฟังก็สามารถลงโทษได้โดยการใช้ยา Tranquil ซึ่งทำให้เมจคนนั้นสูญเสียพลังเวทตลอดไป แถมยังสูญเสียอารมณ์ความรู้สึกอีกด้วย
Chantry : กองกำลังทางศาสนา เหล่า sister มีอยู่เพื่อปกป้องไม่ให้ศาสนาแปดเปื้อน ไม่ให้ใครดูถูก Maker (พระเจ้า)
Prologue

คนแคระคนหนึ่งถูกจับไปไต่ส่วน คนแคระคนนั้นมีนามว่า Varric และผู้ไต่สวนคือ sister มาดแมนชื่อ Cassanda เธอต้องการรู้ว่าแชมเปี้ยนอยู่ที่ไหน หลังจากนี้จะเป็นการเล่าเรื่องย้อนอดีตของ Varric ทั้งหมด คุณจะได้เล่นเป็น Hawke กับน้องอีกคนนึงเผชิญกับฝูง Darkspawn แต่ไม่ต้องตกใจในความง่าย เพราะนั่นเป็นการคุยโม้ของ Varric เท่านั้น เมื่อให้คุณได้ทดสอบกับการต่อสู้และสกิลใหม่ๆจนพอใจแล้ว ของจริงจะมาถึง
Begining เริ่มเกมส์

จุดเริ่มต้นของ Hawke จะอยู่ในเวลาที่กองทัพ Darkspawn กำลังโหมตีอาณาจักรชื่อ Ferelden ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับตัวเอกเราในภาคแรก เมือง Lothering ถูกตีแตก Hawke อพยพมาพร้อมแม่และน้องอีกสองคน เนื่องจาก Hawke กับน้องชายนั้นถือได้ว่าเป็นทหารที่เคยออกสงครามมาแล้วที่ป้อม Ostagar ส่วนน้องสาวเราก็เป็น Apostle จึงเป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่งพอควร
เดินลุยไปตามทาง ลองฝึกเซ็ตแท็คติกให้ตัวละคร เวลาบทสนทนาจะเห็นมี 3 ตัวเลือกประจำ ไม่ต้องคิดมาก นั่นเป็นแค่การแสดงบุคลิกภาพที่เราต้องการให้ Hawke แสดงออกมาเฉยๆ (ศึกษาได้จากสัญลักษณ์คำแปลในหน้าแรก) ถ้าเกี่ยวกับทางเลือกมักจะมีสัญลักษณ์อื่นมาปน
เราจะปรึกษากันว่าจะหนีไปเมือง Kirkwall ที่อยู่นอกอาณาจักร Ferelden เพราะเนื่องจากแม่เรามีพี่ชายพักอยู่ที่นั่น (ก็คือลุงเรานั่นแหละ) และครอบครัวเราก็ถือเป็นชนชั้นสูงที่มีอันจะกินของ Kirkwall ด้วย ... เราจะได้พบสองสามีภรรยา Aveline และ Wesley ที่หนีตายมาเหมือนกัน Wesley เป็น Templar แสดงท่าทีเกลียดชังต่อน้องสาวเราที่เป็น Apostle อย่างชัดเจน แต่เพื่ออยู่รอดต้องร่วมมือกันก่อน
กระทั่งเผชิญกับเจ้า Orge เมื่อเราเอาชนะได้ เราจะได้รับการช่วยเหลือจากแม่มดแห่งป่านามว่า Flemeth เธออาสาช่วยให้เราข้ามไปยังเมือง Kirkwall อย่างปลอดภัย โดยแลกกับการที่นำของสิ่งหนึ่งไปมอบให้กับ Keeper เอลฟ์เผ่า Dalish ที่อยู่ละแวกนั้นเป็นการตอบแทน เราไม่มีทางเลือกจึงตอบตกลง โชคร้ายสำหรับ Wesley ที่เขาถูกพิษจากเลือดของ Darkspawn เข้า ซึ่งเป็นพิษที่ร้ายแรงมาก ว่ากันว่ามีเพียงผู้พิทักษ์สีเทา (Grey Warden)เท่านั้นที่รู้วิธีแก้พิษ เมื่อไม่มีทางเลือกเราจึงต้องทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ หลังจากมาถึงท่าเรือแล้ว เราก็ล่องเรือข้ามทะเลไปยังเมือง KirkWall
Tips and Tricks
ในการต่อสู้กับ Orge นั้นให้เราพยายามหลบการโจมตีของมัน เล็งฆ่าลูกน้องก่อนจนเหลือมันตัวเดียว มันจะมีท่าโจมตีอยู่ 4 แบบ
1.โจมตีปกติ : ให้อ้อมไปด้านข้างจะหลบได้
2.กระแทกพื้น : มันจะชูมือสูง ให้เอาตัวละครออกจากระยะประชิดทันที
3.วิ่งชน : เห็นตั้งท่าวิ่งก็เคลื่อนหลบเลย
4.ขว้างหิน : เอาตัวระยะไกลที่โดนเล็งวิ่งหนี
ท่า 2 , 3 , 4 มันโดนพวกเดียวกันได้ด้วย สกิลหยุดทุกๆท่าจะช่วยได้มากครับ
ตัวอย่างคลิปสู้ orge นะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=9G6DXmjnnC8
http://www.youtube.com/watch?v=8fbdZCZUlRk
เป็น nightmare ทั้งสองคลิป รายละเอียดผู้เล่นดูที่หมวดคลิปข้างล่างๆได้ครับ
1 Orge ถ้าเจอให้เราวิ่ง ถอยหลังไปรวมกันที่จุดที่เจอกลุ่มธนู และ นักเวทย์ ตรงพื้นที่ด้านล่างจะดีกว่า ทำให้เราไม่ถูกรุม จากศัตรูที่มาจากทุกทิศ และศัตรูตอนแรกที่ปรากฏตัว มา จะมีแค่ 1 Orge และ 2 Darkspwan
Kirkwall อันยิ่งใหญ่ สมัยก่อนคืออาณาจักร Imperium ที่คุมขังพวกข้าทาสเป็นจำนวนมาก แต่หลังจากพวกทาสพากันปฏิวัติ ตอนนี้ถูกปกครองโดยเหล่า Templar ซะมาก และยังใช้คุกเก่าเป็นสถานที่กักขังเมจแทนด้วย เรียกว่าที่นี่คือ Circle of Magi เลยก็ว่าได้ ... คุณจะเห็นว่าพวก Templar ไม่ยอมให้ผู้อพยพจากทวีป Ferelden เข้าไปเพราะไม่อยากให้มีขอทานในเมืองไปมากกว่านี้ (อารมณ์คนไทยไม่อยากให้พวกพม่าจนๆเข้าประเทศนั่นแหละ) เว้นแต่คุณจะมีเงินมากพอก็เข้าไปได้ (ใต้โต๊ะไงครับท่าน)
หลังจากคุยกับหัวหน้า Templar และฆ่าพวกประท้วงงี่เง่าแล้ว เขาจะช่วยตาม Gamlen ซึ่งเป็นลุงเรามาให้ เมื่อเจอลุงเรา เราจะพบว่าลุงของเราตอนนี้สิ้นเนื้อประดาตัว ทรัพย์สมบัติหรือแม้แต่คฤหาสน์ของตาเราตอนนี้ก็ไม่มีแล้ว แต่เขารู้จักกลุ่มคนที่พอจะช่วยเราเข้าไปได้ กลุ่มแรกคือพวกพ่อค้าเร่ที่มีหัวหน้าชื่อ Meeran กับอีกกลุ่มคือแก๊งส่งของที่มีหัวหน้าชื่อ Athenril ซึ่งทั้งสองกลุ่มมีเงินพอที่จะช่วยเราเข้าเมือง แต่มีข้อแม้คือเราต้องทำงานกับคนเหล่านั้นเพื่อใช้หนี้นี้เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งเราก็ไม่มีทางเลือกอื่นเพราะไม่ว่าจะเป็นเมืองไหนตอนนี้ก็ไม่เปิดรับคนจาก Ferelden ทั้งนั้น
จะเลือกทำกับ Meeran หรือ Athenril ก็ได้ตามใจ พวกเขาจะให้บททดสอบคุณมา 1 อย่าง ของ Meeran ให้ไปฆ่าศัตรูของเขา Athenril ให้ไปทวงหนี้ เมื่อทำเสร็จพวก Hawke ก็ได้เข้าเมือง Kirkwall ด้วยวิธีนี้

