ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 3 หน้า 123 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 25 จากทั้งหมด 52
  1. #1
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    353
    กล่าวขอบคุณ
    202
    ได้รับคำขอบคุณ: 882

    13 หนังที่มีฉากจบหักมุม หลอกคนดู ที่ผู้คนคาดไม่ถึง

    มีกี่ครั้งที่พอคุณดูหนังจบแล้วต้องถึงอ้าปากค้าง นับครั้งได้เลยหนังที่เราดูส่วนมากมักจะจบแบบ เราพอจะเดาๆออกว่าจะเป็นอย่างไงต่อไป แต่หนังต่อไปนี้เชื่อว่าไม่มีใครเดาเนื้อเรื่อง หรือ ตอนจบของหนังว่ามันจะออกไปยังไงเพราะผู้กำักับได้ว่าเนื่อหาซับซ้อน ซ่อนเงื่อน อยากที่จะเข้าใจ บางเรื่องต้องกลับเอามาดูอีกครั้งหรือมากว่านั้น หนังที่นำเสนอต่อไปนี้เป็นหนังที่มีฉากจบหรือเนื้อเรื่องซับซ้อนที่มีผู้คนกล่าวถึงบ่อยที่สุด ผมจะบอกเนื้อเรื่องหลัก สิ่งที่น่าสนใจ ไม่กล่าวถึงฉากจบเผื่อใครที่ยังไมไ่ด้ดู ขอออกตัวไว้ก่อนนะครับ นี้ไม่ใช่การจัดอันดับเหมือนเดิม เพราะใครที่ชอบไม่ชอบอยู่ที่ รสนิยม ความคิด ซึ่งคนเราชอบแตกต่างกันไป

    13. Saw 2004



    หนังฆาตกรรมต่อเนื่องแนวจิตวิทยา เรื่องเยี่ยมปี 2004 และมีภาคต่อออกมาถึง 6 ถาค หนังว่าด้วยเรื่อง ฆาตกรรายหนึ่งที่จับคนมาสั่งสอนให้รู้ถึงคุณค่าของชีวิตมันเรียกตัวเองว่า Jigsaw และมันประกาศตัวให้โลกรู้ด้วยการสลักชื่อมันไว้บนตัวเหยื่อ และบังคับให้เหยื่อเล่นเกมสุดอำมหิต ทรมานยิ่งกว่าตกนรก Jigsaw คือฆาตกรอัจฉริยะที่จะนำคุณทุกคนเข้าสู่ฉากฆาตกรรมและเกมจิตวิทยาระดับสูงสุด ด้วยเนื้อเรื่องที่ซับซอนแปลกแนว และฉากจบที่หักมุม ทำให้หนังเรื่องนี้มีภาษีและมีกึ๋นกว่ากว่าหนังฆาตกรรมในยุค 2000

    12. The Machinist 2005



    หนังแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวของพระเอกรางวัล ออสการ์ อย่าง Christian Bale เรื่องนี้ bale ยอมลดน้ำตัวถึง 63 ปอนด์ ให้ผอมเหลือแต่กระดูกเพื่อมารับบท Trevor Reznik ชายผู้มีการอาการโรคนอนไม่หลับหรือศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า Insomnia หนังว่าด้วยเรื่องช่างหนุ่มประจำเครื่องกลึงในโรงงานเครื่องจักรแห่งหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหน้าที่การงานที่ดูธรรมดาในแต่ละวันของเขา มันกลับเต็มไปด้วยอันตรายมากมาย จากอาการนอนไม่หลับที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ พร้อมกับการปรากฏตัวของเพื่อนร่วมงานผู้ลึกลับของเขา

    11. Shutter Island 2010



    การกลับมาอีกครั้งของผู้กำกับ Martin Scorsese หลังจากประสบความสำเร็จจากหลัง The Departed หนังดัดแปลงมาจากนิยายสุด classic Shutter Island ตำรวจศาล เท็ดดี้ แดเนียลส์(Leonardo DiCaprio) กับคู่หู ชัค โอล ได้ถูกเรียกตัวไปยังเกาะชัตเตอร์ เพื่อสืบสวนการหายตัวไปจากห้องขังอย่างลึกลับของฆาตกรผู้ชาญฉลาด ภายในโรงพยาบาลแอชคลิฟฟ์ ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ท่ามกลางจิตแพทย์และคนไข้โรคจิตบนเกาะที่ห่างไกลผู้คน พวกเขาได้เจอกับบรรยากาศแปลกประหลาดที่ผันแปรเสมอ ที่บ่งบอกให้พวกเขารู้ว่า ไม่มีสิ่งใดเป็นอย่างที่เห็น หนังอาจจะดูซับซ้อน
    และมีจุดเบนความสนใจหลายฉาก แต่ตอนจบได้คลายปลมและทิ้งคำถามให้กับคนดู ทำให้เรื่องนี้มีกลิ่นไอของหนังยุค 70

