เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา
-
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 7 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
มาแล้วๆ เนื้อหายังเเน่นเช่นเคย ^^
---------------------------------------------------------------
-
-
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
5day-ago
มาแล้วๆ เนื้อหายังเเน่นเช่นเคย ^^
เพราะมันเป็นเรื่องเดิมนะสิ
-
-
ดีไปหน่อยยังพอมีคนช่วยฟื้นฟู บอร์ด ถึงบอร์ดเก่าผมจะไม่ค่อยโพสแต่ ก็อ่านหลายๆเรื่องอยู่นะ
ปล แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้อ่าน แต่พอจำรูปได้
ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน เมื่อแหงนหน้ามองท้องฟ้า ก็รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้กัน เพราะท้องฟ้าที่เรากำลังเงยหน้ามองเป็นท้องฟ้าเดียวกัน
-
-
เย้ๆและแล้วก็กลับมา...ตัวผมโผล่ได้นิดเดียวบอร์ดล่มกันเลยทีเดียว...!!!
-
-
เงียบหายไปเลยน่ะท่าน....!!!
-
-
-
-
คิดถึงจะตายแล้วเรื่องนี้....
-
-
-
-
6th August 2011 15:48
#10
-
-
6th August 2011 16:44
#11
ทำ Side story ให้น้องStormwind ก่อน เพื่อเรียกจินตนาการก่อนจะจบ ครึ่งแรกปี1
-
-
24th August 2011 21:46
#12
-
-
5th September 2011 00:10
#13
โอมเพี้ยง...!!!ตอนใหม่จงมาๆ อิอิ
-
-
9th September 2011 21:16
#14
บทที่1: การพบกันด้วยโชคชะตา
บทที่1: การพบกันด้วยโชคชะตา
ทั้งหมด จัดแถว เสียงของจ่าวัยกลางคนตะโกนลั่น เด็กวัยรุ่นจำนวนมากที่กำลังก้าวย่างลงจากเครื่องบินขนส่ง ซี-17 ตอบสนองต่อคำสั่งนี่อย่างรวดเร็วประดุจดังจ่ากองร้อยผู้นี้เป็นแม่ของเขาอย่างไรอย่างนั้น เด็กหนุ่มสาวจัดแถวตอนลึกอย่างขมักเขม่น แม้คนเหล่านี้จะไม่เคยผ่านการฝึกใดๆมาเลยก็ตาม แต่ก็สามารถจัดแถวและยืนตรงได้อย่างเป็นระเบียบ เพราะที่พื้นของลานบินได้มีการเขียนรูปรองเท้าไว้ให้เด็กหนุ่มสาวเหล่านี้เข้าแถวไว้แล้ว ถึงแม้ว่าการเข้าแถวจะดูวุ่นวายไปบ้าง แต่ในที่สุด แถวทั้งหมดก็ออกมาเป็นระเบียบเรียบร้อยดี หลังจากที่ฝุ่นจางหายไปจากลานบิน เสียงของเครื่อง ซี 17 ก็ดังกระหึ่มขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน นักบินกลับลำเครื่อง เร่งความเร็วไปตามรันเวย์ที่ยาวหลายกิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นรันเวย์แบบ 5ช่องทาง ทำให้เครื่องบิน5ลำสามารถขึ้นลงพร้อมกันได้ หรือบางครั้งอาจมากถึง10ลำเลยก็ได้
