เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา
-
23rd March 2012 16:08
#26
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: ธวัชชัย ไพรวัลย์
ชื่อเล่น: ตั้ม
เพศ: ชาย
อายุ: 25
รูปร่างหน้าตา:
[IMG]<a href="http://pic.free.in.th/id/b867c8864e24af47891c10e9ebb9a5d8" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/ia/rapin_pisek.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>[/IMG]
นิสัยโดยละเอียด: รูปร่างเล็กและผอมเกร็ง แต่คล่องแคล่วว่องไว ผิวคล้ำและใบหน้าไม่เคยปรากฏรอยยิ้ม มีฝีมือในการยิงปืนและธนูแม่นยำ ผิวหนังภายในเสื้อนั้นลายพร้อยไปด้วยอักขระอาคมที่สักมาจากพระธุดงค์ซึ่งเขาเชื่อว่าทำให้เขาแคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่างๆ ชื่นชอบที่จะสูบบุหรี่ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ว่า “แค่เสพเพื่อให้กลิ่นและรสช่วยคลายเครียด”
มีสัญชาติญาณการ ‘ล่า’ สิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ดูเหมือนมีความถนัดในทุกๆด้านแต่ยกเว้นด้านการจีบหญิง ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวขอยอมแพ้ ยามว่างชอบที่จะหยิบเอาสมุดปกหนังขึ้นมาเขียนนิยายที่เกี่ยวกับโรคระบาด หรือง่ายๆคือ ซอมบี้ นั่นเอง
สิ่งที่ชอบ: ทำความสะอาดปืน .460 เวเธอร์บี ที่เป็นมรดกตกทอดมาจากปู่ทวด ‘รพินทร์ ไพรวัลย์’, สูบบุหรี่ ‘มาร์ล โบโร่ แบล๊คเมนทอล’ ซึ่งถือเป็นของหายากและมีแค่ในตลาดมืด, แต่งนิยายที่ไอราวัณแซวว่า “ไม่เคยวางขายซักที”, อยู่เงียบๆคอยจับตามองความเคลื่อนไหวในป่า
สิ่งที่เกลี่ยด: ความเย็นชาของตัวเอง
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย: ตามหาขุมสมบัติ “เพชรพระอุมา” ที่มีเรื่องเล่ากันมาเกี่ยวกับประวัติของปู่ทวด
อื่นๆ: สืบเชื้อสายของรพินทร์ ไพรวัลย์ นายพรานผู้เก่งฉกาจแห่งยุคมาโดยตรง ทำให้เขามีสัญชาติญาณการล่าสัตว์ สะกดรอย และหาจุดตายอย่างแม่นยำ และสามารถใช้ปืนไรเฟิล .460 เวเธอร์บี ที่เขาสามารถใช้ได้เพียงผู้เดียว เนื่องจากมีแรงถีบมหาศาลขนาดคนตัวใหญ่ๆยังยอมแพ้ แต่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นตัวของเขานัก เพราะมักอยู่คนเดียวในป่า
ชื่อ: ไรเฟิ่ล .460 เวเธอร์บี แมกนั่ม
ขนาดกระสุน กระสุนชนิด 11.6 มม. (.458 นิ้ว)
ความจุแม็กกาซีน: บรรจุมือแบบไรเฟิ่ลโบราณ
รูปร่าง:
[IMG]<a href="http://pic.free.in.th/id/c6c42942eb1474e7dca260e53b736ddb" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/is/i2460.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>[/IMG]
ปลีกย่อย : ใช้หัวกระสุนในขนาด 500 เกรน ความเร็วของวิถีกระสุนประมาณ 2,600 ฟิต/วินาที เกิดแรงปะทะ 7,507 ฟุต-ปอนด์ หรือประมาณ 4 ตัน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Stormwind : 23rd March 2012 เมื่อ 16:12
-
-
23rd March 2012 18:53
#27
ลงตัวละครแล้วนะครับ ขอสัญชาติอื่นนะครับได้ไหมเอ่ย
-
-
23rd March 2012 20:04
#28
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
Rex
ลงตัวละครแล้วนะครับ ขอสัญชาติอื่นนะครับได้ไหมเอ่ย
อนุมัติเฉพาะรัสเซียครับ ขอเป็นรัสเซียแท้นะขอรับ งั้นผมขอใช้แค่ตัวแดงนะครับ
นิยาย:การทหาร พจญภัย วิทยาศาสตร์
-
-
23rd March 2012 20:52
#29
ได้หมดล่ะ ขอไม่ไทยเหมือนชาวบ้าน
-
-
24th March 2012 16:28
#30
-
-
25th March 2012 12:59
#31
ชื่อ-สกุล: เจิดจรัส ขจัดภัย
ชื่อเล่น:เพลิง
เพศ:ชาย
อายุ: 19
รูปร่างหน้าตา:
หน้าตาหล่อใช้ได้ ร่ายกายโดยรวมสมส่วน สูง 175 ผมสั้นดำ
นิสัยโดยละเอียด:เป็นคนเฮฮา รักเพื่อนฝูง ไม่ชอบหาเรื่องใส่ตัวแต่ถ้าเห็นใครลำบากเป็นต้องช่วยเสมอ เผ่นอย่างเก่ง ทำอาหารเก่ง อารมณ์ดีตลอดเวลา โกรธยาก
สิ่งที่ชอบ:อาหารอร่อยๆ การผจญภัย
สิ่งที่เกลี่ยด:กลิ่นเลือดและซากศพ(เกลียดแต่ไม่ได้กลัว) คนเลว
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:ช่วยชีวิตคน
อื่นๆ:ชอบใช้ปืนพกคู่(เล็งหัวแบบแม่นบ้างไม่แม่นบ้าง)และมีดสั้น(ย่องเสียบ)
กรุณาใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง
-
-
25th March 2012 13:16
#32
สำหรับคนที่อยากส่งสัตว์ประหลาดให้เหล่าตัวเอกเชือด โดยสัตว์ประหลาดเปล่านี้ คือระดับทั่วไปนะครับ ไม่ใช่ระดับบอส เพราะอย่างนั้นอย่าครีมาโหดร้ายจนเกินไปล่ะ
ชื่อ: Worm
ประเภท: สัตว์กลายพันธุ์
ที่อยู่อาศัย เขตทะเลทราย
รูปร่างหน้าตา
เป็นหนอนขนาดยัก แรกเกิดขนาดร่างกายจะประมาณ ยาว1ม. กว้าง 0.45ม. โตเต็มวัยขนาดไม่แน่นอน ขนาดร่างกายจะเพิ่มขึ้นตามอายุปีละ 1เมตร (ยิ่งอายุเยอะยิ่งโหด)
ออกไข่เดือนละ20ฟองและตัวแม่จะใช้เวลาฟักไข่20วันแล้วจึกออกหาอาหารด้วยความหิวสุดๆ ส่วนเนื้อของมัน ย่างแล้วอร่อยใช้ได้
ลักษณะนิสัย ถ้าไม่หิวหรือไม่มีใครไปทำให้มันตื่นจะจำศีลอยู่ใต้ดินโดยจะอยู่รวมกันเป็นฝูงรวมกันฝูงละ2-5ตัว
ลักษณะการต่อสู้จะพุ่งขึ้นฟ้าอย่างแรกจากใต้ดินแล้วพุ่งเข้าหาเหยื่อ
อาวุธ เขี้ยวอันแหลมคม
จุดเด่น เมื่อตัวที่มีขนาดร่างกายใหญ่ยักษ์ขยับจะเกิดความรู้สึกเหมือนแผ่นดินไหว
กรุณาใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง
-
-
25th March 2012 18:18
#33
จะเริ่มตอนไหนหว่า หึ หึ หึ ~
-
-
25th March 2012 18:24
#34
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
nakiann123
จะเริ่มตอนไหนหว่า หึ หึ หึ ~
ตอนที่เห็นนั่นแหละ หึ หึ หึ~~~ (/me โดนตบ 55+)
โดยทั่วไปผมลงเดือนละตอนแค่นั้นแล~~~ 555+
นิยาย:การทหาร พจญภัย วิทยาศาสตร์
-
-
25th March 2012 19:17
#35
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
LoveSeeker
ตอนที่เห็นนั่นแหละ หึ หึ หึ~~~ (/me โดนตบ 55+)
โดยทั่วไปผมลงเดือนละตอนแค่นั้นแล~~~ 555+
เดี๋ยวจับย่างซะเลย หึ หึ หึ ~
-
-
25th March 2012 20:10
#36
อยากอ่านงั้น....เล่นเกมกันดีกว่า
ให้ทุกคนบอกชื่อปืนในรูป พร้อมประเทศผู้ผลิตครับ
ถ้าตอบถูก ผมลงนิยายให้ทันที มีเวลาให้ถึงวันพรุ้งนี้เวลา1800นาฬิกาขอแค่คำตอบที่ถูกแค่คนเดียวครับ