    10. The Game 1997



    สุดยอดหนังแนวหักมุมอีกเรื่องหนึ่งของผู้กำกับ David Fincher และได้ 2 นักแสดงรางวัลออสการ์อย่าง Michael Douglas และ Sean Penn นักเล่าเรื่องถึงนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ มีความฉลาด สุขุม แต่วันหนึ่งเมื่อน้องชายของเขาได้ให้นามบัตร บริษัทความบันเทิงที่ชื่อ CRS เขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเล่นเกมที่ทำให้ชีวิตเขาพังทลายลง เกิดผลกระทบมากมายอย่างไม่คาดถึง หนังเล่าเรื่องได้ไหลหลื่นไม่น่าเบื่อ ทำให้คนดูต้องคิดตามตลอด และจุดหักมุมที่ซับซ้อน

    9. The Mist 2007



    ภาพยนตร์เขย่าขวัญสั่นประสาทเรื่องล่าสุดที่ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นของเจ้า พ่อวรรณกรรมสยองขวัญ "สตีเฟ่น คิง" ได้ผู้กำกับ "แฟรงก์ ดาราบอนท์"ที่เคยนำผลงานของ "สตีเฟ่น คิง" มาดัดแปลงทำเป็นภาพยนตร์ และได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีเยี่ยม รวมถึงประสบความสำเร็จด้านรายได้อย่างงดงาม อย่าง The Shawshank Redemption และ The Green Mile The Mist เรื่องราวของผู้คนในเมืองเล็กๆ ที่หนีตายไปอยู่ในซูเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่ง หลังจากที่เมืองทั้งเมืองถูกพายุหมอกมรณะครอบคลุม ในพายุหมอกนั้นมีอสุรกายแฝงตัวอยู่

    8. The others 2001



    โครงเรื่องและโทนสีของเรื่องนี้บ่งบอกถึงความเป็นภาพยนตร์สยองขวัญย้อนยุคได้เป็นอย่างดี ครึ่งแรกของหนังออกแนวอืดๆดูน่าเบื่อไปบ้างแต่มีฉากที่ลุ้นได้เหมือนกัน แต่ช่วงกลางๆเรื่องไปถึงตอนถ้ายเรื่องการดำเนินเรื่องจะสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนดูได้สุดๆนรูปแบบของ Alejandro Amennabar ที่สร้างความกลัวโดยอาศัยหลักจิตวิทยา ไม่ต้องอาศัยเสียงดนตรีหรือภาพสยดสยองเข้าช่วย และเมื่อปมทุกอย่างคลี่คลาย หลายคนจะต้องอึ้งกับบทสรุปที่คาดไม่ถึงของภาพยนตร์เรื่องนี้

    7. Identity 2003



    หนังมาแนวๆให้คนดูคิดหาตัวฆาตกรที่อยู่ในกลุ่มคน เรื่องเกิดขึนเมื่อคนแปลกหน้า 10 คนหนีพายุกระหน่ำมาพักในโรงแรมกลางทะเลทรายขนาดที่พวกเขาหลบพายุอยู่ก็ได้มีเหตุฆาตรกรรมเกิดขึ้นเรื่อย แล้วพวกเขาเริ่มสงสัยกันเองแล้วว่าฆาตกรอาจอยู่ในกลุ่มพวกเขา หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังฆาตกรธรรมดาได้แฝงในเชิงจิตวิทยาไว้ด้วย หนังเดินเรื่องอย่างฉับไวบอกที่มาที่ไปของตัวละครได้อย่างฉัดเจน และเป็นหนังมีแฝงด้วยจุดหักมุมหลายจุด ซึ่งคอหนังแนวนี้ไม่ควรพลาด