________________________
++ ACT I : Deep Road Expendition ++
1 ปีผ่านไป มรสุมของเหล่า Darkspawn ได้จบลงแล้วด้วยน้ำมือของ Hero of Ferelden พระเอกภาคแรก ขณะที่ในเมือง Kirkwall นั้น Hawke กับน้องหมดสัญญาว่าจ้างกับนายจ้างของเราแล้ว ตอนนี้ทั้งคู่กลายเป็นพี่น้องถังแตกหิวเงินสุดๆ Bartrend คือคนแคระนักธุรกิจที่กำลังจะจัดกองคาราวานบุกเข้าไปค้นหาสมบัติในเมืองใต้ดิน (Deeproad) เพราะคิดว่าตอนนี้พวก Darkspawns คงไม่มีแล้ว ... Hawke กับน้องพยายามขอสมัครเป็นทหารคุ้มกัน แต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยเพราะ Bartrend ไม่คิดจะจ้างคนที่ไม่รู้ฝีมือมาก่อน (แหงล่ะ ถ้ามันรู้ถึงฝีมือพระเอกกับน้องเราว่าในอนาคตนี่ฆ่าได้ทั้งมังกร ทั้งแมงมุมยักษ์ สารพัดปีศาจ ฝ่าดงเมจ กระทืบ Templar บลาๆ มันคงรีบก้มกราบว่าจ้างไปแล้ว)
Varric แสดงฝีมือเล็กน้อย และมาแสดงตัวกับเรา (ไม่รู้มันโม้ป่าว โผล่มาแบบเท่ห์มาก) เขาเป็นน้องชายของ Bartrend และบอกว่าสนใจในตัวเราสองพี่น้อง เขายังรู้ด้วยว่าพวกเรามีฝีมือไม่ธรรมดา เขาไม่ได้คิดเสนอให้ Bartrend รับเราเป็นทหารคุ้มกัน แต่กลับพูดในสิ่งที่เวอร์ยิ่งกว่าคือจะให้เราไปในฐานะหุ้นส่วน (Partner) เพราะ Bartrend เองก็กำลังต้องการระดมทุนอยู่ ถ้าเรามีเงิน 50 เหรียญทอง Bartrend ต้องยอมตกลงแน่นอน และสมบัติที่ได้จากการไปสำรวจเมืองใต้ดินครั้งนี้จะถูกแบ่งมาให้พวกเราด้วยในอัตราส่วนที่เท่าเทียมกันซึ่งมันไม่ใช่แค่เงินค่าจ้างธรรมดาๆแล้ว แต่มันมากพอที่จะทำให้เรากลายเป็นเศรษฐีได้เลย โดย Varric จะช่วยในเรื่องช่องทางหาเงินให้ แค่ใช้ฝีมือของเราร่วมกับเขาเท่านั้น เราเองก็ตกลงที่จะเสี่ยงดู
สำรวจเมืองคร่าวๆดูก่อน Kirkwall แบ่งออกเป็นหลายๆส่วน เมื่อสำรวจจนพอใจแล้วให้เราไปที่บ้านเราที่ตั้งอยู่ที่ Lowtown ไปถึงแล้วจะพบกับความสุดแร้นแค้นของครอบครัวเรา สำรวจหีบเก็บของสำหรับคนที่ลง DLC จะได้อาวุธดีๆมาใช้
ผมจะเริ่มด้วย Quest หาเพื่อนเป็นอย่างแรกเพื่อรวบรวมสมาชิกนะครับ อยากได้ใครเป็นตัวจริงก็เลือกทำของคนๆนั้นก่อนได้เลยครับ แล้วก็ระหว่างทางใช้เงินกันประหยัดหน่อยนะครับ เพราะเป้าหมายหลักของเราคือสะสมให้ได้ 50 Gold เพื่อไปให้ Bartrend ครับ
1.A Friend in the Guard (Aveline)

: ไปที่ Viscount Keep ผ่านทาง Hightown ที่นั่นเป็นเหมือนศูนย์ราชการของเมือง (Viscount คือชื่อของจ้าวเมืองนี้) ฐานของเหล่าทหารยามก็อยู่ที่นี่ด้วย เราจะพบว่า 1 ปีที่ผ่านมา Aveline ได้สมัครเป็นทหารยามในเมืองซึ่งก็ดูจะเหมาะกับเธอดี เธอรับปากจะช่วยเรา และก็มีเรื่องที่ร้องขอเราเหมือนกัน
2.Tranquility (Anders)

