สารบัญ
chapter 1 - 7
Chapter 8 - 12
Chapter 13 - Chapter 15
Chapter 16
[15URL="http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=8269#"]Chapter 17 [/URL]
Chapter 18 - 19 New !!!!!!!!!!!
Chapter 1 First Day & Last Day
ภายใน รร.เอกชนชื่อดัง วันนั้นมีงานประจำปีของรร. มีผู้คนมากหน้าหลายตาเข้ามาใน รร.
รวมทั้งวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง.......
นร.และผู้ปกครองรวมถึงวัยรุ่นทุกคนล้วนแล้วแต่สนใจในสิ่งเดียวกัน นั่นคือ .... การแสดงที่บริเวณลานในรร.
โดยไม่ได้ใส่ใจกับคู่รักหนุ่มสาวคู่หนึ่งซึ่งนั่งคลอเคลียอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างสนามบอลหลังโรงเรียนเลย....
แก้มแหม่มครับ พี่รักแก้มแหม่มนะครับ ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเอนตัวลงไปนอนตักอันอ่อนนุ่มของเด็กสาว
ค่ะ แหม่มก็รักพี่ตั้มนะคะ
เฮ้อ...... มือบอบบางนั้นได้ค่อยๆ ลูบที่เส้นผมของชายหนุ่มอันเป็นที่รักช้าๆ ราวกับว่าอยากเก็บห้วง
เวลานั้นไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้
เมื่อไหร่เราจะได้อยู่ในที่ที่เราสามารถอยู่ด้วยกันได้โดยไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่นซักทีนะคะ
แก้มแหม่มพูดน้ำเสียงเหนื่อยปนเศร้าสร้อย และลูบหัวตั้มอย่างทะนุถนอมต่อไป
นั่นสินะ... รอซักวันนะครับรอพี่ได้เป็นนักบอลอาชีพเมื่อไหร่ รอแหม่มเรียนจบมหาลัย พี่จะมาสู่ขอนะ
น้ำเสียงของนักบอลตัวมหาลัยที่พูดไปนั้นหนักแน่นพอๆกับแววตาของเขา
สาวแว่นหน้าเริ่มแดงจัดก่อนที่จะตบที่หัวไหล่แฟนแล้วพูดปัดความขวยเขิน
บ้า พี่ก็ พูดไปไกลเลยนะคะ.... แก้มแหม่มก็ทุบร่างแกร่งนั้นเบาๆ
555 ก็มันจริงนี่นาครับ พี่รักแก้มแหม่มมากๆเลย ตั้มพูดปนๆหัวเราะ
พอเลยค่ะ ป๊ะ ไปดูงานแสดงดีกว่านะคะ
ป่ะ ครับผม นั่งด้วยกันจนมดขึ้นมากัดพี่หมดแล้วเนี่ย 5555
บ้า พี่ก็ แก้มแหม่มดันหัวของตั้มให้ลุกขึ้นในท่าครึ่งนั่งครึ่งนอนและพยายามทำหน้าออดอ้อน
ขอซ้อนรถพี่ไปใน รร.นะคะ น้ำเสียงอ้อนของแฟนสาว ทำให้ตั้มอดที่จะยิ้มกว้างไม่ได้
ไม่ซ้อนรถพี่ แล้วจะซ้อนรถใครล่ะครับ?
ในขณะที่กำลังจะสตาร์ทรถ เสียงโทรศัพท์ของตั้มก็ดังขึ้น
เสียงเรียกเข้า.....Flook [No-Touch]
ฮัลโหล ว่าไงฟลุ๊ค
เฮ้ย หัวหน้า ******แล้ว ซอมบี้ ไอ่*** ซอมบี้ !!! น้ำเสียงฟลุ๊คดูตื่นตระหนกระคนกับเสียขวัญ
*** อย่ามามั่ว เอาดีๆซอมบี้เชี่ยอะไร ? เสียงตั้มซีเรียสมากพอๆกับหน้าตาที่เริ่มซีเรียสก่อนจะพูดต่อ
"เรามารวมกลุ่มกันนะเว้ยเฮ้ย อย่าเล่นตลก ***"
ซอมบี้จริงๆ มันมาจากไหนก็ไม่รู้...
หลังจากที่คุยกันได้ไม่กี่อึดใจ ก็ปรากฏเสียงคำรามจากที่ใกล้ๆ โทรศัพท์ของฟลุ๊ค
แฮ่!!!!
ไอ่*** เฮ้ย มันวิ่งมาใกล้กูแล้วเฮ้ย
เสียงของฟลุ๊คดูจริงจังมาก เฮ้ย ว่าแต่ตอนนี้หัวหน้าอยู่ไหน อยู่กับแฟนรึเปล่า หัวหน้าฟังกูดีๆนะเว้ย
จากนั้น เสียงของฟลุ๊คก็เงียบไป .........
ฟลุ๊ค ***อย่ามาล้อเล่น เฮ้ย ***เงียบทำไมวะ ตอนนี้ เส้นเลือดบนหน้าผากของตั้มเริ่มโปนขึ้นมาอย่างเห็น
ได้ชัด
ไม่นาน เสียงของฟลุ๊คก็กลับมาพูดอีกครั้ง
แฮ่กๆ สมาชิก No-Touchหอบซักพักก่อนจะกลั้นใจพูดต่อ
กูหลบพวกมันมาเนี่ย หัวหน้ารีบพาแฟนหัวหน้าหนีไปให้ไกลที่สุดเลย
ทำไมวะ ตกลง มันเรื่องจริงเหรอวะเนี่ย ตัวของตั้มเริ่มสั่น...สั่นด้วยความแค้น ที่ไม่อาจปกป้องลูกน้องได้
อย่ามาที่ รร. นะเว้ย เพราะตอนนี้พวกมันเต็มรร.แล้วไงวะ ตอนนี้ พวกที่เหลือก็กำลังหลบกันคนละทิศละ
ทาง โทรหาก็ไม่กล้า กลัวเสียงดัง ******เอ้ย
อืมๆ แล้วคนอื่นๆล่ะวะ No-Touch อยู่ครบมั้ย ตั้มถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ไม่ครบๆ ตอนนี้มันเฮโลกันมาไงหัวหน้า กูกับไอ่พวกนั้นไปหลบกันบนตึกนะเว้ย
เออ ดีๆ ปิดทางเข้า-ออกให้หมดนะ หาเสบียงตอนกลางวันนะเว้ย นี่เป็นคำสั่งสุดท้ายในฐานะหัวหน้า
น้ำเสียงของตั้ม เต็มไปด้วยความเครียด
โอเคๆ ขอบคุณครับหัวหน้า ถ้าไม่ตาย กูจะโทรหานะเว้ย บุญรักษานะเว้ยหัวหน้า
พูดจบ ฟลุ๊คก็ตัดสายไป
อะไรวะเนี่ย จริงเหรอเนี่ย ตั้มทำหน้าเครียดมากๆ
อะไรกันเหรอคะเห็นหน้าเครียดๆ แฟนสาวถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
ซอมบี้มันโผล่มาใน รร. ตั้มที่ตอนนี้เส้นเลือดปูดขึ้นมาเต็มหน้าผากพูดด้วยเสียงค่อยๆ
จริงเหรอคะ อย่าล้อกันเล่นอย่างนี้ดีกว่าค่ะ แฟนสาวพูดพลางหัวเราะเบาๆ
ตลกอะไรเล่า ลอง.. ยังไม่ทันขาดคำก็มีเสียงตามสายของรร.ดังขึ้น
นร.ทุกคนครับ ตอนนี้เกิดภาวะเชื้อไวรัสระบาดในจังหวัดของเรา ขอให้นร.ทุกคน หาที่หลบให้ดี อีก1เดือน
กองกำลังจาก U.N. [United nation]จะมาช่วยเหลือพวกเราครับ ขอให้พระเจ้ารักษา เรา... อ๊ากกกกก !!!
สิ้นเสียงร้อง เสียงตามสายก็ตัดไป อีกเช่นเคย ......
เชี่ยเอ๊ย บัดซบฉิบ ตั้มสบถเบาๆและเตะฝุ่นเพื่อระบายอารมณ์
แล้วเราจะทำยังไงกันดีคะ? แก้มแหม่มพูดแล้วก็เริ่มสะอื้น
ไม่ต้องห่วงหรอกครับ พี่จะปกป้องแก้มแหม่มเองนะ พี่สัญญา
หนีไปทางไหนดีล่ะคะ? เด็กสาวปาดน้ำตาแล้วถาม
หลัง รร. ไม่น่าจะมีพวกมัน เท่าที่คิดแผนคร่าวๆ มันแพร่เชื้อกันแค่บริเวณหน้า รร.
ตั้มพูดพลางสตาร์ทมอเตอร์ไซด์คู่ใจ
หนีไปทางไหนดีล่ะคะ แหม่มกลัว สับสนไปหมดแล้วค่ะ แก้มแหม่มเริ่มร้องไห้หนัก
อย่ากลัว ไปบ้านแก้มแหม่มก่อนก็ได้
สิ้นเสียงของตั้ม Wave 110i ก็แล่นฉิวไปด้วยความเร็วสูงสุด
นี่เป็นครั้งแรกนะคะ ที่เราได้อยู่ด้วยกัน แฟนสาวค่อยๆ ใช้มือนุ่มนั้นโอบเอวของตั้มไว้ช้าๆ
และนี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่เราได้มีชีวิตอย่างอิสระไม่ต้องหลบซ่อนจากอะไร
เสียงของชายหนุ่มที่พูดมาดูเครียดพอตัว
การผจญภัยของทั้งคู่ได้เริ่มขึ้นแล้ว.....