แต่ถ้าตอบผิด... ^^~~
ผมจะลงนิยายวันที่1เดือนหน้าเวลาประมาณ 1000นาฬิกานะครับ โชคดีครับทุกคน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LoveSeeker : 25th March 2012 เมื่อ 22:06
นิยาย:การทหาร พจญภัย วิทยาศาสตร์
-
-
25th March 2012 20:38
#37
ชื่อ-สกุล: นคราช พรีทรอฟ (ลูกครึ่ง ไทย รัชเซีย ชื่อรัชเซียคือ นิโคไล พรีทรอฟ)
ชื่อเล่น:นิค
เพศ:ชาย
อายุ: 35
รูปร่างหน้าตา:ลูกครึ่งไทยรัซเซีย ผิวขาวออกคล้ำแดงนิดๆ ตัวสูง ผมดำสนิดเหมือนคนไทย ตายสีเขียวขุ่นๆ มีเคราเล็กน้อย แต่ตัวชุดรัดรูป ใส่เกราะที่ตัว คล้ายๆกับสายลับ เวลาอ่านหนังสือบางทีก็ใส่แว่น เพราะตาไม่ดีแก่แว้ว 555+
นิสัยโดยละเอียด:มีความเป้นผู้นำสูง มีประสปการ์ณในการรบและแทรกซึม เคยเป็นอดีตสาบลับของรัชเซีย และภาระกิจนี้ถูกส่งมาให้ช่วยเหลือทางประเทศไทย มีความเป็นคุณธรรมสูง แต่เค้าก็ปฏิเสธที่จะนับถือศาสนาใดๆทั้งสิ้น ค่อนข้างเงียบขรึม ชอบอยู่คนเดียว แต่ลุยก็ลุยเป็นทีม บางคนบอกว่าเค้าฆ่าทหารฝ่ายศัตรูไปกว่า 500 คน ทำให้เค้าเป็นคนเก็บตัวเงียบแบบนี้ นิโคไล ชอบบอกกับตัวเองเสมอ ว่าเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักฆ่า แต่สภาพการ์ณบีบบังคับให้เค้าจ้องหยุดความรุนแรงด้วยการใช้ความรุนแรง นิโคไลไม่ดืมเหล้าและสูบบุหรี่ เค้าแทบจะไม่เค้าสถานเริงรมเลยด้วยซ้ำ โดยให้เหตุผลว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้เค้าลืมอดีตและคราบเลือดที่เปื้อนหัวใจของเขาได้
สิ่งที่ชอบ: แกะสลักเศษไม้เป็นรูป กวางทำท่าทางต่างๆ
สิ่งที่เกลี่ยด: คนไม่รักษาคำพูด และ พวกทรยศ ไม่รักพวกพ้อง
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:อยากกอดเมียและลูกของเค้า แต่ถึงกระนั่นก็ทำไม่ได้เพราะพวกเค้าได้จากไปแล้ว
หนึ่งในบุคลากรทางทหารของ ศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย เอ5148 แล้วหัวหน้าหน่วยแทรกซึมข้าศึก
อาวุธที่ใช้คือ FN Five Seven คู่ โดยติดมีดไว้ที่ปากกระบอกทั้งสองข้าง และยังเชี่ยวชาญการใช้มีด(กริด)คู่เป็นอย่างมาก ส่วนปืนอีกชนิดที่ชิบใช้คือปืนจากชาติพ่อของเค้าเอง AK
อาวุธดี ไม่ได้ทำให้คนเก่ง ปากกาดี ไม่ได้ทำให้ ฉลาด
-
-
25th March 2012 20:49
#38
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
asalost
ชื่อ-สกุล: นคราช พรีทรอฟ (ลูกครึ่ง ไทย รัชเซีย ชื่อรัชเซียคือ นิโคไล พรีทรอฟ)
ชื่อเล่น:นิค
เพศ:ชาย
อายุ: 35
รูปร่างหน้าตา:ลูกครึ่งไทยรัซเซีย ผิวขาวออกคล้ำแดงนิดๆ ตัวสูง ผมดำสนิดเหมือนคนไทย ตายสีเขียวขุ่นๆ มีเคราเล็กน้อย แต่ตัวชุดรัดรูป ใส่เกราะที่ตัว คล้ายๆกับสายลับ เวลาอ่านหนังสือบางทีก็ใส่แว่น เพราะตาไม่ดีแก่แว้ว 555+
นิสัยโดยละเอียด:มีความเป้นผู้นำสูง มีประสปการ์ณในการรบและแทรกซึม เคยเป็นอดีตสาบลับของรัชเซีย และภาระกิจนี้ถูกส่งมาให้ช่วยเหลือทางประเทศไทย มีความเป็นคุณธรรมสูง แต่เค้าก็ปฏิเสธที่จะนับถือศาสนาใดๆทั้งสิ้น ค่อนข้างเงียบขรึม ชอบอยู่คนเดียว แต่ลุยก็ลุยเป็นทีม บางคนบอกว่าเค้าฆ่าทหารฝ่ายศัตรูไปกว่า 500 คน ทำให้เค้าเป็นคนเก็บตัวเงียบแบบนี้ นิโคไล ชอบบอกกับตัวเองเสมอ ว่าเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักฆ่า แต่สภาพการ์ณบีบบังคับให้เค้าจ้องหยุดความรุนแรงด้วยการใช้ความรุนแรง นิโคไลไม่ดืมเหล้าและสูบบุหรี่ เค้าแทบจะไม่เค้าสถานเริงรมเลยด้วยซ้ำ โดยให้เหตุผลว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้เค้าลืมอดีตและคราบเลือดที่เปื้อนหัวใจของเขาได้
สิ่งที่ชอบ: แกะสลักเศษไม้เป็นรูป กวางทำท่าทางต่างๆ
สิ่งที่เกลี่ยด: คนไม่รักษาคำพูด และ พวกทรยศ ไม่รักพวกพ้อง
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:อยากกอดเมียและลูกของเค้า แต่ถึงกระนั่นก็ทำไม่ได้เพราะพวกเค้าได้จากไปแล้ว
หนึ่งในบุคลากรทางทหารของ ศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย เอ5148 แล้วหัวหน้าหน่วยแทรกซึมข้าศึก
อาวุธที่ใช้คือ FN Five Seven คู่ โดยติดมีดไว้ที่ปากกระบอกทั้งสองข้าง และยังเชี่ยวชาญการใช้มีด(กริด)คู่เป็นอย่างมาก ส่วนปืนอีกชนิดที่ชิบใช้คือปืนจากชาติพ่อของเค้าเอง AK
ส่วนสี่น้ำเงินมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องครับ ขอเอาออก
ไม่อนุญาติให้ในประวัติมีตำแหน่งทางทหารครับ
ในแบบฟอร์มไม่มีสวนของอาวุธที่ใช้ครับผม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LoveSeeker : 25th March 2012 เมื่อ 20:53
นิยาย:การทหาร พจญภัย วิทยาศาสตร์
-
-
26th March 2012 10:18
#39
รอ รอ รอ...... รอเธอกลับมา...แต่ไม่รู้ว่าจะนานเท่าไหร่
ตอบคำถามเรื่องปืนครับ
ปืนในภาพคือ MK. 777 ผลิตโดยสหรัฐ
รู้มาเท่านี้ ถูกไม่ถูกไม่รู้ครับ แหะๆ
-
-
26th March 2012 10:25
#40
บทที่1 : วันธรรมดา
มันเป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว หลายร้อยปีที่โลกถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของผู้อยู่อาศัย เมื่อมนุษย์มาถึงจุดสูงสุด ก็ย่อมตกลงมาเป็นธรรมดา จากตึกสูงเสียดฟ้า กลายเป็นฝุ่นผงในพริบตา อารยธรรมอันเจริญรุ่งเรืองหายลับไป มนุษย์ก้าวเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง หลายร้อยปีมาแล้วที่มหาระเบิดลูกแรกได้เกิดระเบิด หลายร้อยปีมาแล้วที่มนุษย์ต่อสู้ดิ้นรนอย่างไร้ซึ่งจุดหมาย ไร้ซึ่งความหวัง จนวันหนึ่ง วันที่กลุ่มคนที่ไร้ชื่อเสียง กลุ่มคนที่แสนธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ แต่โชคชะตาของพวกเขานั้นไม่ธรรมดา เพราะพวกเขา คือความหวังของการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง ความหวังที่จะช่วยโลกอันบอบช้ำใบนี้
สุริยะ สาดแสงกล้า ชายหนุ่มอายุ19ผู้เพิ่งผ่านหลักสูตรนักเรียนทหารจากสถาบันหลังสงครามมาได้ไม่นาน เขาเป็นคนรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลาด้วยนัยน์ตาอันคบกริบและใบหน้าทีได้รูป สุริยะเป็นทหารที่ถูกฝึกมาให้ใช้อาวุธประเภทปืนกลประจำหมู่รบซึ่งเพื่อนๆทุกคนให้การยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ยิงปืนกลประจำหมู่ได้ฉลาดที่สุด เขาได้คะแนนเป็นที่หนึ่งในวิชายิงกดหัว และยิงคุ้มกัน อีกทั้งยังจบจากสถาบันด้วยเกียรตินิยมอีกด้วย
