ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 13 จากทั้งหมด 13
  1. #1
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    12
    กล่าวขอบคุณ
    3
    ได้รับคำขอบคุณ: 0

    Smile สอบถาม หลักในการเลือกซื้อการ์ดจอครับ ดูอย่างไรหรอครับ ว่าจะแรง จะเร็ว จะสวย ดูตรงไหนครับผม

    หลักๆนะครับ ที่ผมอยากสอบถามผู้รู้ผู้ที่เกี่ยวของนะครับ

    มีทั้ง Nvidia และ ATI ถูกมะครับผม

    คำถามผมมีดังนี้นะครับ เช่นยกตัวอย่างที่ผมส่งสัยนะครับ

    1GB

    DDR5

    256 bit

    พวกนี้มันคืออะไรครับ อธิบายง่ายๆๆให้เข้าใจหน่อยครับผม

  2. #2
    Gunz
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    티아라
    กระทู้
    1,655
    กล่าวขอบคุณ
    595
    ได้รับคำขอบคุณ: 898
    -Core Clock
    -Memmory Clock
    -Shader Clock (Nvidiaจะมีให้ดู)
    -VRAM
    -BIT
    -ShaderUnit
    ความสวยอยู่ที่สายตาท่านครับ อิอิ

  3. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  4. #3
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    RUN BKK
    กระทู้
    57
    กล่าวขอบคุณ
    6
    ได้รับคำขอบคุณ: 16
    nvidia ได้ฟิสิก
    ati ได้ความเเรง
    เริ่มต้นที่ 1

  5. #4
    Forward Thinking
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,527
    กล่าวขอบคุณ
    43
    ได้รับคำขอบคุณ: 590
    -Core Clock : ความเร็วในการประมวลผล จำนวนที่ได้คือ GP/s
    -Memmory Clock : ไวสำหรับเก็บ ข้อมูลที่ Core ประมวลผลมาเก็บและแสดง จะได้เป็นความกว้างของข้อมูลที่สามารถส่งได้ [BandWidth] เหมาะกับการต่อในความละเอียดขนาดมากๆ อย่าง 2 - 4 จอ
    -Shader Clock (Nvidiaจะมีให้ดู) : ความเร็วในการประมวลผลแบบกลุ่ม ยิ่ง Shader มากยิ่งประมวลออกมาไว
    -VRAM : ชนิด RAM ของการ์ดจอ [เฉพาะการ์ดจอ ไม่เกี่ยวกับ PC] ปัจจุบัน DDR5
    -BIT : ความกว้างของการส่งข้อมูล ยิ่งกว้างมากยิ่งส่งได้มาก
    -ShaderUnit : จำนวนของ Shader มีผลต่อการจับกลุ่มประมวลผล nVidia 1ตัว/1กลุ่ม Amd 5ตัว/1กลุ่ม

    ก็ประมาณนี้ครับ ที่สำคัญจริงๆเลย ความสำคัญ ความคุ้มค่า การใช้งาน

    **ยืนข้อความ**
    CPU Intel Core i7 6700K / M/B AsRock Z170 Pro4 / RAM G.Skill Trident Z 3200 16GB / Gigabyte GTX 1070 G1 Gaming / PSU Cosair CX 650W / CASE In Win 303 Nvidia

  6. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  7. #5
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    59
    กล่าวขอบคุณ
    18
    ได้รับคำขอบคุณ: 135
    ไม่รู้อ่ะ สําหรับผมดูที่ Core Clock กับ BIT อ่ายิ่งมากยิ่งดี

    ไม่ค่อยเก่ง
    D A F T P U N K

  8. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    691
    กล่าวขอบคุณ
    393
    ได้รับคำขอบคุณ: 303
    เพิ่มเติม

    แนะนำวิธีดู ซีรี่ส์ การ์ดจอครับ
    พอดีเห็นว่าไม่มีในปักหมุด
    สำหรับ มือเซียน เก๋าๆแล้วก็คงผ่านไปก็ได้ครับ เพราะคิดว่าช่ำชองกันแน่แท้
    แต่กับ คนที่เพิ่งมาเล่นใหม่ๆ ยังไม่รู้จะเลือกรุ่นยังไง ผมคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์บ้างนะครับ