Chapter 2 Searching Game
ระหว่างทางจาก รร. ถึงบ้านของแก้มแหม่ม ไม่มีผู้คนหรือสิ่งมีชีวิตใดๆ โผล่มาให้เห็นเลย
ถนนหนทางว่างเปล่า
บ้านเรือนต่างๆ ดูเหมือนโกลาหลวุ่นวาย ประตูหน้าต่าง บางหลังก็เปิดทิ้งไว้
ไม่หนำซ้ำ บ้านบางหลัง ยังเปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้ด้วย
ทุกอย่าง เหมือนดั่งเหตุการณ์ การอพยพภัยสงคราม
และเมื่อพอถึงบ้านของแก้มแหม่มข้างนอกบ้าน หรือ เพื่อนบ้านทุกๆหลังก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
นั่นคือ...... ว่างเปล่า!!!
มีใครอยู่มั้ยครับ!! ตั้มตะโกนสุดเสียง
พ่อ- แม่ มีใครอยู่มั้ย !! แก้มแหม่มลองตะโกนบ้าง
แต่เสียงที่ตอบกลับทั้งคู่มาก็คือ.... ความว่างเปล่า!!!
พี่ พ่อกับแม่ของแหม่มจะเป็นยังไงบ้าง แฟนสาวพูดเสร็จก็ ตั้งท่าจะร้องให้ขึ้นมาอีก
ตั้มจึงเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วใช้มือสากกร้านเช็ดน้ำตาของแฟนสาวด้วยความทะนุถนอม
คนสวยครับ อย่าร้องให้สิครับ พ่อ-แม่ท่านอาจจะหลบซ่อนตัวอยู่ข้างบนบ้านครับ เชื่อพี่สิ
มือใหญ่ที่สวมแหวนเงินที่นิ้วนางได้เช็ดน้ำตาของแก้มแหม่มอีกครั้งเบาๆ
เราเข้าบ้านไปหาท่านกันเถอะนะครับ ท่านไม่เป็นไรหรอก ท่านทั้ง2เก่งจะตาย ป่ะ เข้าบ้านกันเถอะครับ
แต่เมื่อเข้าไปข้างใน กลับพบกองเลือดปริศนากองใหญ่ ศพของซอมบี้ที่ถูกกระสุนระเบิดหัวกระจุย และแว่นตาของคุณพ่อแก้มแหม่มตกอยู่ที่พื้น
เฟอร์นิเจอร์กระเบื้องตกแตกอยู่ที่พื้น ที่สำคัญคือ มีรอยของกระสุนปืน .38 Special ที่ใช้ในปืน S&W686 ตกอยู่ที่พื้น1นัด
ซึ่งตั้มมองปราดเดียวก็รู้ว่า เป็นกระสุนของพ่อตาที่เคยใช้ยิงขวดแก้วด้วยกันเมื่อก่อน
ทุกอย่างที่เห็น ทำให้ แก้มแหม่ม กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว และเธอเริ่มคุกเข่าลงกับพื้น และปล่อยน้ำตาออกมาอีกครั้ง
พี่.... แก้มแหม่มพูดเสียงสะอึกสะอื้น
ไม่เป็นไรนะ ท่านอาจจะยิงเพื่อป้องกันตัวเองก็ได้ครับ แฟนหนุ่มย่อตัวลงและกอดแก้มแหม่มไว้แนบอกแล้วพูดต่อ
ไม่เป็นไรนะครับ พี่จะตามหาท่านในบ้านเองนะ
ถ้า พ่อ-แม่เป็นซอมบี้ขึ้นมาล่ะคะ? คำถามนี้ ถึงกับทำให้ตั้มสะอึก อึ้ง และพูดอะไรไม่ออก......
พี่จะส่งท่านให้พ้นจากห้วงความทรมาณนี้เองครับ ตั้มถอนหายใจยาวและคิดไปว่า เขาจะกล้าทำแบบนั้นจริงๆหรือ ? เขาจะฆ่าคนลงจริงๆหรือ?
หลังจากนั้น ตั้มได้เริ่มค้นหาทุกห้อง ห้องแล้ว ห้องเล่า ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องทำงาน
แต่ก็ไม่พบอะไร..... จนเหลือห้องสุดท้าย ...... ห้องนอน แต่ ห้องนอนนั้นล๊อกอยู่ .....
บ้าฉิบ ทำไมมันล๊อกวะ ตั้มพูดพลางทุบประตูเพราะลูกบิดนั้นถูกล๊อก
ตั้ม... นั่นตั้มเหรอลูก? เสียงแหบๆของผู้ชายวัยกลางคนที่คุ้นหูของตั้มดังอยู่ในห้องนั้น ชายหนุ่มหัวใจพองโตทันทีและรีบขานกลับไป
ลุงครับ ทำไมลุงไม่เปิดประตูครับ ลุง ในที่นี้ก็คือ พ่อของแก้มแหม่มนั่นเอง
เฮ้อ..... พ่อของแก้มแหม่มถอนหายใจยาวและพูดต่อ ลุงกับป้า....ถูกกัด!!!! ปลายเสียงที่ตอบกลับมา ดูแห้งแหบหมดหวังเหลือเกิน
อะไรนะครับ ลุงกับป้าถูกกัด!!!
ใช่ มีคนแปลกหน้าเดินเข้ามาในบ้านของเรา แล้วกระโจนมากัดเราทั้ง2คน ลุงตั้งตัวได้
เลยหยิบปืนขึ้นมายิงหัวมัน 1 นัดแล้วก็มาอยู่ข้างบนเนี่ยแหละ
ผมขอโทษครับ ผมมาเตือนลุงช้าไปครับ ขอโทษครับ... ขอโทษจริงๆ
ไม่เป็นไรหรอก แล้วแก้มแหม่มล่ะ ลูกสาวของลุงล่ะ?
หัวอกคนเป็นพ่อย่อมที่จะห่วงลูกสาวเป็นธรรมดา
ผมพามาด้วยครับ ผมไม่ทิ้งน้องเค้าหรอกครับ
อืม... งั้นเหรอ ดีแล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้น ภายภาคหน้า ลุงขอฝากแก้มแหม่มให้ตั้มดูแลหน่อยจะได้มั้ย?
คำถามนี้ทำให้ชายหนุ่มช๊อก..... แม้ว่าเขาจะเคยแบกความหวังของใครไว้มากมาย แต่กับครั้งนี้ เขารู้สึกว่ามันหนักหนาสาหัสสากรรจ์จริงๆ
เอ่อ....... จะดีเหรอครับ? เสียงตั้มดูไม่มั่นใจในตัวเอง
ดีสิ เพราะว่า คนที่รักแก้มแหม่มมากรองจากพ่อ-แม่ ก็คือตั้ม
น้ำเสียงของลุงดูจริงจังอย่างที่ไม่เคยได้ยิน
ครับ ผมจะดูแลด้วยชีวิตของผมเอง ผมขอให้สัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชายครับ ตั้มให้สัญญา
อืม.... ฝากด้วยนะ เวลาของลุงเหลือไม่มากพอแล้ว ลุงขอคุยกับแก้มแหม่มหน่อยจะได้มั้ย?
คำสั่งเสียครั้งสุดท้าย ย่อมที่จะสำคัญ ข้อนี้ตั้มเข้าใจ จึงเรียกแก้มแหม่มให้ขึ้นมา
แล้วตั้มก็ทิ้งให้ทั้ง2คนคุยผ่านประตู ที่เป็นเหมือน กำแพงกั้นสายสัมพันธ์
และประตู กั้นเชื้อร้าย ไม่ให้มันลุกลามมายังคนที่เขารัก
ตั้มลงมาข้างล่าง เพื่อจะไม่คอยจุ้นจ้านเรื่องที่ทั้งสองคุยกัน
และที่สำคัญ คือลงมาเพื่อหาของสำคัญที่คิดว่าจะเอาไปด้วยได้
เวลาผ่านไปไม่นานนัก เมื่อตั้มรวบรวมของที่มีประโยชน์ต่างๆเสร็จ
ก็ได้ยินเสียงร้องของแฟนสาวดังมาจากหน้าห้อง
กรี๊ดด!!!!
อะไรน่ะแก้มแหม่ม ตั้มรีบวิ่งมาที่หน้าห้องนอน ก็พบกับแฟนสาวกำลังนั่งร้องไห้
พี่.....พ่อ...พ่อเงียบไปแล้ว แก้มแหม่มยังร้องไห้ไม่หยุด ตั้มก็ไม่ทนแล้ว
จึงบอกให้แก้มแหม่มรออยู่ข้างนอก
แล้วชายหนุ่มก็.... ถีบประตูสุดแรง
โครม !! แฮ่... !!!! ว๊ากกกก!!!! ทันทีที่ประตูล้มลง คนติดเชื้อที่ตั้มเคยเรียกว่า ลุง พุ่ง
ปราดเข้ามาหาตั้ม
เอาล่ะนะ ตั้มพูดพร้อมกับกำหมัดแน่น "หวังว่า มัน จะใช้ได้นะเว้ย
นะโมพุทธายะ!!!!