ทุกคน วางสัมภาระจ่าคนเดิมตะโกนขึ้นอีกครั้ง เขาเดินไปยังรถฮัมวีก่อนจะปีนขึ้นไปนั่งบนหลังคาของรถด้วยท่าทางทะมัดทะแมง ขอต้อนรับเข้าสู่การทดสอบขั้นที่1 พลขับรถฮัมวีติดเครื่องรถ ไอเสียสีดำสนิดถูกพ่นออกมาตามท่อไอเสีย อโลนยิ้มที่มุมปากก่อนจะกระชับชุดวอร์มของตนให้พร้อมสำหรับการทดสอบ วิ่งตามมา รถฮัมวีเริ่มเคลื่อนตัว ใครก็ตามที่ตามรถคันนี้ไปจนถึงจุดพักได้ คือผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเบื้องต้น รถเคลื่อนตัวไปตามลานบิน เหล่าเด็กหนุ่มสาวเริ่งออกวิ่งตามรถไป ไม่นานนัก รถฮัมวีก็ตัดเลี้ยวเข้าทางเกวียน ผ่านป่าสนหนาทึบสองข้างทาง แสงแดดยามเที่ยงวันสาดส่องอยู่เหนือหัว ถ้าหากเป็นชาวยุโรป หรือใครก็ตามที่อยู่ทางตอนเหนือ อากาศเวลานี้คงจะร้อนมากสำหรับพวกเขา แต่สำหรับคนที่เกิดใกล้เส่นศูนย์สูตรอย่าง อโลนแล้ว อากาศเวลานี้ยังคงหนาวอยู่ดี แบบทดสอบที่อโลนและเด็กหนุ่มสาวหลายร้อยคนกำลังฟ่าฟันอยู่นั้น คือการคัดเลือกบุคคนเข้าประจำการของกองทหารรับจ้างทมิฬ (Black Army private military company(BAPMC)) ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาพร้อมกรุงโรม มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบสามพันปี BAPMC เป็นความฝันอันสูงสุดของเด็กที่ต้องการเป็นทหารทั้งหลาย เนื่องด้วยความโด่งดังจากหลายๆสงครามในแทบทุกยุคทุกสมัย ความเก๋าจาการกรำศึกของรุ่นพี่ และความอิสระที่มีมากกว่าทหารประจำการทั่วไป แต่ก่อนจะได้มาซึ่งความฝันของเด็กทั้งหลาย พวกเขาต้องผ่านอุปสรรค์มากมาย อโลนเป็นหนึ่งในเด็กหนุ่มไฟแรงที่แสนจะทะเยอทะยาน แต่เขาไม่รู้หรอก ว่าอะไรรอเขาอยู่บ้าง
หลังจากวิ่งมาได้เกือบๆสี่กิโลเมตร เหงื่อของอโลนเพิ่งจะถูกขับออกมาจากร่าง เขาปาดเหงือที่ไหลออกมาตามหน้าผาก แต่สำหรับเด็กหนุ่มสาวส่วนหนึ่งนั้น หมดแรงก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ได้ และพวกเขาเหล่านั้นต้องออกจากการคัดเลือกโดยทันที และไม่มีโอกาสที่จะกลับมารับคัดเลือกได้อีกเลยตลอดชีวิต ทุกๆ สิบเมตรที่อโลนวิ่งผ่านไป จะมีเด็กหนุ่มสาวอย่างน้อยหนึ่งคนนอนหมดแรงอยู่เสมอๆ ในที่สุดอโลนก็มาถึงจุดหยุดพักของผู้หญิง รถฮัมวีที่ถูกดัดแปลงเป็นรถพยาบาลหลายคันจอดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบที่ข้างทาง ผ้ายางจำนวนมากถูกกางไว้บนพื้นเพื่อให้หญิงสาวที่มาถึงแล้วได้ทำการทดสอบขั้นต่อไป ริมผ้ายางทุกผืนจะมีทหารสาวในชุดพรางป่านั่งควบคุมดูแลการสอบคัดเลือก เพื่อไม่ให้ผู้รับการคัดเลือกหักโหมจนเดินไป อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่ใช่จุดหมายของอโลน เขาต้องวิ่งไปอีกสามกิโลเมตร เพื่อจะไปให้ถึงจุดหมายของพวกเขา ป่าสนสองเข้าทางพริ้วไหวไปตามสายลม อัตราการลดจำนวนของผู้รับคัดเลือกสูงขึ้นเรื่อยๆ จนอโลนที่ทีแรกอยู่กลางขบวน มาอยู่หน้าขบวนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ เสียงคำรามของรถถังดังขึ้นรอบๆตัวเขา นั่นเป็นสัญญาณว่าพวกเขามาถึงจุดที่ยากที่สุดของการฝึกคัดเลือกแล้ว
