ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 3 หน้า 123 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 25 จากทั้งหมด 52
  1. #1
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    413
    กล่าวขอบคุณ
    115
    ได้รับคำขอบคุณ: 240

    Exclamation The Legend Of Black Academy ภาค1 ช่วงที่ 1:การพบกันด้วยโชคชะตา

    The Legend of Black Academy
    ภาค 1: โอกาศและการพบกันด้วยโชคชะตา
    แนว: วิทยาศาสตร์-แฟนตาซี, สงคราม
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





    เกริ่นนำเรื่อง

    เรื่องนี้ เป็นเรื่องของโลกซึ่งประวัติศาสตร์ถูกบิดเบือนไปจากโลกที่เรารู้จัก บางสิ่งที่เคยมี อาจไม่มี หลายสิ่งที่ไม่เคยมี อาจจะปรากฏขึ้นมา เนื้อเรื่องโดยรวมจะกล่าวถึงเหล่ากองกำลังทหารรับจ้างนามว่า แบล็ก อาร์มี้ ซึ่งมีประวัติยาวนานมานับตั้งแต่ห้าร้อยปีก่อนคริสต์กาล จุดสำคัญของเรื่องนี้คือ โลก กำลังเดินไปในแนวทางใหม่ จากการกระทำของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีจุดมุงหมายอันยิ่งใหญ่ จุดเริ่มต้อนของเรื่องนี้ พูดได้ข้อนข้างยากว่าเริ่มจากจุดไหน บางที อาจจะเริ่มในปี4569 ซึ่ง โลกมนุษย์ ได้ถูกทำลายลงไปแล้ว เหล่ามนุษย์กลุ่มสุดท้ายจึงย้อนเวลากลับมาเปลี่ยนแปลงโลก เพื่อไม่ให้มันถูกทำลาย ไม่ว่าจะเริ่มจากจุดไหน ขอเชิญพบกับ The legend of Black Army ได้แล้วครับ
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    สารบัญครับ
    บทที่1 การพบกันด้วยโชคชะตา http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=4640#14

    บทที่2: ค่ำคืนสยองขวัญhttp://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=4640&page=2#34

    บทที่3: นักล่าจอมเวทย์ และ การฝึกอันทารุณ http://www.jokergameth.com/board/sho...4640&page=2#43

    บทที่4: พ่อ http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=4640&page=2#48

    บทที่5 ก้าวแรกสู่สงคราม http://www.jokergameth.com/board/sho...4640&page=3#51

    บทที่ 6 แนวป้องกันไร้พ่าย http://www.jokergameth.com/board/sho...4640&page=3#52
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    1.เน้นบรรยาย และลักษณะนิสัย
    2.ปรกติไม่ให้ใส่ประวัตินะ แต่ใส่มาก็ได้ และพวกประวัติเวอร์เกินคน ผมให้คุณผ่านรึเปล่า บอกว่าให้ แถมK.I.A.ให้ด้วยเลย
    3.ตั้งใจหน่อย ฝ่านไม่ฝ่านขึ้นอยู่กับคุณ
    4.ถ้าทำได้ตาม3อย่าง ก็ขอให้ผมก็ให้คุณผ่านนะ
    5.แทรกประวัติไว้ในหัวข้อ (อื่นๆ)
    6.Duck class คือทหารฝึกใหม่ Killer class คือทหารประจำการ
    7.มีขอสงสัยอะไรฝากข้อความไว้ครับ เดี๋ยวมาตอบ

    แบบฟอร์มการรับสมัคร
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ++==BRPMC==++
    ++Duck Class++
    ชื่อ-สกุล:
    ชื่อเล่น:
    เพศ:
    อายุ: 18 เท่านั้น
    สัญชาติ:

    ทหารชั้น: ประทวน, สัญญาบัตร
    อาวุธที่ถนัดที่สุด:

    ลักาณะทางกาย:

    ลักษณะนิสัย:

    เหล่าทัพ: บกเท่านั้น

    อื่นๆ:

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ++Killer Class++
    ชื่อ-สกุล:
    ชื่อเล่น:
    เพศ:
    อายุ: 19 ขึ้นไป เหมาะสมกับยศ
    สัญชาติ:

    ยศ: (ประทวน(บกเท่านั้น): พลทหาร-จ่าสิบเอก สัญญาบัตร(บก):ร้อยตรี-ร้อยเอก สัญญาบัตร(อากาศ):เรืออากาศตรี-เรืออากาศเอก)
    Class(บกเท่านั้น): 1.ทหารราบ 2.ทหารม้าหุ้มเกราะ 3.ทหารม้าปืนใหญ่
    อาวุธที่ถนัดที่สุด:

    ลักาณะทางกาย:

    ลักษณะนิสัย:

    เหล่าทัพ: บก-อากาศ

    อื่นๆ:

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    บนทำ: โอกาส
    ยานรบ จีเอฟเอส เท็กซัส เคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าภายใต้อวกาศที่ว่างเปล่า ดวงดาวทองแสงระยิบระยับห่างออกไปหลายปีแสง พลเอก ไมเคิล อลองเกอร์เดินผ่านทางเดินที่ว่างเปล่าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ประตูเข้าสู่สะพานเดินเรือเปิดออกเผยให้เห็นถึงความวุ่นวายภายใน ทหารชายหญิงในเครื่องแบบกรมท่าเดินกันขวักไขว่ มีเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าแผนที่ยุทศาสตร์ซึ่งทำขึ้นจากพลาสติกใส ซึ่งเธอใส่เสื่อยืดกางเกงยีนส์ทับด้วยเสื้อกราวด์สีขาว ทหารหลายคนกำลังนั่งหน้าแผงควบคุมและกดปุ่มบนแผงอย่างขมักเขม่น “รายงานสถาณการณ์ด้วย”ไมเคิลพูดเสียงเรียบๆพลางเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่ซึ่งอยู่กลางห้อง

    “เดสทรอยเยอร์จะตามมาพบเราในอีกห้านาทีครับ” ทหารคนหนึ่งรายงาน “เท่าที่ใช้เครื่องสแกนผ่านซับสเปสซ์ตรวจพบยานพิฆาตสองลำ ฟรีเกทสามลำครับท่าน”

    “ชาร์จระบบอาวุธ ด็อกเตอร์แม็กซ์”เขาสั่งนาวิเกเตอร์ของยานและหันกลับไปหาสาวสวยในชุดกราวด์ “เครื่องเร่งความเร็วกรอบเฉื่อยจะพร้อมเมื่อไหร่”

    “แปดนาทีสิบสามวินาทีค่ะ”เธอพูดพลางเขียนอะไรบางอย่างบนแผนที่ยุธศาสตร์ “ท่านค่ะ ฉันแนะนำให้ทำการเปิดเกราะเต็มประสิทธภาพทางกราบขวาแทนที่การแบ่งพลังงานไปให้ส่วนอาวุธค่ะ”

    “นาวิเกเตอร์ ถ้าทำตามด๊อกเตอร์แม็กซ์เกราะจะทนได้นานแค่ไหน”

    “สิบนาทีครับ”

    “เราต้องการแค่สามนาทีเอง ด๊อก”อโลนชี้แจงพร้อมเรียกเธออย่างสนิดสนม “ให้ทุกคนประจำสถานีรบได้”

    “จะให้ส่งเอฟ-314 ออกไปด้วยรึเปล่าครับ”

    “ไม่ล่ะ ขอบใจ หันขวาเต็มกำลัง” ไมเคิลสั่ง นักบินตอบสนองคำสั่งอย่างรวดเร็ว ยานเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ โดยเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่ท้ายลำ เครื่องยนต์บังคับทิศทางขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่ทางกราบซ้ายถูกจุดระเบิดขึ้น ยานเบนหัวไปทางขวา ยานจีเอฟเอสเท็กซัส เป็นยานชั้นเดรดน๊อร์ท รูปร่างทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีเครื่องยนขนาดใหญ่สามเครื่องที่ท้ายลำและเครื่องยนต์ขนาดกลางขนาบส่วนหน้าของยาน ระบบอาวุธนับว่าเป็นยานรบที่ขนอาวุธหนักที่สุดในจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นป้อมปืนใหญ่ไออ้อนทั้งหก ป้อมปืนพลังงานโปรตรอนอีกเจ็ดป้อม อีกทั้งยังมีป้อมปืนพลังงานลำกล้องหมุนสำหรับไว้สอยขีปนาวุธและยานขับไล่อวกาศอีกด้วย