ตั๊บ!!!! ทันทีที่ท่องคาถาเสร็จ ตั้มก็ ต่อยสวนเข้าเต็มหน้าของซอมบี้สุดแรงเกิด
ตุ๊บ!!!! ซอมบี้หงายหน้าลงไปกองกับพื้นราวกับถูกกระทุ้งด้วยซุงหนักก็มิปาน
พี่ พี่อย่าฆ่าพ่อแหม่มนะ แก้มแหม่มพูดพลางร้องไห้ขอร้อง
ท่านตายไปแล้ว ขอให้พี่ได้ส่งท่านไปสู่สุคติเถอะนะ
ตั้มพูดในขณะที่ขึ้นคร่อมแล้วซัดซอมบี้แบบไม่เลี้ยง
หมัดแล้ว หมัดเล่า เลือดสีแดงฉานนองเต็มพื้นห้องนอน
Rest In Peace(สู่สุคติ)
ตั้มพูดพร้อมกับใช้มือว้ายโอบคอแล้วบิดซอมบี้สุดแรงเกิด เรี่ยวแรงของตั้ม มากพอที่จะทำให้คอของซอมบี้หมุนได้รอบ 360 องศา
กร๊อบบบบบบ !!!!!!!!!!
ทันทีที่จัดการกับซอมบี้เสร็จ ตั้มก็ทรุดตัวลงปลอบแฟนสาวที่กำลังร้องไห้
พ่อเค้าไปดีแล้วนะครับ พี่ขอโทษนะครับ แต่มันไม่มีทางเลือกจริงๆ เรามาช้าไป
แต่เด็กสาวยังไม่หยุดร้องให้
ฮือๆ แหม่มเข้าใจ พ่อไปดีแล้ว แต่แม่ล่ะ ?? สิ้นคำถาม ชายหนุ่มถึงกับนึกสงสัย
บางอย่าง
****** แม่ยายล่ะวะ!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
จบตอน2 Searching Game
Chapter 3 Found & Destroy
Chapter 4 Super Marketใช่ แม่แหม่มล่ะ? ตั้มคิดในใจแล้วก็เดินไปเปิดประตูห้องน้ำที่มีอยู่ในห้องเพื่อล้างมือ จากคราบเลือดที่เปื้อนกาย
หลังจากที่น้ำค่อยๆไหลออกมาจากก๊อก ตั้มก็ได้ยินเสียงวิ่งดังมาจากใกล้ๆตัวของเขา เมื่อหันไปก็ไม่ทันการเสียแล้ว
ว๊ากกกกกก !!!!!!!!! อ๊ากกก !!!!!!!!!
อนิจจา.... สิ่งทีตั้มเฝ้าถามหาก็ได้พรุ่งปราดเข้ามากัดแขนซ้ายของตั้ม
อ๊ากก !!!!!!! หลังจากเจ็บปวด ตั้มก็ได้สติ ชายหนุ่ม ได้ต่อยซอมบี้เข้าที่หัวสุดแรง
แต่ เรี่ยวแรงที่เขาเหลือ ไม่เพียงพอที่จะทำให้มันปล่อยได้
ซอมบี้ยังคงกัดแขนของเขาอยู่แน่นไม่ปล่อยราวกับหมาฟัดกับตุ๊กตาหมี
ตั้มจึงแข็งใจฝืนใช้สันมือขวาทุบบริเวณต้นคอของซอมบี้สุดแรงเพื่อเล่นงานจุดตายให้ตายในครั้งเดียว
กร๊อบบบบ !!!!!!! หลังจากโดนสันมือเข่าไปร่างของแม่ยายแน่นิ่งไม่ไหวติงกลับเป็นร่างไร้วิญญาณดังเดิม
พี่ตั้ม เกิดอะไรขึ้นคะ แม่! พี่ทำอะไรกับแม่
แก้มแหม่มวิ่งมาที่ห้องน้ำ ภาพที่เห็นก็ทำให้เธอเข่าอ่อน
แม่ของเธอนอนนิ่งอยู่โดยมีแฟนของเธอกำลังค่อยๆ ถอยออกมาห้างๆ
แม่ของน้องเข้ามากัดพี่ พี่เลยต้องฆ่า ก่อนที่จะทำอะไรมากกว่านี้ ตั้มพูดพลางสำรวจแขนซ้ายที่ถูกกัดแต่ก็ต้องตะลึงงัน
เฮ้ย !!! ทำไมถึงกัดไม่เข้า ???
แก้มแหม่มอุทานเสียงหลง เพราะร่องรอยของซอมบี้ที่ฝังเขี้ยวลงไป มันเหมือนแค่รอยเด็กที่กัดเล่นๆ และที่สำคัญ.... มันไม่เข้า
เหมือนว่าตั้มจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงพูดออกมา
คงเป็นเพราะ ตะกรุดที่ตาพี่เคยปลุกเสกให้นั่นแหละครับ ตาพี่ท่านน่ะ ปลุกเสกให้ก่อนท่านจะเสีย
ว่าแล้ว ชายหนุ่มก็ล้วงเอาตะกรุดที่ตนสวมอยู่ขึ้นมา เป็นตะกรุดดอกสีเงินอยู่ในกรอบแก้วสีใส
ตะกรุด ? อ๋อ ตะกรุดดอกนี้นี่เองเหรอคะ
ใช่ พี่มีที่บ้านอีกดอกนึง ดอกนี้ เดี๋ยวพี่ยกให้แหม่มนะ ว่าแล้ว ตั้มก็ถอดตะกรุดออกแล้วยื่นให้แก้มแหม่ม
ไม่เอา แหม่มรับไว้ไม่ได้ แก้มแหม่มปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมดันมือของตั้มออกแล้วพูดต่อ พี่ตั้มต้องมีสิ่งที่ไว้ปกป้องตัวพี่เองนะ
พี่ไม่จำเป็น พี่อยากให้คนรักของพี่ใส่ไว้
ไม่ได้นะ ถ้างั้น ถ้าพี่โดนกัดล่ะ? น้ำเสียงของสาวน้อย แสดงถึงความห่วงใย
พี่กลัวว่าถ้าพี่ปกป้องแก้มแหม่มไว้ไม่ได้ ก็ยังมีตะกรุดนี้ คอยคุ้มครองคนที่พี่รัก ชายหนุ่มก้มหน้านิ่ง
ที่สำคัญพี่เอาตัวรอดได้น่า พี่อยากให้แก้มแหม่มใส่มันไว้.... ตั้มจับมือแก้มแหม่มเบาๆเพื่อแสดงถึงความจริงใจ
อะ ... เอ่อ..... เสียงของสาวน้อยกำลังลังเล มือที่ยื่นไปทำท่าจะรับนั้นก็หยุดชะงักกลางอากาศ
พี่รักแก้มแหม่มนะครับ แววตาของชายหนุ่มช่างดูจริงจังเหลือเกินจนทำให้แก้มแหม่มประหม่า....
ร.. รักเหมือนกันค่ะ แก้มแหม่มพูดทั้งๆที่หน้าแดงจัด
ถ้าไม่รับ พี่โกรธนะ ตั้มพูดพร้อมทำหน้างอนแล้วเอาตะกรุดใส่ในมือแก้มแหม่ม
ขอบคุณค่ะ แก้มแหม่มยิ้มแล้วค่อยๆเอาตะกรุดคล้องคอของเธอ
หลังจากนั้น ตั้มกับแก้มแหม่มก็ช่วยกันหาของสำคัญหลายๆอย่างที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ในห้องนอนของพ่อแก้มแหม่ม ทั้งสองได้เจออุปกรณ์ต่างๆมากมาย และที่สำคัญ ก็ได้เจอกับซองจดหมายที่พ่อแก้มแหม่มเขียนไว้ให้
และ ปืน S&W 686 ของพ่อแก้มแหม่มในลิ้นชัก มีกระสุนบรรจุพร้อม 6นัด
กระสุนที่อยู่ใกล้ๆกันอีก 12 กล่อง มากพอสำหรับต่อกรกับซอมบี้ทั้งฝูง
ที่สำคัญ เป็นปืนรุ่นเดียวที่ตั้มได้รับมาจากพ่อ จึงสามารถใช้กระสุนด้วยกันได้
คืนนี้ ตั้มกับแก้มแหม่มตกลงกันว่า จะนอนที่บ้านหลังนี้เป็นคืนสุดท้าย
โดยที่ทั้ง2นอนจะห้องเดียวกัน นั่นคือ ห้องนอนของแก้มแหม่ม
อย่าทำไรแหม่มนะ ถ้าทำ แหม่มเชือดทิ้งแน่ พูดจบสาวแว่นก็ล้วงเอามีดพับที่เธอเจอในลิ้นชักพ่อออกมาขู่
ชายหนุ่มก็เพียงยิ้มๆ แล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงแล้วนิ่งไป
กลางดึก......
