นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา หน่วย SEAL หรือชื่อเล่นที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยคือมนุษย์กบ ได้ถือกำเนิดขึ้นมา และผ่านภารกิจต่าง ๆ มากมายทั่วโลก ซึ่งต่างเป็นบทพิสูจน์ความสามารถและประสิทธิภาพของหน่วยที่ขึ้นชื่อว่าฝึกหนักที่สุด ฝึกนานที่สุด ทำภารกิจที่ยากที่สุดได้เป็นอย่างดี
SEAL เป็นคำที่ย่อมาจาก SEa - Air - Land ซึ่งแสดงถึงการปฏิบัติการได้ทั้งในทะเล บนฝั่ง และจากอากาศ
หลักการของหน่วย SEAL เกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่สองโดยอิตาลีได้ใช้นักประดาน้ำขึ้นยานใต้น้ำผ่านตาข่ายดักเรือดำน้ำเข้าไปทำลายเรือบรรทุกน้ำมันชื่อ Denbydale ที่อ่าวยิบรอลตา ต่อมาอังกฤษและสหรัฐจึงได้เลียนแบบหลักการนี้ไปตั้งหน่วยของตนเองบ้าง โดยสหัรฐจัดตั้งหน่วย UDT ซึ่งย่อมาจาก Unerwater Demolition Team สนับสนุนการยกพลขึ้นบกในที่ต่าง ๆ ในสงครามโลกครั้งที่สอง รวมถึง Operation Overload ในวัน D-Day โดยมีหน้าที่ทำลายเครื่องกีดขวางเพื่อให้ทหารนาวิกโยธินสามารถยึดหัวหาดและสถาปนาที่มั่นได้
หลังจากสงครามโลกจบลง หน่วย UDT ก็ได้เข้าร่วมปฏิบัติการสำคัญมากมายทั้งในเกาหลี และเวียดนาม หลักการของหน่วยก็จะเริ่มปรับเปลี่ยนมาจากที่มีหน้าที่สนับสนุนการยกพลขึ้นบกอย่างเดียว มาเป็นการปฏิบัติการสงครามนอกแบบได้เต็มรูปแบบ คือการลอบโจมตี สงครามกองโจร และกำหนดชื่อใหม่ว่า SEAL
หน่วยซีล : เป็นหน่วยรบพิเศษในสังกัดกองทัพเรือสหรัฐฯ มีีทั้งหมด 2 GROUP รับผิดชอบภาคพื้นแอตแลนติก และแปซิฟิก มีหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล อยู่ 2 ทีม คือทีมที่ 6 และทีมที่ 8 หน่วยซีลมีความชำนาญในการรบนอกแบบ ทุกรูปแบบ มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ต่างจากหน่วยรบพิเศษเหล่าอื่นๆ ในการฝึกมีช่วงหนึ่งของการฝึกที่ขึ้นชื่อมากที่สุดในเรื่องความโหด เรียกว่า "HELL WEEK" (สัปดาห์นรก) เครื่องหมายหน่วย ที่ตัวนกอินทรี หมายถึง การส่งทางอากาศ (ฟ้า), สามง่ามเป็นอาวุธของจ้าวสมุทรโปไซดอน หมายถึง การปฏบัติการทางน้ำ (น้ำ), ปืน หมายถึง การรบบนบก (ฝั่ง), สมอเรือ หมายถึง กองทัพเรือ คำขวัญของหน่วยซีล คือ "My life for freedom"
หน่วย SEAL ได้ชื่อว่าเป็นหน่วยที่ถูกฝึกหนักที่สุดในบรรดาหน่วยรบพิเศษด้วยกันเองของทุกเหล่าทัพ เหตุผลก็คือภารกิจที่หน่วย SEAL ได้รับมักจะอันตรายอย่างที่สุดและถูกกดดันทั้งร่างกายและจิตใจมากที่สุดเสมอ
การฝึกของหน่วย SEAL จะกินเวลานานที่สุดในบรรดาหน่วยรบพิเศษทั่ว ๆ ไป คือกินเวลา ราว ๆ 8 - 11 เดือน ตามแต่เงื่อนไขของการฝึก
ส่วนใหญ่แล้ว การฝึกของหน่วย SEAL จะเน้นความแข็งแกร่งของจิดใจ ซึ่งนักเรียนนักทำลายใต้น้ำจู่โจม (นทต.) จะถูกฝึกให้อดทนต่อแรงกดดันต่าง ๆ จากครูฝึกตลอดเวลา และถูกฝึกให้ปฏิบัติภารกิจที่บางทีแทบไม่ได้กิน ไม่ได้นอนเลย
มื่อพูดถึงการฝึกของหน่วย SEAL ทุกคนก็ต้องนึกถึง "สัปดาห์นรก" หรือ "Hell Week" ซึ่งทุกคนต้องผ่าน..ถ้าไม่ถอดใจลาออกเสียก่อน
สัปดาห์นรกจะเป็นการฝึก 5 วันต่อเนื่อง 120 ชั่วโมง โดยไม่มีการหยุดพัก ไม่มีการเข้านอน ไม่มีการนั่งพักผ่อน ตลอดเวลา นทต. ต้องอยู่กับท่อนซุง ไม้พาย เสื้อชูชีพ และรับคำสั่งโหด ๆ จากครูฝึกที่เปลี่ยนกันมาฝึกทุกวัน วันละ 3 ชุด ชุดละ 8 ชั่วโมง
กฏการตกของสัปดาห์นรกมี 2 ข้อ