    ุ6. Fight Club 1999



    ผลงานหนังสุดเท่ห์ที่แฝงไปด้วยปรัญญา สัจธรรม ของผู้กำักับ David Fincher เป็นหนังที่เจ๋งเดินเรื่องได้ไม่น่าเบื่อ และที่สำคัญหนังเรื่องนี้ในตอนจบ Fincher ได้หลอกคนได้อย่างแนบเนียบจนไม่มีที่ติ หนังว่าด้วยพนักงานบริษัทประกันที่มีพร้อมทุกอย่าง ชีวิตอันเลิศหรู แต่ทำไมเขาถึงมีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับ จนเมื่อเขาได้พบกับชายปริศนา Tyler Durden ได้เปลี่ยนชีวิตเขาไปสุดขั้ว Fincher เยี่ยมในการตีแผ่สังคมสังคมเมืองหลวงยุคปัจจุบันที่มนุษย์ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างใช้การตัดสินคุณค่าของชีวิตไปที่แผ่นกระดาษที่มีชื่อว่าเงินตรา และทำทุกวิถีทางเพียงเพื่อจะได้มีเงินไปใช้เชิดชูระดับชีวิตของตน

    5. The Sixth Sense 1999



    หนังที่สร้างชื่อให้และความเขย่าขวัญให้คนดูแบบมีจุดพลิกพลันชวน shock สไตล์ M. Night Shyamalan กลายเป็นผลงานสุดคลาสสิกที่ได้รับการตอบรับทั้งด้านคำวิจารณ์และเงิน ที่แม้แต่ Shyamalan เองก็ยังไม่สามารถผลงานที่เทียบเท่าเรื่องนี้ออกมาได้ หนังว่าเรื่องราวของจิตแพทย์เด็ก Dr. Malcolm (bruce willis ) ที่เข้ามาช่วยเหลือเด็ก(Haley Joel Osment)ที่มีความผิดปกติโดยเขาอ้างว่ามองเห็นคนที่ตายไปแล้ว

    4. Vertigo 1958



    หนังเป็นตัวแทนกลุ่มหนังทลิลเลอร์จิตวิทยาเรื่องเยี่ยมที่สร้างชื่อให้ปรมาจราย์หนังสยองขวัญและหนังแนวจิตวิทยาอย่าง Alfred Hitchcock สังเกตุได้เลยหนังสมัยนี้ได้เอาหนังของ Hitchcock ไปเป็นต้นแบบทั้งนั้น ซ๊อค,หักมุมและทำให้คนดูต้องลังเลและครุ่นคิดนั่นและเป้าหมายของ Hitchcock หนังเรื่องนี้ยังอยู่ที่ 9 จาก 100 หนังที่ hollywood เคยสร้างมาไม่ต้องบอกว่า Classic ขนาดไหน

    3. Se7en 1995



    นี่ถือเป็นหนังฆาตกรรม สืบสวน สอบสวนเรื่องเยี่ยมที่สมบูรณ์แบบจริงๆทั้งมุมกล้องที่ทำหนังออกมาแนวนัวๆตามสไตล์ Fincher เนื้อเรื่องมีเข้มข้นน่าติดตามการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Freeman และ
    Pitt จึงทำให้หนังเรื่องนี้การเป็นหนังฮิตในปี 95 หนังว่าด้วยฆาตกรโรคจิตที่จะฆ่าคน 7 คนที่มีบาป 7 ประการติดตัวตามพระคำภีร์ซึ่งได้แก่ ราคะ ตะกละ โลภะ เกรียจคร้าน ริษยา โอหัง โทสะ ซึ่ง 2 นักสืบใกล้เกษียณ กับนักสืบหนุ่มไฟแรงต้องหยุดการฆ่ากรรมนี้ลง จุดหักมุมที่ทำให้คนดูเหมือนโดนตบหน้าอย่างจังในสิ่งที่ฆาตกรทำในตอนท้ายเรื่อง ซึ่งไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

    2. The Usual Suspects 1995



    ผลงานระดับ masterpiece ขอผู้ให้กำเนิด x-men และ x2 ของ Bryan Singer นักแสดงสุดยอด การเดินเรื่องง่ายๆ แต่ด้วยบทที่สุดยอด ทำให้หนังน่าติดตามและน่าติดตามมากขึ้นในตอนท้ายเรื่อง รวมไปถึงบทสรุปที่คาดไม่ถึง สรุปว่า นี่เป็นหนังอีกเรื่องที่คอหนังไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด เล่ห์กลร้ายกาจที่สุดที่จอมวายร้ายใช้คือให้โลกคิดว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่จริง ถ้าดูเรื่องนี้คงจำประโยคเด็ดของหนังได้นะครับ