ตั้มลืมตาขึ้นมาก็พบกับดวงตาคู่ใสที่จ้องเขาแบบไม่กระพริบ
นอนไม่หลับเหรอครับ ? ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายนั้นได้มองตาของแฟนสาวกลับบ้าง
ก็กลัว........ น้ำเสียงของคนพูดนั้นประหม่าขาดความมั่นใจ
กลัวอะไรครับ? ตั้มเริ่มเอามือไปจับที่มือของแฟนสาวเบาๆ ก็สัมผัสได้แทบจะทันทีว่ามันสั่น
พี่คะ แหม่มเพิ่งเคยนอนกับคนอื่นครั้งแรกนะคะ พี่อย่าทำอะไรนะ แหม่มกลัว
หลังจากที่มองหน้ากันไม่นาน หมู่เมฆที่บดบังดวงจันทร์อยู่ก็ได้คลายออกเผยให้เห็นถึงแสงจันทร์ที่สอดส่องเข้ามาในหน้าต่างเผยให้เห็นถึง ใบหน้าที่ต้องแสงจันทร์ของสาวน้อย
ผิวขาวนวลได้แสงจันทร์ช่วยขับผิวให้ดูนวลเด่นขึ้นไปอีก รวมถึงแววตาที่ดูซึ้งตรึงใจ ต่อให้เป็นยอดมนุษย์มาจากไหนก็คงจะต้องยอมสยบเมื่ออยู่ต่อหน้าของแฟนสาวคนนี้
ครั้งแรกของพี่เช่นกันครับ พี่ไม่ทำอะไรหรอกนะ ชายหนุ่มที่นอนข้างๆพูดยิ้มๆดวงตาของเขายังไม่คลายการจ้อง
พี่จะปกป้องแก้มแหม่มเองนะครับ พี่สัญญา พี่จะดูแลคนสวยของพี่จนกว่า....
มือน้อยๆของแก้มแหม่มยื่นมาปิดปากของตั้ม
ไม่เอาน่า ไม่พูดอย่างงี้อีกนะคะ แก้มแหม่มสัญญานะว่าจะดูแลคนรักคนสุดท้ายให้ดีที่สุด
พี่รักแหม่มน้อยนะครับ
แหม่มน้อยคนนี้ก็รักพี่ตั้มนะคะ
กอดได้มั้ย? คำถามไม่ต้องการคำตอบ เมื่อชายหนุ่มใช้มือโอบที่เอวของแฟนสาวแล้วดึงมาให้ชิดใกล้ทีสุด
คนบ้า แก้มแหม่มพูดจบก็หลับตาลงราวกับเด็กน้อยนอนหลับในอ้อมแขน
แล้วทั้งสองก็หลับไปในอ้อมกอดของซึ่งกันและกัน
จบตอน.
รุ่งเช้า............
ทั้งสองได้ช่วยกันเผาทำลายร่างไร้วิญญาณของพ่อและแม่แก้มแหม่มโดยลากศพออกไปเผาข้างนอกบ้าน
น้ำมันรถมอไซด์ของพี่หมดแล้ว พี่จะขอใช้รถเก๋งของน้อง จะได้มั้ยครับ?
ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ อีกอย่าง สัมภาระเยอะขนาดนี้ คงจะให้แหม่มแบกอยู่นะคะ แฟนสาวกล่าวยิ้มๆ
555 จ๊ะ พี่ไม่ให้คนสวยของพี่แบกหรอกน่า
ช่างโชคดี ที่รถเก๋งมีน้ำมันเต็มถัง และมี ปืนลูกซอง Remington 870 ปั้ม 5 นัดพร้อมกระสุนอีกหลายกล่องอยู่ใต้เบาะหลัง
หลังจากที่ออกจาบ้านของแก้มแหม่มแล้ว ทั้งสองก็ได้แวะตุนเสบียงกันที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่ไม่ไกลจากบ้านพักนัก
ข้างในของห้างนั้นยังคงเปิดแอร์ทิ้งไว้ แต่ไร้ซึ่งสรรพเสียงของความมีชีวิตชีวา รถเข็นเหล็กลายคันนอนตะแคง
ข้าวของที่อยู่ข้างในรถเข็นต่างกระเด็นออกมาเกลื่อนพื้น รวมถึงตู้บริจาคที่ทำด้วยกระจกขนาดใหญ่ก็ตกแตกอยู่กับพื้น จึงทำให้เหรียญบาทกองกันเป็นพะเนิน
เราต้องใช้เงินพวกนั้นมั้ยคะ? แฟนสาวถามอย่างแหย่นิดๆ
ตั้มเองก็เพียงแค่มองกองเงินบริจาคเหล่านั้นและจูงมือของแก้มแหม่มไปอย่างไม่แยแส
ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะได้ใช้ เขาเหลือบมองเงินบริจาคด้วยหางตาอีกครั้งแล้วเดินจากไป
ทั้งสองเดินไปไม่ไกลก็สะดุดตากับรถเข็นคันหนึ่งที่อยู่ข้างๆแคชเชียร์ตั้มจึงเดินไปฉวยเอามา แล้วแฟนสาวก็เอ่ยถามง่ายๆ
จะไปด้วยกันหรือจะแยกคะ?
ไปด้วยกันสิ เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยแหม่มไง
แฟนสาวฉีกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ราวกับว่าเธอวางแผนอะไรบางอย่างอยู่ในหัวอยู่แล้ว
ดีมากกกก สาวน้อยพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินล่วงหน้าไปแล้วหันมาสั่ง
ยืนบื้ออะไร เข็นรถด้วย
******ล่ะ เขาอุทานออกมาอย่างลืมตัว เพราะว่ารู้ดีแก่ใจว่าเวลาผู้หญิง ช๊อบแหลก เป็นยังไง
ไม่ต้องบ่น เข็นรถตามมา แก้มแหม่มหันมาเอ็ดเสียงดังลั่นห้าง
หลังจากนั้นแก้มแหม่มก็กลายเป็น สาวมือไว คว้าทุกอย่างเท่าที่จะคว้าได้โดยไม่สนใจคนเข็นที่กำลังทำหน้าเหยเกเพราะน้ำหนังของรถเข็นนั้นหนักมากขึ้นเรื่อยๆ
เอามาทำอะไรเนี่ย? ตั้มถึงกับบ่นทันทีเมื่อเห็นแก้มแหม่มกวาดเอาบรรดาเครื่องสำอางลงตะกร้ารถเข็นด้วย
เออน่า เงียบๆ ไม่ต้องบ่น
บันไดเลื่อนยังคงทำหน้าที่ตามปกติเลยทำให้ทั้งสองสามารถนำรถเข็นขึ้นไปยังชั้นสองของห้างได้
เมื่อขึ้นไปที่ชั้นสองได้ไม่ไกล ภาพเบื้องหน้าก็ทำให้แก้มแหม่มถึงกับหวัดร้องออกมาอย่างไม่รู้ตัว
เพราะสิ่งที่เธอเห็นนั้นคือ ซอมบี้ตัวหนึ่งกำลังลากไส้ของเหยื่อออกมาเคี้ยว โดยที่เหยื่อนั้นนอนแผ่หลาร่างกระตุกพร้อมทั้งหายใจแผ่วๆ
เลือดสีแดงสดได้พุ่งทะลักออกจากบาดแผลราวกับน้ำพุเลือดก็ไม่ปาน
หลังจากที่มันได้ยินเสียงกรีดร้องของสาวน้อยมันจึงได้โผเข้าหาเหยื่อรายใหม่แทน
แต่เมื่อมันขยับลุกได้ไม่กี่ก้าวมันก็ถูกหยุดด้วยกำปั้นอันหนักหน่วงของชายหนุ่มที่วิ่งพรวดเข้ามาสวนอย่างทันท่วงที
ตุ๊บ ! ร่างผอมเกร็งที่ถูกหมัดนั้นได้ลงไปนอนคู้อยู่กับพื้นราวกับถูกกระทุ้งด้วยท่อนซุงขนาดหนัก
***คิดว่า***เล่นกับใครวะ? ตั้มเดินมาแล้วใช้เท้าเหยียบไปที่หน้าอกของมันพร้อมชักปืนลูกโม่ออกมาขึ้นนก
Rest in Peace พูดจบชายหนุ่มก็ส่งกระสุนปืนออกจากรังเพลิง
กระสุนลูกโม่ได้บินออกจากกระบอกพุ่งเข้าเจาะหน้าผากของซอมบี้อย่างแม่นยำ เลือดสีคล้ำค่อยๆไหลออกมาปริ่มพื้น
ตั้มผละจากซากศพนั้นแล้วตรงดิ่งมาหาแก้มแหม่มที่กำลังหายใจหอบๆอยู่ข้างๆเสาและค่อยๆทรุดกายลงปลอบ
พี่กล้าฆ่าคนด้วยเหรอ? สีหน้าของเธอยังดูซีดเผือดเพราะตื่นตระหนกและหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
แฟนหนุ่มยังไม่ตอบในทันใดแต่ได้ค่อยๆกดให้หัวของแฟนสาวไปซบกับหน้าอกของตนช้าๆก่อนจะพูด
ถ้าพี่ไม่ฆ่ามัน มันก็จะฆ่าเราทั้งสองคน
ไม่กลัวเหรอ? เธอถามต่อ น้ำเสียงและขวัญกำลังใจในตอนนี้เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ
เพราะต้องปกป้องแก้มแหม่ม เลยทำให้พี่ไม่กลัวอะไร หลัจากที่ตั้มพูดจบแก้มแหม่มก็กอดตั้มให้แน่นยิ่งกว่าเดิม
แหม่มจะต้องเข้มแข็งกว่านี้นะ ตั้มกระซิบบอกอย่างอ่อนโยน มือขวานั้นก็ค่อยๆลูบหัวของคนรักอย่างทะนุถนอม
ทั้งสองปล่อยให้เวลาได้ไหลผ่านไปเอื่อยๆ ชั่วขณะ หลังจากที่แก้มแหม่มหายกลัวจึงได้ไปหาเลือกของต่อ
แต่ในขณะที่กำลังจะเดินนั้นก็มีเสียงแปลกๆดังขึ้นมาจากทางด้านข้าง
แกร่ก แกร่ก แกร่ก !!