สุริยะหยิบเสื้อแจ็คเก็ตสีเขียวจากเตียงชั้นล่างมาสวมทับเสื้อยืด สุริยะแต่งตัวด้วยกางเกงขายาวสีเขียวเข้มเช่นเดียวกับแจ็คเก็ต ร้องเท้าคอมแบทสีดำไม่ได้รับการดูแลมานานจนไม่มีความเงาวาวเหลือเลยแม้แต่น้อย ซองปืนพกติดอยู่กับเข็มขัดหนังสีดำที่เอวขวา เขายืนอยู่ในห้องที่เขาอาศัยอยู่ร่วมกันกับเพื่อนของเขา ห้องนี้เป็นห้องเล็กๆ เตียงสอยชั้นอยู่ที่ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งเป็นประตูออกไปยังทางเดิน ใกล้กลับประตูเป็นที่อยู่ของตู้เก็บเสื้อผ้า ซึ่งเขาและเพื่อนแบ่งกันคนล่ะครึ่ง ฝั่งตรงข้ามของตู้เสื้อผ้าคือประตูที่นำไปสู่ห้องน้ำ
สุริยะหยิบปืนพกอัตโนมัติกระบอกหนึ่งขึ้นจากเตียง ใส่ซองกระสุน ปลดค้างไสลด์เพื่อให้กระสุนเข้าสู่ลำกล้อง ขึ้นห้ามไกและลดนกปืน ก่อนจะเก็บปืนเข้าสู่ซองปืนที่เอวขวา นัดเดทสาวรึไง เสียงห้าวๆทักจากเตียงชั้นบน เจ้าของเสียงนั้นคือธีระพล คนกล้า เพื่อนที่สนิทที่สุดของสุริยะนั่นเอง ธีระพลเป็นคนตัวสูงพอพอกับสุริยะ แต่เจ้าเนื้อและดูร่างอวบกว่าเล็กน้อย ผมลองทรงนั้นทำให้เขาดูเป็นคนธรรมดา แต่เขานั้นไม่ธรรมดาเลย ธีระพลเป็นคนใจร้อน มุทะลุ ระห่ำ เป็นหนึ่งในพลปืนกลประจำหมู่ที่ดีทีสุด ด้วยความสามารถในการข่มขู่ศัตรู ด้วยเสียงตพะโกนกดด่า และการยิงที่จะยิงจนปืนขัดลำกล้องหรือไม่มีกระสุนให้ยิง
ใช่ สุริยะตอบสั้นๆก่อนจะเดินไปยังกระจกที่ติดกับประตูหน้าห้องน้ำ
สิบเอก สุริยะ พลพูดด้วยน้ำเสียงทีจริงทีเล่น หน้า พร้อม ผม พร้อม เครื่องแต่งกาย พร้อม ขอการอนุญาตออกเดทครับ
ไม่ต้องมาล้อเลียนเลย สุริยะพูดในขณะที่จัดทรงผมของตนให้เข้าที่ อยู่บ้านทำตัวดีๆล่ะ อย่าไปเยี่ยวรดกำแพงนะ เขามองไปยังพลที่กำลังมองหน้าเขา สุริยะตีคิ้วใส่พลก่อนเดินออกจากห้อง ทางเดินภายในอาคารพักอาศัยเต็มไปด้วยประตูห้อง และมีบันใดที่สุดทางเดิน อาคารพักอาศัยเป็นอาคารคอนกรีตห้าชั้น ทุกชั้นเป็นที่พักอาศัยของบุคลากรทางทหาร สุริยะเดินไปตามทางเดิน ก่อนจะลงบันใด เขาและธีระพลอาศัยอยู่ที่ชั้นบนสุดของอาคาร เขาออกจากอาคาร ผ่านทหารยามที่สะพายปืนเล็กยาวจู่โจมสองนาย ก่อนจะมุ่งทางไปทางตะวันตกของศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย
ศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย คือศูนย์ที่ถูกตั้งขึ้นโดยรัฐบาลรัสเซีย แค่ละศูนย์จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในเรื่องของอาวุธ กระสุน ยานพาหนะ และยารักษาโรค แต่ว่าในทุกศูนย์ จะมีอำนาจการตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ขึ้นกับใคร แต่ว่าการตัดสินใจจะต้องไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาลรัสเซีย
กำแพงสูงสิบสองเมตรตั่งตระหง่านอยู่รอบด้านของศูนย์ ตรงกลางของกำแพงทิศตะวันตกและตะวันออกคือประตูเหล็กกล้าบ้านใหญ่ สูงสิบเมตร หนาสามสิบเซนติเมตร ประตูเปิดปิดด้วยระบบไฮโดรลิค ทหารยามในเครื่องแบบพรางป่าพร้อมอาวุธประจำกายเดินตรวจตาบนกำแพง หอคอยสูงสิบหาเมตรพร้อมปืนกลหนักขนาด20 มิลลิเมตร ตั้งตามกำแพงเป็นระยะ
สุริยะเดินมาจนถึงประตูตะวันตก ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักของเขาไม่มาก เวลาเย็นแบบนี้ ประตูตะวันตกจะมีการสัญจรหนาแน่นมาก เพราะทหารต้องการลงไปยังเขตอยู่อาศัยเพื่อซื้อหาอาหารและของใช้จำเป็น แฟนสาวของเขามารอเขาอยู่ก่อนแล้ว เธอเป็นเด็กน่ารัก ตัวผอมสูง ผมตรงยาวประบ่า นัยน์ตาสีน้ำตาลใต้แว่นสายตากรอบสีเหลี่ยมมองมายังสุริยะด้วยสายตาสบายใจ ริมฝีปากบางๆส่งยิ้มจางๆให้กับเขา เขารีมเดินเข้าไปให้ราตรีกาล แฟนสาวอย่างรวดเร็วพลางยิ้ม ในหัวใจของเขามีเพียงความรู้สึกดีใจอยู่เล็กๆ เพราะเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วที่ทั้งคู่ไม่ได้พบหน้ากับย่างนี้
ไง เจ้าหญิง สุริยะทักแฟนสาวและมองดูชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนที่ดูเข้ากับเธอเป็นอย่างดี ไม่ได้เจอกันนาน เหมือนเวลาหยุดลงทางกลางความวุ่นวาย ทั้งสองสบตากัน แม้ว่ามันเป็นเวลาไม่กี่วินาที แต่ก็เหมือนกับนานเป็นปี
พี่ซันคะ หญิงสาวเอ่ยเบาๆ เจ้าหญิงมีอะไรจะบอกค่ะ เธอจับมือของสุริยะเอาไว้ทั้งสองข้าง เราเป็นแค่พี่น้องกันเถอะ ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นความว่างเปล่าทันทีที่สิ้นเสียงของเธอ สุริยะไม่เคยคิด ไม่เคยเตรียมใจว่าวันหนึ่ง เธอจะพูดคำนี้ เหมือนดั่งเข็มเป็นล้านๆเล่มทิ่มแทงหัวใจของเขาในคราวเดียว หนูยังลืมคนเก่าไม่ได้ คำพูดประโยคถัดมาเหมือนช่วยฝังเขาทั้งเป็น หนูจะกลับไปคืนดีกับกล้าค่ะ เธอปล่อยมือของสุริยะซึ่งเวลานี้เหมือนดั่งถูกสะกดโดยคำพูดของราตรีกาล เธอหันหลังและเดินผ่านประตูออกไปยังเขตอยู่อาศัย ทิ้งให้สุริยะอยู่คนเดียวกับความคิดที่ว่างเปล่า จิตใจที่เจ็บปวด เขาหันหลังกลับ คิดเพียงว่าจะไป ไปให้ไกลที่สุด แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน เขาผ่านอาคารพักอาศัย ผ่านศูนย์กระจายข่าว ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าคลังแสง นี่คงเป็นที่แห่งเดียวที่เขาสามารถทำใจให้สงบได้ เขาเดินเข้าไปภายใน ห้องแรกเป็นห้องเล็กๆหลังห้องมีโต๊ะตัวหนึ่งและทหารยามพร้อมอาวุธอีกสองนาย สุริยะเดินผ่านเข้าไปยังห้องถัดไป เขาเลี้ยวซ้ายเดินไปตามทางเดิน จนไปถึงประตูอีกบาน ครั้งนี้มีทหารยามสี่นายเฝ้าอยู่หน้าประตู หนึ่งในนั้นคือนายทหารชุดสีกรมทากพร้อมหมวกแก๊ปลาดตระเวน สุริยะเดินตรงไปหาทหารเหล่านั้นพร้อมนำสมุดเอกสารยืนยันตัวตนออกจากระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ต เขายืนมันให้นายทหารก่อนที่นายทหารวัยกลางคนจะพยักหน้าให้เขา เขารับเอกสารคืนและเดินเข้าไปในห้อง