    หากมีใครถามว่าพวกเขาเหล่านี้เป็นใคร คำตอบนั้นง่ายมาก พวกเขาคือมนุษย์โลกกลุ่มสุดท้ายในจักรวาลอันกว้างใหญ่ โกล์บัลฟอร์ซ สเปซ์สชิป เท็กซัส คือบ้านหลังสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ นับตั้งแต่ที่มนุษย์ค้นพบซับสเปสซ์และไฮเปอร์สเปสซ์ เวลาก็ล่วงเลยมานับตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.2,514 เป็นเวลาหลายร้อยปีที่มนุษย์และเผ่าพันธุ์ต่างๆอยู่กันอย่างมีความสุขจนมีการก่อตั้งหลังจากที่มนุษย์ได้ก้าวเข้าเป็นส่วหนึ่งของสหพันธ์แห่งจักรวาลอันประกอบด้วยเผ่าพันธุ์จากดาวต่างๆมากมาย จนมาถึงปี ค.ศ.4,000 ปีที่ลางร้ายเริ่มปรากฏ เผ่าพันธุ์โบราณชื่อว่า เดสโทรเยอร์ ตื่นขึ้นจากการหลับไหล และเข้าโจมตีเผ่าพันธุ์ต่างๆ สหพันธ์แห่งจักวาลผนึกกำลังกันสู้ การต่อสู้กินเวลานับร้อยๆปี ความพ้ายแพ้ก็ตกเป็นของสหพันธ์แห่งจักวาล โลกถูกทำลายลงในปีค.ศ.4,567 เวลาล่วงเลยมากกว่าสองปี ยานเท็กซัสที่เพรียบพร้อมด้วยลูกเรือหลายพันชีวิต ยังคงสามารถยืนหยัดอยู่ได้ แม้จะถูกตามล่าจากกองยานของเดสโทรเยอร์ แต่ในการต่อสู้ทุกครั้ง ลูกเรือแห่งเท็กซัสก็มีชัยเหนือข้าศึกเสมอ ทำให้ตำนานของพวกเขาเป็นที่เล่าขานในจักรวาลเป็นกำลังให้เผ้าพันธุ์ต่างๆยังคงยืนหยัดสู้ จนถึงวันนี้ วันที่เหล่าลูกเรือค้นพบโอกาศในการแก้ไขทุกสิ่ง โอกาศเพื่อช่วยไม่ให้โลกล่มสลาย

    “มันมาแล้ว” นาวิเกเตอร์พูด เหมือนกับมีหลุมอะไรบางอย่างอยู่ที่อวกาศนอกหน้าต่างยานเท็กซัส ฝุ่นผงอวกาศต่างๆเรืองแสงสีฟ้าก่อนจะถูกดูดเข้าไปในรูบางอย่างทีมีขนาดเล็ก ก่อนหน้าที่รู้นั้นจะขยายใหญ่ขึ้น จนมีขนาดพอๆกับยานเท็กซัส ลำแสงสองลำแสงขนาดประมาณหนึ่งในสามของยานพุ้งออกมาจากรู้นั้น และหยุดบริเวณปากรู แสงสว่างจ้าหายไปอย่างรวดเร็วเหลือเพียงยานสีแดงสดสองลำ ดูจากขนาดยานแล้วยังถือว่าค่อนข้างเล็กเมื่อเที่ยบกับยานชั้นเดรดน๊อร์ทอย่าเท็กซัส ยานรูปร่างเรียวยาวเดินเครื่องเต็มที่ เข้ามาหาเท็กซัส

    “ฟรีเกทอยู่ไหนฟระ” ไมเคิลเอ่ยขึ้น

    “จากการสแกนแล้ว ยานฟรีเกทหยุดก่อนที่จะมาถึงครับผม เราจึงมียานให้ต่อกรแค่สองลำ”

    “จัดหนักเลยน้อง” ไม่เคิลพูดด้วยน้ำเสียงทีจริงทีเล่น นาวิเกเตอร์ไม่รอช้า ส่งคำสั่งของไมเคิลไปยังสถานีรบต่างๆโดยทันที “ส่ง เฮล์ล เบิร์ดไปนำร่องหน่อย” เจ้าหน้าทีอาวุธทำการล๊อกเป้ายานพิฆาตลำหนึ่ง เลือกอาวุธจากแผงควบคุมด้วยความคล่องแคล่ว เขารอเวลานับถอยหลังเพื้อให้ข้อมูลเป้าหมายถูกบรรจุลงสู่ขีปนาวุธ ทันทีที่ตัวเลขการนับถอยหลังเปลี่ยนจากหนึ่งเป็นศูนย์ เขากดปุ่มปล่อยจรวดแทบจะพร้อมกันกับเวลาที่เลขศูนย์ปรากฏขึ้นมา ขีปนาวุธสองลูกออกจากท่อส่ง พุ่งผ่านอวกาศอันว่างเปล่า ตรงไปยังยานพิฆาต ยานพิฆาตไม่สามารถทำอะไรกับขีปนาวุธทั้งสองได้เนื่องจากทหารเดสโทรเยอร์ยังไม่เข้าประจำสถานีรบ ขีปณาวุธทั้งสองระเบิดขึ้นทันทีที่สัมผัสกับยาน รูโหวขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นบนตัวยาน ร่างไร้วิญญาณของชาวเดสโทรเยอร์ลอยละล่องออกมาสู่อวกาศพร้อมๆกับทียานฟรีเกทสามลำไดร์ฟเข้าสู่สนามรบ

    “ยานฟรีเกท สอบสองนาฬิกา” เจ้าหน้าที่อาวุธพูด สายตายังคงจดจ่อกับรายชื่อขีปนาวุธนาๆชนิดที่พร้อมจะถูกยิงออกไปสู่อวกาศ เขาไม่รอคำสั่งของไม่เคิล ขีปนาวุธชุดที่สองถูกยิงออกจากท่อส่งอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีมากถึงหกลูก ทั้งหกไม่ได้ถูกยิงไปยังเป้าหมายเดียวกัน แต่ละลูกแยกกันไปคนละทิศทาง โดยห้าลูกพุ่งตรงไปยังของยานของเดสโทรเยอร์ ส่วนลูกหนึ่งนั้นแยกจากฝูงของมันมุ่งหน้าไปยังอวกาศที่อ้างว้าง ขีปนาวุธทั้งห้าทะยานเข้าใส่เป้าหมายของตนแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ลำแสงจากปืนพลังงานลำกล้องหมุนถูกยิงออกมาสกัดขีปนาวุธเหล่านั้น ลำแสงพลังงานเจาะผ่านตัวของขีปนาวุธทำให้ขีปนาวุธระเบิดขึ้นก่อนที่จะไปถึงเป้าหมายของมัน

    “พวกมั้นตั้งรับขีปนาวุธของเราได้แล้วครับ” เจ้าหน้าที่อาวุธรายงานขณะที่กองยานของชาวเดสโทรเยอร์กำลังแปรขบวน “ขออนุญาตเพิ่มขีดการยิง”