    อย่างที่รู้ๆกันว่า การ์ดจอ ทุกวันนี้ ที่นิยมๆ มี 2 แบบคือ AMD[ATI เก่า] HD ซีรี่ส์
    กับ Nvidia


    โดยไม่พูดอะไรมาก เล่นกันเลยนะครับกับ
    AMD (ผมให้เป็นส่วนของ HD นะครับ)
    มีใครสงสัยกันบ้างมั้ยครับว่า การ์ดแต่ละรุ่น อันไหนเป็นยังไง
    แรกๆผมไม่รู้จริงๆนะ
    ผมเห็นการ์ดรุ่น 5450 กับ 4870 ผมก็งง
    เอ๊ะ ทำไม 5450 มันถูกจัง 4870 ทำไมมันดูหรูจัง
    ยิ่งเห็นตัวการ์ดก็สงสัย
    ทำไมกัน 4870 แรงกว่า 5450
    งั้นที่บอกว่า AMD ดูตัวเลข ก็ไม่จริง น่ะเดะ
    หลังจากนั้นจึงเริ่มศึกษาเป็นเวลา 3 วินาที(เว่อร์แล้ว) จริงๆ นานครับ ศึกษามาเรื่อยๆ จนได้ข้อสรุปว่า

    มันจะแบ่งกันแบบนี้นะครับ

    AMD ตระกูล HD Series นั้น
    ผมจะยกตัวอย่างนะครับ
    เช่น HD 5870
    เลขตัวแรก คือ ซีรี่ส์ของมันครับ โดยจริงๆมันมีมาตั้งนานมากแล้วครับ
    ตั้งแต่ 2 3 4 5 แต่ทุกวันนี้ ที่นิยมจะเป็น 5 ซีรี่ส์ครับ ส่วน 4 ซีรี่ส์ ก็ยังมีคนใช้อยู่ แต่ถ้าเป็น 3 ซีรีส์ ก็คงจะบอกได้ว่า หลงเหลือ ล่ะครับ

    ดังนั้น
    AMD ตัวเลขหน้าสุดคือ ตระกูลการ์ด แต่จะดูรุ่นแรงไม่แรง ดูที่ 3 ตัวหลังครับ

    ต่อมาก็เลข ตัวที่ 2 ครับ
    เช่น HD X3xx
    X4xx
    X5xx
    X6xx
    X7xx
    X8xx
    X9xx ครับ

    โดยจะมีรุ่นใหญ่สุดคือ 9 ครับ ส่วน 8 จะถือเป็นการ์ดระดับไฮๆ แล้ว
    เช่น
    อย่าง X3xx เนี่ย รุ่นเล็กเลย แน่นอน X4xx และ X5xx จัดเป็นรุ่นเล็กครับ
    X6xx กับ X7xx เค้าให้เป็น Mainstream ครับ ตลาดกลุ่มผู้ใช้หลัก
    โดย X6xx เนี่ย จะเป็นระดับกลาง และ X7xx จะเป็นระดับสูง ในด้านของ mainstream ครับ
    และ X8xx - X9xx เป็น ซีรี่ส์สูงสุดครับ

    ซึ่ง ซีรี่ส์ X9 เป็น ซีรีส์พิเศษครับ ซึ่งไม่ว่าจะกี่รุ่นๆ ก็ถือเป็นตัวที่เรียกว่า Premium ไปเลย

    ดังนั้นเราจึงสรุปได้ว่า Hd ที่เป็น ซีรี่ส์ X3xx X4xx X5xx จัดเป็นการ์ดจอ ราคาประหยัดนั่นเองครับ

    คราวนี้จะเป็นตัวเลข แยกย่อยครับ
    ซึ่งจะว่ากันที่ 2 ตัวท้ายแล้วครับ
    ซึ่ง ในตระกูลของ AMD เนี่ย ตัว --xx หลัง จะเป็นรุ่น 1 ในแต่ละ ซีรี่ส์ นั้นๆ เลขยิ่งมาก จะยิ่งดี ซึ่ง จะแบ่งเป็น
    xx30
    xx50
    xx70
    ซึ่ง 70 นั้นจัดเป็น รุ่นสูงสุดใน อนุกรมนั้นๆ
    และจะสังเกตุได้ว่า ตะกูล x3xx x4xx นั้น โดยส่วนมากจะไม่ค่อยมี การ์ดที่เป็น xx70 นั่นเอง