ใครจะใส่สตั๊ดมาเดินบนพื้นซีเม็นต์ คิดไปเองรึเปล่าวะ? ตั้มบ่นพึมพำเกี่ยวกับเสียงแปลกๆนี้
เป็นเสียงปุ่มของรองเท้าฟุตบอลกระทบกับพื้นซีเม็นแน่นอน แต่จะมีใครบ้าพอที่จะใส่มันล่ะ ?
และที่สำคัญยังจะมีคนรอดอยู่ในห้างอีกเหรอ?
ได้ยินเหมือนที่พี่ได้ยินมั้ย? ชายหนุ่มถอยหลังไปกระซิบกับแฟนสาวเบาๆซึ่งเธอก็พยักหน้าแทนคำตอบ
เสียงนั้นเข้าใกล้มาเรื่อยๆแต่ยังจับทิศทางไม่ได้เพราะถ้าหากเงียบแล้วเกิดเสียง เสียงนั้นมักจะก้องกังวาลทำให้จับทิศเดาทางไม่ถูก
และเมื่อเสียงนั้นเดินเข้าใกล้มันก็ได้หยุดลงดื้อๆ แต่มีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมาแทน
เอ่อ...... เสียงเล็กแหลมดูเหมือนไม่ค่อยแตกหนุ่มดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
ทั้งสองหันไปมองต้นเสียงก็พบกับชายร่างเล็ก ผิวคล้ำสวมชุดเรอัล-มาดริดที่เปรอะไปด้วยคราบเลือด
เมื่อแก้มแหม่มลองพิจารณาจากหัวจรดเท้าก็ต้องสะดุดตากับสิ่งแปลกปลอมสองสิ่ง
บร๊ะ ! แก้มแหม่มถึงกับมองด้วยความแปลกใจระคนไปกับขบขัน
มองอะไรครับ? ชายคนนั้นเริ่มถามกับท่าทีของแก้มแหม่มที่เดินไป-มาสำรวจรอบๆตัวของเขา ผมแปลกมากเหรอ?
ใช่สิ แปลกตั้งแต่ทรงผมยันรองเท้า เธอมองผมทรงโมฮอคที่ดูว่าแปลกแล้ว แต่รองเท้าสตั๊ดที่เขาสวมเดินอยู่โทงๆนั้นดูแปลกยิ่งกว่า
จบตอน.
Chapter 5 WTF.
หลังจากที่ปล่อยให้ทั้งสองคุยกัน ตั้มก็ถือโอกาสแอบสังเกตลักษณะชายแปลกหน้า เหมือนว่าเขาจะเคยพบหน้ามาที่ไหนซักที่หนึ่ง........
แล้วทำไมต้องใส่....... แก้มแหม่มนิ่งไปเพราะลืมว่ารองเท้าฟุตบอลเรียกว่าอะไร
เธอจึงหันหน้ามากระซิบกับตั้มที่ยืนอยู่ข้างๆ มันเรียกว่าอะไรนะ
สตั๊ด แฟนหนุ่มพูดแทนแก้มแหม่มจึงพยักหน้าแล้วพูดต่อ
เออ นั่นแหละๆ
ผมชื่อเต้ อยู่สตูลแล้วมาเที่ยวที่นี่ พอผมเดินขึ้นมาทุกคนก็วิ่งหนีผมเหมือนกับวิ่งหนีผีเลยครับ
สีหน้าของเต้ยังคงความแปลกใจอยู่ในใบหน้า เมื่อทั้งห้างนั้นตกอยู่ในความโกลาหลและลงเอยด้วยความเงียบ เขาถอนหายใจหนักๆแล้วพูดต่อ
ผมเลย.... แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดต่อนั้นแก้มแหม่มกฌโพล่งขัดขึ้นมาก่อน
ถามว่าทำไมต้องใส่...... ใส่อะไรนะ แก้มแหม่มหันมาถามตั้มอีกครั้งซึ่งตั้มก็ตอบแทบจะทันที
สตั๊ด
นั่นแหละ สตั๊ด ทำไมต้องใส่สตั๊ด ?
ผมจะพูดอยู่นี่ไง เอาล่ะ ตอนที่ผมมาแล้วทุกคนหนีไป ผมเลยแอบฉวยโอกาสใส่สตั๊ดเกรดเอ ที่อยู่ในตู้โชว์อ่ะครับ แล้วจู่ๆ ก็มีคนวิ่งเช้ามาหาผม
ตัวมันมีแต่เลือด ผมตกใจ ก็เลยถีบมันปลิวเลย
เขาหยุดพักหายใจก่อนจะชี้มือไปที่ชั้นวางของที่โค่นลงตาด้วยแรงกระแทกโดยมีซอมบี้นอนสิ้นใจทับอยู่ด้านบน
โอ้ว.... บร๊ะ!!! สาวแว่นถึงกับตาถลนเมื่อเห็น มันทำได้ถึงขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย?
เต้หัวเราะเบาๆ แล้วหันมามองหน้าของสาวน้อย ว่าแต่ สองคนนี่เป็นแฟนกันรึเปล่าเนี่ย?
เขาพูดโดยที่ไม่รู้เลยว่าร่างสูงใหญ่ของ แฟนหนุ่ม นั่นเดินเข้ามาแทบจะประชิดแล้ว
แล้วจะทำไมเหรอ นักบอลสตูล? เสียงของตั้มนั้นแฝงไปด้วยความหึงหวงปนกับไม่พอใจ
ผมก็แค่ถาม คนตัวเล็กกว่าถอยห่างออกมาพร้อมกับปรับความเข้าใจ
ใจเย็นๆสิ แก้มแหม่มเองต้องรีบปรี่เข้ามาห้ามทัพไว้ซะก่อน
แต่หลังจากที่เงียบลงไปแล้ว เต้ก็จ้องหน้าของตั้มราวกับว่าเหมือนจะเคยเห็นที่ไหนซักที่มาก่อน
กะ...กัปตัน !!!
เออ ดิ ร่างสูงยิ้มบางๆก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ เดี๋ยวนี้ทำไม่ทักนะ
แก้มแหม่มรีบมองทั้งสองคนด้วยสายตาเลิกลั่กก่อนจะเอ่ยถาม
รู้จักกันด้วยเหรอเนี่ย?
กัปตัน นั้นไม่ได้พูด แต่กลับพยักเพยิดให้เต้พูดแทน
ก็ ......เมื่อก่อนเคยไปเข่าค่ายเยาวชนคนฟุตบอลด้วยกันน่ะครับ หนุ่มโมฮอคเว้นช่วงไปเพราะเริ่มจะจับทางได้ว่าแก้มแหม่มจะต้องถาม
มันคืออะไร? เสียงของสาวเจ้าพูดขัดขึ้นมาตรงกับที่เต้คิดไว้ไม่มีผิด
ค่ายเยาวชนคือ.....ให้กัปตันอธิบายดีกว่า จู่ๆ เขาก็โยนงานไปให้ตั้มทันที
ร่างสูงเองก็เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับเข็นรถไปข้างหน้าช้าๆ พี่ว่า เราเดินไปคุยไปดีกว่านะ
เต้เองก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะตั้งแต่เขาเข้าห้างมานั้นก็ยังไม่มีเสื้อผ้าหรือของส่วนตัวเลย
งั้นผมขอแยกไปเลือกของแล้วกันนะครับ เจอกันที่แคชเชียร์ด้านล่างละกันนะครับ พูดจบ นักบอลสตูลก็รีบเดินหายไปอย่างรวดเร็ว
อีกครึ่งชั่วโมง เจอกันนะ แก้มแหม่มตะโกนไล่หลังไป ซึ่งเต้เองก็หยุดเดินแล้วชูกำปั้นขวาขึ้นมาช้าๆ ราวกับว่าจะรับรู้ในคำสั่ง
ขี้เก๊กอ่ะ วางมาดสุดๆ แฟนสาวกระซิบข้างหูตั้มเบาๆ ซึ่งคนฟังเองก็ยิ้มบางๆแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก
หลังจากเดินเลือกของอีกเล็กน้อย(ในความคิดของแก้มแหม่ม)แล้ว แก้มแหม่มจึงเอ่ยถามสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ
ตกลง ค่ายเยาวชนนี่คืออะไรเหรอ?
ร่างสูงที่เดินตามหลังยังไม่ตอบแต่เขากลับโน้มตัวลงหอมที่หน้าผากของแฟนสาวเบาๆแล้วค่อยชี้แจง
คือการรวมตัวของนักเตะเยาวชนจากทั่วประเทศที่ทุกคนเรียกกันว่า จีเนียส จะคัดกันจนเหลือแค่36คนแบ่งกันเป็นสองทีม
พี่เต้นั่นก็เป็นจีเนียสเหรอ? แววตาของคนถามนั้นเต็มไปด้วยความไม่เชื่อถือแบบสุดโต่ง
เต้เก๊ก ใครๆก็เรียกมันแบบนั้น กัปตันหนุ่มเองก็นึกไปถึงอดีตเมื่อก่อนจนหัวเราะออกมาเบาๆ
เก๊กเหมือนพี่เลย แฟนสาวแซวมา ทำให้ตั้มอดจะกระแอมใส่ไม่ได้
แฮ่มๆ พี่ไม่ได้เรียกว่าเก๊กซักหน่อย เค้าเรียกกันว่า คาแรคเตอร์ผู้นำต่างหากเล่า
หราาาาา สาวแว่นล้อเลียนก่อนจะรีบวิ่งหนีโดยมีตั้มรีบเข็นรถตาม
เมื่อระยะห่างกระชั้นชิดเข้ามา แก้มแหม่มจึงหยุดแล้วรีบเปลี่ยนประเด็นทันที
พี่ยังไม่ได้ตอบเลย ว่าพี่เต้นั่นก็เป็นจีเนียสด้วยเหรอ? คำถามนี้ก็เหมือนทำให้ตั้มฉุกคิดขึ้นได้
ใช่ๆ ว่าแต่ ทำไมถึงคิดว่าไม่เจ๋งล่ะ?