    “อนุญาต”ไมเคิลพูดแบบนิ่งๆ เจ้าหน้าทีอาวุธหันกลับไปยังแผงควบคุมของตนอีกครั้ง เขากดปุ่มยิง ขณะเดียวกันกับที่ขีปนาวุธหลายสิบลูกออกจากท่อส่ง ยานของชาวเดสโทรเยอร์ก็แปรขบวนเสร็จสิ้นโดยมีฟรีเกททั้งสามลำนำหน้าและยานพิฆาตอยู่ตรงกลางเหมือนรูปเพชร เพียงแต่ทิ้งยานพิฆาตลำทีถูกโจมตีจนเสียหายไว้เบื่องหลัง เป็นอย่างที่เจ้าหน้าที่อาวุธและไมเคิลคาดการณ์เอาไว้ ว่าพวกมันต้องทิงยานที่เสียหายไว้เบื้องหลัง ทำเอาทั้งคู่หัวเราะออกมาดังสนั่น จนคนทั้งสะพานเดินยานต้องประสานสายตามองดูพวกเขาด้วยความใคร่รู้

    ขีปนาวุธลูกหนึ่งลอยละล่องไร้จุดหมายอยู่ในอวกาศเวิ้งว้าง ยานของส่องเผ่าพันธุ์กำลังขับเขี้ยวกันอยู่เบื้องหลัง ท่อขับดันส่วนหน้าของขีปนาวุธถูกจุดขึ้น มันทำให้หัวของขีปนาวุธลูกนี้หันกลับไปยังที่รบ เครื่องยนต์หลักถูกจุดขึ้นอีกครั้ง มันพุ่งตรงไปยังยานพิฆาตที่ถูกทิ้งไว้เบื่องหลัง มันปะทะกับเครื่องยนต์ของยานที่ไร้ทางสู้ เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง เกราะโลหะของยานถูกฉีกเป็นชิ้นๆจากภายในแสงสว่างจากการระเบิดสว่างเจิดจ้าเหมือนระเบิดแสงจนทุกคนบนสะพานเดินเรือของเท็กซัสต้องใช้มือป้องตาเอาไว้ หลังจากการระเบิดและแสงมืดลง ตัวยานพิฆาตเหลือให้เห็นเพียงแค่ครึ่ง อีกครึ่งถูกฉีกเป็นชิน จากยานเกราะหนาสูงค่ากลายเป็นเศษขยะอวกาศในเวลาเพียงอึดใจ ด้วยฝีมือของเจ้าหน้าทีอาวุธแห่งยานเท็กซัสและขีปนาวุธลูกเล็กๆเพียงลูกเดียว แม้จะเสียยานไปหนึ่งลำกองยานของเดสโทรเยอร์ยังคงดาหน้าผ่านห่าขีปนาวุธเข้ามาหาเท็กซัส

    “เสร็จไปหนึ่ง” นาวเกเตอร์พูด “ที่เหลือคงต้องฝากให้ปืนใหญ่ไออ้อนจัดการแล้วมั้ง”

    “ปืนใหญ่ล๊อกเป้าแล้วครับ” เจ้าหน้าทีอาวุธรายงาน “ขอคำสั่งยิง”

    “เราพร้อมแล้วค่ะ”ดอกเตอร์แม็กพูดขึ้น

    “ยิงปืนใหญ่จากนั้นทำการข้ามเวลาได้”ไมเคิลสั่ง ไม่มีใครขานรับคำสั่งของเขา เจ้าหน้าทีอาวุธส่งคำสั่งต่อไปยังพลปืนของปืนใหญ่แต่ละกระบอก ลำแสงสีฟ่าอ่อนพุ่งออกจากปืนขนาดใหญ่ทั้งสอบสองกระบอก ลำแสงเหล่านั้นโดนเข้ากับยานลำต่างๆอย่างจัง ยานแต่ละลำถูกฉีกเป็นชิ้นๆอย่างรวดเร็วเหมือนเอาปืนฉีดน้ำแรงดันสูงไปยิงใส่กระดาษอย่างไรอย่างนั้น “ว้าว”ไมเคิลร้องหลังจากที่กองยานทั้งกองหายไปในพริบตา เศษเหล็กและก้อนเนื้อลอยละล่องในอวกาศ

    “ขออนุญาตข้ามเวลาด้วยค่ะ” ดร.แม็กซ์พูดขึ้นด้วยเสียงเรียบๆเหมือนว่าการสังหารหมู่ชาวเดสโทรเยอร์เมื่อครู่นั้นไม่เคยเกิดขึ้น

    “ไปได้”ไมเคิลพูด ดร.แม็กซ์พยักหน้ารับก่อนจะหันไปส่งสัญญาณให้นักบิน นักบินกดปุ่มบางอย่างบนแผงควบคุม ดันคันบังคับอันหนึ่งไปข้างหน้า เสียงอื้ออึงบางอย่างดังอยู่ทั่วยาน ม่านหมอกอวกาศสีฟ้าปรากฏขึ่นมาล้อมรอบตัวยานมันเกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว หมอกควันเหล่านั้นหายไปอย่างรวดเร็วพอๆกับเวลาที่มันปรากฏขึ้นมา “มาถึงแล้วครับท่าน”

    “เข้าซับสเปซ์ส เป้าหมาย โลก”ไมเคิลพูดก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกไปจากห้องโดยมีนักวิทยาศาสตร์สาวสวยตามไปติดๆ

    “จากนี้ต่อไปคุณจะทำอะไร” เธอถามถึงแผนการที่จะทำให้โลกไม่ถูกททำลาย

    “ตั้งกองกำลัง เป็นกลุ่มทหารรับจ้าง พวกเขาจะต้องมีทุนทรัพย์ ยุทธภันฑ์มากพอที่จะต่อกรกับเดสโทรเยอร์” ไมเคิลหยุดข้างหน้าต่างของยานบานหนึ่งพลางมองออกไปข้างนอก ยานเท็กซัสกำลังทำยานด้วยความเร็วเหนือแสงผ่านความว่างเปล่าของซับสเปซ์ส “เราจะสร้างกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยมีมา เราเปลี่ยนโลกให้ไปอยู่ในแบบที่เราต้องการได้ เรามีเครื่องควบคุมเวลา”

    “แต่เรายังไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเราเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์โลก” ดร.แม็กซ์ค้าน

    “เพราะงั้นเราจึงต้องมีชั้นเชิงนิดหน่อยเพื่อให้โลกเป็นแบบที่เราต้องการ” ไมเคิลพูดพลางยิ้มแสยะอย่างชั่วร้าย แสงสว่างจาการออกนอกซับสเปซ์ส ความมืดถูกแทนที่ด้วยดาวต่างๆมากมาย โลกลอยคว้างตามวงโคจร สีฟ้าของน้ำทะเล สีเขียวของแผนดินยังคงแลดูแล้วสบายใจเสมอ ไมเคิลมองดูดาวสีฟ้าที่เคยถูกทำลายไปแล้วครั้งหนึ่ง ในใจของเขาร่ำร้องว่าจะไม่ยอมให้มันถูกทำลายอีกครั้งเป็นแน่ “เราจะตั้งกองทหารรับจ้างทมิฬขึ้นมา”

    จบบทนำ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LoveSeeker : 30th December 2011 เมื่อ 18:47

  2. รายชื่อสมาชิกจำนวน 7 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  3. #2
    Stay In The Dream....
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Find me in the Dream
    กระทู้
    1,014
    กล่าวขอบคุณ
    1,000
    ได้รับคำขอบคุณ: 697
    Blog Entries
    2
    มาแล้วๆ เนื้อหายังเเน่นเช่นเคย ^^

    ---------------------------------------------------------------

  4. #3
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    413
    กล่าวขอบคุณ
    115
    ได้รับคำขอบคุณ: 240
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ 5day-ago อ่านกระทู้
    มาแล้วๆ เนื้อหายังเเน่นเช่นเคย ^^
    เพราะมันเป็นเรื่องเดิมนะสิ

  5. #4
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    The most beautiful sunset views
    กระทู้
    229
    กล่าวขอบคุณ
    478
    ได้รับคำขอบคุณ: 112
    ดีไปหน่อยยังพอมีคนช่วยฟื้นฟู บอร์ด ถึงบอร์ดเก่าผมจะไม่ค่อยโพสแต่ ก็อ่านหลายๆเรื่องอยู่นะ

    ปล แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้อ่าน แต่พอจำรูปได้
    ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน เมื่อแหงนหน้ามองท้องฟ้า ก็รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้กัน เพราะท้องฟ้าที่เรากำลังเงยหน้ามองเป็นท้องฟ้าเดียวกัน

  6. #5
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    941
    กล่าวขอบคุณ
    2,321
    ได้รับคำขอบคุณ: 348
    เย้ๆและแล้วก็กลับมา...ตัวผมโผล่ได้นิดเดียวบอร์ดล่มกันเลยทีเดียว...!!!