ล็อกเกอร์มากมายเรียงรายอยู่ภายในห้อง แต่ละล็อกเกอร์มีหมายเลขของมัน นับตั้งแต่001 เขาเดินไล่ตามแถวของล็อกเกอร์จนถึงล็อกเกอร์หมายเลข306 เขาไขกุญแจเปิดล็อกเกอร์ เวลานี้จิดใจของเขากำลังคิดฟุ้งซ่านมากมายไม่ว่าจะเป็นความทรงจำเก่าๆ เวลาที่มีความสุข หรือแม้แต่วิธีการที่จะนำเธอกลับมา เบานำปืนกลเบาคาราครอฟ เค-17คอมแพ็คออกมาจากตู้พร้อมอุปกรณ์ทำความสะอาด เขาสะพายปืนไว้ที่ไหล่ข้างหนึ่ง ถืออุปกรณ์ทำความสะอาดในมืออีกข้างและเดินไปยังโต๊ะเก้าอี้ที่ถูกจัดไว้ เขาวางปืนบนโต๊ะ นั่งลงและเริ่มถอดอุปกรณ์ทีละชิ้นจากปืน เขาเริ่มทำความสะอาด เริ่มตั้งแต่ใช้แส่ขัดลำกล้องปืน ปัดฝุ่น เช็ดชิ้นสวนภายใน ลงน้ำมันและสารหล่อลื่น จากนั้นก็ประกอบปืนกลับเข้าที่ เขากระชากลูกเลือนเพื่อตรวจสอบความเรียนร้อยก่อนจะขึ้นห้ามไก
นั่งด้วยได้ไหม เสียงใส่ๆเสียงหนึ่งดังจากข้างหลัง สุริยะหันไปมองเจ้าของเสียงอันน่าหลงใหลนั้น นิศารัตน์ แม็คทราวิส หญิงสาวพลแม่นปืน ผู้ที่มีคะแนนสูงสุดในสถาบันหลังสงคราม ตัวของเธอค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหญิงสาวคนอื่น อีกทั้งรูปร่างของเธอนั้นยังดูดีไม่แพ้หญิงสาวคนใด ทั้งส่วนโค้งเว้าหรือหน้าอกหน้าใจ ใบหน้าอันชวนลุ่มหลงบาดใจชายหลายๆคนในศูนย์ ริมฝีปากอิ่มเอิบ เข้ากับสันจมูกที่ได้รูปและนัยน์ตาที่กลมโต ผมสีบรอนซ์ทองถูกมัดรวบไว้ด้านหลัง เธออยู่ในชุดเสื้อแจ๊คเก็ตลายพรางป่า และกางเกงขายาวลายเดียวกัน ร้องเท้าคอมแบ็ทสีดำนั้นไม่มันเงา แต่ก็ดูสะอาดสะอ้าน เข็มขัดของเธอเป็นที่อยู่ของปืนสามกระบอก คือปืนพกอัตโนมัติที่เอวขวา และปืนกลมือสองกระบอกที่หลัง สายสะพายของปืนไรเฟิลซุ่มยิงอัตโนมัติพาดผ่านไหลขวาของเธอ เสื้อของเธอถูกสวมทับด้วยเกราะอ่อนสีกรมทาก บนเวสเต็มไปด้วยกระเป๋าใส่ซองกระสุนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีระเบิดมืออีกสองลูก
นั่งสิ สุริยะพูด เธอไม่รอช้าเดิมเขามาหาและว่างปืนไรเฟิลลงบนโต๊ะใกล้สุริยะ
ฉันจะไปรับกระสุน เอาอะไรไหม
5.45 240นัดกับซองกระสุน4ซอง
รอนี่นะ
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เธอก็กลับมาพร้อมลังกระสุน และขวดโคล่าสองขวด เธอวางลังแลโคล่าหนึ่งไว้ตรงหน้าของสุริยะ เป็นอะไรไปล่ะ หน้าตาเศร้าๆ เธอถามขณะหยิบกล่องกระสุน 7.62*51มม. ออกจาลัง เปิดกล่อง แทกระสุนออก และยัดกรุสุนใส่ซองกระสุนปืนไรเฟิลของเธฮ
รู้ดีนะแก สุริยะตอบพร้อมหยิบของบางอย่างกล่องอุปกรณ์ทำความสะอาดและใส่ลงไปที่ปากซองกระสุนแบบกล่องสี่เหลี่ยมของเขา มันเข้าได้พอดีกับซองกระสุนเขาหยิบเอากระสุนจากในกล่องซึ่งกระสุนถูกใส่กับตับกระสุนเอาไว้แล้ว เขานากระสุนสิบนัดมาทางให้ตรงปากซองกระสุนและกดเข้าไปอย่างแรง กระสุนทั้งสอบนัดเรียงตัวเข้าไปอยู่ในซองกระสุนอย่างง่ายดาย
เครื่องช่วยบรรจุ นิศารัตน์พูด ไปหามาจากไหน
กองคาราวาน อาทิตย์ที่แล้ว สุริยะตอบในขณะที่ยังคงบรรจุกระสุนเข้าซองกระสุนต่อไป ฉันอกหัก เขาพูดเสี่ยงเอื่อย
หา!นิศารัตน์ร้องขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ เกิดอะไรขึ้น
เธอรักษาสัญญาสุริยะพูดเสียงเรียบเฉย เธอจะไม่มีคนใหม่ เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตากับนิศารัตน์ นัยน์ตาของเขากำลังบอกกับเธอ บอกเธอว่าใจของเขานั้นเจ็บแค่ไหน ปวดร้ายแค่ไหน ท้อแค่ไหน สิ้นหวังแค่ไหน แต่เธอแค่กลับไปหาคนเก่า
นิศารัตน์โอบไหล่ของสุริยะ เธอรู้ว่าเวลานี้ไม่มีคำพูดใดที่สามารถปลอบประโลมใจของชายหนุ่มได้ ไม่มีแม้สิ่งใดที่จะทำให้อาการปวดร้าวชายหนุ่มทุเลาลง แกต้องลืมมันให้ได้นะ เธอพูด เธอไม่อาจหาคำพูดสวยหรูใดๆมาปลอบใจเขาได้ เธอรู้ รู้จากสายตาของเขา ว่าแผลนั้นลึกเกินกว่าจะที่เธอจะช่วยเยียวยาได้ แกต้องเดินต่อไป
ทำไมโชคชะตาต้องรังแกฉันด้วย เขาพูดก่อนจะกับไปใส่กระสุนปืนเข้าสู่ซองกระสุนที่สอง นิศารัตน์ล้วงเอาที่เปิดขวดออกมาจากกระเป๋าเวส และเปิดขวดโคล่าให้สุริยะ ฉันไม่เข้าใจ
แกไม่จำเป็นต้องเข้าใจ เธอพูดและเปิดขวดของเธอ แต่แกต้องยอมรับมัน
แกเคยบอกฉัน ว่าแกชอบคนๆหนึ่ง แต่ว่าคนๆนั้นมีแฟนแล้วใช่ไหม
ใช่ นิศารัตน์ตอบและยกขวดขึ้นจรดปาก
แกทำใจนานรึเปล่า นิศารัตน์ดื่มโคล่าเข้าไปสอง-สามอึก ก่อนจะตอบเพื่อนของเขา
จนถึงวันนี้ ฉันยังทำใจไม่ได้เลย เธอยกขวดขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา และจ้องมองดูมันเหมือนกำลังจ้องดูใบหน้าคนที่เธอรัก ดื่ม แต่ความเศร้าของเรา เธอพูดและก็ดื่มโคล่าเหมือนกับดื่มสุราอย่างไรอย่างนั้น แม้ว่าสุริยะอยากจะดื่มเหล้ามากกว่าที่จะดื่มโคล่าก็ตาม แต่เขาจำเป็นต้องมีสติ มีสติในเวลาที่เขาอ่อนแอที่สุด เขายกขวดขึ้นจรดปากและดื่ม เขาดื่มอย่างไม่หยุด ดื่มจนหมดทั้งขวดในคราวเดียว นิศารัตน์มองดูเขาพร้อมกับขำในลำคอ
ขำอะไรวะแก สุริยะบรรจุกระสุนซองที่สองจนเสร็จ และเริ่มบรรจุซองที่สาม
โคล่านะเว้ยไม่ใช่เหล้า ฮา ฮาฮ่า เธอพูดและวางขวดที่เหลือโคล่าอยู่ครึ่งหนึ่งลงบนโต๊ะ ค่อยๆดื่มก็ได้ เวลาของการแลกเปลี่ยนความทุกข์และเยียวยาแผลใจของกันและกันก็จบลงอย่างรวดเร็วเมื่อเสียงประกาศจากเครื่องขยายเสียงดังขึ้น โปรดฟัง ถึงบุคลาการทางทหารทุกคน ที่ไม่มีหน้าที่ประจำกะยาม มีอาวุธหนักอยู่ใกล้ตัว และกำลังอยู่ในบริเวณประตูทิศตะวันออก ไปรายงานตัวกับ พันโทอโลน อลองเกอร์โดยทันที สุริยะเร่งความเร็วของการบรรจุกระสุนจนซองกระสุนซองที่สี่ถูกบรรจุจนเต็มอย่างรวดเร็ว
ฟังดูเหมือนว่าเขาเรียกเรานะ สุริยะพูดพร้อมใส่ซองกระสุนเข้าตัวปืน และเก็บซองอื่นๆไว้ในกระเป๋าที่ติดเข็มขัดด้านหลัง ไปกันเถอะ เขาดึงคันรั้งจนสุดและปล่อยคันรั้ง
ตกลง นิศารัตน์พูดและสะพายปืนเล็กยาวของเธอ ทั้งสองลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกไปจากคลังแสง ทั้งคู่ใช้เวลาไม่นานนักในการไปถึงประตูตะวันออก ทหารในเครื่องแบบพรางป่าสองนาย และในเครื่องแบบชุดทำงานเต็มยศหนึ่งนายยืนรอพวกเขาอยู่แล้ว ชายในเครื่องแบบเต็มยศนั้นเป็นใครไปไม่ได้ เขาคือพันโทอโลน เขาเป็นคนตัวสูง ศีรษะล้าน ร่างกายกำยำ มีรอยแผลเป็นเป็นทางยาวตั้งแต่กลางคิ้วซ้าย ผ่านตา จนไปถึงกลางแก้ม ไม่ว่าสิ่งใดที่สร้างรอบแผลเป็นไว้ มันทำให้ตาข้างซ้ายของเขาบอดด้วย หมวกแก๊ปลาดตระเวน มีเครื่องหมายยศเป็นดาวลายปักสองดวงเรียงกันในแนวนอน อีกสองคนเป็นทหารประจำการธรรมดา ทั้งสองมีเกราะอ่อนสีดำสวมทับอยู่ รวมทั้งยังสวมหมวกกันกระสุนที่คลุมด้วยผ้าลายพรางป่า