จุดหยุดพักของผู้เข้ารับคัดเลือกนายทหารชั้นประทวนอยู่ห่างจากเขาไปไม่มาก จุดพักชายและจุดพักหญิงแทบไม่ต่างอะไรกันมาก หากแต่ผู้ควมคุมการคัดเลือกเป็นผู้ชายทั้งหมด สำหรับอโลนแล้วนั่นไม่สำคัญอะไรเนื่องจากว่าที่นี่ไม่ใช่จุดหมายของเขา และในที่สุดอโลนก็มาถึงจุดที่เขาต้องใช้พลังกายมากที่สุด วิ่งขึ้นเขาที่ถูกขนานนามว่า เขาผู้กล้า ระยะทางสองกิโลเมตรครึ่ง ป่าสนสองข้างทางล้มลงพร้อมกับรถถังจำนวนมากบุกผ่านต้นไม้เหล่านั้นไปพร้อมกันกับที่อโลนและเด็กหนุ่มอีกประมาณครึ่งร้อยวิ่งขึ้นไปยังยอดเขา เวลานี้ ผู้รับการคัดเลือกลดจำนวนลงไปอย่างรวดเร็ว อโลนวิ่งต่อไปโดยไม่สนใจ แรงกายแทบทั้งหมดของเขากำลังจะหมดลง เหงือไหลออกมาจนท่วมเสื้อโค๊ดสีเขียวขี้ม้าของเขา จากจำนวนครึ่งร้อย เวลานี้เหลือเด็กหนึ่งเพียงสิบสี่คน ในที่สุด อโลนก็มาถึงยอดเขาพร้อมร่างกายที่แทบไม่เหลือพลัง แม้แต่ยืนก็ยังลำบาก ขาสองข้างของเขาสั่นระริกด้วยความเหนื่อยอ่อน ยอดเยี่ยมมาก จ่าวัยกลางคนพูดพร้อมกระโดดลงมาจากหลังคารถ สักวันพวกนายจะกลายเป็นนายททหารที่ดีที่สุดในโลกเขาพูดพร้อมเดินไปรอบๆอโลน แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น พวกนายทุกคนยังมีอะไรต้องฟันฟ่าอีกมาก จ่าพูดพร้อมตบบ่าของอโลน โชคดี หลังจาการทดสอบเบื้องต้น พวกเขาถูกส่งขึ้นรถถังแบบไทบ์ 99 ที่BAPMCสั่งซื้อมาจากจีน
อโลนนอนทอดกายบนป้อมปืนของรถ พลางมองดูท้องฟ้ายามเย็นซึ่งพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า สัมภาระของเขากองอยู่ข้างกาย เท้าของเขานั้นพาดไปบนปืนหลักขนาด 125 มม.ของรถถังคันนี้ วันนี้พวกเขาได้รับการทดสอบทางกายและใจที่หลากหลาย จากเด็กหนุ่มสาวกว่าครึ่งพันกลับเหลือรอดมาได้เพียงร้อยแปดสิบคนเท่านั้น แต่ว่าการเหล่าคนที่จะเข้ามาสอบคัดเลือกเหลืออีกหลายสิบชุด อีกทั้งยังมีคนที่ได้รับการคัดเลือกจากฐานทัพสาขาของ BAPMC อีก หลังจากจบสัปดาห์คัดเลือกแล้วจะมีทหารใหม่เข้ารับการฝึกที่นี่ราวๆสามพันห้าร้อยนาย นัยน์ตาสีน้ำตาลของอโลนมองอย่างเลื่อนลอยไปยังเมฆที่ถูกย้อมด้วยสีส้มแดง ไง พ่อว่าที่นายทหาร เสียงใส่เล็กๆที่น่าจะเป็นเสียงของเด็กสาวดังขึ้นจากที่ไหนสักแห่งบนป้อมปืนของไทบ์ 99 อโลนละสายตาจากก้อนเมฆเบื่องบนและมองไปยังต้นเสียง ผมสีน้ำตาลสยายไปตามสายลมที่พัดเข้ามาปะทะใบหน้าที่แนบเนียนสีขาวขาวอมชมพูของเด็กสาว นัยน์ตาสีฟ้ามองมาทางเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยน รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอดูอบอุ่นอย่างน่าประหลาดใจ ชุดวอร์มสีชมพูดูสะดุดตาและเข้ากับเธอย่างหน้าประหลาด ก็ ไม่รู้สิ อโลนพูดอะไรไม่ถูกเพราะรู้สึกเหมือนว่ามีพลังอะไรบางอย่างสะกดเขาไว้กับใบหน้าของเด็กสาวคนนี้
ชื่ออะไรล่ะ เธอยิงคำถาม รอยยิ้มของเธอยังคงไม่จางหายไปจากใบหน้า
อโลน อโลน อลองเกอร์เขาตอบพร้อมลุกขึ้นนั่ง แล้วเธอล่ะ
ฮายากุโนะ มิโกะ เธอตอบพร้อมยื่นมือมาให้อโลนสัมผัส ยินดีที่ได้รู้จัก คุณอลองเกอร์
เรียกอโลนเถอะ ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกัน ฮายากุโนะ อโลนสัมผัสมือของเธอ