: มาที่บาร์ hangman Varric จะบอกเราว่าก่อนลง Deep Road จำเป็นต้องมีแผนที่เสียก่อน โชคดีที่เขาได้ข่าวว่ามี Grey Warden คนนึงอยู่ในเมืองตอนนี้ซึ่งน่าจะช่วยเราได้บ้าง ให้เราไปถามข้อมูลจากหญิงสาวที่คอยช่วยผู้อพยพ เธอจะบอกว่า Grey Warden คนนี้เป็นคนดี คอยช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้กับคนยากจนโดยไม่คิดเงิน ที่เธอไม่อยากบอกตอนแรกเพราะกลัวว่าเราเป็นพวก Templar จะมาจับเขาไป
ที่ DarkTown เราจะได้พบ Anders ซึ่งเขามีแผนที่ลง Deep Road แต่เขาจะให้เราก็ต่อเมื่อเรายอมร่วมมือกับเขาในการช่วย Karl เพื่อนเมจเขาออกมาจากคุกที่พวก Templar เฝ้าอยู่ได้
ไปที่ Hightown ตอนกลางคืนจนถึงจุดนัดพบกับ Anders เมื่อลอบเข้าไปถึงปรากฏว่า Karl นั้นโดนTemplar ให้ยา Tranquil จนกลายเป็นไร้ซึ่งเวทไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกไปแล้ว ตอนนั้น Anders ก็ระเบิดพลังออกมา เก็บกวาดพวก Templar ให้หมด Karl เหมือนจะฟื้นกลับมามีอารมณ์ความรู้สึกอีกครั้ง เขาขอร้องให้เราฆ่าเขาทิ้งก่อนที่เขาจะกลับสู่สภาวะไร้อารมณ์และตกเป็นทาสของ Templar (ความจริงแล้วภาคแรก Tranquil ถึงจะไร้อารมณ์แต่ก็ยังควบคุมความคิดตัวเองได้นะ ภาคนี้ Tranquil กลายเป็นยาล้างสมองไปเลย) จะทำยังไงก็แล้วแต่เรา
ที่ Darktown นาย Anders จะบอกเราถึง Justise วิญญาณที่สิงอยู่ในร่างเขาอีกคน เดิมที Justice เป็นวิญญาณดีที่สิงอยู่ในร่างที่ไร้วิญญาณ แต่เพราะเวลาผ่านไปร่างนั้นเน่าสลายแล้ว เขาจึงยอมให้ Justice อาศัยร่างนี้อยู่ได้ แต่กลับมีผลที่ไม่คาคคิดคือ Justice ได้ถูกอารมณ์ของเขาครอบงำจนกลายเป็นวิญญาณที่น่ากลัวซึ่งบางทีเขาก็ควบคุมไม่ได้ (อยากรู้เรื่องราว Justise แนะนำเล่นภาค Awakening ครับ) Anders มอบแผนที่ให้เรา และตกลงช่วยเหลือเราตามสัญญา
3. Long Way Home (Merril)

: เดินทางไปยังหุบเขา Sundermount ที่อยู่ของเผ่าเอลฟ์ Dalish เราจะแจ้งต่อ Keeper Marethari ที่นั่นว่าเรานำสร้อยจาก Flemeth มามอบให้ แต่ Marethari บอกว่าหน้าที่เรายังไม่จบ เราต้องนำสร้อยนี้ไปทำพิธีบนหุบเขาด้วยแล้วนำกลับมาให้เธออีกทีถึงจะถือว่าเสร็จภารกิจ ซึ่งเอลฟ์สาวชื่อ Merril จะเป็นคนนำทางเราไป และหลังจากจบเรื่องเราต้องพา Merril ไปด้วย อาจจะแปลกไปหน่อยแต่นี่คือลิขิต
เจอ Merril เธอจะบอกที่เธอต้องการไปจากที่นี่เพราะเธอมีเรื่องขัดแย้งกับ Marethari บางอย่าง บุกไปตามทางจะพบว่า Merril ไม่ค่อยเป็นที่นิยมที่นี่เท่าไหร่นัก (แปลก ออกจะน่ารัก XD ) ที่สำคัญเมื่อไปเรื่อยๆจะพบว่าเธอไม่ใช่เมจธรรมดาแต่เป็น Blood Mage ซะด้วย
กระทั่งถึงแท่นบูชาเราจะพบกับเรื่องเซอร์ไพรซ์อย่างมาก นั่นคือสร้อยของเราได้ชุบชีวิต Flemeth ขึ้นมาใหม่ สร้อยนั้นมีเศษเสี้ยววิญญาณของเธออยู่ ทั้งหมดเป็นแผนการที่เธอวางไว้แต่แรก เพราะตามเนื้อเรื่อง พระเอกภาคแรกได้สังหารเธอไปแล้ว แต่ Bioware มาแก้พล็อตใหม่โดยให้เธอคืนชีพอีกครั้งในภาคสองด้วยฝีมือของ Hawke หุๆ
กลับไปคุยกับ Keeper ก็จะจบเควสครับ
4.Fool Rush In (Isabella)

: เควสนี้จะทำได้ต่อเมื่อเราจบเควสของ Anders แล้ว ให้เราไปที่บาร์ Hangman เราจะเจอกับเธอ อิสซาเบลล่านัดดวลกับคนๆนึงไว้ แต่เพราะกลัวอีกฝ่ายลอบกัดเลยอยากขอให้เราช่วยระวังหลังให้เธอหน่อย
ไปที่ High Town ตอนกลางคืน เราจะพบว่าอีกฝ่ายเล่นสกปรกจริงๆ เข้าช่วยและเก็บจดหมายจากศพ ติดตาม Isabella ไปจนเจอตัวการที่ซ่อนอยู่ที่ Chantry หมอนี่บอกเราว่า Isabella ทำเรือบรรทุกสินค้าของกลุ่มเสียหาย แถมยังทำคัมภีร์ล้ำค่าหายไปด้วย Casilion ผู้เป็นนายใหญ่จะต้องไม่ปล่อยเธอไว้แน่ จะยังไงช่าง จัดการหมอนี่พร้อมพรรคพวกมันซะ แล้ว Isabella จะมาเป็นพวกเราอีกหนึ่งคน
5.Bait and Switch (Ferris)

: เราได้เควสนี้จากจดหมายที่บ้าน ไปพบคนแคระที่ low town ตอนกลางคืน เขาจะวานให้เราไปเอาของอย่างหนึ่งที่ถูกขโมยไป แต่เมื่อเข้าไปในบ้านร้างที่ lowtown จะพบว่าไม่มีของ พอเราออกมาก็ถูกศัตรูล้อมไว้ จัดการหมดแล้วเดินกลับมา Ferris จะปรากฏตัว เขาขอโทษที่หลอกเราและบอกตนเองเป็นทาส และพวกที่ตามล่านั้นก็ตามมาเพื่อจะเอาเขาที่เป็นทรัพยสินของพวกมันกลับไป ดูเหมือนของในกล่องจะเป็นสิ่งที่ Ferris ตามหาอยู่ เขาขอความร่วมมือเราอีกครั้งโดยให้เราช่วยเขาจัดการ Danarius เจ้านายเมจเก่าของเขาเองที่คอยส่งคนมาตามล่าเขา
บุกไปที่บ้านของ Danarius ใน High Town หลังจากสู้กับพวกผีจนหมดจะพบว่า Danarius ได้หนีไปก่อนเสียแล้ว กลับมาข้างนอกจะพบว่า Ferris เองมีความเกลียดชังในตัวเมจอยู่ไม่น้อยเลย อาจเพราะเขาเคยถูกควบคุมโดยเมจมาก่อน รอยสักตามตัวเขาก็เป็นสิ่งที่เจ้านายเขาฝากให้ เพราะมันมีพลังของ Lyruim แฝงอยู่ภายในทำให้ Danarius คิดจะเอามันกลับมาแม้จะต้องเลาะจากศพ Ferris ก็ตาม ยังไงก็แล้วแต่ Ferris ตกลงช่วยเหลือเราเป็นการตอบแทน
6.Duty (Sebastian)