ซัน นิศอโลนพูดเมื่อทั้งสองเดินเข้าไปหาพร้อมๆกับที่ทหารนายหนึ่งขับรถเข้ามา รูปร่างของมันดูคล้ายรถจีพอย่างมาก ไม่นึกว่าจะเป็นพวกเธอ เขาหันไปกางแผนที่บนฝากระโปรงรถ พลทหาร นี่ซัน และนิศ เขาแนะนำทั้งสองให้ทหารประจำการรู้จัก นักเรียนที่ดีที่สุดในสถาบัน เขามองดูแผนที่เหมือนกำลังหาบางอย่าง ซัน ริน นี่ จ่าสิบโท อังเดร มิยาโนวิค เชฟชูคอฟ เรียกว่าเชคอฟก็ได้ เขาเป็นหัวหน้าปฏิบัติการ เขาพูดและแบมือไปทางเชคอฟ เขาเป็นคนรูปร่างใหญ่ ตัวสูง รอยสักตามตัวดูน่ากลัว ใบหน้าที่ได้รูป สันจมูกที่โดงตามสไตล์ยุโรป มีเพียงผมสีชมพูที่โผล่ออกจากหมวกกันกระสุนเท่านั้นที่ดูขัดกับบุคลิกของเขา อีกคนคือจ่าสิบตรี ไอราวัณ เหนือท้องนภา ครูสอนวิชาเครื่องยิงลูกระเบิด พวกเธอก็น่าจะรู้จักอยู่แล้วนิ เขาแนะนำคนที่เหลือ ไอราวัณเป็นชายหนุ่มร่างใหญ่ไม่ต่างจากเชคอฟ เรามีสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดี กองคาราวารจากทางเหนือถูกซุ่มโจมตีที่นี่ เขาชี้จุดบนแผนที่ ศัตรูคือโจร ไม่ทราบจำนวนและสังกัด คาดว่ามีอาวุธครบมือรวมถึงยานยนต์หุ้มเกราะ ภารกิจง่ายมาก ฆ่ามัน แล้วคุ้มกันกองคาราวานให้มาถึงที่นี่อย่างปลอดภัย
ยานยนต์หุ้มเกราะของเราล่ะครับ เชคอฟภามขึ้น
กำลังส่งกำลังบำรุงไปที่ฐานยิงฟีนิกซ์ เราก็เลยเหลือรถเคลื่อนที่เร็วแบบนี้ ผมแนะนำให้พวกคุณออกเดินทางได้แล้ว ผมไม่มั่นใจว่าทหารรับจ้างจะต้านทานพวกโจรได้นานแค่ไหน
รับทราบ ทั้งสี่รับก่อนกระโดดขึ้นรถ โดยสุริยะรับหน้าที่ขับรถ
เขากลับรถและขับผ่านประตูก่อนจะเลี้ยวขวาไปตามถนนสี่เลนส์ รถเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เชคอฟและไอราวัณเตรียมอาวุธของตนเพื่อให้พร้อมกับการปะทะ โดยที่อาวุธของเชคอฟเป็นปืนไรเฟิลรูปร่างเก้งก้างที่ชื่อ คาราครอฟ เออาร์2024 ส่วนของไอราวัณเป็นปืนไรเฟิลโบราณรุ่นเอ็ม4พร้อมเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม203 รถเลี้ยวออกจากถนนสี่เลนส์เข้าสู่ถนนใหญ่ สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าหนาทึบที่กลายพันธ์จนมีลำต้นใหญ่กว่าปกติมาก พวกเขาขับไปครูหนึ่งก่อนที่เชคอฟจะบอกให้จอด ทั้งสี่ช่วยกันซ่อนพรางรถก่อนออกเดินเท้า เสียงการยิงต่อสู้กันดังสนั่น
พวกเขาเดินฝ่าเข้าไปในป่าโดยมีเชคอฟเดินนำพวกเขา เสียงปืนสงบลงแล้ว นั่นคือสัญญาณบอกให้พวกเขาเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิม เพราะมันเป็นไปได้ว่าทหารรับจ้าถูกจัดการหรือกลุ่มโจรถูกจัดการก็ได้ พวกเขามาถึงจุดที่กองคาราวานถูกโจมตี มันเป็นสามแยก มีเส้นทางคอนกรีตเล็กๆ แยกออกไปจากถนนใหญ่ รถของทหารรับจ้างหงายเอียงอยู่ข้างทางเหมือนถูกชนจนเสียหลักพลิกคว่ำ รถบรรทุกของกองคาราวานกำลังถูกค้นโดยกลุ่มโจรสี่คน ร่างของทหารรับจ้านอนตายเกลือนกลาด บนพื้นเต็มไปด้วยเลือดและปลอกกระสุนปืน พ่อค้าจากกองคาราวานนั่งเรียงแถวกัน พวกเขาถูกังคับให้เอามือวางไว้บนหัว โจรสองคนพร้อมอาวุธปืนพกลูกโม่ยืนคุมพวกเขา อีกสามคนกำลังรวบรวมอาวุธและกระสุน โจรเหล่านี้แต่งตัวด้วยเสื่อ หนังสัตว์และเกราะหนังยางรถ โจรคนหนึ่งที่ประจำในรถหุ้มเกราะสอดส่ายปืนกลเบาที่ติดกับรถไปมา เพื่อเฝ้าระวังการโจมตี แต่ทว่า โจรเหล่านี้ยังขาดความระวังตัว พวกมันทุกคนหันหลังให้กลุ่มของเชคอฟที่หลบอยู่ข้างทาง
โอเค นี่คือแผน ฉันกับไอจะบักเข้าไปจากทางถนนคอนกรีต เขาพูดพร้อมวาดรูปสามแยกบนพื้นดิน และเขียนลูกศรแทนการบุกของเขา ซันนายข้ามไปอีกฝั่ง หามุมเหมาะๆ รู้ใช่ไหมว่าต้องเล็งยังไง
ห้ามให้พ่อค้าอยู่ในวิถีกระสุน หรือต้องมีที่กำบังไม่ให้กระสุนไปโดน
เยี่ยม นิศ คุณอ้อมไปทางปีก หามุมยิงเหมาะๆ ที่จะส่องพวกมันได้ทุกคน เพราะเมื่อซันเริ่มยิง พวกมันจะหาที่กำบัง คุณต้องอ้อมไปหลังพวกมันแล้วก็เก็บพวกมันซะ
รับทาบ
เอาล่ะทุกคน เริ่มยิงได้ทันทีที่เห็นรถเกราะคนนั้นระเบิด ไปได้ นิศพยกหน้ารับก่อนแยกตัวเข้าไปในป่า
ชายหนุ่มทั้งสามหันหลังกลับและวิ่งข้ามถนนอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครสังเกตุเห็น สุริยะแยกตัวจาก เชคอฟและไอราวัณไปยังจุดยิงกดหัวของเขา ทหารทั้งสองนายคลานต่ำไปตามหมู่แมกไม้รอบตัวจนมาถึงถนนคอนกรีตที่เหมาะแก่การโจมตี ด้วยการที่สามารถยิงใส่รถหุ้มเกราะได้ และยังมีรถบรรทุกคอยบังกระสุนไม่ให้โดนเหล่าพ่อค้าอีกด้วย ทั้งสองหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่สองต้น ที่มีขนาดใหญ่และหนาพอที่จะป้องกันกระสุนให้พวกเขาได้ ระยะ เชคอฟถามขึ้นและนำอุปกรณ์ทรงกระบอกบางอย่างสวมเข้าไปในปากกระบอกปืน
ห้าสิบ บวกลบห้า ไอราวัณตอบและบรรจุกระสุนแบบเจาะเกราะเข้าสู่เครื่องยิงลูกระเบิด พร้อมยิง
นายใช้กระสุนอะไร เชคอฟถามก่อนจะล้วงอะไรระเบิดที่รูปร่างคล้ายจรวดสีแดงออกมาสวมเข้าไปกับอุปกรณ์ที่เขาสวมเข้าไปก่อนหน้า
ระเบิดแรงสูงสองหน้าที่ (High explosive dual purpose)
งั้นนายยิงก่อน ฉันจะยิงซ้ำ
ตกลง ไอราวัณตอบและนั่งคุกเข้าลงข้างๆต้นไม้ ซึ่งเชคอฟก็ทำอย่างเดียวกัน เขากางศูนย์เล็งของเครื่องยิงลูกระเบิดออกมาและเล็งไปยังรถหุ้มเกราะ เขาเหนี่ยวไก เสียง ตับ ดังขึ้นจากเครื่องยิงลูกระเบิด ลูกระเบิดลอยตรงเข้าหารถหุ้มเกราะ เปลือกนอกของระเบิดกะเทาะเกราะด้านนอกและทะลุเข้าไปภายในก่อนเกิดระเบิดขึ้น สะเก็ดระเบิดบินสะท้อนกลับไปมาภายในรถ ส่งเสียงดัง คลอกับเสียงร้องอย่างทรมานของพลปืนประจำรถ เชคอฟเหนี่ยวไกทันทีที่เกิดการระเบิด กระสุนปืนไรเฟิลเข้าปะทะตัวจุดชนวนดินของระเบิดที่อยู่ปลายปืน ระเบิดถูกดินขับกระแทกส่งออกไป มันลอยเข้าหารถหุ้มเกราะ แต่ครั้งนี้เป็นระเบิดแรงสูงต่อต้านยานยนต์ มันระเบิดทันทีที่เข้าปะทะ แก๊สร้อนหลังไหลเข้าไปภายในรถหุ้มเกราะ มันละลายทุกอย่างที่อยู่ภายใน ไฟก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและเริ่มไหม้ร่างของพลปืนประจำรถ