สิ่งที่เธอจะพูดต่อไปนี้ แทบจะไม่ต้องใช้เวลาในการคิดเลย
ก็ดูหน้าตากับทรงผม ไหนจะใส่สตั๊ดเดินห้าง ยังไงก็ดูเป็นจีเนียสไม่ออกเลยง่ะ สาวแว่นพูดไปตามที่ปากสั่ง ทำให้แฟนหนุ่มถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะทันที
แก้มแหม่มเองก็พยายามกลั้นหัวเราะไปด้วยหลังจากนั้นตั้มจึงตอบตามที่สาวน้อยสงสัย
ตอนแรกพี่ก็เหมือนเราเนี่ยแหละ เห็นหน้าแว้บแรกก็ไม่เชื่อ แต่พออยู่ด้วยแล้วก็เลยทำให้เชื่อแบบสนิทใจเลย
ทำไมอ่ะ? เธอถามพลางเอื้อมมือไปแกะขนมถุงใหญ่ ล้วงออกมา แล้วยัดใส่ปากของแฟนหนุ่ม
เขาเคี้ยวและรีบกลืนห่อนจะทำแบบนั้นกับแก้มแหม่มบ้างแล้วตอบคำถามช้าๆ
เพราะว่า เต้เร็วมาก เร็วจนไม่มีใครเอาอยู่เลยแหละ พูดง่ายๆคือ มันจี๊ด เขาพูดพลางก้มมองนาฬิกา เข็มสั้นสีเขียวนั้นบอกเวลาว่าเป็นเวลาบ่ายสามโมงพอดี
บ่ายสามแล้วครับ รีบๆเถอะ
อืมๆ ของครบแล้วล่ะ
เมื่อมาถึงชั้นล่าง ก็พบกับชายที่เธอเพิ่งกล่าวขวัญไปหยกๆ โดยชายผมโมฮอคนั้นกำลังนอนเอาขาพาดอยู่ในรถเข็นอีกคัน
โดยที่คันข้างๆนั้นมีของไม่กี่ชิ้นแต่ทุกอย่างก็สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า ถุงนอน ฯลฯ
ตรงเวลาพอดีเลยนะครับ คนนอนรอกล่าวทักทายแล้วพูดต่อ แล้วเราจะเอาไงต่อล่ะครับ?
เมื่อเข็นรถเข้ามาใกล้ ตั้มจึงตอบคำถามด้วยคำถาม
แล้วเต้จะเอายังไง จะไปกับพวกเรารึเปล่า? เขาถามก่อนจะหันไปมองหน้าแฟนสาว ซึ่งก็ได้รับการพยักหน้าแรงๆเป็นคำตอบ
แต่ แม้ว่าเธอจะพยักหน้าแบบนั้น แต่แววตาของเธอกลับฉายแววโรจน์ราวกับซ่อนเงื่อนงำไว้ในดวงตาคู่สวยนั้น
ได้เลยครับ เขาเองก็ตอบแทบจะทันทีด้วยท่าทางลิงโลด จะได้ไปบ้านป้อมของกัปตันซักที
หลังจากนั้น แก้มแหม่มก็เก็บของทุกอย่างแยกประเภทแล้วเอาใส่ในถุงที่มีอยู่ที่แคชเชียร์ เต้จึงออกมาคุยกับตั้มตามลำพังสองคน
กัปตันครับ เป็นเต้ที่เริ่มเปิดฉากการสนทนาก่อน
หืม ? มีอะไรรึเปล่า ตั้มเลิกคิ้วแล้วนั่งลงบนแคชเชียร์ที่อยู่ไกลจากแก้มแหม่มพอสมควร
ข้างนอก .... คงไม่เป็นแบบข้างในนี้ใช่มั้ยครับ? คนถามหรุบตาลงต่ำราบกับว่ากำลังหลอกตัวเองอยู่
กัปตัน เองก็ถอนหายใจหนักๆก่อนจะพูดไปตามความจริง
แล้วคิดว่าเชื้อจะเข้ามาในห้างได้ยังไง ถ้าไม่ได้มาจากข้างนอก ตั้มถามพลางชี้มือไปนอกกระจกซึ่งเป็นทิวทัศน์ของเมือง
ซึ่งเคยเต็มไปด้วยแสงสีละลานตา แต่บัดนี้ กลับมีเพียงแค่แสงสีแดงจากเปลวเพลิงและสีดำปนเทาจากการเผาไหม้ของหลายๆอย่างเท่านั้น
ป่านนี้....คงติดเชื้อกันไปทั้งประเทศแล้วล่ะ
สีหน้าของเต้ซีดลงเล็กน้อย เขานิ่งไปซักพักแล้วทรุดกายลงนั่งข้างๆตั้มและถามต่อด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นเครือ
ละ...แล้ว...คะ...ความฝันของผมล่ะครับ? น้ำเสียงของคนพูดกลายเป็นสะอื้นไห้ราวกับเด็กประถม ความคิดของเขาเริ่มย้อนกลับไปหาอดีต
ที่เขาทุ่มเทอุทิศกายใจให้กับสิ่งที่เขารัก ทั้งๆที่ความพยายามนั้นกำลังจะสัมฤทธิ์ผล เขากำลังจะติดทีมชาติ......มันจะจบลงแล้วหรือ?
ที่ผมทุ่มเท ที่ผมตั้งใจซ้อม ที่ผมกลับบ้านช้ากว่าเพื่อนทุกวัน ผมจะติดทีมชาติอยู่แล้ว ทั้งหมดนี่มันจะเจ๊งเพราะไอ่พวก ซอมบี้จัญไรพวกนี้น่ะเหรอครับ!!!
เขาร้องตะโกนถามกัปตันอย่างไม่ยอมแพ้
กัปตันของเขาเองก็เบือนหน้าหนีสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและท้อแท้นั้น เขาเองก็เสียใจไม่แพ้กัน แต่ก็ทำได้เพียงแค่เก็บอารมณ์นี้เอาไว้ก่อนจะตบบ่า ลูกทีม เบาๆเพื่อเป็นการปลอบใจ
ก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละ อย่าเศร้าเลย ในเมื่อทุกอย่างเป็นแบบนี้ไปแล้ว เราก็ทำได้เพียงแค่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก็หาทางสู้กับมัน ก็เท่านั้นเอง
ไม่กี่อึดใจ ทั้งสองก็ต้องเงียบเมิ่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินแบบลากเท้ามาจากด้านหลัง ซึ่งตั้มฟังเพียงนิดเดียวก็พอจะรู้
ไม่ใช่แก้มแหม่ม ร่างสูงพูดจนเกือบกลายเป็นกระซิบ ได้เวลาล้างแค้นแล้ว
ใบหน้าของเต้นั้นกลายเป็นเด็กโรคจิตไปแทนที่เด็กขี้แยเมื่อกี้ เขาเริ่มเหยียดยิ้มที่ดูชั่วร้ายออกมาจากใบหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืนหักนิ้วเสียงลั่นกร๊อบ
จนครบทั้งสิบนิ้ว
กัปตันไม่ต้อง ผมขอเอง เต้ยืดได้ซักพักก็วิ่งเข้าไป บวก โดยใช้สตั๊ดยันหน้าอกอย่างรุนแรง
(ขอให้ผู้อ่านลองนึกภาพที่ ไนเจล เดอ ยองก์ ใช้สตั๊ดยันหน้าอกของ ชาบี อลอนโซ่ในเกมส์นัดชิงฟุตบอลโลก 2010)
ไอ่*** ***ตาย !!!!!!!!