: สำหรับคนลง DLC The Exiled Prince นะครับถึงจะเล่นได้ ให้เราไปหน้าที่ Chantry จะได้พบฉากที่ Sebastian กำลังพูดถึงการล้างแค้นเหล่ามือสังหารที่ฆ่าล้างตระกูลของเขา ให้เราอ่านใบประกาศที่แปะอยู่หน้า Chantry ในการรับเควส แล้วไปกวาดล้างพวกกลุ่มมือสังหาร Flint ให้หมด มีอยู่ 3 ที่นะครับ เมื่อจบแล้วไปคุยกับ Sebastian ที่ Chantry เขาจะให้เงินตอบแทนเรา
เราจะได้ใช้ Sebastian ใน ACT 2 นะครับ
.........
เอาล่ะ ตอนนี้เราจะได้คนครบหมดแล้ว ต่อไปก็เก็บ Quest อื่นๆกันเพิ่มนะครับ อันสำคัญๆที่ห้ามพลาดมีดังนี้
BirthRight

ตั้งตอนคุยกันในบ้าน น้องเราอยากจะไปสืบความจริงเรื่องที่ว่าในพินัยกรรมของพ่อก่อนตายไม่ได้เขียนให้สมบัติกับแม่เราไว้เลยจริงหรืออย่างที่ Gamlen พูด ซึ่งมันอยู่ในคฤหาสน์ของตาเราที่ Gamlen ไปขายให้กับพวกคนไม่ดี (เหมือนจะพวกค้าทาสผมไม่แน่ใจ)
ไปที่ Darktown โดยใช้กุญแจที่แม่เรามีจะมีสามารถเข้าสู่คฤหาสน์เราจากใต้ดินได้ จัดการพวกค้าทาสกระทั่งเข้าถึงห้อง Vault ได้ เราจะเก็บ Grandfather Will (น่าจะเป็นพินัยกรรม) ของตาเราได้
กลับไปที่บ้าน ความจริงจะกระจ่างนั่นคือพินัยกรรมของตาเราก่อนตายได้ระบุชัดเจนว่าสมบัติทั้งหมดจะต้องตกเป็นของแม่เราและพวกเรา แต่ Gamlen กลับหุบไปใช้เอง แถมยังผลาญจนหมดอีกต่างหาก ซึ่ง Gamlen ก็อ้างว่าเพราะ Lendra มัวแต่หนีตามชายคนรักไปจะให้เขารอได้ยังไง ... อย่างไรก็ตาม Lendra แค่รู้ว่าพ่อแม่ไม่ได้โกรธเธอก่อนตายเธอก็พอใจแล้ว และเธอตั้งใจที่จะเรียกร้องสิทธิของคฤหาสน์กลับคืนมา แต่แน่นอนว่ามันต้องใช้เงินเยอะน่ะนะ
The Way It Should Be

จำที่ Aveline เคยขอร้องเราตอนเจอเธอที่ Keep ได้ไหม ได้เวลาช่วยเธอล่ะ ไปที่ฐานรักษาการณ์และคุยกับเธอเรื่องงาน เธอบอกเธอรู้เกี่ยวกับแหล่งที่อยู่พวกแก๊งที่ชอบปล้นสะดมกองคาราวาน เราน่าจะไปจัดการพวกมัน และก็น่าจะได้รางวัลกับความดีความชอบซึ่ง Aveline จะเปิดโอกาสให้เราได้ในสิ่งนี้
ไปที่ Sundermount ที่ชอบถูกดักปล้น เก็บกวาดจนหมดแล้วเมื่อกลับมาที่ป้อม เรากลับพบว่าแทนที่จะได้รางวัลกลับโดนหัวหน้า Brenan ด่าแทน Aveline เริ่มรู้สึกล่ะว่ามันต้องไม่ชอบมาพากลแน่ๆ เมื่อเราดูเวรยามแล้วพบว่านายหัวหน้าทำการสลับการส่งของไปให้ guard ที่ชื่อ Donnic เอาเอกสารข้อมูลสำคัญไปในคืนนี้แทน เราจึงตัดสินใจไปเฝ้าระวังการย้ายของในคืนนี้
ที่ Lowtown กลางคืน หลังจากเข้าไปช่วย Donnic แล้ว ให้กลับไปที่ป้อมเพื่อเปิดโปงเรื่องทุจริตทั้งหมด Aveline จะได้รับรางวัลตอบแทนเป็นหัวหน้ายามในอีก 1 เดือนข้างหน้า
The Bone Pit

: อ่านจดหมาย แล้วคุยกับ Hubert ชายที่ขายของใน Lowtown เขาจะบอกเราว่าเขามีเหมืองอยู่ชื่อ Bone pit แปลไทยได้ว่าเหมืองกระดูก = =? เราจะบอกว่าชื่อนี้ไม่เป็นมงคลเลยนะ (และยิ่งเราเล่นไปเรื่อยเราจะรู้ว่าเหมืองนี้มันสมชื่อสุดๆ) แต่ตอนนี้คนงานของเขาหนีออกมาหมด เขาส่งคนไปเช็คก็เงียบหาย ตอนนี้เขาต้องการรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นที่นั่นกันแน่
ที่เหมือง Bone Pit เข้าไปข้างในจะพบว่าที่นั่นถูกฝูงมังกรโจมตี จะมีมังกรทั้งตัวเล็กและตัวปานกลาง สำหรับตัวปานกลางให้เราพยายามใช้สกิลหยุดก็จะช่วยได้ กระทั่งถึงชั้นบนสุดเราจะได้สู้กับมังกรที่โตเต็มวัย จัดการมันซะ แล้วกลับไปหา Hubert ที่ Hightown เขาจะขอบคุณและยื่นข้อเสนอให้เราเป็นผู้คุ้มกันเหมืองเอาไหม แล้วเขาจะแบ่งรายได้จากเหมืองให้เรา เมื่อเราตอบตกลง และไปช่วยเขาพูดให้กับคนงานเหมืองที่หนีตายออกมาให้กลับไปทำงานใหม่ เควสก็จะจบครับ
Magister Order