สุริยะเหนี่ยวไกปืน กระสุนชุดแรกโบยบินเข้าหากลุ่มโจรที่กำลังรวบรวมอาวุธ คนหนึ่งโดนกระสุนเข้าอย่างจัง อีกสองคนเมื่อรู้ตัวว่าถูกลอบโจมตีจึงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปหลบหลังรถของทหารรับจ้าง สุริยะเปลี่ยนระบบการยิงจากชุดเป็นระบบอัตโนมัติ และเหนี่ยวไกปืนกราดกระสุนไปยังรถของทหารรับจ้างและรถหุ้มเกราะ เหล่าโจรรู้ตำแหน่งของพลปืนกลหนุ่มและหันไปยิงตอบโต้สุริยะ เสียงปืนกลดังแข่งกับเสียงปืนพกและปืนเล็กยาว โจรคนหนึ่งที่คุมตัวพ่อค้าเอาไว้ถูกกระสุนของนิศารัตน์เข้าที่อกและสิ้นใจทันที ก่อนที่คนที่สองจะถูกยิงจนสิ้นใจตามไป
เชคอฟและไอราวัณประทับปืนไรเฟิลเล็งไปยังโจรที่อยู่บนรถบรรทุก ทั้งสองเหนี่ยวไกแทบจะพร้อมกัน กระสุนจากปืนทั้งสองกระบอก เจาะเข้าร่างโจรผู้โชคร้ายจนคอหลุดออกจากร่าง โจรที่เหลืออีกาสองคนรีบกระโดดลงจากรถบรรทุกและหาที่กำบัง
ใครใช้ให้นายเล็งตัวเดียวกันฉันวะ ไอราวัณพูด
เล็งให้พลาดน้อย เชคอฟตอบและโผออกจากที่กำบัง ประจัญบาน เขาร้องตะโกน และวิ่งตรงเข้าไปยังจุดปะทะ ตามมาติดๆด้วยไอราวัณ กระสุนปืนกลเป็นชุดห้าถึงแปดนัดยังคงกระหน่ำกดหัวเหล่าโจรอย่างดุดันจนเชคอฟและไอราวัณไปถึงรถบรรทุก เสียงปืนกลของสุริยะก็หยุดลง เขาหยุดยิง บรรจุกระสุน และเปลี่ยนระบบการยิงเป็นยิงชุดเพื่อหลีกเลี่ยงการยิงพวกเดียวกันเอง
ลุย เชคอฟพูดเบาๆและเดินไปตามรถ ไอราวัณก็ทำเช่นเดียวกันแต่เดินไปในทิศทางตรงข้าม ปืนเล็กยาวประทับกับไหล่ในท่าพร้อมยิง สายตามองสอดส่ายหาเป้าหมาย เชคอฟก้อมตัวต่ำและอ้อมหน้ารถบรรทุก โจรสองคนอยู่ในวิถีกระสุนของเขา พวกมันหลบอยู่หลังรถของทหารรับจ้าง และอาจรอดชีวิตได้เพราะว่านิศารัตน์นั้นไม่มีมุมยิง เชคอฟเหนี่ยวไก กระสุนสามนัดเรียงกันออกจากปากกระบอกปืน นัดแรกถูกซอกคอของโจรคนหนึ่ง ส่วนอีกสองนัดก็เจาะเข้ากลางตัวของโจรอีกคนจนหมดสภาพต่อสู้ เสียงของการลั่นกระสุนสี่นัดดังขึ้นจากอีกฝั่งพร้อมกันกับที่เสียงไรเฟิลซุ่มยิงของนิศารัตน์ดังขึ้น สามคนร่วง ไอราวัณร้อง รถบรรทุกเคลียร์ เชคอฟไม่พูดอะไร เขาเดินไปหาโจรที่กำลังนอนดิ้นทุรนทุราย สะพายปืนไรเฟิลไว้ที่ไหลด้านขวา ชักปืนพกอินทรีทะเลทรายออกจากซองปืนและเล็งไปยังโจรคนนั้นก่อนจะเหนี่ยวไกปืน กระสุนเจาะเข้าที่ท้ายทอยของโจร นั่นปลิดชีพเขาโดยทันที เลือดและปลอกกระสุนมากมาย อยู่ตามพื้นถนน กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเขม่าของดินขับลอยอบอวลอยู่ในอากาศ
พื้นที่เคลียร์ เชคอฟร้อง รวบรวมอาวุธเก็บกระสุน สุริยะสะพายปืนกลเบา และเดินออกมาจากป่าด้วยท่าทางสบายๆ แต่มือยังคงอยู่บริเวณด้ามปืนพกของเขา ไม่นานนักนิศารัตน์ก็เดินออกมาจากป่าพร้อมรอยขีดข่วนตามมือและใบหน้า เชคอฟและไอราวัณกลับไปยังที่ซ่อนรถ และทิ้งให้สุระและนิศารัตน์เก็บอาวุธและกระสุนจากศพ เหล่าพ่อค้ารีบขึ้นรถบรรทุกเพื่อตรวจสอบความเสียหายของสินค้า
ได้ยิงใครบางคนแล้วรู้สึดดีขึ้นไหมล่ะ นิศารัตน์ถามขึ้นในขณะที่พลิกศพทหารรับจ้างให้นอนหงาย
ยังหรอก ฉันไม่ได้คะแนนสูงสุดนิ สุริยะพูดและเหน็บแนมเธอ ซึ่งนั้นทำให้เธอขำออกมาเบาๆ เขาปลดซองกระสุนจากปืนไรเฟิลจู่โจมของทหารรับจ้าง เก็บมันใส่กระเป๋า และกระชากคันรั้งปืน ก่อนจะหักคันรั้งขึ้นเพื่อให้คันรั้งค้าง เขาสอดส่ายสายตาดูภายใน สนิมจำนวนมากเกาะอยู่ตามกลไกต่างๆของตัวปืน กลไกเหล่านั้นแห้งสนิท ไม่มีคราบสารหล่อลื่นเลยแม้แต่หยดเดียว ฉันว่าปืนพวกนี้ยิงได้ไม่เกินสิบนัดแน่ๆ เขาบอกนิศารัตน์และเริ่มถอดแยกส่วนประกอบปืน เขาโยนกลไกภายในเข้าไปในป่า และโยนลำกล้องเข้าไปในกองเพลิงที่กำลังลุกไหม้รถหุ้มเกราะของโจร เขาทำอย่างนั้นกับปืนทุกกระบอกที่เขาเห็นว่าไม่สามารถใช้งานได้ดีนัก แกดูโจรพวกนี้ไปนะ ฉันจะไปดูรถของทหารรับจ้าง สุริยะตะโกนบอกนิศารัตน์ที่กำลังพยายามหาทางถอดเสื้อเกราะหนังของโจรคนหนึ่ง เพื่อหาสัญลักษณ์ระบุฝ่าย
ได้เลย เธอตอบและใช้มีดกรีดเสื้อหลังจากที่พยายามหาวิธีถอดอยู่นาน เธอกวาดตาหาสัญลักษณ์ตามตัว แต่ก็ไม่พบ เธอลุกขึ้นและพลิกศพให้นอนคว่ำ แต่ก็ไม่มีอะไรอยู่บนผิวหนังของโจรรายนี้เลย เธอจึงย้ายไปหาที่ศพต่อไป จากนั้นไม่นาน เชคอฟและไอราวัณก็กลับมาพร้อมกับรถ พวกเขาขนอาวุธที่ยังใช้งานได้ กระสุนปืนและน้ำมันเชื้อเพลิงจากรถของทหารรับจ้าง ขึ้นไปไว้บนรถของพวกเขา และนำทางคาราวานกลับไปยังศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย
ไม่มีสัญลักษณ์ระบุฝ่าย นิศารัตน์บอกเชคอฟระหว่างทางกลับ ไม่มีบนตัวหรือเสื้อผ้าเลย
ภารกิจจบแล้วสาวน้อย ปล่อยวางเชคอฟตอบ เตรียมตัวเขียนรายงานดีกว่าจะมากังวลเรื่องแบบนี้
รับทราบค่ะ
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงศูนย์ ซัน นิศ เอากระสุนไปเก็บไว้ที่คลังแสง ไอ นายไปกับฉัน ไปรายงานผลการปฏิบัติ เชคอฟพูดและกระโจนลงจากรถ เดินไปยังศูนย์บังคับการโดยมีไอราวัณตามมาติดๆ เขาผ่านศูนย์ที่ว่างเปล่า มีเพียงทหารยามและทหารที่มีหน้าที่เท่านั้นที่ยังคงอยู่ เขาเข้าไปยังศูนย์บังคับการ ภายในมีเพียงทหารสื่อสารสาวสวยสามนายที่นั่งประจำวิทยุอยู่ ส่วนทหารคนอื่นๆที่มักจะมาเบิกเงินเดือนล่วงหน้าหรือรอรับภารกิจทหารรับจ้างนั้นก็หายไป หน้าบอร์ดงานรับจ้างว่างเปล่า ผิดจากทุกวันที่จะมีทหารอย่างน้อยหนึ่งนายอยู่หน้าบอร์ดนี้เสมอ
มีภารกิจด่วนรึ ไอราวัณถามทหารสื่อสาร
เปล่าค่ะ คนหนึ่งตอบ ก่อนที่อีกคนจะพูดขึ้นว่า พันโทอโลนสั่งให้ทุกคนไปเล่นน้ำค่ะ
เยี่ยม เชคอฟและไอราวัณอุทานออกมาพร้อมกัน การเล่นน้ำคือการลงโทษของศูนย์ คิดค้นโดยพันจ่าเอก คาลาสกี้ เรวานอฟ การลงโทษแบบนี้จะใช้เมื่อมีการเรียกทหารไปปฏิบัติการด่วน และมีทหารที่รายงานตัวน้อยกว่าหกนาย ทหารที่เหลือในศูนย์ทุกคน ยกเว้นผู้ที่เข้ากะ หรือผู้ที่มีหน้าที่อื่นอยู่ จะถูกพาไปยังสระน้ำในบริเวณพื้นที่เกษตรกรรมและถูกสั่งให้ลงไปแช่น้ำจนกว่าหน่วยปฏิบัติการจะกลับมา ในกรณีที่หนักที่สุดของปฏิบัติการนี้คือภารกิจส่งการสนับสนุนให้ฐานยิงฟีนิกส์ โดยภารกิจกินเวลาสองวันหนึ่งคืน ทำให้ทหารต้องแช้น้ำอยู่นานถึงสองวัน ผู้พันโทอยู่ไหม เชคอฟถามต่อ แต่ทหารสาวไม่ทันได้ตอบ เสียงของอโลนก็ดังมาจากในห้อง เชิญเลยจ่า เชคอฟพยักหน้าให้ไอราวัณและเดินเข้าไปในห้องที่ประตูมีป้ายเขียนว่า ผู้บันชาการกองทหารประจำศูนย์เอ5148 พันโท อโลน อลองเกอร์