  7. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    941
    กล่าวขอบคุณ
    2,321
    ได้รับคำขอบคุณ: 348
    เงียบหายไปเลยน่ะท่าน....!!!

  8. #7
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    413
    กล่าวขอบคุณ
    115
    ได้รับคำขอบคุณ: 240
    วนเวียนกับข้อสอบอยู่ 55+

  9. #8
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    941
    กล่าวขอบคุณ
    2,321
    ได้รับคำขอบคุณ: 348
    คิดถึงจะตายแล้วเรื่องนี้....

  10. #9
    Keep moving forward!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    newsoral
    กระทู้
    735
    กล่าวขอบคุณ
    1,646
    ได้รับคำขอบคุณ: 246
    เจ๋ง รออ่านอยู่ ฮิๆๆๆ

  11. #10
    Stay In The Dream....
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Find me in the Dream
    กระทู้
    1,014
    กล่าวขอบคุณ
    1,000
    ได้รับคำขอบคุณ: 697
    Blog Entries
    2
    ยังคงรักษาสถิติความนานไว้อย่างเหนียวเเน่น ^^

    ปล.รออ่านอยู่ครับท่าน

    ---------------------------------------------------------------

  12. #11
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    413
    กล่าวขอบคุณ
    115
    ได้รับคำขอบคุณ: 240
    ทำ Side story ให้น้องStormwind ก่อน เพื่อเรียกจินตนาการก่อนจะจบ ครึ่งแรกปี1

  13. #12
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    941
    กล่าวขอบคุณ
    2,321
    ได้รับคำขอบคุณ: 348
    ตอนใหม่จงมาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

  14. #13
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    941
    กล่าวขอบคุณ
    2,321
    ได้รับคำขอบคุณ: 348
    โอมเพี้ยง...!!!ตอนใหม่จงมาๆ อิอิ

  15. #14
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    413
    กล่าวขอบคุณ
    115
    ได้รับคำขอบคุณ: 240

    บทที่1: การพบกันด้วยโชคชะตา

    บทที่1: การพบกันด้วยโชคชะตา

    “ทั้งหมด จัดแถว” เสียงของจ่าวัยกลางคนตะโกนลั่น เด็กวัยรุ่นจำนวนมากที่กำลังก้าวย่างลงจากเครื่องบินขนส่ง ซี-17 ตอบสนองต่อคำสั่งนี่อย่างรวดเร็วประดุจดังจ่ากองร้อยผู้นี้เป็นแม่ของเขาอย่างไรอย่างนั้น เด็กหนุ่มสาวจัดแถวตอนลึกอย่างขมักเขม่น แม้คนเหล่านี้จะไม่เคยผ่านการฝึกใดๆมาเลยก็ตาม แต่ก็สามารถจัดแถวและยืนตรงได้อย่างเป็นระเบียบ เพราะที่พื้นของลานบินได้มีการเขียนรูปรองเท้าไว้ให้เด็กหนุ่มสาวเหล่านี้เข้าแถวไว้แล้ว ถึงแม้ว่าการเข้าแถวจะดูวุ่นวายไปบ้าง แต่ในที่สุด แถวทั้งหมดก็ออกมาเป็นระเบียบเรียบร้อยดี หลังจากที่ฝุ่นจางหายไปจากลานบิน เสียงของเครื่อง ซี 17 ก็ดังกระหึ่มขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน นักบินกลับลำเครื่อง เร่งความเร็วไปตามรันเวย์ที่ยาวหลายกิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นรันเวย์แบบ 5ช่องทาง ทำให้เครื่องบิน5ลำสามารถขึ้นลงพร้อมกันได้ หรือบางครั้งอาจมากถึง10ลำเลยก็ได้

    “ทุกคน วางสัมภาระ”จ่าคนเดิมตะโกนขึ้นอีกครั้ง เขาเดินไปยังรถฮัมวีก่อนจะปีนขึ้นไปนั่งบนหลังคาของรถด้วยท่าทางทะมัดทะแมง “ขอต้อนรับเข้าสู่การทดสอบขั้นที่1” พลขับรถฮัมวีติดเครื่องรถ ไอเสียสีดำสนิดถูกพ่นออกมาตามท่อไอเสีย อโลนยิ้มที่มุมปากก่อนจะกระชับชุดวอร์มของตนให้พร้อมสำหรับการทดสอบ “วิ่งตามมา” รถฮัมวีเริ่มเคลื่อนตัว “ใครก็ตามที่ตามรถคันนี้ไปจนถึงจุดพักได้ คือผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเบื้องต้น” รถเคลื่อนตัวไปตามลานบิน เหล่าเด็กหนุ่มสาวเริ่งออกวิ่งตามรถไป ไม่นานนัก รถฮัมวีก็ตัดเลี้ยวเข้าทางเกวียน ผ่านป่าสนหนาทึบสองข้างทาง แสงแดดยามเที่ยงวันสาดส่องอยู่เหนือหัว ถ้าหากเป็นชาวยุโรป หรือใครก็ตามที่อยู่ทางตอนเหนือ อากาศเวลานี้คงจะร้อนมากสำหรับพวกเขา แต่สำหรับคนที่เกิดใกล้เส่นศูนย์สูตรอย่าง อโลนแล้ว อากาศเวลานี้ยังคงหนาวอยู่ดี แบบทดสอบที่อโลนและเด็กหนุ่มสาวหลายร้อยคนกำลังฟ่าฟันอยู่นั้น คือการคัดเลือกบุคคนเข้าประจำการของกองทหารรับจ้างทมิฬ (Black Army private military company(BAPMC)) ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาพร้อมกรุงโรม มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบสามพันปี BAPMC เป็นความฝันอันสูงสุดของเด็กที่ต้องการเป็นทหารทั้งหลาย เนื่องด้วยความโด่งดังจากหลายๆสงครามในแทบทุกยุคทุกสมัย ความเก๋าจาการกรำศึกของรุ่นพี่ และความอิสระที่มีมากกว่าทหารประจำการทั่วไป แต่ก่อนจะได้มาซึ่งความฝันของเด็กทั้งหลาย พวกเขาต้องผ่านอุปสรรค์มากมาย อโลนเป็นหนึ่งในเด็กหนุ่มไฟแรงที่แสนจะทะเยอทะยาน แต่เขาไม่รู้หรอก ว่าอะไรรอเขาอยู่บ้าง

    หลังจากวิ่งมาได้เกือบๆสี่กิโลเมตร เหงื่อของอโลนเพิ่งจะถูกขับออกมาจากร่าง เขาปาดเหงือที่ไหลออกมาตามหน้าผาก แต่สำหรับเด็กหนุ่มสาวส่วนหนึ่งนั้น หมดแรงก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ได้ และพวกเขาเหล่านั้นต้องออกจากการคัดเลือกโดยทันที และไม่มีโอกาสที่จะกลับมารับคัดเลือกได้อีกเลยตลอดชีวิต ทุกๆ สิบเมตรที่อโลนวิ่งผ่านไป จะมีเด็กหนุ่มสาวอย่างน้อยหนึ่งคนนอนหมดแรงอยู่เสมอๆ ในที่สุดอโลนก็มาถึงจุดหยุดพักของผู้หญิง รถฮัมวีที่ถูกดัดแปลงเป็นรถพยาบาลหลายคันจอดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบที่ข้างทาง ผ้ายางจำนวนมากถูกกางไว้บนพื้นเพื่อให้หญิงสาวที่มาถึงแล้วได้ทำการทดสอบขั้นต่อไป ริมผ้ายางทุกผืนจะมีทหารสาวในชุดพรางป่านั่งควบคุมดูแลการสอบคัดเลือก เพื่อไม่ให้ผู้รับการคัดเลือกหักโหมจนเดินไป อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่ใช่จุดหมายของอโลน เขาต้องวิ่งไปอีกสามกิโลเมตร เพื่อจะไปให้ถึงจุดหมายของพวกเขา ป่าสนสองเข้าทางพริ้วไหวไปตามสายลม อัตราการลดจำนวนของผู้รับคัดเลือกสูงขึ้นเรื่อยๆ จนอโลนที่ทีแรกอยู่กลางขบวน มาอยู่หน้าขบวนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ เสียงคำรามของรถถังดังขึ้นรอบๆตัวเขา นั่นเป็นสัญญาณว่าพวกเขามาถึงจุดที่ยากที่สุดของการฝึกคัดเลือกแล้ว