เควสนี้จริงๆไม่ได้สำคัญ แต่เพราะมันมีส่วนผสมของเควสสมุนไพรที่เราต้องใช้ ดังนั้นเราจึงต้องทำครับ เราจะทำเควสนี้ได้ต่อเมื่อเราจบเควส Birth Right แล้ว
ไปคุยกับขุนนาง Vanard ใน Hightown จะได้ความว่าเขาต้องการให้เราไปจับนักโทษที่หนีออกมาคนหนึ่งซึ่งที่ที่หมอนั่นซ่อนตัวอยู่ก็มีพวกปีศาจอยู่ซะด้วยทำให้ส่งทหารเข้าไปจับกุมตัวออกมาไม่ได้ แต่เหมือนเรื่องนี้จะมีลับลมคมใน เพราะนาย Vanard ไม่อยากส่งทหารไปเพิ่มเลยจะจ้างเราแทน ครั้นเราเสนอให้ปล่อยนักโทษคนนั้นให้โดนปีศาจกินไปเลยดิจะได้จบนาย Vanard ก็ไม่ยอมอีก
ไปที่ Abandon Ruin (ซากปรักหักพังที่ถูกทิ้งร้าง) ที่นั่นเราจะพบกับทหารยามที่ไม่ยอมเข้าไปลากตัวนักโทษออกมา ที่สำคัญกว่านั้นคือมีเอลฟ์คนหนึ่งมาบอกเราคนร้ายที่อยู่ในนั้นจับลูกสาวของเขาไป ก่อนหน้านี้คนร้ายคนนี้ก็จับเด็กๆเอลฟ์ไปฆ่าเป็นโหลแล้วแต่ก็ยังถูกปล่อยลอยนวล เขาขอร้องให้เราฆ่าคนร้ายแทนที่จะจับส่งทางการ
ในถ้ำคุณจะได้เจอพวกแมงมุม หนึ่งในศพพวกนั้นนั้นจะมี Spider Gland ที่เป็นของผสมสมุนไพรต้องเก็บมาด้วยนะครับ
ฝ่าดงศัตรูมากระทั่งเจอเด็กน้อย Elf เธอจะเล่าว่าผู้ชายที่จับเธอมานั้นเหมือนจะทำร้ายเธอ แต่จู่ๆก็ไปร้องไห้แล้วบอกประมาณตัวเขาถูกปีศาจสิงอยู่ทำให้ทำเรื่องไม่ดี เมื่อเราไปนายฆาตกร เราจะพบว่านายนี่ไม่ได้ถูกปีศาจเข้าสิงหรอก มันโรคจิตเองมากกว่า ที่สำคัญขุนนางคนนั้นเป็นพ่อของหมอนี่เอง พ่อเลยอยากปกป้องลูกไว้ จะจัดการยังไงก็ตามสบายนะครับ
Herbalist Task

งานหาสมุนไพร ที่ให้ทำเพราะส่งผลใน ACT 2 ให้คุณไปคุยกับผู้หญิงที่อยู่หน้า Chantry คุณจะได้รับเควส Enemies Among Us เพื่อที่จะได้ไปที่ Gallows ได้ ให้คุณไปที่ Gallows ทางด้านซ้ายมีพ่อค้าขายยาชื่อ Sotivus คุยกับเขา เขาจะให้เราหาสมุนไพร 3 อย่าง คุณได้ Dragon Fang มาแล้วจาก The Bone pit และ Spider Silk จะเควส Magister Order อย่างสุดท้าย Ironbark ให้เอาจาก Dalish แคมป์โดยไปถามจากคนขาย และไปเอามันมาจากพื้นที่ที่ถูก Darkspawn ครอบครอง แล้วกลับมาคุยกับนายคนนี้อีกทีก็จะจบเควสครับ
..........
เอาล่ะ ต่อจากนี้ผมจะเข้าเควสหลักของ ACT 1 แล้วนะครับซึ่งเป็นเนื้อเรื่องบังคับที่เราต้องเผชิญ ก่อนที่เราจะเดินทางไป Deep Road ใครอยากทำ Side Quest อื่นๆระหว่างทางให้ทำได้เต็มที่ตามสบายครับ
MAIN QUEST เควสแล้วว วววววว !!
Black powder

คุณจะได้เควสนี้ระหว่างทางไป Sundermount หรือ Wound Coast ... คนแคระ ชื่อ Javaris ถูกรุมอยู่ เมื่อคุณเข้าช่วยและหลังจากเขาเห็นฝีมือคุณ เขาคุยเรื่อง Arishok ผู้นำกลุ่ม Qun และเรื่องดินปืนของพวก Qunari (เผ่าพันธุ์แห่งนักรบ) ซึ่งเขาพยายามจะขอซื้อจาก Arishok ที่นำเรือมาเทียบท่าอยู่ตอนนี้ แต่ Arishok ไม่ยอมขายให้และยังท้าว่าหากเขาสามารถจัดการกลุ่ม Tal Vashoth ซึ่งเป็นพวก Qunari ที่ทรยศได้ก็จะยอมขายให้
Javaris ได้ขอร้องให้เราไปฆ่า Tal Vashoth แทนเขา ให้เราไปที่ Wound Coast ไปที่ถ้ำกบดานของพวกมัน ลุยไปเรื่อยๆ ระวังตัว Qun Mage ด้วย (มันชื่อ Marass อะไรซักอย่าง) เมื่อชนะแล้วให้ไปที่ท่าเรือ เข้าไปในส่วนพื้นที่ของ Qunari และนี่จะเป็นครั้งแรกที่คุณได้พบกับ Arishok .. ผู้นำทัพของเหล่า Qunari ที่น่าเกรงขาม
แต่ปรากฏการสนทนาไม่เป็นดั่งคาด Arishok บอกว่า Javaris ทึกทักเอาเองเรื่องข้อตกลง ที่สำคัญ Javaris ก็ไม่ได้เป็นคนจัดการ Tal Vashoth ด้วยตนเอง และเราก็จบเควสโดยได้เงินตอบแทน
Sheperding Wolves