ผู้พัน เชคอฟพูด ซึ่งนายพันโทวัยกลางคนตอบกลับทันที ความเสียหาย
ไม่มีความเสียหายครับ
ดีมาก ผมขอรายงานบนโต๊ะผม แปดร้อยนาฬิกาพรุ่งนี้เช้า ของคุณด้วย จ่าไอราวัณ
ครับท่าน ทั้งสองรับ แล้วของอีกสองคนนั้นล่ะครับไอราวัณถาม
เดี๋ยวผมแจ้งพวกเขาเอง แยกย้าย อโลนสั่ง จ่าหนุ่มทั้งสองทำความเคารพและกำลังจะเดินจากไปแต่อโลนเรียกพวกเขาไว้ เดี๋ยว เขาพูดและลุกขึ้นจากเก้าอี้ หยิบซองเอกสารบางอย่างออกมาจากลิ้นชัก ยื่นซองหนึ่งให้เชคอฟ ซองหนึ่งให้ไอราวัณ เรวานอฟอยากออกไปพจญภัย ฉันเลยจะตั้งหน่วยใหม่ เขาเลือกคนที่เขาต้องการให้เข้าหมู่เดียวกับเขาแล้ว อโลนหยุดพูดและยื่นหน้าเข้ามาอยู่ระหว่างใบหน้าของสองจ่า พวกนายโชคร้ายทังสองไม่พูดอะไร แต่สีสันบนใบหน้าของเขานั้นหายไปอย่างรวดร็ว
ฉันอยากอยู่ทีมเดียวกับแก นิศารัตน์พูดพลังจากที่สุริยะถามถึงสิ่งที่เธออยากทำหลังจากเรียนจบหลักสูตรทหาร มีแก มีฉันเธอพูดต่อ แกกดหัว ส่วนฉันอ้อมไปหามุมเหมาะๆ จากนั้น เปรี้ยง
แกเก็บคะแนนสูงสุด สุริยะพูด ทั้งสองถือกล่องกระสุนและปืนพกซึ่งเก็บได้จากศพของโจร จากนั้นเราสองคนก็กลับบ้าน แกเลี้ยงเหล้าฉัน
ทำไมฉันต้องเลี้ยงเหล้าแก ทั้งสองเดินผ่านประตูคลังแสง
เพราะฉันเป็นคนยิงกดหัวให้แกทำคะแนนสูงสุดไง
สิบเอกสุริยะ สิบเอกนิศารัตน์ เสียงห้าวๆดังขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา ทั้งสองละสายตาจากใบหน้าของกันและกันไปมองยังเจ้าของเสียง ชายร่างใหญ่วัยสามสิบปียืนอยู่หน้าพวกเขาพร้อมยิ้มด้วยท่าทีสบายๆ เขาสวมเสื้อแจ็คเก็ตลายพรางป่าและกางเกงขาวายลายเดียวกัน รองเท้าบูทคอมแบทมันเงาสะท้อนกับแสงไฟ หมวกแก็บทรงสูงพร้อมเครื่องหมายยศที่บ่งบอกว่าเขายศพันจ่าเอก พูดและเดินเข้ามาหาพร้อมซองเอกสารสีน้ำตาล นิศารัตน์และสุริยะวางกล่องลงก่อนจะยืนตรงทำความเคารพ
สวัสดีครับ/ค่ะ พันจ่าเอกเรวานอฟ ทองสองพูดเสียงดัง
คุณถูกย้าย เขาพูดและยื่นซองเอกสารให้ทั้งสอง ขอต้อนรับสู่หมู่เอคโค
จบบทที่1
ปล. ตอบคำถามถูกครับ เอาตอนใหม่ไปเลย
ปล.2 ขอภัยหากว่ามีคำผิดครับ ผมไม่สันทัดภาษาไทย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LoveSeeker : 26th March 2012 เมื่อ 11:08
นิยาย:การทหาร พจญภัย วิทยาศาสตร์
-
-
26th March 2012 10:45
#41
โห สาวแว่นเลยเหรอครับเนี่ย แล้วเสื้อเกราะเสื่อกับยางรถยนต์จะโหดไปมั้ยเนีย
By Stormwind
-
-
26th March 2012 11:06
#42
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
Stormwind
โห สาวแว่นเลยเหรอครับเนี่ย แล้วเสื้อเกราะเสื่อกับยางรถยนต์จะโหดไปมั้ยเนีย
By Stormwind
สงสัยพิมพ์ผิด แก้ก่อนๆ
ผิดไป2ที่ แต่ตรง "เสื่อหนังสัตว์ และเกราะยางรถ"นั่นเว้นผิด มันเป็น "เสื่อ หนังสัตว์ และยางรถ" ขอต้อนรับสู่แฟชั่นยุคหลังสงครามนิวเคลียร์
ปล. ขอบใจที่เตือน คนแก่สายตาไม่ค่อยดี =.=
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LoveSeeker : 26th March 2012 เมื่อ 11:11
นิยาย:การทหาร พจญภัย วิทยาศาสตร์
-
-
26th March 2012 12:50
#43
รออยู่นะนาย
-
-
26th March 2012 13:20
#44
-แก้ใหม่ครับเผื่อจะรับอนุมัติของผม
ชื่อ-สกุล: นิโคไล พรีทรอฟ
ชื่อเล่น:นิค
เพศ:ชาย
อายุ: 35
รูปร่างหน้าตา:ชาวรัซเซีย ผิวขาวออกคล้ำแดงนิดๆ ตัวสูง ผมดำสนิดเหมือนคนไทย ตายสีเขียวขุ่นๆ มีเคราเล็กน้อย แต่ตัวชุดรัดรูป ใส่เกราะที่ตัว คล้ายๆกับสายลับ เวลาอ่านหนังสือบางทีก็ใส่แว่น เพราะตาไม่ดีแก่แว้ว 555+
นิสัยโดยละเอียด:มีความเป้นผู้นำสูง มีประสปการ์ณในการรบและแทรกซึม เคยเป็นอดีตสาบลับของรัชเซีย และภาระกิจนี้ถูกส่งมาให้ช่วยเหลือทางประเทศไทย มีความเป็นคุณธรรมสูง แต่เค้าก็ปฏิเสธที่จะนับถือศาสนาใดๆทั้งสิ้น ค่อนข้างเงียบขรึม ชอบอยู่คนเดียว แต่ลุยก็ลุยเป็นทีม บางคนบอกว่าเค้าฆ่าทหารฝ่ายศัตรูไปกว่า 500 คน ทำให้เค้าเป็นคนเก็บตัวเงียบแบบนี้ นิโคไล ชอบบอกกับตัวเองเสมอ ว่าเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักฆ่า แต่สภาพการ์ณบีบบังคับให้เค้าจ้องหยุดความรุนแรงด้วยการใช้ความรุนแรง นิโคไลไม่ดืมเหล้าและสูบบุหรี่ เค้าแทบจะไม่เค้าสถานเริงรมเลยด้วยซ้ำ โดยให้เหตุผลว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้เค้าลืมอดีตและคราบเลือดที่เปื้อนหัวใจของเขาได้
สิ่งที่ชอบ: แกะสลักเศษไม้เป็นรูป กวางทำท่าทางต่างๆ
สิ่งที่เกลี่ยด: คนไม่รักษาคำพูด และ พวกทรยศ ไม่รักพวกพ้อง
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:อยากกอดเมียและลูกของเค้า แต่ถึงกระนั่นก็ทำไม่ได้เพราะพวกเค้าได้จากไปแล้ว
หนึ่งในบุคลากรทางทหารของ ศูนย์ช่วยเหลือและแจกจ่าย เอ5148
อาวุธดี ไม่ได้ทำให้คนเก่ง ปากกาดี ไม่ได้ทำให้ ฉลาด
-
-
26th March 2012 17:00
#45
เวลา แปดร้อย นาฬิกา คืออะไรท่าน อุๆๆๆ สาวบลอนด์ โอ สาวบลอนด์ อุๆๆๆ ~
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
LoveSeeker
แปดโมงเช้าครับ
อ่อครับ
ปล. สาวบลอนด์ โฮกก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nakiann123 : 26th March 2012 เมื่อ 17:11
-
-
26th March 2012 17:03
#46
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
nakiann123
เวลา แปดร้อย นาฬิกา คืออะไรท่าน อุๆๆๆ สาวบลอนด์ โอ สาวบลอนด์ อุๆๆๆ ~
แปดโมงเช้าครับ
นิยาย:การทหาร พจญภัย วิทยาศาสตร์
-
-
26th March 2012 19:27
#47
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล:ดิเมียร์ทรี โรมานอฟ (Dimitri romanov)
ชื่อเล่น:คอรส์
เพศ:ชาย
อายุ:24
รูปร่างหน้าตา:หน้าตาดี ผิวขาว ไม่มีหนวดเพราะโกนบ่อย ผมสั้นสีทอง
นิสัยโดยละเอียด:เงียบขรึมเเละจริงจัง(ลูกนายทหารครับ+อดีตอันซับซ้อนที่โหดร้ายของเขา)นิสัยเป็นสุภาพบุรุษ เเต่มีนิสัยใจร้อนเเละเยือกเย็น ตามสถาณการณ์
เป็นคนทีมีพรสวรรค์เรื่องความเเม่นในการยิงปืน เเต่เป็นคนพูดเเต่ความจริงเเต่ชอบพูดกวนบาทาชาวบ้าน(คนสนิท) ไม่ไว้ใจใครง่ายๆ
พูดเเบบเหตุผล(ส่วนใหญ่)ที่ส่วนน้อยคือเรืองที่ตนเองเจอมา ชอบเขียนบันทึก(ติดนิสัยเรียนทหารปีสุดท้าย)