    ดังนั้นแล้ว ถ้าเราจะดูการ์ดรุ่นต่างๆในตระกูล HD ของ AMD(Ati เก่า ที่เราคุ้นกัน)
    ก็ให้สังเกตุ 2 จุดก็คือ
    เลขตัวที่ 2 และ 2 ตัวท้ายครับ
    ซึ่ง ยิ่งเยอะก็หมายความว่าเป็นรุ่นที่แรง โดยเลขตัวหน้า คือ ตระกูลของมันเท่านั้นครับ

    ดังนั้นแล้ว ยกตัวอย่างว่า
    Hd 4870 กับ Hd 5450 อันไหนแรงกว่า
    เราสามารถตอบใครๆได้เลยว่า 4870 แรงกว่า นั่นเอง
    http://www.gpureview.com/show_cards....=625&card2=564

    แต่มันก็จะมีในส่วนของ ซีรีส์ที่ใกล้เคียงกัน แต่ตระกูลต่างกัน เช่น
    770 ของ 5 ซีรี่ส์
    กับ
    870 ของ 4 ซีรีส์

    ดังนั้น เช่นเรายกตัวอย่าง ถ้าถามว่า 5770 กับ 4870 อันไหนแรงกว่า ถ้าตอบง่ายๆ ตามหลักกายภาพเลยครับว่า 4870 แรงกว่า แต่ว่าด้วย อนุกรมที่เก่ากว่า ทำให้ ถ้าเทียบกันแล้ว การใช้งาน 5770 จึงดูคุ้มค่ากว่า


    ดังนั้นถ้าจะดูค่าย AMD การ์ดเก่ากับ การ์ดไหม่ ที่จะเห็นผลต่างกันจริงๆ ให้เอา เลข 2 ตัวหน้า มา ซัดกันครับ โดยที่ ตัวหลังต้อง อนุกรมเดียวกันนะ
    เช่น
    5770 VS 4870 ผลที่ออกมา ใกล้เคียงกันครับ แต่ยังไงซะ ตัวไหม่กว่าก็ย่อมดีกว่า
    http://www.gpureview.com/show_cards....=615&card2=564
    หรือดูจาก
    http://www.anandtech.com/bench/Product/176?vs=172
    จะเห็นได้ว่า ตัวความสามารถนั้น 4870 ก็ยังดูดีกว่า เพราะ แม้จะเป็นตระกูลเก่ากว่า แต่ อนุกรมซีรี่ส์มันสูงกว่า นั่นเองครับ

    แต่ถ้าเรามองที่ รุ่นเดียวกัน คนละตระกูล อันนั้น แน่นอนอยู่แล้วครับว่า ไม่มีทางที่ รุ่นเก่า จะ แรง แซงรุ่นไหม่ ไปได้หรอกครับ
    ยกตัวอย่างเช่น
    4870 กับ 5870
    http://www.anandtech.com/bench/Product/176?vs=162
    เห็นจะๆว่า ไงๆก็เสร็จ ตระกูลที่ไหม่กว่า

    จบไปกับ AMD หรือ Ati ตระกูล Hd Series

    ถามว่า แล้วจะมาสนใจทำไม อ้าว ก็ลองคิดดีๆสิครับ

    ถ้าเรารู้การดูการ์ด เราก็สามารถจะเดาๆ ได้ว่า การ์ด ซีรี่ส์หน้า ตัวที่เราใช้ จะไปชนกับตัวไหนได้ ใน ซีรี่ส์ถัดไปนั่นเอง
    อ่ะๆ ถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวจะเอาตารางให้ดู
    แล้วลองดูสิครับ 5870 กับ 6770 จะเห้นว่า มีความใกล้เคียงกันเลย
    แม้ 5870 จะไว้ลายไว้ก็ตามเถอะ แต่บางจุด 6770 ได้มีการพัฒนาไปด้วยเทคโนโลยี ที่ไหม่กว่านั่นเองครับ



    Uploaded with ImageShack.us

    อันนี้ของ AMD นะ แล้วเดี๋ยวผมจะลง Nvidia อีกที ขอไปกินข้าวก่อนนะครับ

    ถ้ายังไง มีผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะครับ เพราะผม ศึกษาด้วยตัวเองมาและเข้าใจในส่วนประมาณนี้ และหลังจากที่แนะนำคนรุ้จักหลายๆคน มันก็ได้ผลที่ดีน่ะครับ