ไปที่ Lowtown ตอนกลางคืน เราจะพบ Sister Petrice (อ่าส์ ในที่สุดก็ได้เจอคนที่ผมอยากฆ่าที่สุดใน DA 2 เสียที จะเพราะอะไรก็เล่นไปเรื่อยๆละกันครับ) เธอกำลังหาคนไปทำงานด้วยอยู่ แต่ดันคุยผิดคนคือไปคุยกับพวกโจรแทน เมื่อช่วยแล้ว เธอเสนอให้เราไปคุยงานที่ Safe House
ที่ Safe House เธอจะบอกที่หน้าที่ของเรา นั่นคือเธออยากให้เราช่วยคุ้มกันเมจ Qun คนหนึ่งที่ถูก Templar จับกรอกยาจนหมดสภาพ ... เพราะเมจคนนี้ทรยศต่อพวกพ้อง (ถ้าผมแปลไม่ผิด คือ แปรพักตร์เป็น 1 ในกลุ่ม Tal Vashoth) และ Viscount จ้าวเมืองจับกุมไว้ได้และตัดสินใจส่งตัวกลับไปให้ Arishok ซึ่งถ้าทำแบบนั้นเมจ Qun คนนี้จะต้องตาย ด้วยความสงสารเธอจึงอยากให้เราช่วยส่งเมจคนนี้ไปนอกเมืองให้ได้รับอิสรภาพโดยที่นี่มีทางลับใต้ดินออกนอกเมืองได้
ที่ใต้ดินสู้โดยระวังกับดักตลอดทาง
ใกล้ทางออกจะมีกล่องสมบัติ เกราะขาชุดเซ็ต ACT 1 อยู่นะครับ หยิบด้วย
ที่ทางออกเราจะพบกับเรื่องเซอร์ไพรส์ นั่นคือเจอกับกลุ่มนักรบ Qunari ซึ่งพวกนี้ตามล่ากลุ่ม Tal Vashoth ที่มาเข่นฆ่าคนของเขาอยู่ และเขาตามร่องรอยการหลบหนีมาถึงจุดนี้ซึ่งทางพวกเราเองก็มีพวก Tal Vashoth อยู่ในกลุ่ม ดังนั้นเราจึงเถียงไม่ขึ้น เขาต้องการให้เราส่งคน ซึ่งยังไงการต่อสู้ก็ต้องเกิด ที่ไม่น่าเชื่อก็คือนาย Qun เมจคนนี้ยอมที่จะตาย ถึงเราจะช่วยฆ่าพวกนั้นจนหมด นาย Qun เมจก็ยังยืนกรานรับความตายของตัวเองอยู่ดี
ให้กลับไปคุยกับ sister Petrice เราจะพบกับความจริงนั่นคือทุกอย่างมันถูกวางแผนไว้แต่แรก (Set up) เธอต้องการให้เราพา Qun เมจหนีออกไปและถูกพบเจอ โดยร่องรอยที่เธอทิ้งไว้ล่อให้กลุ่ม Qun มาเจอเราที่หน้าถ้ำ เป้าหมายของเธอก็คือต้องการให้พวก Qunari มาเข่นฆ่าคนในเมือง Kirkwall เพื่อให้ทาง Chantry ได้เห็นว่าพวก Qun เนี่ยมันไม่ต่างอะไรกับสัตว์ร้ายหรอก หรือง่ายๆคือเธอจ้างเราไปตายชัดๆ ทั้งยังจะโบ้ยเรื่องนี้ไปยังพวก Qun แต่ผิดคาดไปหน่อยที่เราเป็นฝ่ายเก็บพวก Qun เรียบแทน (ไม่แน่ว่าคนที่สังหารกลุ่ม Qun อาจเป็นฝีมือของ Petrice เองด้วยซ้ำ ไม่ใช่ Tal Vashoth หรอก)
จะอย่างไรก็ตาม เธอให้เงินเราและหลีกเลี่ยงการปะทะ ซึ่งจากโหวงเฮ้งเราจะได้เจอเธออีกในอนาคตแน่นอน
Enemies Among Us

ที่ได้คุยกับหญิงสาว หน้า Chantry เธอขอร้องให้เราช่วยสืบหน่อยว่าพี่ชายเธอที่เพิ่งสมัครเป็นพวก Templar ทำไมขาดการติดต่อไปนานมาก ไปที่ Gallows (ลานประหาร) คุยกับกลุ่ม Templar จะพบว่าไม่ใช่แค่พี่ชายเธอคนเดียว แต่กลุ่ม Templar หน้าใหม่หลายคนได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ยกเว้นนาย Willmod คนเดียวที่กลับมา แต่ก็เหมือนเพิ่งออกไปจากเมือง
ตามไปที่นอกเมือง จะพบหัวหน้าของกลุ่ม Templar ชื่อ Cullen กำลังไต่สวนนาย Wilmod อยู่ แต่กลับปรากฏว่านาย Wilmod กลายเป็นปีศาจไปเสียได้ ฆ่าให้หมด นาย Cullen จะสงสัยว่าทำไม Wilmod ถึงถูกปีศาจสิงร่างได้เพราะปกติผู้ที่จะถูกปีศาจสิงร่างได้มีแต่ Mage เท่านั้น เว้นแต่ว่ามีการใช้ blood magic ทำให้พวกปีศาจมาสิงร่างคนอื่นที่ไม่ใช่เมจได้ ... Cullen คิดว่าน่าจะสืบหาข้อมูลได้จากหอนางโลม Blooming Rose แต่เผอิญเขาไม่ถนัดในการเค้นข้อมูลจากสาวๆ เราจึงอาสาทำให้
ที่ Bloom Rose สืบจนถึงตัวสาวนางโลมชุดม่วง เธอจะใช้อาคมมืดใส่เราแต่เราต้านไว้ได้ เธอจะบอกเราว่าเธอแค่ทำหน้าที่ล่อให้พวก Templar ไปยังที่ลับใต้เมืองที่หนึ่งเท่านั้น เราจะฆ่าเธอหรือให้ Templar จับตัวไปก็แล้วแต่ (ถ้าเราฆ่าเธอไปก่อนถาม เราก็จะรู้ตำแหน่งจากสมุดบันทึกในห้องเธออยู่ดี)
ไปที่ฐานลับในเมือง Darktown ลุยพวกปีศาจไปเรื่อย สุดทางจะเจอกลุ่มเมจชั่วที่จับ Templar มาให้ปีศาจสิงร่าง ฆ่าซะ แล้วไปช่วย Keran ออกมาจากที่กักขัง แต่เขาอาจจะถูกสิงปีศาจไปแล้วหรือเปล่า ?
กลับไปรายงาน Cullen เขาจะแสดงแนวคิด Templar ที่รังเกียจเมจอย่างชัดเจน ถึงแม้เราจะบอกว่าเวทมนตร์ไม่ได้ทำให้คนเป็นคนเลว แต่ Cullen ก็เถียงว่ายังไงซะเมจก็อันตรายอยู่วันยังค่ำ ขอแค่มีเมจเพียงคนเดียวที่ตกเป็นทาสของปีศาจด้วยความโลภ เมจนั่นก็สามารถทำให้เมืองลุกเป็นไฟได้แล้ว เราเลือกได้ว่าจะให้ปลดระวาง Keran หรือให้เขาดำรงตำแหน่งต่อ ยังไง Cullen จะให้เงินเราตอบแทนความดีความชอบนี้
..............
ศพของคนร้าย มีหมวกเกราะเซ็ต ACT 1 อยู่
Wayward Son