เรียกมิโกะเถอะ เธอพูดพลางคลายมือจาการสัมผัส มันเป็นกันเองกว่าเยอะเลย เธอใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่เขี่ยผมที่กำลังพริ้วไสวไปเหน็บไว้ที่หู อโลนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะละสายตาจากใบหน้าของมิโกะ ไปยังปลายกระบอกปืนของรถถัง เธอขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
นี่นายไม่รู้ตัวจริงๆหรอ มิโกะพูดพร้อมรวบผมและมัดไว้เป็นทรงหางม้า ฉันอยู่ตรงนี้ตั้งแต่รถจอดที่จุดพักของผู้หญิงแล้วล่ะ
ว่าแต่ รถถังคันนี้มันจอดด้วยหรออโลนถามพลางทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง
นี่นายเหม่อลอยหาใครอยู่ ขนาดรถถังหยุดยังไม่รู้สึกตัวเลย มิโกะพูด รึว่าคิดถึงแฟนล่ะ
มีให้คิดถึงก็ดีน่ะสิ อโลนตอบด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชาพลางมองไปยังก้อนเมฆอีกครั้ง ทำไมถึงเลือกมาขึ้นรถถังคันนี้ล่ะ
ก็ นี่เป็นรถคันสุดท้ายน่ะสิ มิโกะตอบพลางจัดทรงผมของเธอ แล้วทีแรกก็ไม่เห็นนาย เลยกระโดดขึ้นมาน่ะ
เธอก็เลยซวยไปได้มาเดทกับฉันบนรถถังคันนี้สินะ
ก็ประมาณนั้นล่ะมั้ง เธอพูดพร้อมหัวเราะร่าเหมือนเด็กๆ นี่ นายอโลนเธอเรียกพร้อมก้มหน้าลงมาหาอโลน ทำไมนายถึงเลือกรถคันสุดท้ายล่ะ
ไม่รู้สิ เพราะจะได้เจอเธอมั้ง สิ้งเสียงของอโลน รอยยิ้มจางๆก็ปรากฏบนใบหน้าของมิโกะ ผิวสีอมชมพูกลายเป็นสีแดงระเรื่ออย่างรวดเร็ว เธอละสายตาจากอโลนและมองไปยังป่าสนสองข้างทางเพื่อแก้เขิน จะว่าไปก็ดีนะ มีเธออยู่ด้วยเนี่ย
ทำไมหรอ
คุยกันเธอแล้วฉันรู้สึกดีนะ อโลนพูดพร้อมส่งยิ้มให้มิโกะ
หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกนะ มิโกะพูดพร้อมกระโดดลงจากรถ เป็นอีกครั้งที่อโลนมัวแต่จดจ่ออยู่กับสิ่งอื่นจนไม่ทันได้สังเกตว่ารถถังที่เขาโดยสารมานั้น ได้มาถึงเขตที่อยู่อาศัยแล้ว อโลนหยิบสัมภาระของตน กระโดดลงจากรถ ก่อนจะเดินไปหานายทหารคนหนึ่ง อโลนยืนตรงและทำความเคารพอย่างแข็งขัน
ชื่อ ร้อยตรีถามขึ้น
อโลน อลองเกอร์
กองร้อยบี หมวดสาม หมวดหนุ่มพูดต่อพลางชี้ไปยังโรงนอนหลังสุดท้าย โรงนอนเป็นอาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สร้างจากคอนกรีต ทุกๆโรงนอนสามหลังจะมีโรงนอนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสตั้งอยู่ด้านหน้าโรงนอนเสมอ โรงนอนนายทหารอยู่ด้านหน้าโรงนอนรองสุดท้ายนั่นล่ะ
ขอบคุณครับ อโลนพูด ทำความเคารพก่อนจะเดินไปตามทางเดินที่ปูด้วยหินอ่อนขนาบสองข้างทางด้วยหญ้าที่ถูกตัดเล็มอย่างดี พระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไปแล้วเหลือเพียงแสงสี่ส้มแดงที่ย้อมอาบแผ่นฟ้าเบื้องบน และแผ่นหญ้าเบื่องล่าง อโลนเดินเข้าไปยังโรงนอนนายทหารพร้อมสัมภาระที่หนักอึ้ง อโลนทำความเคารพร้อยโทคนหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะเป็นผบ.ร้อยของเขา อโลน อลองเกอร์ รายงานตัวครับ ร้อยโทหนุ่มตะเบะตอบเขา