    1. Memento 2000



    ก่อนจะมีสุดยอดหนังอย่าง The dark knight หรือ inception ผู้กำกับ Nolan ได้สร้างผลงานที่สุดยอดในการเล่า เรื่องที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน Memento นั้นมีพล็อตเรื่องแสนง่าย แต่สไตล์การนำเสนอของโนแลนนั้นทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงกันไม่รู้จบ หาน้อยคนนักที่จะชมภาพยนตร์เรื่องนี้เพียงรอบเดียวแล้วเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งกับสิ่งที่โนแลนต้องการนำเสนอ วิธีการเล่าเรื่องจากหลังมาหน้า แล้วตัดคั่นด้วยการเล่าเรื่องจากหน้ามาหลัง ทำให้ยากนักที่สมองของคนปกติ จะสามารถสลับสับเปลี่ยนหน้าที่กันได้ทันในการสร้างจินตภาพในหัวของผู้ชมได้ รูปแบบการนำเสนอที่แหวกแนว ล้ำลึก ซับซ้อน หักมุม ยากต่อการตีความ ทำให้หนังเรื่องนี้เหนือกว่าเรื่องอื่นๆ

    ขอบคุณข้อมูล จาก www.imdb.com

    เป็นไงครับกับ 13 เรื่องนี้เรื่องไหนโดนใจพวกคุณๆกันบ้าง? นี้ไม่ใช่การจัดอันดับหรือหนังที่ผมชอบแต่มาจากความเห็นส่วนใหญ่ของคนดู มันจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล


  2. #2
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    กระทู้
    480
    กล่าวขอบคุณ
    412
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,784
    หนังแนวนี้ถ้าไม่ตั้งใจดูนี้ไม่รู้เรื่องจริงๆ ชอบ The Usual Suspects ในตอนท้ายอกได้เลยคนเขียนบทโคตรอัจริยะ Wild Thingsไม่มีหรอครับทั้งหักมุมทั้ง 18 + 555

  3. #3
    TAMe.Taylor Swift
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Pantip.com
    กระทู้
    784
    กล่าวขอบคุณ
    207
    ได้รับคำขอบคุณ: 386
    อยากให้มีสัก 100 อันดับ ฮ่าๆ

  4. #4
    デュラララ!!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Captain_Teemo 
    กระทู้
    829
    กล่าวขอบคุณ
    1,479
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,468
    The Mist จบโครตเวร

  5. รายชื่อสมาชิกจำนวน 19 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  6. #5
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    ที่อยู่
    Liverpool
    กระทู้
    1,399
    กล่าวขอบคุณ
    1,072
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,670
    เอ้า 5 แพร่งไม่หักมุมหรอกหรอครับ

  7. #6
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    987
    กล่าวขอบคุณ
    1,102
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,439
    Shattered Island เจ๋งจิงง่า

  8. #7
    เวลาช่างยาวนาน.......
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Dindaeng
    กระทู้
    973
    กล่าวขอบคุณ
    324
    ได้รับคำขอบคุณ: 284
    The Mist จบได้กวนทีนมาก-*-

  9. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  10. #8
    ชอบส่องเป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    372
    กล่าวขอบคุณ
    311
    ได้รับคำขอบคุณ: 156
    เดี๋ยวต้อง ลองไปหาชม ดูซะเเล้ว

  11. #9
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    บ้าน ^^
    กระทู้
    275
    กล่าวขอบคุณ
    394
    ได้รับคำขอบคุณ: 110
    Blog Entries
    1
    ผมดู The mist ตอนจบแล้วมันหดหู่มากตอนที่พ่อยิงคนอื่นเหลือแต่ตัวเอง
    แล้วมีทหารมา มันเป็นอะไรที่หดหู่สุด ๆ เลย

  12. รายชื่อสมาชิกจำนวน 6 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  13. #10
    デュラララ!!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Captain_Teemo 
    กระทู้
    829
    กล่าวขอบคุณ
    1,479
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,468
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ บุรุษฟ้า-ขาว อ่านกระทู้
    ผมดู The mist ตอนจบแล้วมันหดหู่มากตอนที่พ่อยิงคนอื่นเหลือแต่ตัวเอง
    แล้วมีทหารมา มันเป็นอะไรที่หดหู่สุด ๆ เลย
    จบแย่มากๆอะครับ ผมจิตตกตั้งแต่ที่มันตั้งกลุ่มพระเจ้าอะไรไม่รู้ที่อยู่ในห้างละ แล้วมาเจอตอนจบ ...