    จุดหยุดพักของผู้เข้ารับคัดเลือกนายทหารชั้นประทวนอยู่ห่างจากเขาไปไม่มาก จุดพักชายและจุดพักหญิงแทบไม่ต่างอะไรกันมาก หากแต่ผู้ควมคุมการคัดเลือกเป็นผู้ชายทั้งหมด สำหรับอโลนแล้วนั่นไม่สำคัญอะไรเนื่องจากว่าที่นี่ไม่ใช่จุดหมายของเขา และในที่สุดอโลนก็มาถึงจุดที่เขาต้องใช้พลังกายมากที่สุด วิ่งขึ้นเขาที่ถูกขนานนามว่า เขาผู้กล้า ระยะทางสองกิโลเมตรครึ่ง ป่าสนสองข้างทางล้มลงพร้อมกับรถถังจำนวนมากบุกผ่านต้นไม้เหล่านั้นไปพร้อมกันกับที่อโลนและเด็กหนุ่มอีกประมาณครึ่งร้อยวิ่งขึ้นไปยังยอดเขา เวลานี้ ผู้รับการคัดเลือกลดจำนวนลงไปอย่างรวดเร็ว อโลนวิ่งต่อไปโดยไม่สนใจ แรงกายแทบทั้งหมดของเขากำลังจะหมดลง เหงือไหลออกมาจนท่วมเสื้อโค๊ดสีเขียวขี้ม้าของเขา จากจำนวนครึ่งร้อย เวลานี้เหลือเด็กหนึ่งเพียงสิบสี่คน ในที่สุด อโลนก็มาถึงยอดเขาพร้อมร่างกายที่แทบไม่เหลือพลัง แม้แต่ยืนก็ยังลำบาก ขาสองข้างของเขาสั่นระริกด้วยความเหนื่อยอ่อน “ยอดเยี่ยมมาก” จ่าวัยกลางคนพูดพร้อมกระโดดลงมาจากหลังคารถ “สักวันพวกนายจะกลายเป็นนายททหารที่ดีที่สุดในโลก”เขาพูดพร้อมเดินไปรอบๆอโลน “แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น พวกนายทุกคนยังมีอะไรต้องฟันฟ่าอีกมาก” จ่าพูดพร้อมตบบ่าของอโลน “โชคดี” หลังจาการทดสอบเบื้องต้น พวกเขาถูกส่งขึ้นรถถังแบบไทบ์ 99 ที่BAPMCสั่งซื้อมาจากจีน

    อโลนนอนทอดกายบนป้อมปืนของรถ พลางมองดูท้องฟ้ายามเย็นซึ่งพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า สัมภาระของเขากองอยู่ข้างกาย เท้าของเขานั้นพาดไปบนปืนหลักขนาด 125 มม.ของรถถังคันนี้ วันนี้พวกเขาได้รับการทดสอบทางกายและใจที่หลากหลาย จากเด็กหนุ่มสาวกว่าครึ่งพันกลับเหลือรอดมาได้เพียงร้อยแปดสิบคนเท่านั้น แต่ว่าการเหล่าคนที่จะเข้ามาสอบคัดเลือกเหลืออีกหลายสิบชุด อีกทั้งยังมีคนที่ได้รับการคัดเลือกจากฐานทัพสาขาของ BAPMC อีก หลังจากจบสัปดาห์คัดเลือกแล้วจะมีทหารใหม่เข้ารับการฝึกที่นี่ราวๆสามพันห้าร้อยนาย นัยน์ตาสีน้ำตาลของอโลนมองอย่างเลื่อนลอยไปยังเมฆที่ถูกย้อมด้วยสีส้มแดง “ไง พ่อว่าที่นายทหาร” เสียงใส่เล็กๆที่น่าจะเป็นเสียงของเด็กสาวดังขึ้นจากที่ไหนสักแห่งบนป้อมปืนของไทบ์ 99 อโลนละสายตาจากก้อนเมฆเบื่องบนและมองไปยังต้นเสียง ผมสีน้ำตาลสยายไปตามสายลมที่พัดเข้ามาปะทะใบหน้าที่แนบเนียนสีขาวขาวอมชมพูของเด็กสาว นัยน์ตาสีฟ้ามองมาทางเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยน รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอดูอบอุ่นอย่างน่าประหลาดใจ ชุดวอร์มสีชมพูดูสะดุดตาและเข้ากับเธอย่างหน้าประหลาด “ก็ ไม่รู้สิ” อโลนพูดอะไรไม่ถูกเพราะรู้สึกเหมือนว่ามีพลังอะไรบางอย่างสะกดเขาไว้กับใบหน้าของเด็กสาวคนนี้

    “ชื่ออะไรล่ะ” เธอยิงคำถาม รอยยิ้มของเธอยังคงไม่จางหายไปจากใบหน้า

    “อโลน อโลน อลองเกอร์”เขาตอบพร้อมลุกขึ้นนั่ง “แล้วเธอล่ะ”

    “ฮายากุโนะ มิโกะ” เธอตอบพร้อมยื่นมือมาให้อโลนสัมผัส “ยินดีที่ได้รู้จัก คุณอลองเกอร์”


    “เรียกอโลนเถอะ ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกัน ฮายากุโนะ” อโลนสัมผัสมือของเธอ

    “เรียกมิโกะเถอะ” เธอพูดพลางคลายมือจาการสัมผัส “มันเป็นกันเองกว่าเยอะเลย” เธอใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่เขี่ยผมที่กำลังพริ้วไสวไปเหน็บไว้ที่หู อโลนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะละสายตาจากใบหน้าของมิโกะ ไปยังปลายกระบอกปืนของรถถัง “เธอขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”

    “นี่นายไม่รู้ตัวจริงๆหรอ” มิโกะพูดพร้อมรวบผมและมัดไว้เป็นทรงหางม้า “ฉันอยู่ตรงนี้ตั้งแต่รถจอดที่จุดพักของผู้หญิงแล้วล่ะ”

    “ว่าแต่ รถถังคันนี้มันจอดด้วยหรอ”อโลนถามพลางทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง

    “นี่นายเหม่อลอยหาใครอยู่ ขนาดรถถังหยุดยังไม่รู้สึกตัวเลย” มิโกะพูด “รึว่าคิดถึงแฟนล่ะ”

    “มีให้คิดถึงก็ดีน่ะสิ” อโลนตอบด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชาพลางมองไปยังก้อนเมฆอีกครั้ง “ทำไมถึงเลือกมาขึ้นรถถังคันนี้ล่ะ”

    “ก็ นี่เป็นรถคันสุดท้ายน่ะสิ” มิโกะตอบพลางจัดทรงผมของเธอ “แล้วทีแรกก็ไม่เห็นนาย เลยกระโดดขึ้นมาน่ะ”

    “เธอก็เลยซวยไปได้มาเดทกับฉันบนรถถังคันนี้สินะ”