ตามสบาย หัวหน้าหมวด เขาพูด ห้องนอนของอยู่ถัดจากตู้เย็นนั่น เขาผายมือไปทางชายหนุ่มสองคนที่กำลังจัดแจงเครื่องแบบอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง นั่น จิมมี่ หัวหน้าหมวดหนึ่ง อเล็กซ์ หัวหน้าหมวดสอง
ไง อเล็กซ์ทักทายพร้อมโบกไม้โบกมือให้เขา
ไง อโลนตอบพร้อมส่งยิ้มให้เล็กน้อย
หัวหน้าหมวดสาม ร้อยโทพูดต่อพลางส่งแผ่นคลิ๊ปบอร์ดติดกระดาษหลายแผ่นมาให้เขา เห็นบีอาร์เอ็ม(BRM=Black army Ready to eat Meal) ตรงนั้นรึเปล่า เขาพูดพลางชี้ไปยังกล่องกระดาษกล่องใหญ่สองกล่องที่วางอยู่ในมุมหนึ่งของห้อง
ครับผม
เอามันไปแจกให้คนของคุณ เขาพูดพร้อมตบบ่าอโลน ส่วนกระดาษพวกนั้นเป็นรายชื่อสมาชิกและรายข้อมูลของพวกเขา
ครับผม ผมจัดการมันเองอโลนพูดพลางเดินไปทางกล่องบีอาร์เอ็ม เขาวางแผ่นคลิ๊ปบอร์ดบนกล่อง และย่อตัวลงจับก้นกล่อง
อีกอย่างนะเครื่องแบบของคุณอยู่บนเตียงในห้อง มีร้านซักรีดอยู่ที่ข้างๆกับโรงนอนกองร้อยเอนายน่าจะลองๆไปหาดูนะ
ครับผม อโลนปล่อยกล่องบีอาร์เอ็ม และเดินเข้าไปในห้อง หยิบเอาแพ๊คเสื้อผ้าออกมาวางบนกล่องบีอาร์เอ็มและเดินออกจากโรงนอนทางประตูหลัง อโลนเดินไปยังโรงนอนสุดท้ายพร้อมใช้เท้าเคาะประตูโ
รงนอนอย่างแรง ประตูเปิดออกไม่นานหลังจากเคาะ เสียงเจอแจ้วดังลอดออกมาจากประตู อโลนเดินเข้าไปในโรงนอนวางกล่องอาร์เอ็มลงและมองไปรอบๆ เตียงสองชั้นถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบติดผนังทั้งสองด้านขั้นด้วยหน้าต่าง เด็กหนุ่มสาวกำลังนั่งๆนอนพักผ่อน บ้างจับกลุ่มคุยกัน บ้างก็กำลังจัดของลงหีบเก็บของ สวัสดีเขาพูด พร้อมวางกระเป๋าเป้สัมภาระลง เวลาเจอหัวหน้าหมวดต้องทำยังไงนะ ทหารใหม่แต่ละคนมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะกรูกันมาเข้าแถวที่ปลายเตียงของตน ทุกคนทำความเคารพเขาแต่ดูแล้วไม่พร้อมเพรียงสักเท่าไหร่
ดีมาก ทุกคน ยินดีที่ได้พบ ผมชื่ออโลนเขาหายใจเล็กน้อย อโลน อลองเกอร์ เขาพูดลางเดินตามความยาวของโรงนอน นับแต่วันนี้ คุณอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผม มองไปรอบๆ เรามีคนหลายชนชาติที่นี่ ทั้งตะวันตก ตะวันออกเขาเดินมาจนถึงหน้าห้องน้ำซึ่งอยู่ในสุดของโรงนอน เรามี อเมริกัน ยิว มุสลิม มีผิวดำ เขาหันกลับก่อนจะออกเดินอีกครั้ง ไม่ต้องสนว่าเขาจะมาจากไหน ฐานะทางสังคมเป็นอย่างไร นับจากนี้ เราคือพวกเดียวกันเขาหยุดที่กลางห้องและหมุนตัวไปรอบๆ เรามีอุปสรรค์ที่ต้องฟ่าฟันไปด้วยกัน เขาหยุดพูด ความเงียบเข้าปกคลุมห้องทันที นับจากนี้ เราคือพี่น้อง ตามสบายท่านทั้งหลาย อโลนสั่งและเดินไปยังกล่องบีอาร์เอ็ม เขาหยิบมันออกมาสองสามซองก่อนจะโยนแจกให้เหล่าทหารรอบๆ อาหารเย็นของเรา บีอาร์เอ็ม อโลนพูด อาหารสำเร็จรูปจากบีเอพีเอ็มซี มารับไปคนละซอง ทหารใหม่ทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย มีเตียงว่างรึเปล่าเขาเอ่ยถามพลางเดินไปรอบๆอีกครั้ง