    ขอบคุณที่ชอบนะครับ อบอุ่นจริงๆ เคยไปลง พันธุ์ทิพย์มา แต่ไม่หมดนะ มีพวก รู้เยอะมาโพสต์หมดอารมณ์ปล่อยไปเลย (แบบว่า ความรู้ อนุบาลใครๆก็รู้กัน ไรเงี้ยะ)

    ต่อกันครับ คราวนี้ ทาง ฝั่งเขียว บ้างครับ
    ฝั่งนี้ ดูเหมือนจะง่ายๆหน่อยครับ รหัสแบ่ง ตายตัวเลย
    แต่จริงๆ มันวุ่นวายยิ่งกว่า ATI อีกครับ

    Nvidia
    ค่ายนี้ จะเริ่มจาก ตระกูล Geforce Series เลยครับ ก็คือ จะไม่มี รหัสใดๆเลย

    สำหรับรุ่นเก่าๆ นั้น เราจะรู้กันดี ตั้งแต่ FX และไล่เลขมา ตั้งแต่ 5200 จน สูงสุดก็คือ 9800 ครับ
    แต่ว่า การ์ดชุดนี้ คิดว่า คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากแล้วเพราะมันก็นานมากแล้วรวมทั้ง Geforce4 mx อะไรพวกนี้ ผมขอ ละ ไว้เลยนะครับ เพราะคงหาไม่มีแล้วล่ะ

    ผมจะกล่าวถึง พวกตัวหลักๆในปัจจุบันนี้นะครับ ที่ทาง Nvidia พัฒนา รหัสเรียกให้ง่ายมากขึ้น เข้าใจได้ง่ายขึ้น จะมี การแบ่งรหัสที่ง่ายๆ และสั้น + กระชับ ได้ใจความครับ ใน อนุกรม ซีรี่ส์หลังๆนี้

    โดย จะเป็น ดูกันที่ รหัส ตัวอักษร และ ตัวเลข เท่านั้น ในการแบ่งแยก
    โดย จะมี รุ่นที่ตายตัวไปเลยครับ คือ
    1. ไม่มีตัวอักษรอะไรเลย มีแต่เลข พวกนี้ก็คือ รุ่นเล็กแบบสุดๆเลย ครับ (บางรุ่นจะใช้ GF นำหน้า)
    2. GS
    3. GT
    4. GTS
    5. GTX

    ครับผม โดยที่ จะไล่มาเลยตามลำดับก็คือ พวกที่ไม่มีนามสกุลต่อท้าย(ลูกเมียน้อยเนอะ) กับ GS จัดเป็นรุ่นเล็กครับ เป็นกลุ่มการ์ดจอที่ถ้าเปรียบก็เอาไว้ชนกับพวก ตระกูล X350 X450 ของฝั่ง AMD ครับ

    ต่อมาที่รหัส GT พวกนี้จะเป็นการ์ดระดับล่าง กึ่งๆ Mainstream (จริงๆแล้ว โซนเอเซียบ้านเรา ตลาดนี้เป็น MainsTream มากกว่าอีกนะ)
    และ GTS ที่จะเป็นรุ่นที่สูงกว่า เข้าข่าย การ์ด สมรรถนะสูง ไว้เจาะกลุ่ม Mainstream เป็นหลักครับ (ฝั่งยุโรป ตลาดนี้จะมีส่วนอยู่ที่ 40% กันเลย ทีเดียว)
    และ ตามด้วย GTX ซึ่งนี่คือกลุ่มหลักของเหล่า เกมส์เมอร์ ทั่วไปเลยครับ มันจัดอยู่ในกลุ่ม การ์ดจอชั้นสูง ไปเลย หรือ ชนกับระดับ X8xx Series ของ AMD นั่นเอง

    เอาล่ะครับมาถึงตรงนี้แล้ว มาว่ากันต่อครับ เพราะว่า ทาง Nvidia ได้จัดอนุกรม รหัส ไหม่ ขึ้นมาแล้ว โดยจะเป็นการ์ดในกลุ่ม