สิ่งที่ชอบ:อ่านหนังสือ เขียนเเผนที่ยุทธการ(เขียนเล่นไม่เคยใช่จริง) ทำความสะอาดปืนcolt m1911a มรดกสุดท้ายที่พ่อเหลือเอาไว้ ซ้อมยิงปืนเเบบโหดๆ
สิ่งที่เกลี่ยด:บุหรี่ มาเฟีย (สาเหตุที่เพราะทำให้เกลียดเพราะ mafia ของรัสเซียนั้นไปกลาดยิงที่บ้านของครอบครัวไม่เหลือใครเลย)
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย:มีชื่อติดในประวัติศาสตร์ที่ทุกคนต้องรู้จักเขา
อื่นๆ:ประวัติย่อ นักเรียนนายร้อยอันดับ1ของการสอบทั้งหมด สอบเข้าหน่วยspatnazได้ตอนอายุ17สาเหตุคือที่เกิดคดีน้ำสีเลือดที่ดังไปทั่วประเทศตอนเขาอายุ20
เขาได้รับงานไปลอบสังหารชายคนหนึ่งที่เป็นคนขายชาติให้ต่างประเทศเเละเป็นงานเเรกเเละงานสุดท้ายของเขา เพราะคนที่เขาสังหารไปเป็นลูกชายของเจ้าพ่อมาเฟีย
หลังจากนั้น2สัปดาร์ ตอนนั้นเป็นตอนเย็นหลังจากเขียนรายงานเสร็จก็กลับมาที่บ้านก็พบศพของทุกคนที่อยู่ในบ้าน รวมทั้งเเฟนสาวของเขาด้วย เขาเลยกลายเป็นคนไร้ญาติ
ไม่มีใครเหลือเลย เขาเลยต้องรีบเก็บของเเล้วหนีไปเซฟเฮาส์ของเขาที่ไม่มีใครรู้จัก ช่วงที่เขาหายตัวไปตำรวจให้เป็นบุคคลต้องสงสัย เพราะมีเหตะทะเลาะกับพ่อที่ดันเอาปืนColtไปใช้งานโดยไม่ได้บอก
ที่เป้นสมบัติสุดท้ายของ
บรรพบุรุษที่เหลืออยุ่กับการที่เขาไปหยิบคียการ์ดของพ่อเขาไปด้วยไม่รู้ใช่งานอะไรได้บ้าง
แบบฟอร์มอาวุธปืน
ชื่อ:Colt m1911 a
ขนาดกระสุน:.45 Acp
อัตราการยิง:100ลูกต่อนาทีโดยประมาณ
ความจุแม็กกาซีน:8ลูกรวมที่อยู่ในลำกล้อง
ระยะหวังผล:100เมตร
รูปร่าง:
-
-
26th March 2012 20:49
#48
แบบฟอร์มตัวละคร
ชื่อ-สกุล: เป็กเอก ชนะสงคราม
ชื่อเล่น:เอก
เพศ:ชาย
อายุ: 26
รูปร่างหน้าตา: สูง 180 น้ำหนัก 68 หน้าตาและทรงผมประมาณในรูปครับผม
[/PHP]
นิสัยโดยละเอียด: นิสัย เป็นคนสนุกสนาน เฮฮาปาร์ตี้ไปไหนไปกัน...รักเพื่อน ยามลำบากไม่เคยทิ้งเพื่อน...เข้ากับคนได้ไม่ค่อยดี แต่ถ้าสนิทเมื่อกับใครแล้วจะรู้ว่าไอ้หมอนี้รั่วสุดๆ
ชอบกินขนมขบเคี้ยว ไม่ชอบการบังคับสักเท่าไหร่ จิตใจเอื้อเฟื่อเผื่อแผ่...แต่เวลาเค้าโกรธขึ้นมาก็จะสติแตกแบบสุดๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ฟังใครเลยทีเดียว
สิ่งที่ชอบ: ชอบขนมขบเคี้ยว ขนมปังต่างๆนาๆ และก็น้ำอัดลม
สิ่งที่เกลี่ยด: เกลียดงู และสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ ไม่ชอบพวกเห็นแก่ตัวเห็นแล้วอยากจะต่อย
สิ่งสุดท้ายที่จะทำก่อนตาย: ได้บอกรักคนที่ตนรักเป็นครั้งสุดท้าย...
แบบฟอร์มอาวุธปืน
ชื่อ: Tavor Tar - 21
ขนาดกระสุน:M855/SS109
อัตราการยิง:700-1000 นัด/นาที
ความจุแม็กกาซีน:30 นัด
ระยะหวังผล:960 เมตร
รูปร่าง: ตามรูปครับ
-
-
28th March 2012 17:38
#49
ตามมาอ่านแล้วครับผม (โอ้ว!!)
อืมมมม มาถึงก็ดราม่าเลยแฮะ โอ้ม่ายยยย สาวแว่นที่รัก T_T ฉากบู๊ก็มันส์หยดมาก เลยทั้งการอธิบายฉาก และ ความรู้สึก อืม ^^''
แต่มีพิมพ์ผิดประปรายเล็กน้อยอย่าลืมแก้ด้วยนะครับ คำไหนที่พิมพ์ไม่ถูกก็ลองไปเซิจหาใน Google ได้ครับผม
ในส่วนของการอธิบาย ทุกอย่างดีเยี่ยม ผมชอบนะ ชอบมากด้วย เริ่มสงสัยแล้วว่านี่คงไม่ใช่เรื่องแรกของคุณแหงม ๆ ฮ่า ๆ แต่ว่านะ ในการอธิบายการแต่งตัวไม่จำเป็นต้องลงลึกถึงขนาด ใส้เเสื้อสีอะไร พับแขนเสื้อไหม มีอะไรอยู่ในกระเป๋าเสื้อ มันจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกเบื่อได้ครับ กรณีนี้ใช้การรวบรัดคำให้พอเหมาะพอควรก็ได้ครับจะทำให้ประโยคที่อธิบายนั้นดูสั้น อ่านลื่น และนึภาพตามได้พอดีพอเหมาะครับผม (ตรงจุดนี้จะปรับสไตล์หรือไม่ปรับก็ได้นะครับแล้วแต่สะดวกครับผม ^^'')
อ้อการเว้นบรรทัด อันนี้ผมอ่านแล้วปวดตามากๆ เลยล่ะ เนื่องจากตัวหนังสือมันก้เล็กอยู่แล้ว ก็เลย... หนักเข้าไปอีก = ='' ยังไงก็ลองตรวจสอบอีกทีว่าตรงไหนควรจะเว้นบรรทัดหรือเคาะสเปชบาร์นะครับ จะได้สะดวกตาสบายใจต่อผู้อ่านมากขึ้น ^^''
แต่ยังไงก็ยังเพิ่งเริ่ม เนื้อเรื่องจะเป็นยังไง จะเกิดอะไรขึ้นอีก อันนี้ก็อยู่ที่ความสามารถและข้อมูลของผู้เขียนแล้วล่ะครับ เป็นกำลังใจให้ และจะรออ่านตอนต่อไปครับ สู้ ๆ ^^
EDIT
ถ้าคิดจริงจังกับงานเขียนจริง ๆ ลองเอาไปแปะเว็ปอื่นด้วยก็ได้ครับ แล้วคุณจะได้รับคอมเม้นดี ๆ อย่างแน่นอน ^^
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย hunkacer : 28th March 2012 เมื่อ 17:51
-
-
28th March 2012 18:21
#50
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
hunkacer
ตามมาอ่านแล้วครับผม (โอ้ว!!)
อืมมมม มาถึงก็ดราม่าเลยแฮะ โอ้ม่ายยยย สาวแว่นที่รัก T_T ฉากบู๊ก็มันส์หยดมาก เลยทั้งการอธิบายฉาก และ ความรู้สึก อืม ^^''
แต่มีพิมพ์ผิดประปรายเล็กน้อยอย่าลืมแก้ด้วยนะครับ คำไหนที่พิมพ์ไม่ถูกก็ลองไปเซิจหาใน Google ได้ครับผม
ในส่วนของการอธิบาย ทุกอย่างดีเยี่ยม ผมชอบนะ ชอบมากด้วย เริ่มสงสัยแล้วว่านี่คงไม่ใช่เรื่องแรกของคุณแหงม ๆ ฮ่า ๆ แต่ว่านะ ในการอธิบายการแต่งตัวไม่จำเป็นต้องลงลึกถึงขนาด ใส้เเสื้อสีอะไร พับแขนเสื้อไหม มีอะไรอยู่ในกระเป๋าเสื้อ มันจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกเบื่อได้ครับ กรณีนี้ใช้การรวบรัดคำให้พอเหมาะพอควรก็ได้ครับจะทำให้ประโยคที่อธิบายนั้นดูสั้น อ่านลื่น และนึภาพตามได้พอดีพอเหมาะครับผม (ตรงจุดนี้จะปรับสไตล์หรือไม่ปรับก็ได้นะครับแล้วแต่สะดวกครับผม ^^'')
อ้อการเว้นบรรทัด อันนี้ผมอ่านแล้วปวดตามากๆ เลยล่ะ เนื่องจากตัวหนังสือมันก้เล็กอยู่แล้ว ก็เลย... หนักเข้าไปอีก = ='' ยังไงก็ลองตรวจสอบอีกทีว่าตรงไหนควรจะเว้นบรรทัดหรือเคาะสเปชบาร์นะครับ จะได้สะดวกตาสบายใจต่อผู้อ่านมากขึ้น ^^''
แต่ยังไงก็ยังเพิ่งเริ่ม เนื้อเรื่องจะเป็นยังไง จะเกิดอะไรขึ้นอีก อันนี้ก็อยู่ที่ความสามารถและข้อมูลของผู้เขียนแล้วล่ะครับ เป็นกำลังใจให้ และจะรออ่านตอนต่อไปครับ สู้ ๆ ^^
EDIT
ถ้าคิดจริงจังกับงานเขียนจริง ๆ ลองเอาไปแปะเว็ปอื่นด้วยก็ได้ครับ แล้วคุณจะได้รับคอมเม้นดี ๆ อย่างแน่นอน ^^
Wilco! จะขอนำความคิดเห็นไปหรับปรุงต่อไปครับ
นิยาย:การทหาร พจญภัย วิทยาศาสตร์
-
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
Forum Rules