Assault gun : รถถังล่ารถถัง!!
Jagdpanther อันดุร้ายของ นาซีเยอรมัน
ปัจจุบันนี้ เราๆหลายคน คงเคยเห็นรถถังกันจนชินตากัน มีหลากหลายขนาดและรูปแบบ ติดตั้งอาวุธสังหารที่ ไม่มีใครปฎิเสธได้
แต่ถ้าหากย้อนกลับไปเกือบ 70 ปีก่อน รถถังถือได้ว่าเป็นเรื่องใหม่แห่งยุคเลยทีเดียว การปรากฎตัวของรถถังในสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้สามารถทำลายแนวรบที่ ทหารราบไม่สามารถฝ่าฟันไปได้
จนในสงครามโลกครั้งที่ 2 ประทุขึ้น รถถังก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะฝ่าย เยอรมนี ที่ให้ความคล่องตัวและอานุภาคทำลายล้างของรถถังให้เป็นประโยชน์ ในยุทธวิธีที่เรียกว่า Blitzkrieg หรือ Lightning War ในภาษาอังกฤษนั่นเอง
วันนี้กระผมขอมาแนะนำ รูปแบบของรถถังประเภทหนึ่งซึ่งมีหน้าที่ต่อกรกับรถถังและป้อมปราการโดยตรง มันคือ Assault Gun นั่นเอง
Assault gun นั้น ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือรถถังที่ไม่มีป้อมปืน เหลือไว้เพียง ตัวถังกับปืน ทำหน้าที่หลักในการสนับสนุนทหารราบ นั่นเอง ย้อนกลับไปในสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้อ่านลองจิตนาการครับว่า คุณเป็นวิศวกรที่ทำงานให้กับกองทัพ แล้วได้รับคำสั่งให้ผลิตรถถังที่สามารถทำลายรถถังข้าศึกและป้อมปราการได้อย่างราบคาบ โดยที่ไม่ต้องผลิตรถถังรุ่นใหม่ทั้งหมด นั่นคงเป็นคำถามที่อาจหนักใจหลายๆคนเลยครับ ดังนั้นวิธีการที่พวกเค้าใช้ที่สะดวกง่ายดายที่สุดของเค้าคือ เอาป้อมออก แล้วยัดปืนลงไปตรงๆเลย
คำถามต่อมาคือ แล้วมันดีอย่างไร คำตอบที่ได้คือ
ข้อแรก มันง่าย!! ถูกแล้วครับ มันง่าย เพราะไม่ต้องไปร่างและออกแบบรถถังใหม่ คุณแค่เอารถถังที่มีมา ถอดป้อมออก ยัดปืนกลับเข้าไป แค่นี้คุณก็ได้รถถังใหม่แล้ว
ข้อสองคือ ขนาดเล็กและเบาลง เพราะ ลองจินตนาการนะครับ สมมติรถถังคันหนึ่งน้ำหนักทั้งหมดคือ 40 ตัน โดยเป็นตัวถัง 25 ตัน ตัวป้อม 10 ตัน และ ปืนหนัก 5 ตัน พอคุณเอาป้อมออก รถถังคุณก็จะหนักเพียงแค่ 30 ตันเท่านั้น และการถอดป้อมออกยังทำให้รถถังถูกสังเกตได้ยากมักขึ้นครับ รถถังก็จะเหมือน เพียงกล่องสี่เหลี่ยมที่มีสายพานแล้วครับ
ข้อสาม อาวุธที่โหดขึ้นและเกราะหนาขึ้น ทำไมหรือครับ เพราะหากสมมติจากข้อสองนะครับ รถถังตอนนี้มีน้ำหนัก เหลือ 30 ตัน หมายความว่า 10 ตันที่หายไปสามารถแทนที่ด้วยปืนที่ขนาดใหญ่ขึ้น หนักขึ้น ร้ายแรงกว่าเดิม ดังนั้นคุณอาจเอาปืนกระบอกเดิมที่หนัก 5 ตันออก แล้วใส่ปืนขนาด 10 ตัน ที่ใหญ่กว่าเดิมได้โดยน้ำหนักรวมของรถถังเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 5 ตันเท่านั้น แต่กับมีอานุภาพร้ายแรงกว่าเดิมและยังคงเบากว่ารถถังแบบปกติถึง 5 ตัน หรือาจสามารถเพิ่มเกราะให้กับมันให้มากกว่ารถถังรูปแบบปกติได้อีกด้วย
แต่แน่นอนครับ ในเมื่อของฟรีไม่มีในโลก และรถถังที่ดีทุกอย่างก็ไม่มีในโลกแห่งสงครามเหมือนกันครับ เพราะเพื่อแลกกับสามข้อที่ได้มา มันต้องเสีย ของไปหนึ่งอย่างที่สำคัญครับ นั่นคือ การเล็งเป้าหมายที่ยากขึ้นครับ เพราะในเมื่อมันเสียป้อมปืนแล้ว การเล็งแต่ละครั้งคุณต้องหันตัวรถทั้งคันในการยิงเป้าหมาย ซึ่งนั่นหมายถึง ความเป็นความตายเลยทีเดียว คุณช้าเพียงเสี้ยววินาที คุณก็กลายเป็นเศษเหล็กที่ท่วมไฟแล้ว
เอาหละครับทีนี้เราลองมาดูตัวอย่างของเหล่า Assault Gun ที่ได้สร้างชื่อในสมรภูมิต่างๆครับผม
Sturmgeschutz III (StuG III)
Marder II
Jagdpanther
SU - 76
SU - 122
ISU - 122
M7 Priest
The End
Credit : Me , Wikipedia , http://www.militaryfactory.com and http://www.rmutphysics.com/charud/OL...war2/stug3.htm