    200 Series
    และ
    400 Series

    จริงๆแล้ว ทำไมไม่มี 300 Series ผมว่าไม่ใช่นะ จริงๆไอ้ 400 Series ที่เราใช้อยู่เนี่ยมากกว่า ที่มันควรจะเป็น 300 ครับ แต่ทว่า มันดันมาช้ามาก และ GTX 200 Series ก็ทำผลงานชนมาได้นานพอดู คิดว่า ทางNvidia ก็เลย ข้ามไปเลย เป็น 400 Series ซึ่งจริงๆผมว่ามันก็คือ 300 นั่นแหละ แต่เปลี่ยนชื่อเท่านั้น

    คราวนี้ก็แค่มาดูง่ายๆ ที่เลขต่อท้ายครับ
    โดย Nvidia มักจะใช้ เลขท้าย 2 ตัว ครั้งที่หนึ่ง เลขที่ออก ถุ๊ยส ไม่ใช่หวย
    กลับมาๆๆ
    เลขท้ายของ Nvidia จะบอก ความแรงของรุ่นนั้นๆ คล้ายๆกับ ATI ครับผม

    โดยจะมีหลักๆ ก็คือ
    X10
    X20
    X40
    X50
    X60
    X70
    X80

    ครับผม (ซึ่งน่าแปลกที่จะไม่มีรหัส 30 กับ 90 ไม่รู้เพราะอะไร หรือ มันอาจจะมีก็ได้)
    แะ จะมีพวกตัวพิเศษ เป็นรุ่นกึ่งๆ ออกมา โดยจะเป็นตระกูลที่ลงท้ายด้วย 5 ครับ(เหมือนแบบ ครึ่งทาง)
    เช่น 65 75 85 95 เป็นต้น

    โดยที่ ตระกูลการ์ดนั้น
    ตั้งแต่
    x10
    x20
    x40
    จัดเป็นการ์ดทั่วไปครับ ไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยงเพิ่ม
    X50
    จะเป็นตัวเดียวครับที่ Nvidia ให้เป็นรหัส Mainstream
    X60
    X70
    X80
    พวกนี้จะเป็นการ์ดระดับสูงไปเลย
    และจะมีพวกตัวพิเศษ รหัส
    XX5 ต่อท้ายครับ ไม่ว่าจะต่อตัวไหน ก็จะเป็นรุ่นพี่ที่สูงกว่าครับผม

    ครับคราวนี้ มาดูกันว่า Nvidia นั้น เราจะดูยังไง ถ้า เปรียบเป็น AMD
    ตัวเลขหน้าสุด ของทั้ง 2 ค่าย จะเป็น ตระกูล การ์ดครับ
    พวกตัวเลข 2 ตัว ท้ายของ Nvidia ก็เหมือนกับ ตัวเลข 2 ตัวท้ายของ AMD(ATI) นั่นเองครับ
    และ ตัวอักษร ภาษาอังกฤษนั้น ก็เปรียบเสมือน กับ ตัวเลขตัวที่ 2 ของ AMD นั่นเอง
    ยกตัวอย่างง่ายๆก็คือ
    HD 5870 กับ GTX 480
    ตัว 5 = 4
    8 = GTX
    70 = 80 นั่นแหละครับ
    ดังนั้น ถ้าคิดง่ายๆ
    ตัวเลขแรก ของ AMD ก็คือ ตัวเลขตระกูลการ์ด ซึ่งเป็น เหมือนกับ Nvidia ครับ
    ตัวเลขที่ 2 ของ AMD ก็คือ รหัสการ์ด ของ Nvidia ที่บอกระดับ การ์ดนั่นเอง
    และ ตัวเลข สองตัวสุดท้ายของ AMD ก็เป็นเหมือน รหัส รุ่น(ตัวเลข) ของ Nvidia นั่นเองครับ

    ดังนั้น คิดง่ายๆก็คือ พวก ตัวที่ลงท้ายก็จะเป็น AMD = Nvidia
    xx30 = x10 x20 x40
    xx50 = x50 x60
    xx70 = x70 x80 และ รุ่น พิเศษๆ อีก
    นั่นแหละครับ
    แต่ว่า nvidia ไม่คิดจะสร้าง รุ่นการ์ดในรูปแบบ รุ่นเดียวกัน คลาสเดียวกัน เลยทำแยกย่อย ด้วยรหัสการ์ดแทน ซึ่ง AMD จะใช้เลข ตัวที่ 2 ในการบอกระดับครับ คือ
    Nvidia = AMD
    ไม่มีรหัส หรือ GS = x3xx x4xx
    GT = x5xx
    GTS = x6xx x7xx
    GTX = x8xx x9xx