ครับหัวหน้า ข้างผมว่าง อโลนไม่รีรอตรงไปยังเตียงแล้ววางสัมภาระลง เขาจัดของเข้าไปไว้ในหีบใต้เตียงและเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอน เขานั่งลงบนเตียง เปิดดูกระดาษปึกหนาที่ติดมากับแผ่นคลิ๊ปบอร์ด ในนั้นมีข้อมูลของสมาชิกทุกคนในหมวด3 รวมถึงกำหนดการณ์ของวันต่อไปว่าพวกเขาต้องทำอะไรกันบ้าง
ทุกท่าน อโลนพูดขึ้น คืนนี้เราต้องปิดไฟเวลาสามทุ่มตรง ตื่นเวลาสี่ร้อยนาฬิกา วิ่ง สี่ร้อยสามสิบนาฬิกา หกร้อยนาฬิกาผบ.ร้อยตรวจโรงนอน อาหารเช้าเวลาหกร้อยสามสิบนาฬิกา เขาเงียบ จนทหารสมาชิกหมวดแต่ละคนเริ่มสงสัยว่ามีอะไรเป็นรายการต่อไป ต่างคนต่างมองอโลนด้วยความสงสัยและใคร่รู้ อโลนละสายตาจากกระดาษและมองดูเหล่าหนุ่มสาวในห้องที่บ้างก็มองเขา บ้างก็กำลังจัดการกับ บีอาร์เอ็ม บ้างก็นอนพักผ่อนเอาแรง เข้าบาร์เบอร์ของกองทัพ
วันที่สองของชีวิตในสถาบันทหารรับจ้างไม่มีอะไรเป็นพิเศษสำหรับพวกนายทหารอย่างอโลน เนื่องจากพวกเขาถูกสอนในเรื่องการบัญชาการ การประสานงาน และกฏระเบียบต่างๆมาเป็นเวลากว่าสามปีแล้ว อีกทั้งการฝึกในช่วงแรกที่เหล่าทหารฝึกสำเร็จแต่ละคนขนานนามว่า ช่วงเนื้อแนบเนื้อ มีจ่าสิบเอกและเหล่าชั้นประทวนผู้มีประสบการณ์มาเป็นครูผึกการต่อสู้ระยะประชิดให้ อโลนจึงไม่ต้องทำอะไรมากนอกจากเรียนรู้โค๊ดรหัสต่างๆที่ใช้ในการขอกำลังหนุน ฝึกการแก้สถาณการณ์ และปฏิบัตการประสานงานกับนายทหารผู้บังคับบัญชา อีกทั้งเขายังมีเวลาเหลือมากพอที่จะสร้างสัมพันธ์กับทหารร่วมกองร้อย โดยเฉพาะ อเล็กซ์ อเล็กซ์คือเด็กหนุ่มจากตระกูลร่ำรวยในซิดนีย์ ออสเตเรีย แต่นิสันใจคอของเขานั้นกลับไม่เหมือนคนรวยทั่วไป อเล็กส์เป็นคนติดดิน เข้ากับคนอื่นได้ง่าย เพียงสามวัน อโลนและอเล็กซ์ก็กลายเป็นเพื่อนสนิดกัน หลังจากสัปดาห์แรกของการฝึกร่างกายขนาดหนักจบลง อโลนได้พบกันมิโกะสองสามครั้ง แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากมายนัก เพราะเธอมาที่สนามฝึกเพื่อนำคนที่ร่างกายไม่ไหวออกไปจากศูนย์ฝึก สัปดาห์ที่สอง เป็นสัปดาห์ที่หนักสำหรับทุกคน พวกเขาต้องฝึกการผ่านสิ่งกีดขวางต่างๆ และพวกเขาต้องเสียน้ำตาหลายลิตรให้กับห้องรมแก๊ส ช่วงกลางสัปดาห์ ทุกคนในหมวดถูกสอนให้เลิกใช้คำว่า ปืน กับอาวุธที่พวกเขากำลังจะถูกฝึกให้ใช้เหล่าจ่าจอมเก๋าทั้งหลายให้พวกเขาเรียกมันว่า ไรเฟิล
ทหารจ่าวัย60ปีร้องตะโกนลั่นต่อหน้าหมวดของอโลน เขาเป็นจ่าสิบเอกคนหนึ่งที่คอยมาฝึกสิ่งต่างๆให้พวกเขา ในกรณีของจ่าสิบเอก จร มูดดี้ คนนี้คือผู้เชียวชาญพิเศษในเรื่องของอาวุธประเภทต่างๆ ริ้วรอยบนไปหน้าและผมสีน้ำตาลแซมขาวของเขาบ่งบอกอายุได้เป็นอย่างดี เขายืนอยู่หน้ากล่องไรเฟิลหลายกล่อง วันนี้พวกนาย จะได้รู้จักกับเครื่องจักรสังหารที่น่าหลงไหลชื่อว่า ไรเฟิล