มาที่ Alienage คุยกับ Arianni หญิงเอลฟ์ เธอจะบอกว่าลูกชายเธอชื่อ Feynriel นั้นมีเวทมนตร์ แต่เธอไม่อยากส่งลูกไปที่ Circle ก็แอบเลี้ยงที่นี่อย่างลับๆเรื่อยมา (ก็คือ Apostle นี่เอง) ทีนี้ปัญหาเริ่มเกิดเมื่อ Feynriel พักนี้เริ่มฝันถึงพวกปีศาจ ทางแม่ก็กลัวว่าลูกจะปีศาจถูกสิงเลยตัดสินใจจะส่งลูกตนเองไปให้ Circle ช่วยดูแล แต่ลูกชายเธอกลับหนีไปเสียก่อน
คุณจะสอบถามจาก Vinceto ผู้เป็นพ่อเด็ก หรือ Thrask เทมพลาร์ที่กำลังตามหาเด็กคนนี้อยู่ก็ได้ ทั้งคู่จะบอกให้คุณไปหา Samson ซึ่งเป็นเทมพลาร์เก่าที่คอยช่วยเหลือพวกเมจอย่างลับๆ
ที่ Lowtown ตอนกลางคืน คุยกับ Samson เขาจะบอกว่าเขาส่งเด็กคนนี้ไปให้กับนาย Reiner ที่เป็นกัปตันเรือ แต่ดูเหมือนนายกัปตันแทนที่จะช่วยเด็กหนี แต่กลับจับเด็กไปขังไว้อีก คาดว่าจะเอามาขายให้ Templar อีกที เมจสาวของเขาก็โดนจับไปด้วย
ไปที่โกดังที่ท่าเรือ เราจะเจอแต่สาวเมจ และเธอก็ถูกบีบจนตรอกจนต้องยอมใช้ blood magic กลายเป็น demon ไป ฆ่าให้หมด เก็บจดหมาย เราจะรู้จุดนัดพบที่นาย Reiner จะไปขายให้พวกพ่อค้าทาส
ที่ Darktown เจอพวกพ่อค้าทาส เก็บกวาดซะ แล้วไปหานายกัปตันต่อที่ Wound Coast ในถ้ำ บุกจนถึงสุดทาง นาย Reiner จะใช้เด็กเป็นตัวประกัน ถ้าเราเอา Varric ไปด้วย มันจะช่วยเราโม้ว่าจริงๆแล้วเด็กคนนี้เป็นลูกของเจ้าเมือง Viscount เลยนะเฟ้ย เอ็งอยากตายป่าว (ฮา) เมื่อเราช่วยเด็กได้แล้ว เราจะได้เลือกว่าจะส่งเด็กไปที่ Circle หรือไปที่พวกเอลฟ์ Dalish เลือกตามใจเราละกัน แล้วกลับไปบอกแม่ของเด็กเป็นอันจบเควส
ขอเพิ่มเติมนิดนึงครับ เควส Wayward Son ถ้าเราเลือกให้เจ้าหนุ่ม Feynriel ไปอยู่กับเอลฟ์ Dalish
ให้เราไปหาเขาได้ครับที่เผ่า Dalish ใน Sunder mount คุยกับเขาแล้วเขาจะขอบคุณเราที่ไม่ส่งเราไป Circle
และให้สินน้ำใจเราเล็กน้อย คือเงิน 1 ทอง ครับ (เอาน่า ช่วงแรกของเกมเงิน 1 ทองนี่มีค่ามากเลยนะ^_^)
ACT OF MERCY

ไปเอาจดหมายที่บ้าน มีคนขอความช่วยเหลือเราอย่างเร่งด่วน ไปที่จุดในแผนที่จะพบกับ Thrask ยืนอยู่หน้าถ้ำ เขาอยากให้เราช่วยเกลี้ยกล่อมกลุ่ม Apostle ที่อยู่ข้างในให้ยอมมอบตัวก่อนที่กลุ่ม templar พวกเขาคนอื่นๆจะมาถึง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นพวก Apostle จะถูกฆ่าทั้งหมด
เข้าไปข้างในจะพบว่านาย Demicus ที่เป็นผู้นำกลุ่ม Apostle มีการนำ blood magic มาใช้ ซึ่งทำให้บางคนในกลุ่มไม่พอใจและพยายามหนีออกมา บุกจนจัดการนาย Demicus สำเร็จ จะมี apostle ที่เหลืออยู่ ถามว่าเราจะเอาไง ก็มีทางเลือกหลายทาง เลือกทางที่ชอบละกันนะครับ มันจะมีผลต่อ ACT 2 บางเควสด้วย
>>> Deep Road Expedition <<< (Keys Quest)

ในที่สุดก็ถึงเวลาลง Deeproad กันแล้วนะครับ เควสนี้เมื่อทำแล้วจะจบ ACT 1 โดยทันที ผมแนะนำว่าก่อนทำเควสนี้ให้ตระเวนทำ side quest อื่นๆให้เกลี้ยงก่อน รวมถึงไปสำรวจตามแผนที่ต่างๆรวมถึงบ้านเพื่อนของเราอีกครั้งว่ายังมีเควสอื่นๆหลงเหลืออีกไหม ถ้ามีเงินเกินผมแนะนำให้ซื้อพวก Potion ตุนไว้ เพราะศึกนี้มันหนักไม่ใช่น้อย ถ้าพร้อมแล้วก็ไปคุยกับ Bartrend เลย
(สำหรับคนที่มีเงินไม่พอ 50 gold ก็ต้องรอเก็บเงินจาก side quest อื่นๆไปก่อนนะครับ ถ้าทำจนหมดแล้วแต่เงินยังไม่พออีก ที่บ้านเราจะมีจดหมายชื่อ Friend in Low Place ซึ่งจะเป็นเควสนัดพบกับนายหน้าให้กู้คนหนึ่ง ซึ่งเขาจะให้เรากู้ 50 gold จากเขาได้ เงินนี้จะส่งตรงถึง Bartrend แต่มีข้อแลกเปลี่ยนคืออนาคตเราต้องจ่ายเขาคืน 2 เท่าเป็น 100 gold ซึ่งผมว่าอย่ากู้ดีกว่านะ -*- )
มอบเงินกับแผนที่ให้ Bartrend เขาจะตกลงให้เราเป็นหุ้นส่วนด้วย สมบัติที่ได้จาก Deeproad ทั้งหมดจะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วนเท่าๆกัน คือให้เขา , Varric และเรา การผจญภัยสุดอันตรายได้เริ่มขึ้นแล้ว
จะมี Cutscene กลับไปยัง Cassanda กับ Varric ให้เห็น Cassanda บอกว่าไม่อยากเชื่อเรื่องที่ Varric พูด เพราะเธอคิดว่าที่ Hawke กับผองเพื่อนมา Kirkwall ก็เพื่อทำลายล้าง Chantry แต่ว่านี่กลับตาลปัตรไปหมด Hawke ไม่มีอะไรเลย เขาไม่รู้เลยจริงๆหรือว่า Deeproad มีอะไรอยู่ ? Varric จึงบอกว่า Hawke ไม่รู้หรอก เพราะถ้ารู้ เขาคงไม่ .........
ที่ Deeproad ดูเหมือนจะมีหินถล่มลงมาปิดกั้นทาง คนไปดูลาดเลาบอกว่ามีทางด้านข้างแต่ว่ามันอันตรายมาก พวกเราจึงตัดสินใจไปสำรวจทางให้ ก่อนไปคนแคระ Bodahn ได้มาบอกว่า Sandal คนแคระทำ Enchantment ได้หลงทางซะแล้วฝากให้เราหาหน่อย