จบตอน
Chapter 6 Hope
หลังจากที่แก้มแหม่มแยกของเสร็จแล้วจึงได้เดินไปเรียกทั้งสองหนุ่มไปเข้ารถเพราะว่าเวลาก็เริ่มจะเย็นแล้ว
แต่เมื่อไปถึงกลับมีเพียงแค่แฟนของเธอนั่งเงียบๆจดจ้องกับอะไรบางอย่างอยู่คนเดียวเท่านั้น
พี่เต้เก๊กไปไหนแล้ว่ละ? เธอถามพลางกราดสายตามองไปซ้าย-ขวาแต่ก็ไม่มีแม้แต่เงา
........ ชายหนุ่มไม่ตอบ แต่ค่อยๆชี้มือไปที่ด้านซ้ายมือที่มีรอยเลือดเป็นทาง แล้วลุกขึ้นเดินพร้อมจูงมือแก้มแหม่มไปด้วย
สิ่งที่เธอเห็นนั่นก็คือ ชายผมโมฮอคกำลังกระทืบซอมบี้หัวหนึ่งอยู่โดยที่ทั้งเสื้อและกางเกง เรอัล-มาดริดของแท้นั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดสีดำ
พอได้แล้วล่ะ กัปตันเอื้อมมือไปจับบ่าของ ชายฝันสลาย เบาๆเพื่อเป็นการสะกิดให้รู้สึกตัว
ในทันทีที่ถูกสัมผัสเบาๆ เขาก็รู้สึกตัวทันทีพร้อมกับหันมามองหน้าคู่รักทั้งสองก่อนจะเอ่ย
เสื้อผ้าผมเปื้อนเลือดหมดแล้วครับ เต้พูดพลางสำรวจร่างกายของเขา โชคดีที่ผมปิดหน้ากับปากไว้
ถ้างั้นเราก็ไปเปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนผ้าเถอะ ตั้มเองก็เสริมขึ้นมาง่ายๆ แก้มแหม่มรออยู่นี่นะ
คนฟังผงกหัวอย่างว่าง่ายเขาจึงทิ้งปืนลูกโม่เอาไว้ให้และเดินจ้ำพรวดๆไปที่แผนกเสื้อผ้าชายกับเต้ทันที
ว่าแต่....มันใช้ยังไงง่ะ? สาวแว่นก้มหน้าดูปืนกระบอกสวยของพ่อแล้วถาม แต่พอเงยหน้าขึ้นมา ทั้งสองก็หายไปราวกับอากาศธาตุเสียแล้ว
ไอ่แก่นะไอ่แก่ เธอสบถอย่างหัวเสียที่แฟนหนุ่มของเธอเดินไปโดยไม่คิดแม้แต่จะสนใจ
เฮ้อ...... ผมได้ของไม่เยอะเลยครับ ได้แค่ไม่กี่อย่างเอง เต้บ่นปอดแปดก่อนจะเลือกเสื้อผ้ามา2ชุด
ก็ยังไม่ได้อะไรมากเหมือนกัน มากับตัวยุ่งก็แบบนี้แหละ ต้องเป็นคนเข็นทุกทีเลย ร่างสูงเองก็บ่นพึมพำเหมือนหมีกินผึ้งก่อนจะเลือกเสื้อผ้ากับกางเกงมาถือไว้ในมือ2ชุด
ในขณะที่เต้ถอดเสื้อ เรอัล-มาดริด ทิ้งนั้นเขาก็บังเกิดความเสียดายในเสื้อสุดรักขึ้นมา จึงได้เอ่ยขอด้วยน้ำเสียงสุดแสนจะเสียดาย
ขอเอาชุดมาดริดไปซักด้วยได้มั้ยครับ?
เอาสิ ตั้มพยักหน้า หลังจากนั้นทั้งสองหนุ่มก็รีบกลับไปหาแก้มแหม่มที่กำลังทำหน้ามุ่ยคอยอยู่อย่างรวดเร็ว
ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาเยอะเลยนะ สองคนเนี่ย แก้มแหม่มเลิกปั้นสีหน้าแล้วทักทาย พลางล้วงปืนออกมาส่งให้ตั้ม
เราจะกลับกันละ ปะๆๆ ตั้มซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นผู้นำกลุ่มไปโดยปริยายก็ได้ออกคำสั่งก่อนจะเดินไปเข็นรถเข็นของเขา
เมื่อไปถึงที่ลานจอดรถโล่งกว้างทั้งสอง ต. ก็ได้ช่วยกันลำเลียงของต่างๆไปใส่ยังท้ายรถ
เราจะมาอีกครั้ง ต.ตั้ม กระซิบอย่างแผ่วเบา โดยที่ไม่มีแก้มแหม่ม
คำสุดท้ายทำให้คนฟังนั้นถึงกับระเบิดหัวเราะออกมาอย่างลืมตัวว่าพวกมันจะได้ยิน
ภายในไม่กี่อึดใจ เหล่าซอมบี้กระหายเลือดที่ได้ยินเสียงก็พากันกรูเข้าหาทันที แต่โชคยังดีที่มันยังค่อยๆเดินเข้ามาช้าๆ อย่างไม่อาทรร้อนใจนัก
ไปกันเถอะ พวกมันมากันแล้ว ตั้มพูดหลังจากที่ยัดของชิ้นสุดท้ายลงท้ายรถแล้วปิดฝาเสียงดังลั่น
ครับ
ในขณะที่เสียงเร่งเครื่องดังขึ้น เสียงนี้ก็ได้ไปกระทบเข้ากับโสตประสาทชายผู้หนึ่งบนตึกสูงที่อยู่ไม่ไกลจากห้างนัก
บัดซบฉิบ!! เขารีบผุดลุกจากเก้าอี้สนามก่อนจะคว้าปืนติดกล้องของเขาส่องลงไปยังต้นเสียงข้างล่าง
มีคนอยู่ เขาพูดพร้อมกับหันไปมองหญิงผมดำที่นอนอยู่ในร่มเงารของผ้าใบที่ใช้ขึงกันแดด เราไปไม่ทันแล้วล่ะ
หญิงสาวคนนั้นยังคงนอนนิ่งไม่ได้เอ่ยอะไรและเป็นเขาคนเดิมที่พูดต่อ
โชคดีและโชคร้ายนะ ที่เราอยู่ตึกสูง เขาบ่นเบาๆกับตัวเองก่อนจะมองรถเก๋งที่แล่นไปจากห้างจนเริ่มจะลับสายตา
หวังว่าจะมาอีกนะ เขาถอนหายใจหนักๆก่อนจะเดินไปเสยผมของหญิงสาวที่นอนหลับอย่างทะนุถนอม
บ้านป้อมของกัปอยู่อีกไกลมั้ยครับ? เต้ที่นั่งเบาะหลังถามพลางกอดชุดและกางเกงสโมสรบอลในดวงใจแน่น
คนนั่นหน้าทั้งสองมองหน้ากันซักพักแล้วก็เป็นแก้มแหม่มที่พูดมาแทน ไม่ใกล้ไม่ไกลหรอก
เมื่อแก้มแหม่มพูดจบก็ไม่ได้มีใครพูดอะไรอีกจนเต้ผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
แต่ขณะที่เต้ยังไม่ทันจะได้ถึงดาวดึงส์ก็ถูกตบหัวด้วยมือหนักๆของใครคนหนึ่ง
ตื่นได้แล้ว ไอ่คุณชายเก๊ก เป็นมือของแก้มแหม่มนั่นเองที่ตบลงมาบนหัวของเขา
โอ้ยยยย เขาคลำหัวป้อยๆก่อนจะบ่นต่อ ที่นี่ที่ไหนล่ะเนี่ย? ทำไมมันค่ำจัง
ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกมือหนักๆรุมกระหน่ำมาเข้าหัวอีกชุดใหญ่
ก็ถึงแล้ว นี่ไง บ้านของพี่ตั้ม หลังจากที่แก้มแหม่มบอกไฟโรงรถก็เปิดขึ้นในทันที
ไอ่คนขี้เซา ไปยกของด้วย เธอหันหลังเดินเข้าบ้านไปพร้อมพูดทิ้งท้าย
คนเพิ่งตื่นเองก็นั่งมึนๆเมาๆซักพักแล้วก็ลุกขึ้นไปดูท้ายรถที่ถูกเปิดอ้าไว้แล้ว เขาถึงกับตะลึง.....