    ครับ แต่มันก็แค่ให้ดูเท่านั้นนะครับ เพราะว่า 2 ค่าย เค้าจะทำมาแบบ ขั้นบันได ข้ามหัวกัน ซะมากกว่า
    เช่น
    amd ออก x3xx ออกมาก
    nvidia ก็จะออก GS มาทับ
    แล้ว AMD ก็ออก x4xx หรือ x5xx มาข่มอีก
    Nvidia ก็จะออก GT มาสู้
    กลายเป็นลักษณะนี้ครับ ถ้าเอามาเปรียบ 2 ค่ายนะ

    แต่หลักๆ ถ้าสรุป วิธีดูง่ายๆ ก็จะเป็นแบบนี้ครับ

    AMD
    ตัวเลขแรก --- ตระกูลการ์ด ครับ บอกให้รู้ว่าอันไหน ไหม่ เก่า โดยเลขเยอะก็ไหม่กว่าครับ
    ตวเลขที่ 2 --- คลาสการ์ดครับ ยิ่งเยอะก็ยิ่งแรงขึ้น เช่น การ์ดระดับ x5xx x6xx x7xx x8xx ครับ
    ตัวเลข 2 ตัวท้าย ---- บอกซีรี่ส์ครับ โดยจะมีหลักๆ 3 ตัว คือ 30 50 70 เป็นรุ่น เล็ก กลาง ใหญ่ (เหมือนธรรมดา แรงขึ้น และก็แรงที่สุด)

    Nvidia
    ตัวเลขแรก --- บอกตระกูลการ์ดครับ
    ตัวเลข 2 ตัวท้าย --- บอกซีรี่ส์ระดับการ์ดครับ ยิ่งเยอะก็ยิ่งแรงเช่น คลาส x50 x60 x70 x80
    ตัวอักษร --- บอก รุ่นการ์ดว่าเป็นการ์ดรุ่นไหนครับ โดยจะมี GS GT GTS GTX ซึ่งจะเป็น รุ่นเล็ก รุ่นกลาง รุ่นใหญ่ รุ่นใหญ่ที่สุด

    ถ้าเอามาเทียบกัน จะดู สับสนพอควร ดังนั้น อย่าเทียบครับเพราะจะงงมาก เพราะการดูรหัสนั้น ก็เพื่อให้เรารู้ว่าควรจะเล่นรุ่นไหนดีเท่านั้นเอง
    แต่ว่า ถ้าดูง่ายสุด ผมว่า HD ของ AMD ทำมาดูง่ายสุดครับ ตายตัวดี
    แตกต่างจาก Nvidia ที่ค่อนข้าง ยืดหยุ่นกว่า

  9. รายชื่อสมาชิกจำนวน 13 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  10. #7
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ลงอ่าง
    กระทู้
    782
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 486
    ตามนั้นครับ..

  11. #8
    - [ The Gang ] -
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    RAMAIX BangNa Phathumtani
    กระทู้
    3,427
    กล่าวขอบคุณ
    55
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,062
    เอาง่ายๆดูแล้วเข้าใจ bandwidth อันดับแรก + ชนิดของแรม ddr ยิ่งเยอะยิ่งดี + bus bandwidth

    ส่วนอื่นๆ แรมเท่าไหร่ clock มันเป็นแค่ส่วนประกอบครับผม แต่ถ้าเยอะไว้หน่อยก็ดี

    ส่วนถ้าการืดจอแรงเท่ากันหรือพอๆกันทั้งสองตัว ก็ต้องวัต ที่ตัวชิพของการ์ดครับ ใครจะแน่กว่ากัน แต่ส่วนใหญ่ ชิพใหม่ๆก็กินชิพเก่าอยู่แล้ว นอกจากตัวชิพเก่า พกแรมมาเยอะ หรือ มีพลังแฝง

  12. #9
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,772
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 895
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ BAJAJ อ่านกระทู้
    หลักๆนะครับ ที่ผมอยากสอบถามผู้รู้ผู้ที่เกี่ยวของนะครับ