    “ก็ประมาณนั้นล่ะมั้ง” เธอพูดพร้อมหัวเราะร่าเหมือนเด็กๆ “นี่ นายอโลน”เธอเรียกพร้อมก้มหน้าลงมาหาอโลน “ทำไมนายถึงเลือกรถคันสุดท้ายล่ะ”

    “ไม่รู้สิ เพราะจะได้เจอเธอมั้ง” สิ้งเสียงของอโลน รอยยิ้มจางๆก็ปรากฏบนใบหน้าของมิโกะ ผิวสีอมชมพูกลายเป็นสีแดงระเรื่ออย่างรวดเร็ว เธอละสายตาจากอโลนและมองไปยังป่าสนสองข้างทางเพื่อแก้เขิน “จะว่าไปก็ดีนะ มีเธออยู่ด้วยเนี่ย”

    “ทำไมหรอ”

    “คุยกันเธอแล้วฉันรู้สึกดีนะ” อโลนพูดพร้อมส่งยิ้มให้มิโกะ

    “หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกนะ” มิโกะพูดพร้อมกระโดดลงจากรถ เป็นอีกครั้งที่อโลนมัวแต่จดจ่ออยู่กับสิ่งอื่นจนไม่ทันได้สังเกตว่ารถถังที่เขาโดยสารมานั้น ได้มาถึงเขตที่อยู่อาศัยแล้ว อโลนหยิบสัมภาระของตน กระโดดลงจากรถ ก่อนจะเดินไปหานายทหารคนหนึ่ง อโลนยืนตรงและทำความเคารพอย่างแข็งขัน

    “ชื่อ” ร้อยตรีถามขึ้น

    “อโลน อลองเกอร์”

    “กองร้อยบี หมวดสาม” หมวดหนุ่มพูดต่อพลางชี้ไปยังโรงนอนหลังสุดท้าย โรงนอนเป็นอาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สร้างจากคอนกรีต ทุกๆโรงนอนสามหลังจะมีโรงนอนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสตั้งอยู่ด้านหน้าโรงนอนเสมอ “โรงนอนนายทหารอยู่ด้านหน้าโรงนอนรองสุดท้ายนั่นล่ะ”

    “ขอบคุณครับ” อโลนพูด ทำความเคารพก่อนจะเดินไปตามทางเดินที่ปูด้วยหินอ่อนขนาบสองข้างทางด้วยหญ้าที่ถูกตัดเล็มอย่างดี พระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไปแล้วเหลือเพียงแสงสี่ส้มแดงที่ย้อมอาบแผ่นฟ้าเบื้องบน และแผ่นหญ้าเบื่องล่าง อโลนเดินเข้าไปยังโรงนอนนายทหารพร้อมสัมภาระที่หนักอึ้ง อโลนทำความเคารพร้อยโทคนหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะเป็นผบ.ร้อยของเขา “อโลน อลองเกอร์ รายงานตัวครับ” ร้อยโทหนุ่มตะเบะตอบเขา

    “ตามสบาย หัวหน้าหมวด” เขาพูด “ห้องนอนของอยู่ถัดจากตู้เย็นนั่น” เขาผายมือไปทางชายหนุ่มสองคนที่กำลังจัดแจงเครื่องแบบอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง “นั่น จิมมี่ หัวหน้าหมวดหนึ่ง อเล็กซ์ หัวหน้าหมวดสอง”

    “ไง” อเล็กซ์ทักทายพร้อมโบกไม้โบกมือให้เขา

    “ไง” อโลนตอบพร้อมส่งยิ้มให้เล็กน้อย

    “หัวหน้าหมวดสาม” ร้อยโทพูดต่อพลางส่งแผ่นคลิ๊ปบอร์ดติดกระดาษหลายแผ่นมาให้เขา “เห็นบีอาร์เอ็ม(BRM=Black army Ready to eat Meal) ตรงนั้นรึเปล่า” เขาพูดพลางชี้ไปยังกล่องกระดาษกล่องใหญ่สองกล่องที่วางอยู่ในมุมหนึ่งของห้อง

    “ครับผม”

    “เอามันไปแจกให้คนของคุณ” เขาพูดพร้อมตบบ่าอโลน “ส่วนกระดาษพวกนั้นเป็นรายชื่อสมาชิกและรายข้อมูลของพวกเขา”

    “ครับผม ผมจัดการมันเอง”อโลนพูดพลางเดินไปทางกล่องบีอาร์เอ็ม เขาวางแผ่นคลิ๊ปบอร์ดบนกล่อง และย่อตัวลงจับก้นกล่อง

    “อีกอย่างนะเครื่องแบบของคุณอยู่บนเตียงในห้อง มีร้านซักรีดอยู่ที่ข้างๆกับโรงนอนกองร้อยเอนายน่าจะลองๆไปหาดูนะ”

    “ครับผม” อโลนปล่อยกล่องบีอาร์เอ็ม และเดินเข้าไปในห้อง หยิบเอาแพ๊คเสื้อผ้าออกมาวางบนกล่องบีอาร์เอ็มและเดินออกจากโรงนอนทางประตูหลัง อโลนเดินไปยังโรงนอนสุดท้ายพร้อมใช้เท้าเคาะประตูโ
    รงนอนอย่างแรง ประตูเปิดออกไม่นานหลังจากเคาะ เสียงเจอแจ้วดังลอดออกมาจากประตู อโลนเดินเข้าไปในโรงนอนวางกล่องอาร์เอ็มลงและมองไปรอบๆ เตียงสองชั้นถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบติดผนังทั้งสองด้านขั้นด้วยหน้าต่าง เด็กหนุ่มสาวกำลังนั่งๆนอนพักผ่อน บ้างจับกลุ่มคุยกัน บ้างก็กำลังจัดของลงหีบเก็บของ “สวัสดี”เขาพูด พร้อมวางกระเป๋าเป้สัมภาระลง “เวลาเจอหัวหน้าหมวดต้องทำยังไงนะ” ทหารใหม่แต่ละคนมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะกรูกันมาเข้าแถวที่ปลายเตียงของตน ทุกคนทำความเคารพเขาแต่ดูแล้วไม่พร้อมเพรียงสักเท่าไหร่

    “ดีมาก ทุกคน ยินดีที่ได้พบ ผมชื่ออโลน”เขาหายใจเล็กน้อย “อโลน อลองเกอร์” เขาพูดลางเดินตามความยาวของโรงนอน “นับแต่วันนี้ คุณอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผม มองไปรอบๆ เรามีคนหลายชนชาติที่นี่ ทั้งตะวันตก ตะวันออก”เขาเดินมาจนถึงหน้าห้องน้ำซึ่งอยู่ในสุดของโรงนอน “เรามี อเมริกัน ยิว มุสลิม มีผิวดำ” เขาหันกลับก่อนจะออกเดินอีกครั้ง “ไม่ต้องสนว่าเขาจะมาจากไหน ฐานะทางสังคมเป็นอย่างไร นับจากนี้ เราคือพวกเดียวกัน”เขาหยุดที่กลางห้องและหมุนตัวไปรอบๆ “เรามีอุปสรรค์ที่ต้องฟ่าฟันไปด้วยกัน” เขาหยุดพูด ความเงียบเข้าปกคลุมห้องทันที “นับจากนี้ เราคือพี่น้อง ตามสบายท่านทั้งหลาย” อโลนสั่งและเดินไปยังกล่องบีอาร์เอ็ม เขาหยิบมันออกมาสองสามซองก่อนจะโยนแจกให้เหล่าทหารรอบๆ “อาหารเย็นของเรา บีอาร์เอ็ม” อโลนพูด “อาหารสำเร็จรูปจากบีเอพีเอ็มซี มารับไปคนละซอง” ทหารใหม่ทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย “มีเตียงว่างรึเปล่า”เขาเอ่ยถามพลางเดินไปรอบๆอีกครั้ง