โอ้ พระ!!! ที่เขาอุทานออกมาก็เพราะว่าของทั้งหมดยังไมได้ถูกยกออกมาแม้แต่ถุงเดียว
หนุ่มผมโมฮอครีบเหลียวซ้ายแลขวาเพื่อหา กัปตัน ของเขา แต่ก็มีเสียงของแก้มแหม่มดังลอดออกมาจากหน้าต่าง
พี่ตั้มไปซักผ้า ยกเองเลยไป๊ ! สิ้นเสียงของสาวมหาภัย เขาก็มองของทุกชิ้นด้วยความหนักใจ
นี่กูจะขนไปยังไงวะเนี่ย? แม้ว่าจะพูดถึงขนาดนั้น เขาก็ยกไปทีละหลายๆถุงพร้อมกับบ่นให้แก้มแหม่มฟัง
แก้มแหม่มมาช่วยผมหน่อยดิ เต้ร้องบอกเป็นเชิงขอร้องเพราะว่าแขนเริ่มจะถือไม่ไหวแล้ว แต่กลับถูกปฏิเสธเสียงแข็ง
จะให้ผู้หญิงบอบบางไปยกของเหรอ ฝัน ไป เถอะ ประโยคสุดท้ายเธอค่อยๆสะกดทีละคำอย่างหนักแน่น
อ่ะ เขาโอดครวญ
หรือจะอดข้าวเย็น ห๊ะ ! แฟนเจ้าของบ้านตวาดแว้ดกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้
คร๊าบๆ หนุ่มโมฮอครีบถอดสตั๊ด ผูกสายทั้งสองข้างเข้าด้วยกันแล้วเอาห้อยคอจากนั้นจึงยกของเข้าบ้านด้วยความหวาดกลัวในตัวแก้มแหม่มและความหวาดกลัวนี้ก็ทำให้เขาลืมอาการเจ็บปวดไปเป็นปลิดทิ้ง
จบตอน
Chapter 7 Tower house
เมื่อถึงเวลาหัวค่ำ ในระหว่างที่รอแก้มแหม่มทำอาการเย็นนั้น อาคันตุกะก็ถือโอกาสเดินสำรวจตัวบ้านรอบๆ
กำแพงรอบๆบ้านนั้นสูงราวๆ 2 เมตร ที่สำคัญ ดูเหมือนจะหนาราวกับป้อมปราการในหนังประวัติศาสตร์ไทยที่เขาเคยไปดูมาไม่มีผิดเพี้ยน
ถ้ามีปืนใหญ่จะเวิร์คมากกว่านี้ แต่ในความดุดันนั้นก็ยังคงมีความอ่อนโยนของแปลงดอกไม้ที่ผลิบานอย่างเต็มที่เพราะได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี
ส่วนประตูรั้วนั้นก็เป็นเป็นประตูกรงเหล็กดัดอย่างดีซึ่งเขาลองเขย่าๆดู ก็รู้ว่าไม่มีทางจะพังได้ง่ายๆ
ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้นก็เป็นสนามหญ้าเล็กๆ แคบๆ ซึ่งปูด้วยหญ้าอย่างดีซึ่งเต้แค่มองก็รู้ว่าแค่เอาไว้วอร์มอัพเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
ตัวบ้านเท่าที่เต้มองจากภายนอกนั้นเป็นบ้านสองชั้น มีระเบียงอยู่ตรงชั้นสองของบ้าน เป็นบ้านที่ใหญ่พอสมควร
แต่เมื่อลองเงี่ยหูฟังเสียงจากภายนอกกลับไร้ซึ่งสรรพสำเนียงของสิ่งมีชีวิต จะมีก็เพียงแค่เสียงระเบิดที่ดังแว่วมาเป็นระยะๆ
สงสัยคงจะย้ายหนีไปกันหมดแล้วมั้ง เขาพูดลอยๆ สายตามองเหม่อไปยังกลุ่มควันดำที่ม้วนตัวบนท้องฟ้า สีดำจากการเผาไหม้ของบางอย่าง
อาจจะเป็นเหล่าผีกระหายเลือด หรือไม่ก็เป็นเมืองที่กำลังถูกเผาวายวอดจากตำแหน่งไกลๆ
แต่ในความคิดลึกๆของเขานั้นบอกว่า อย่างหลัง น่าจะโดนเผาวอดเสียมากกว่า
เฮ้อ....จบกัน ความฝันนักบอลอาชีพ เต้บ่นเบาๆแล้วถอนหายใจ ก่อนจะลุบผมทรงโมฮอคสุดรักของเขา ที่ไปทางไหนก็มีแต่คนชื่นชม
แม้แต่ใครๆก็บอกว่าผมทรงนี้เท่ห์ แต่พอมาเจอกับผู้หญิงบรรลัยกัลป์นั่น ดันบอกว่าเพี้ยนเฉยเลย
พูดไปเขาก็นึกย้อนไปถึงตอนที่เจอกันที่ห้างสรรพสินค้า
ไอ่เพี้ยน !!! เสียงนี้ยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่ในหัวจนต้องสะบัดหัวไล่ความคิดนี้ออกไป
ถ้ายัยนั่นไม่ใช่แฟนของกัปตันนะ.....ฮึ่ม พ่อจะซัดบ๊บให้นอนหมอบกระแตราบเลย ไม่ทันได้หายใจหายคอก็มีมือมาสะกิดด้านหลัง
พอเต้หันไปก็ถึงกับขนหัวลุกวาบ...... ผู้หญิงบรรลัยกัลป์ ที่เขาพูดถึงกำลังยืนอยู่ด้านหลังของเขา !!!
เมื่อกี้พูดอะไร? สาวแว่นยืนจังก้าอยู่ตรงหน้าเขา ตอนนี้เขาเริ่มสัมผัสได้ว่ารังสีฆ่าฟันค่อยๆทะลักล้นออกมาจากร่างของเธอ
โลกทั้งใบดูเหมือนกำลังจะจบสิ้นอวสานลงไปพร้อมๆกับชีวิตของชายผมโมฮอค
พ่อจ๋า แม่จ๋า เกิดมาลูกยังไม่เคยมีแฟนเลย ขอให้ลูกได้มีแฟนก่อนตายเถอะค๊าบบบ
เขาพูดในใจพลางคิดไปว่าเขานั้นเป็นลูกไก่ในกำมือที่สาวแว่นมหาโหดคิดจะจับโยนออกไปข้างนอกเมื่อไหร่ก็ได้
กัปตันจะเป็นแบบนี้มั้ยนะ เขาคิดในใจอีกแต่แก้มแหม่มก็พูดด้วยน้ำเสียงกระด้างปนกับโหด
กับข้าวเสร็จแล้ว เจอกันที่โต๊ะอาหาร
เธอเดินจากไปโดยทิ้งให้เต้ถอนหายใจอย่างโล่งอกเพียงลำพัง
ฟู่....รอดแล้วเรา เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินตามแก้มแหม่มเข้าไปข้างในบ้าน
บนโต๊ะอาหารขนาดใหญ่นั้นมีเพียงแค่อาหารสองอย่างนั่นคือ หมูทอด กับ ผักที่บุบๆบี้ๆเหมือนกับผักบุ้งชุบแป้งทอด
และสองคนที่นั่งกอดอกคอยอยู่แล้ว ตั้มนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ และแก้มแหม่มนั่งข้างๆ
มาช้านะ ไปไหนมาเนี่ย? กัปตันเอ่ยทักทายก่อนจะรินน้ำส่งให้แก้มแหม่มและเต้ตามลำดับ
ขอบคุณครับ เอ่อ....ผมไปดูรอบๆบ้านมาน่ะครับ เต้ตอบแล้วเลี่ยงการสบตากับแก้มแหม่ม
แล้วเป็นยังไงล่ะ?
เหมือนที่กัปตันพูดเลย ป้อมปราการชัดๆ เขาตอบไปตามความจริง แต่ก็ไม่กล้าพูดว่า ถ้ามีปืนใหญ่จะเจ๋งกว่านี้ แต่ก็ยังอดทึ่งในบ้านหลังนี้ไม่ได้
555 เหรอ พ่อเป็นคนชอบบ้านแนวนี้น่ะ เหมือนท่านจะรู้มาก่อนแล้วมั้ง เลยสร้างแบบหนาๆ ที่สำคัญ ยังเอาไว้กันขโมยปีนด้วย
เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดีแล้วตักข้าวเข้าปากและตักอีกครั้งเพื่อป้อนแฟนสาว ซึ่งเธอก็อ้าปากรับอย่างว่าง่าย
สวีทกันดีนะครับ คู่นี้ เต้หยอดคำหวานแต่ก็ต้องเงียบไปเพราะสายตาของแก้มแหม่มนั้นได้บอกกับเขาว่า เดี๋ยวเอ็งโดนแน่
และแล้วก็ถึงคราวเคราะห์ เมื่อเขาโดนจริงๆ เมื่อแก้มแหม่มเปิดปากพูดเป็นคำแรก
พี่เต้มันว่าแหม่มว่าเป็น ยัยแว่นบรรลัยกัลป์ แฟนสาวเอ่ยเรียบๆ แต่แววตานั้นกลับเป็นคนละอย่างกันเลย
จนเต้ต้องก้มหน้างุดเพื่อหลบสายตาที่ทั้งสองผู้รอดชีวิตได้มองมาทางเขา
จริงเหรอ ? มีหลักฐานรึเปล่า? ชายหนุ่มเจ้าบ้านมองแฟนสาวด้วยความสงสัย แต่เธอก็พยักหน้าด้วยความมั่นใจก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดเสียงที่แอบอัดเอาไว้
แม้แต่ใครๆก็บอกว่าผมทรงนี้เท่ห์ แต่พอมาเจอกับผู้หญิงบรรลัยกัลป์นั่น ดันบอกว่าเพี้ยนเฉยเลย
สาวน้อยปิดเสียงแล้วหันไปมองเต้ที่กำลังหลบตาของเธออย่างสำนึกผิด
ดูตาของพี่เพี้ยนนั่นดิ ฮ่ะๆๆ เธอกล่าวปนขันก่อนจะกระดกแก้วน้ำขึ้นดื่มช้าๆ
ผมยอมรับแล้ว..อย่าลงโทษผมเลยค๊าบบ ชายเพี้ยน ก้มหน้าปะหลกๆด้วยความหวาดกลัวต่ออิทธิพล ก่อนที่เต้จะถูกลงโทษตั้มจึงพยายามเปลี่ยนเรื่อง
ช่างเถอะๆ ว่าแต่ เราจะเอายังไงกันกับพรุ่งนี้ เจ้าบ้านพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือของแฟนสาวไว้
เธอเองก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย จึงไม่ได้เอ่ยอะไรเรื่องของเต้อีก และผู้รอดชีวิตทั้งสามก็ตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ
พรุ่งนี้เราจะออกหาผู้รอดชีวิต ตั้มตัดสินใจหลังจากที่ ปล่อยให้เงียบมาพอสมควร โดยที่ทั้งสองก็ไม่ได้แย้งอะไร
ได้ครับๆ เต้พยักหน้าก่อนจะรีบทำ เนียน จะลุกไป แต่แก้มแหม่มนั้นไวพอที่จะพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน
อ๊ะ อ๊ะ อ๊าววว อย่าเพิ่งไปไหน สาวแว่นทุบโต๊ะแล้วพูดต่อทำให้บรรยากาศนั้นเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที
ถึงเวลา พิพากษาแล้ว !!!!
จบตอน
To Be Continue.................