เขาเดินเข้ามาหาอโลนที่ยืนอยู่หน้าสุดของแถว เขาตะคอกบางย่างใส่อโลน เสียงของเขาดังและแตกพร่าจนอโลนฟังไม่ได้ศัพท์ แล้วจ่ามูดดี้ก็เดินกลับไปที่กล่องไรเฟิล พร้อมหยิบของในกล่องออกมา ปืนเล็กยาวสีดำสนิดแบบบูลปัปซึ่งมีกลไกการบรรจุกระสุนไปไว้หลังเครื่องลั่นไก นี่คือสาวสวยจากเบลเยี่ยม เอฟเอ็น เอฟ 2000 ไรเฟิล บูลปัป 5.56*45 มม. แต่พวกนายไม่มีโอกาศได้สัมผัสเธอแน่ๆ เพราะพวกนายมันไม่มีบุญว่ะ หลังพูดจบ จ่ามูดดี้ก็วางไรเฟิลกลับลงไปในกล่องตามเดิมก่อนจะเดินไปยังกล่องถัดไปและหยิบเอาปืนเล็กยาวอีกกระบอกออกมา ญาติห่างๆกับเอฟ 2000 ไรเฟิลจู่โจม สการ์ รุ่นมาร์ค 17 กระบอกนี้ใช้กระสุน 7.62*39 มม. เป็นหนึ่งในสาวสวยของเรา เป็นหนึ่งในไรเฟิลที่พวกนายเลือกใช้ได้ เขาวางมันลงอีกครั้งแล้วเดินไปยังกล่องถัดไป พี่หมีสุดสวย เอเอ็น 94 5.45*39มม. ไม่ต้องห่วงเรื่องความสมบุกสมบัน เธอกินขาด เขาเดินไปยังกล่องสุดท้าย หมีสาวสุดเซ็กซี่อีกตัว เอเค 107 5.45*39มม พวกนี้คือตัวอย่างของไรเฟิลที่พวกนายมีโอกาศได้ใช้ในการฝึก ในคลังแสงเรายังมีอีกเยอะ แต่สำหรับ เอฟ 2000มีไว้สำหรับพวกที่มือถึงเท่านั้น
จ่าครับ คนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังอโลนร้องขึ้น
ว่าไงทหาร
เราจำเป็นต้องใช้ปืนที่เราเลือกไปตลอดรึเปล่าครับ
ไม่จำเป็นหรอกพลทหาร จ่ามูดดี้พูดด้วยเสียงเรียบๆพลางเดินเข้าไปหาเขา นายสามารถซื้อไรเฟิลมาใช้เอง หรือจะเบิกจากคลังแสงของเราก่อนก็ได้ นั่นเป็นความสะดวกสะบายของทหารรับจ้าง ที่ทหารทั่วไปไม่มี มูดดี้เข้าใกล้เขาจนเขาสามารถเห็นรูขุมขนของจ่าวัยทองคนนี้ได้อย่างชัดเจน เมื้อกี้นายพูดว่าปืนใช่รึเปล่า มูดดี้ กระซิบทำเอาผู้ถูกถามถึงกับอึกอัก จ่ามูดดี้หันไปทางอโลน หัวหน้าหมวด ขอหมีเซ็กซี่ให้ผมทีอโลนทำตามในทันที เขานำไรเฟิลออกจากกล่องและยื้นให้มูดดี้ จ่าหันกลับไปหาทหารโชคร้ายอีกครั้ง นายเรียกมันว่าอะไรนะเขาพูดพร้อมเขย่าไรเฟิลในมือ
ป...ปะ..ปืนครับผม ทหารหนุ่มตอบอย่างตะกุกตะกัก
ฉันจะบอกนายอีกครั้งว่านี่คือไรเฟิลมูดดี้พูดพร้อมยื่นปืนเล็กยาวให้ทหารหนุ่ม ถือไว้ เขาทำตามจ่าโดยทันที แล้วนายรู้รึเปล่าว่าอะไรคือปืน หลังจากนั้นทหารหนุ่มผู้โชคร้ายต้องเดินกำไรเฟิลไปในมือหนึ่ง กำน้องชายของตนเองไว้ในอีกมือหนึ่ง ระหว่างเดิน เขาต้องตะโกนว่า นี่คือไรเฟิลพลางชูไรเฟิลขึ้นไปในอากาศ สำหรับศัตรู จากนั้นกูต้องเขย่าน้องชายของตนพลางตะโกนว่า นี่คือ ปืน สำหรับสาวสวยสุดเซ็กซี่ ตลอดสัปดาห์ที่2ของการฝึกพื้นฐาน พวกเขาถูกฝึกควบคู่กันทั้งฝึกร่างกาย ฝึกการต่อสู้ระยะประชิด และการดูและรักษาไรเฟิลของตน
ในที่สุดการฝึกก็เข้าสู่ช่วงที่สอง ช่วงที่เหล่าทหารรุ่งพี่เรียกกันว่า ช่วง ยิงเป็ด พวกเขาต้องเริ่มใช้อาวุธประจำกายของตน ผึกการยิงเป้า ใช้ดาบปลายปืน ฝึกการผ่านสิ่งกีดขวางเป็นหมวด แต่ก่อนหน้านั้น เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อยในวันสุดท้ายของช่วงเนื้อแนบเนื้อ