    มีทั้ง Nvidia และ ATI ถูกมะครับผม

    คำถามผมมีดังนี้นะครับ เช่นยกตัวอย่างที่ผมส่งสัยนะครับ

    1GB

    DDR5

    256 bit

    พวกนี้มันคืออะไรครับ อธิบายง่ายๆๆให้เข้าใจหน่อยครับผม
    1. ขนาดของแรม (1GB) ในส่วนนี้มีผลต่อการเปิด AA (ลบเหลี่ยม) เพราะต้องใช้แรมในการพักข้อมูลแต่แรมที่มากจะมีผลแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้นคือแรมมากใช้ว่าจะได้ครบเสมอไป สรุปคือถ้าแรมน้อยก็จะเปิด AA ได้น้อยเปิดมากก็กระตุกแต่ถ้าแรมมากเกินก็จะไม่มีผลต่อ Frame rate ที่ได้เหมือนโอ่งน้ำใหญ่ๆที่ใส่น้ำได้เยอะๆแต่น้ำที่มีมีแค่ครึ่งโอ่ง ส่วนมากร้านขายมักเอาขนาดแรมมาหลอกเรา ทั้งๆที่จริงๆแล้วขนาดของแรมเป็นปัจจัยความแรงอันสุดท้ายเลยและมีผลไม่มากเพราะรุ่นใหญ่ๆยัดแรมมามากเกินพออยู่แล้ว

    2. ชนิดของแรม (GDDR5) ในส่วนนี้ผมขอเรียกว่า bus width คือ แรมชนิดใหม่ๆจะมีค่า bus ที่สูงเพื่อเพิ่ม Memory bandwidth ในส่วนนี้ที่มักเรียกกันว่าคอขวด คือถ้ามีน้อยไปข้อมูลที่จะส่งไปประมวลผลที่ GPU จะน้อย เทียบได้กับความกว้างของถนน

    3. Memory Interface (256 bit) ตรงนี้จะให้ผลคล้ายๆกับ bus width คือ เพิ่ม Memory bandwidth เหมือนกันแต่มีข้อเสียคือเพิ่มต้นทุนในการผลิตเพราะยิ่งมีมากยิ่งต้องใช้การออกแบบลายวงจรที่ซับซ้อนและใช้เม็ดแรมมากขึ้นกินไฟมากขึ้น ถ้าเทียบกับถนนคือมีถนนมีเลนย่อยเยอะๆนั่นเอง แต่เลนเยอะๆไปเจอถนนกว้างๆสู้ไม่ได้ก็มีนะ

    4. GPU ตัวนี้เป็นหัวใจของการ์ดจอ จะแรงหรือไม่อยู่ที่ตัวนี้เป็นหลักส่วนใหญ่ดูกันที่จำนวน Stream Processor (ATI) หรือ CUDA Core (nVIDIA) ยิ่งมีมากยิ่งแรงและยิ่งกินไฟ (แต่ต้องเทียบกันในสถาปัตยกรรมแบบเดียวกันนะเทียบข้ามสถาปัตยกรรมไม่ได้)
    ซึ่งถ้ามีปริมาณเท่ากันก็จะไปวัดกันที่ Core clock หรือ Shader clock อีกที อันไหนมีมากก็ดีกว่า

  13. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  14. #10
    Queen Cydaron
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    930
    กล่าวขอบคุณ
    79
    ได้รับคำขอบคุณ: 816
    ง่ายกว่านั้นอิงตามราคาเลยครับ
    ราคาสูงคุณภาพก็ดีแต่กระเป่าตังอาจมีแหกแหวกชิมิได้
    ราคาต่ำคุณภาพดีแต่อาจไม่ถึงความต้องการของผู้ใช้

  15. #11
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    12
    กล่าวขอบคุณ
    3
    ได้รับคำขอบคุณ: 0
    ผมได้รับความรู้จากทุกท่านเยอะมากเลยครับ ขอขอบคุณจริงๆๆ จากไม่รู้อะไรเลย ก็พอจะมีความรู้ขึ้นมา ขอบคุณมากนะครับผม ๆๆๆๆๆๆ

  16. #12
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    619
    กล่าวขอบคุณ
    117
    ได้รับคำขอบคุณ: 154
    ดูราคา ตอนสุดท้าย อิอิ

  17. #13
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    กระทู้
    81
    กล่าวขอบคุณ
    5
    ได้รับคำขอบคุณ: 115
    ดูตังในกระเป๋า ถ้ารวยก็ข้ามข้อนี้ไปได้เลย


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top