    “ครับหัวหน้า ข้างผมว่าง” อโลนไม่รีรอตรงไปยังเตียงแล้ววางสัมภาระลง เขาจัดของเข้าไปไว้ในหีบใต้เตียงและเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอน เขานั่งลงบนเตียง เปิดดูกระดาษปึกหนาที่ติดมากับแผ่นคลิ๊ปบอร์ด ในนั้นมีข้อมูลของสมาชิกทุกคนในหมวด3 รวมถึงกำหนดการณ์ของวันต่อไปว่าพวกเขาต้องทำอะไรกันบ้าง

    “ทุกท่าน” อโลนพูดขึ้น “คืนนี้เราต้องปิดไฟเวลาสามทุ่มตรง ตื่นเวลาสี่ร้อยนาฬิกา วิ่ง สี่ร้อยสามสิบนาฬิกา หกร้อยนาฬิกาผบ.ร้อยตรวจโรงนอน อาหารเช้าเวลาหกร้อยสามสิบนาฬิกา” เขาเงียบ จนทหารสมาชิกหมวดแต่ละคนเริ่มสงสัยว่ามีอะไรเป็นรายการต่อไป ต่างคนต่างมองอโลนด้วยความสงสัยและใคร่รู้ อโลนละสายตาจากกระดาษและมองดูเหล่าหนุ่มสาวในห้องที่บ้างก็มองเขา บ้างก็กำลังจัดการกับ บีอาร์เอ็ม บ้างก็นอนพักผ่อนเอาแรง “เข้าบาร์เบอร์ของกองทัพ”

    วันที่สองของชีวิตในสถาบันทหารรับจ้างไม่มีอะไรเป็นพิเศษสำหรับพวกนายทหารอย่างอโลน เนื่องจากพวกเขาถูกสอนในเรื่องการบัญชาการ การประสานงาน และกฏระเบียบต่างๆมาเป็นเวลากว่าสามปีแล้ว อีกทั้งการฝึกในช่วงแรกที่เหล่าทหารฝึกสำเร็จแต่ละคนขนานนามว่า ช่วงเนื้อแนบเนื้อ มีจ่าสิบเอกและเหล่าชั้นประทวนผู้มีประสบการณ์มาเป็นครูผึกการต่อสู้ระยะประชิดให้ อโลนจึงไม่ต้องทำอะไรมากนอกจากเรียนรู้โค๊ดรหัสต่างๆที่ใช้ในการขอกำลังหนุน ฝึกการแก้สถาณการณ์ และปฏิบัตการประสานงานกับนายทหารผู้บังคับบัญชา อีกทั้งเขายังมีเวลาเหลือมากพอที่จะสร้างสัมพันธ์กับทหารร่วมกองร้อย โดยเฉพาะ อเล็กซ์ อเล็กซ์คือเด็กหนุ่มจากตระกูลร่ำรวยในซิดนีย์ ออสเตเรีย แต่นิสันใจคอของเขานั้นกลับไม่เหมือนคนรวยทั่วไป อเล็กส์เป็นคนติดดิน เข้ากับคนอื่นได้ง่าย เพียงสามวัน อโลนและอเล็กซ์ก็กลายเป็นเพื่อนสนิดกัน หลังจากสัปดาห์แรกของการฝึกร่างกายขนาดหนักจบลง อโลนได้พบกันมิโกะสองสามครั้ง แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากมายนัก เพราะเธอมาที่สนามฝึกเพื่อนำคนที่ร่างกายไม่ไหวออกไปจากศูนย์ฝึก สัปดาห์ที่สอง เป็นสัปดาห์ที่หนักสำหรับทุกคน พวกเขาต้องฝึกการผ่านสิ่งกีดขวางต่างๆ และพวกเขาต้องเสียน้ำตาหลายลิตรให้กับห้องรมแก๊ส ช่วงกลางสัปดาห์ ทุกคนในหมวดถูกสอนให้เลิกใช้คำว่า “ปืน” กับอาวุธที่พวกเขากำลังจะถูกฝึกให้ใช้เหล่าจ่าจอมเก๋าทั้งหลายให้พวกเขาเรียกมันว่า “ไรเฟิล”

    “ทหาร”จ่าวัย60ปีร้องตะโกนลั่นต่อหน้าหมวดของอโลน เขาเป็นจ่าสิบเอกคนหนึ่งที่คอยมาฝึกสิ่งต่างๆให้พวกเขา ในกรณีของจ่าสิบเอก จร มูดดี้ คนนี้คือผู้เชียวชาญพิเศษในเรื่องของอาวุธประเภทต่างๆ ริ้วรอยบนไปหน้าและผมสีน้ำตาลแซมขาวของเขาบ่งบอกอายุได้เป็นอย่างดี เขายืนอยู่หน้ากล่องไรเฟิลหลายกล่อง “วันนี้พวกนาย จะได้รู้จักกับเครื่องจักรสังหารที่น่าหลงไหลชื่อว่า ไรเฟิล” เขาเดินเข้ามาหาอโลนที่ยืนอยู่หน้าสุดของแถว เขาตะคอกบางย่างใส่อโลน เสียงของเขาดังและแตกพร่าจนอโลนฟังไม่ได้ศัพท์ แล้วจ่ามูดดี้ก็เดินกลับไปที่กล่องไรเฟิล พร้อมหยิบของในกล่องออกมา ปืนเล็กยาวสีดำสนิดแบบบูลปัปซึ่งมีกลไกการบรรจุกระสุนไปไว้หลังเครื่องลั่นไก “นี่คือสาวสวยจากเบลเยี่ยม เอฟเอ็น เอฟ 2000 ไรเฟิล บูลปัป 5.56*45 มม. แต่พวกนายไม่มีโอกาศได้สัมผัสเธอแน่ๆ เพราะพวกนายมันไม่มีบุญว่ะ” หลังพูดจบ จ่ามูดดี้ก็วางไรเฟิลกลับลงไปในกล่องตามเดิมก่อนจะเดินไปยังกล่องถัดไปและหยิบเอาปืนเล็กยาวอีกกระบอกออกมา “ญาติห่างๆกับเอฟ 2000 ไรเฟิลจู่โจม สการ์ รุ่นมาร์ค 17 กระบอกนี้ใช้กระสุน 7.62*39 มม. เป็นหนึ่งในสาวสวยของเรา เป็นหนึ่งในไรเฟิลที่พวกนายเลือกใช้ได้” เขาวางมันลงอีกครั้งแล้วเดินไปยังกล่องถัดไป “พี่หมีสุดสวย เอเอ็น 94 5.45*39มม. ไม่ต้องห่วงเรื่องความสมบุกสมบัน เธอกินขาด” เขาเดินไปยังกล่องสุดท้าย “หมีสาวสุดเซ็กซี่อีกตัว เอเค 107 5.45*39มม พวกนี้คือตัวอย่างของไรเฟิลที่พวกนายมีโอกาศได้ใช้ในการฝึก ในคลังแสงเรายังมีอีกเยอะ แต่สำหรับ เอฟ 2000มีไว้สำหรับพวกที่มือถึงเท่านั้น”

    “จ่าครับ” คนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังอโลนร้องขึ้น

    “ว่าไงทหาร”

    “เราจำเป็นต้องใช้ปืนที่เราเลือกไปตลอดรึเปล่าครับ”

    “ไม่จำเป็นหรอกพลทหาร” จ่ามูดดี้พูดด้วยเสียงเรียบๆพลางเดินเข้าไปหาเขา “นายสามารถซื้อไรเฟิลมาใช้เอง หรือจะเบิกจากคลังแสงของเราก่อนก็ได้ นั่นเป็นความสะดวกสะบายของทหารรับจ้าง ที่ทหารทั่วไปไม่มี” มูดดี้เข้าใกล้เขาจนเขาสามารถเห็นรูขุมขนของจ่าวัยทองคนนี้ได้อย่างชัดเจน “เมื้อกี้นายพูดว่าปืนใช่รึเปล่า” มูดดี้ กระซิบทำเอาผู้ถูกถามถึงกับอึกอัก จ่ามูดดี้หันไปทางอโลน “หัวหน้าหมวด ขอหมีเซ็กซี่ให้ผมที”อโลนทำตามในทันที เขานำไรเฟิลออกจากกล่องและยื้นให้มูดดี้ จ่าหันกลับไปหาทหารโชคร้ายอีกครั้ง “นายเรียกมันว่าอะไรนะ”เขาพูดพร้อมเขย่าไรเฟิลในมือ