  14. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  15. #11
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    267
    กล่าวขอบคุณ
    40
    ได้รับคำขอบคุณ: 471
    The Sixth Sense ผมว่าสุดยอดแล้ว
    ส่วน The mist นี่จิตตกเลย
    ไม่ชอบ"เห่า" ไม่ชอบ"เลีย" ไม่หน้า"ตัวเมีย" ค.คน"ส้นตีน" ติดดิน

  16. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  17. #12
    อย่าตามน้ำในทางที่ผิด
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    (เฉพาะผู้ได้รับอนุญาต)
    กระทู้
    1,377
    กล่าวขอบคุณ
    1,985
    ได้รับคำขอบคุณ: 981
    The Mist 2007 นี้ติดด้วยแหะ

    ผมว่าเรื่องนี้มันสอน ให้คิดนะ

    ผมรู้สึกว่า มันสอนว่าคนนี้หละ น่ากลัวที่สุด
    ลูกผู้ชาย ฆ่าได้ฝังให้ด้วย

  18. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  19. #13
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    กระทู้
    335
    กล่าวขอบคุณ
    92
    ได้รับคำขอบคุณ: 107
    The mist นี่พอดูจบปุ๊บ ทำตัวไม่ถูกเลย
    Fight Club นี่พอดูจบ เหมือนหนังเรื่องนี้สร้างแรงกระตุ้นอะไรบางอย่างให้กับคนดู ให้ทำในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ ผมบอกตามตรงเมื่อก่อนผมขี้อายมากๆ พอดูเรื่องนี้จบ ผมกลายเป็นคนที่ไม่ใช่คนขี้อายแบบเมื่อก่อนเลย

  20. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  21. #14
    Lie To Me
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    World
    กระทู้
    1,356
    กล่าวขอบคุณ
    1,573
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,610
    the six sense ชอบมากเรื่องนี้

  22. #15
    Avalanche's Fanboy
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    3,743
    กล่าวขอบคุณ
    574
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,138
    The mist มันเรียกหักมุมเหรอ?

  23. #16
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    33
    กล่าวขอบคุณ
    190
    ได้รับคำขอบคุณ: 0
    The Prestige ก็จบแบบหักมุมนะ

  24. #17
    DotA2
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    FAP FAP FAP
    กระทู้
    870
    กล่าวขอบคุณ
    12
    ได้รับคำขอบคุณ: 631
    ชอบตอนจบเรื่องนี้ที่สุดและ

    3. Se7en 1995

  25. #18
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    353
    กล่าวขอบคุณ
    202
    ได้รับคำขอบคุณ: 882
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Zidane อ่านกระทู้
    The mist มันเรียกหักมุมเหรอ?
    ส่วนตัวผมว่ามันไม่ได้หักมุมอะไรเลยนะแต่เห็นในการจัดอันดับกับหนังสือถามคนที่ดูหนังแนวนี้เห็น ส่วนใหญ่จะตอบแค่ six sense ไม่ก็ the mist คงเป็นเพราะตอนจบมันจบแบบ เอาอย่างงี้เลยหรอ

  26. #19
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    ที่อยู่
    กรุงเทพ
    กระทู้
    9
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ 1
    ผมชอบ The Mist มากที่สุดหักมุมมาก ดูแล้วอึ้ง + สงสาร = =

    ส่วนอีกเรื่อง Dawn Of The Dead ผมว่าตอนจบก็หักมุม คิดว่าจะรอดสุดท้าย = =

    ปล . หนังที่ดูแล้วไม่ต้องเดา ก็รู้ฉากจบคือ ละคร ไทย

  27. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  28. #20
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    กระทู้
    480
    กล่าวขอบคุณ
    412
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,784
    ผมหาดูใน mthia ไปแล้ว 2 เรื่อง Identity ดูจบแล้ว คิดในใจเป็นไปได้ไงว่ะ

    ส่วน memento นี้เอ๋อกิน ยอมรับ สงสัยต้องดูอีกรอบ ลำดับเหตุการณ์ไม่ถูกจริงๆ

  29. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  30. #21
    R.I.P
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    1,295
    กล่าวขอบคุณ
    2,855
    ได้รับคำขอบคุณ: 706
    เคยดูแต่ saw กับ the mist เดี๋ยวเรื่องที่เหลือจะไปลองหาดู
    ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล

  31. #22
    ' THANK YOU. '
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Touch My Heart
    กระทู้
    506
    กล่าวขอบคุณ
    728
    ได้รับคำขอบคุณ: 393
    The Mist ผมว่าสุดยอดแล้วครับ การหักมุมของเรื่องนี้

  32. #23
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    648
    กล่าวขอบคุณ
    982
    ได้รับคำขอบคุณ: 304
    ไม่เคยดูสักเรื่องเลย

  33. #24
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    กระทู้
    1,407
    กล่าวขอบคุณ
    1,100
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,585
    เข็มขัดสั้น คาดไม่ถึง

  34. #25
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    517
    กล่าวขอบคุณ
    639
    ได้รับคำขอบคุณ: 385
    อันดับ 12 น่ากลัวเเท้ !


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top