(คำพูดที่น่าสนใจคือนาย Bodahn ไม่กลัวอันตรายต่อ Sandal เลย เขาบอกว่า Sandal เคยเผาบ้านมาแล้วถึง 2 ครั้งด้วยอุบัติเหตุ แต่ที่เขากลัวคือกลัว Sandal หลงทางมากกว่า ตกลงไอ้เจ้า Sandal มันคือตัวอะไรกันแน่นะเนี่ย)
ไปตามทางจนเจอ Sandal เราจะพบว่าเจ้า Sandal มันไม่ธรรมดาจริงๆ โฮะๆ
Tips and Tricks
ก่อนเจอ Sandal จะมีห้องเล็กๆอยู่ทางขวา คุณจะถูกโจมตีจากฝูงแมงมุม และมีเจ้าแมงมุมยักษ์บอสมาปรากฏตัวด้วย การโจมตีมันค่อนข้างหนักและยังผลักกระเด็น วิธีการต่อสู้ก็คือถ้ามันเล็งอัดใคร ให้ขยับคนนั้นหลบจะหลบได้ เราจัดการมันลงอย่างไม่ยากครับ
ลุยสุดทางจะเจอบอสมังกรแดงที่โหดเอาเรื่อง ฆ่าซะ แล้วเราจะมาถึงในส่วนลึกของ Deeproad ที่ไม่มีใครเคยมาถึงมาก่อน เป็นอารยธรรมเก่าแก่ยิ่งกว่าเผ่าคนแคระปัจจุบันมากนัก
Tips and Tricks
การต่อสู้กับบอสมังกรแดง แนะนำให้สอยลูกๆก่อน พอจังหวะบวก ให้เอาตัว tank เข้าล่อเดินวนเพราะมันฉกแรงทีเดียว ธาตุน้ำแข็งจะทำให้เราจัดการมันได้ง่ายขึ้น
อันนี้คลิปรวมสู้ทั้งมังกรแดงและแมงมุมยักษ์แบบ nightmare ครับ โดยคุณ ofenrilo
http://www.youtube.com/watch?v=YdtH-2PQQFc
คุณจะได้ชุดเกราะตัวเซ็ต ACT 1 จากศพของมัน
คุณได้โอกาสซื้อของและผมแนะนำให้ซื้อ Potion เตรียมให้พร้อมเลย แล้วสำรวจต่อ
Tips and Tricks
การต่อสู้ต่อไปคุณจะได้เจอโกเล็ม พวกนี้ต่อยหนักให้บังคับตัวละครหลบทุกครั้ง และมันมีท่าระเบิดรอบตัวได้ ให้บังคับตัวละครไปไกลๆตัวมัน (กด H ช่วยเราบังคับไม่ให้ตัวละครวิ่งกลับเข้าไปใหม่ได้ง่ายขึ้น)
ในห้องโถงใหญ่คุณจะได้เจอไอเท็ม Lyrium Idol หรือก็คือแร่ Lyrium บริสุทธิ์สีแดงที่ถูกทำเป็นตุ๊กตา (ผมเพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้เป็นครั้งแรก เพราะใน DA 1 ไม่เคยกล่าวถึง มันน่าจะมีค่ามหาศาลในตลาดมืด)

และหลังจากนั้นมีเรื่องเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นนิดหน่อย บู๊ต่อไปจนถึงล่างสุดจะเจอปีศาจหินยักษ์ตัวนึงมาขอเจรจาหย่าศึกกับเรา จะฆ่าหรือจะพักรบก็แล้วแต่ (ถ้ายาจะหมดก็พักรบก่อนก็ได้ เพราะคุณจะเจอศึกหนักสุดๆข้างหน้านี้แล้ว)
Boss Ancient Rock Wraith

บอสสุดโรคจิตของ Dragon Age 2 ขนาดผมมาเล่นในรอบที่สองก็ว่าตัวนี้มันยากเกินไปอยู่ดี นึกด่าคนทำเกมส์ทุกทีเวลาเจอมัน สำหรับคนที่ลองสู้แล้วรู้สึกไม่ไหว จะลดระดับความยากที่จุดนี้ก็ได้นะครับ คนที่ไม่มี Tank จะลำบากที่สุดเพราะท่าระยะใกล้มันแรงมาก แถมตัวนี้ยังอึดมากๆชนิดทีคนเล่น DA 1 มาก่อนจะต้องตะลึง
ช่วงแรกมันจะขว้างสายฟ้ากับแทงหินให้เราเอา tank ชนตัวอื่นรุมยิง พอพลังมันลดซักพัก มันจะไปอยู่กลางห้องแล้วระเบิดแสงแดงให้รีบเอาตัวละครคุณหลบหลังเสาหินจะไม่เป็นอันตราย ต่อมามันจะเรียกตัวลูกน้อง ให้เก็บลูกน้องแล้วรีบโจมตีมันในขณะที่มีโอกาส จากนั้นมันจะเริ่มกลายร่างเป็นหินกลิ้งเข้าชน ให้เราพยายามหลบ ยกเว้น tank จะชนตรงๆเลยก็ได้ถ้าเราแกร่งพอจะไม่ล้ม พยายามให้ตัวอื่นอยู่ไกลๆเพราะมันมีท่าหมู่รอบตัวด้วย เมื่อจัดการจนพลังมันลดเกินครึ่งมันจะมีท่าดูดหาเข้าตัว ให้เอาตัวอื่นไปใกลๆ tank ยืนฟันแลก คอยดื่มยาอย่างต่อเนื่องก็จะชนะได้ครับ
ข้างล่างคือคลิปจากชาวไทยเองในโหมด nightmare ว่าจะสู้เจ้านี่ยังไงนะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=NIEXANshmRI
http://www.youtube.com/watch?v=S5c_OtE1IUo
http://www.youtube.com/watch?v=OL8YzYgrfwI
เมื่อจัดการมันได้แล้ว คุณพบกลับขุดทรัพย์มหาศาลอยู่ด้านหลังซึ่งมูลค่ามากกว่า Lyruim Idol หลายร้อยเท่า เราจะกลับ Kirkwall โดยใช้ทางอ้อม แต่นั่นจะกินเวลาเป็นอาทิตย์กว่าจะออกไปได้ Varric บอกว่าด้วยสมบัตินี้เขาจะหาทางขายมันให้ได้ราคาดีที่สุด รับรองว่าพวกเราจะกลายเป็นมหาเศรษฐี
(เกร็ดความรู้ : โรคติดเชื้อ Darkspawn สามารถเกิดขึ้นได้หาได้รับเลือด darkspawn เข้าสู่กระแสเลือด คนที่ติดจะตายอย่างช้าๆ มีเพียง GreyWarden เท่านั้นที่รู้วิธีแก้)
===================จบ ACT 1============================