จบบที่1
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
11th September 2011 14:18
#15
ใช่ตอนเดิม รึเปล่า ครับ...รึว่าเอามาทำใหม่หมด...อิอิ
อันที่แล้วตัวผมพึ่งออก เลย อิอิ
-
-
11th September 2011 18:53
#16
ตอนเดิมๆครับ เดี๋ยวว่างๆ(หลังสอบ) จะปล่อยตอนพิเศษ
-
-
20th September 2011 22:10
#17
-
-
21st September 2011 07:14
#18
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
pone123
สมัครตัวละครทำไงครับ
กรอกแบบฟอร์มครับ แบบฟอร์มอยู่เรบแรก
-
-
21st September 2011 14:53
#19
เขียนที่กระทู้นี้เลยใช่ไหมครับ
-
-
21st September 2011 18:21
#20
-
-
21st September 2011 18:40
#21
แล้วอื่นๆนี้คืออะไรบ้างครับ
-
-
21st September 2011 19:45
#22
ขอหน่อยละกัน
++Killer Class++
ชื่อ-สกุล: อีวาน อังเดร
ชื่อเล่น: อาร์โจม
เพศ:ชาย(มั้ย)
อายุ: 23
สัญชาติ:รัสเซีย
ยศ: จ่าสิบเอก
Class: ทหารราบ
อาวุธที่ถนัดที่สุดส่วนใหญ่เก่งปืนช่วงสงครามโลกครั้งที่2) ปืนหลัก M1 Garand ปืนพก Mauser รุ่น C96 Luger รุ่น P08 และปืนลูกโม่ (หาลูกกระสุนได้ไงเนี่ย เก่งจัง)
ลักาณะทางกาย:ตัวใหญ่พอดู สูง186 พอมีกล้ามเนื้ออยู่บ้างหน้าตา[IMG][/IMG] ดวงตาสีนำ้้้้้้้ตาลเข้ม ผมสีดำ ชอบใส่เสื้อคลุม
ลักษณะนิสัย:เป็นคนขี้เล่น ชอบคุยกับคนอื่นทำให้มีเพื่อนมาก ชอบเรี่องตลก ชอบแต่งนิยาย แต่ตอนออกรบจะฆ่าอีกฝ่ายทุกคน ยกเว้นผู้ไม่มีทางสู้
เหล่าทัพ: บก
ใช้ได้เปล่าครับถ้าไม่ได้ก็บอกนะ (ถ้าจะให้แก้ไขอะไรก็บอกได้นะครับ)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pone123 : 26th September 2011 เมื่อ 10:54
-
-
22nd September 2011 18:14
#23
อีกคน
++Duck Class++
ชื่อ-สกุล:มาริโอ โลโปซ โกบาซ
ชื่อเล่น:เชมา
เพศ:ชาย
อายุ: 18
สัญชาติ:เม็กซิโก
ทหารชั้น: ประทวน
อาวุธที่ถนัดที่สุด:[IMG][/IMG][IMG][/IMG]
ลักาณะทางกาย:ออกจะเป็นคนตัวเล็ก แต่แรงมีมากกว่าที่เห็น ผมสีนำ้้้้้้้้ตาลอ่อนตาสีฟ้า ใส่แว่นสีขาว หน้าตาโทรมเหมือนคนไม่ได้นอน
ลักษณะนิสัย:เป็นคนออกเงียบๆ เหมือนคนเก็บกด เพื่อนของเขาเป็นผู้หญิงซะส่วนใหญ่ และด้วยท่าทางเหมือนผู้หญิงจนถูกล้อว่าเป็น เกย์ นิสัยลึกๆนั่นอ่อนโยนชอบช่วยเหลือผู้อื่น
เหล่าทัพ: บก
อื่นๆ:ที่เข้ามานี่เพราะเขาจะฝึกร่างกายเพื่อจะไปล้างแค้นให้พ่อแม่เขาที่โดนแก๊งมาเฟียฆ่าตาย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pone123 : 26th September 2011 เมื่อ 11:01
-
-
22nd September 2011 18:28
#24
-
-
22nd September 2011 20:49
#25
ไม่ต้องโพต์ติืิดๆกันมากก็ได้ อาจจะโดนข้อหาปั้มประทู้ ยูเซอร์โดนแบบไม่รู้ด้วย
แต่ตัวละครนี่ เท่าที่ดูผ่านๆ บอกตรงๆว่ารอดยาก เดี๋ยวมาดูอีกที
-
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
Forum Rules