    “ป...ปะ..ปืนครับผม” ทหารหนุ่มตอบอย่างตะกุกตะกัก

    “ฉันจะบอกนายอีกครั้งว่านี่คือไรเฟิล”มูดดี้พูดพร้อมยื่นปืนเล็กยาวให้ทหารหนุ่ม “ถือไว้” เขาทำตามจ่าโดยทันที “แล้วนายรู้รึเปล่าว่าอะไรคือปืน” หลังจากนั้นทหารหนุ่มผู้โชคร้ายต้องเดินกำไรเฟิลไปในมือหนึ่ง กำน้องชายของตนเองไว้ในอีกมือหนึ่ง ระหว่างเดิน เขาต้องตะโกนว่า “นี่คือไรเฟิล”พลางชูไรเฟิลขึ้นไปในอากาศ “สำหรับศัตรู” จากนั้นกูต้องเขย่าน้องชายของตนพลางตะโกนว่า “นี่คือ ปืน สำหรับสาวสวยสุดเซ็กซี่” ตลอดสัปดาห์ที่2ของการฝึกพื้นฐาน พวกเขาถูกฝึกควบคู่กันทั้งฝึกร่างกาย ฝึกการต่อสู้ระยะประชิด และการดูและรักษาไรเฟิลของตน
    ในที่สุดการฝึกก็เข้าสู่ช่วงที่สอง ช่วงที่เหล่าทหารรุ่งพี่เรียกกันว่า ช่วง “ยิงเป็ด” พวกเขาต้องเริ่มใช้อาวุธประจำกายของตน ผึกการยิงเป้า ใช้ดาบปลายปืน ฝึกการผ่านสิ่งกีดขวางเป็นหมวด แต่ก่อนหน้านั้น เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อยในวันสุดท้ายของช่วงเนื้อแนบเนื้อ

    จบบที่1

  16. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  17. #15
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    941
    กล่าวขอบคุณ
    2,321
    ได้รับคำขอบคุณ: 348
    ใช่ตอนเดิม รึเปล่า ครับ...รึว่าเอามาทำใหม่หมด...อิอิ

    อันที่แล้วตัวผมพึ่งออก เลย อิอิ

  18. #16
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    413
    กล่าวขอบคุณ
    115
    ได้รับคำขอบคุณ: 240
    ตอนเดิมๆครับ เดี๋ยวว่างๆ(หลังสอบ) จะปล่อยตอนพิเศษ

  19. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  20. #17
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    fox6000.php
    กระทู้
    2,163
    กล่าวขอบคุณ
    4,975
    ได้รับคำขอบคุณ: 5,898
    สมัครตัวละครทำไงครับ

  21. #18
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    413
    กล่าวขอบคุณ
    115
    ได้รับคำขอบคุณ: 240
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ pone123 อ่านกระทู้
    สมัครตัวละครทำไงครับ
    กรอกแบบฟอร์มครับ แบบฟอร์มอยู่เรบแรก

  22. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  23. #19
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    fox6000.php
    กระทู้
    2,163
    กล่าวขอบคุณ
    4,975
    ได้รับคำขอบคุณ: 5,898
    เขียนที่กระทู้นี้เลยใช่ไหมครับ

  24. #20
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    941
    กล่าวขอบคุณ
    2,321
    ได้รับคำขอบคุณ: 348
    ครับผม ตอบในนี้เลย งิงิ

  25. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  26. #21
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    fox6000.php
    กระทู้
    2,163
    กล่าวขอบคุณ
    4,975
    ได้รับคำขอบคุณ: 5,898
    แล้วอื่นๆนี้คืออะไรบ้างครับ

  27. #22
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    fox6000.php
    กระทู้
    2,163
    กล่าวขอบคุณ
    4,975
    ได้รับคำขอบคุณ: 5,898
    ขอหน่อยละกัน


    ++Killer Class++
    ชื่อ-สกุล: อีวาน อังเดร
    ชื่อเล่น: อาร์โจม
    เพศ:ชาย(มั้ย)
    อายุ: 23
    สัญชาติ:รัสเซีย

    ยศ: จ่าสิบเอก
    Class: ทหารราบ
    อาวุธที่ถนัดที่สุดส่วนใหญ่เก่งปืนช่วงสงครามโลกครั้งที่2) ปืนหลัก M1 Garand ปืนพก Mauser รุ่น C96 Luger รุ่น P08 และปืนลูกโม่ (หาลูกกระสุนได้ไงเนี่ย เก่งจัง)

    ลักาณะทางกาย:ตัวใหญ่พอดู สูง186 พอมีกล้ามเนื้ออยู่บ้างหน้าตา[IMG][/IMG] ดวงตาสีนำ้้้้้้้ตาลเข้ม ผมสีดำ ชอบใส่เสื้อคลุม

    ลักษณะนิสัย:เป็นคนขี้เล่น ชอบคุยกับคนอื่นทำให้มีเพื่อนมาก ชอบเรี่องตลก ชอบแต่งนิยาย แต่ตอนออกรบจะฆ่าอีกฝ่ายทุกคน ยกเว้นผู้ไม่มีทางสู้

    เหล่าทัพ: บก

    ใช้ได้เปล่าครับถ้าไม่ได้ก็บอกนะ (ถ้าจะให้แก้ไขอะไรก็บอกได้นะครับ)
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pone123 : 26th September 2011 เมื่อ 10:54

  28. #23
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    fox6000.php
    กระทู้
    2,163
    กล่าวขอบคุณ
    4,975
    ได้รับคำขอบคุณ: 5,898
    อีกคน

    ++Duck Class++
    ชื่อ-สกุล:มาริโอ โลโปซ โกบาซ
    ชื่อเล่น:เชมา
    เพศ:ชาย
    อายุ: 18
    สัญชาติ:เม็กซิโก

    ทหารชั้น: ประทวน
    อาวุธที่ถนัดที่สุด:[IMG][/IMG][IMG][/IMG]

    ลักาณะทางกาย:ออกจะเป็นคนตัวเล็ก แต่แรงมีมากกว่าที่เห็น ผมสีนำ้้้้้้้้ตาลอ่อนตาสีฟ้า ใส่แว่นสีขาว หน้าตาโทรมเหมือนคนไม่ได้นอน


    ลักษณะนิสัย:เป็นคนออกเงียบๆ เหมือนคนเก็บกด เพื่อนของเขาเป็นผู้หญิงซะส่วนใหญ่ และด้วยท่าทางเหมือนผู้หญิงจนถูกล้อว่าเป็น เกย์ นิสัยลึกๆนั่นอ่อนโยนชอบช่วยเหลือผู้อื่น

    เหล่าทัพ: บก

    อื่นๆ:ที่เข้ามานี่เพราะเขาจะฝึกร่างกายเพื่อจะไปล้างแค้นให้พ่อแม่เขาที่โดนแก๊งมาเฟียฆ่าตาย
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pone123 : 26th September 2011 เมื่อ 11:01

  29. #24
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    fox6000.php
    กระทู้
    2,163
    กล่าวขอบคุณ
    4,975
    ได้รับคำขอบคุณ: 5,898
    ตอนใหม่มาเร็วๆนะครับ

  30. #25
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    413
    กล่าวขอบคุณ
    115
    ได้รับคำขอบคุณ: 240
    ไม่ต้องโพต์ติืิดๆกันมากก็ได้ อาจจะโดนข้อหาปั้มประทู้ ยูเซอร์โดนแบบไม่รู้ด้วย
    แต่ตัวละครนี่ เท่าที่ดูผ่านๆ บอกตรงๆว่ารอดยาก เดี๋ยวมาดูอีกที


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top