1. เมื่อนทต. ตีระฆังลาออก
2. เมื่อนทต. ต้องพักฝึกเกิน 1 ชั่วโมง
แต่โดยมากแล้ว นทต. จะไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ตีระฆังลาออกสักเท่าไหร่ เพราะส่วนมากการฝึกจะอยู่ห่างจากระฆังเสมอ ซึ่งก็อาจจะเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่ต้องการให้นทต.จบกันมาก ๆ เพราะหลังจากสัปดาห์นรกแล้วจะไม่สามารถลาออกได้
สัปดาห์นรกของ US Navy SEAL คือสัปดาห์ที่ 13 ส่วนสัปดาห์นรกของ Royal Thai Navy SEAL (RTN) คือสัปดาห์ที่ 11
ครูฝึกมักเปิดสัปดาห์นรกด้วยการจู่โจมนทต. ซึ่งในช่วงการฝึกนั้นจะมีปัญหาแปลก ๆ ให้นทต.ได้ทรมานกันเล่น ๆ เช่นปัญหากระทะทองเย็น (แช่น้ำทะเลใส่น้ำแข็ง) หรือปัญหาผี (การเฝ้าโลงศพในคืนมืดมิดคนเดียว)
ตลอดการฝึก นทต.จะต้องแบกเรือยางหนักเป็นร้อยกิโล ถือไม้พาย ถือท่อนซุง ทำภารกิจต่าง ๆ ที่ได้รับมาตลอดเวลา ไม่มีการพัก ไม่มีการนอน เพราะจะละเมิดกฏเหล็กคือห้ามพักฝึกเกินกว่า 1 ชั่วโมง
ในช่วงท้าย ๆ ของการฝึก นทต.มันจะอยู่ในสภาพซอมบี้ สติมักจะไม่ค่อยมี เพราะแทบไม่ได้พักเลย หลังจากการฝึกนทต.จำเป็นต้องพักผ่อนมาก ๆ และรัปประทานอาหารอ่อน ๆ ให้ร่างกายได้ฟื้นตัวสักพัก ก่อนกลับมาลุยต่อ
แต่ว่า สัปดาห์นรก ก็ไม่ใช่สัปดาห์ที่หนักที่สุดแต่ประการใด เพียงแต่เป็นสัปดาห์แรกที่นทต.จะต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาลที่ไม่เคยเผชิญมาก่อน เพื่อเตรียมตัวไปสู้กับแรงกดดันที่หนักกว่านี้ในการฝึกที่เหลือ
กลังจากสัปดาห์นรกแล้ว ก็จะเป็นการฝึกยุทธวิธีต่าง ๆ ที่หน่วย SEAL จำเป็นต้องใช้ เช่นวิชาวัตถุระเบิด วิชาการดำน้ำทางยุทธวิธี การฝึกภาคทะเล การฝึกภาคป่า การฝึกดำรงชีวิต (ปล่อยเกาะ 2 วัน หาของกินเอาเอง) รวมถึงการฝึกสุดท้ายคือปัญหา 72 ชัวโมง ซึ่งนทต.จะถูกจับเป็นเชลยและผ่านกระบวนการรีดข่าวสุดโหด สุดท้ายกับปัญหา 120 ชั่วโมงหลังจากถูกจับเป็นเชลยแล้ว
ภารกิจหลักของหน่วยซีล :
ภารกิจหลักของหน่วยซีล จะครอบคลุมถึงการสงครามนอกแบบ การต่อต้านข่าวกรอง หรือการรวบรวมข่าวสารเพื่อการป้องกันการจารกรรม ปฏิบัติการลับในบริเวณสิ่งแวดล้อมทางน้ำ (maritime environment) โดยเราจะแบ่งภารกิจหลักออกได้ 5 ประเภทคือ
1. การปฏิบัติโดยตรง(Direct Action) การโจมตี และปฏิบัติการเชิงรุกขนาดเล็กอื่นๆในห้วงเวลาสั้น โดยเพื่อจะยึด ทำลาย จับกุม การซุ่มโจมตี หรือการจู่โจมโดยตรง การวางทุ่นระเบิด หรือวัตถุระเบิดอื่นๆ
2. การสงครามนอกแบบ (Unconventional Warfare) การปฏิบัติการทางทหาร และกึ่งทหาร โดยการจู่โจมโดยตรง แอบแฝง ปกปิด ซ่อนเร้น รวมถึงภารกิจทางอ้อม เช่น การบ่อนทำลาย การก่อวินาศกรรม การข่าวกรอง การเล็ดลอด และหลบหนี
3. การลาดตระเวนพิเศษ (Special Reconnaissance) ลาดตระเวน เก็บรวบรวมข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยา อุทกศาสตร์ และภูมิศาสตร์ ค้นหาเป้าหมาย การประเมินพื้นที่ และการลาดตระเวนหลังการโจมตี เตรียมแผนสำหรับการยกพลขึ้นบก
4. การช่วยเหลือรัฐบาลต่างประเทศเพื่อป้องกันภายใน (Foreign internal defense) เข้าร่วมการปฏิบัติการกับรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง เพื่อปลดปล่อย และป้องกันสังคมเพื่อให้รอดพ้นจากการบ่อนทำลาย การละเลยกฎหมาย และการก่อการร้าย
5. การต่อต้านการก่อการร้าย (Counterterrorism) มาตรการเชิงรุกที่กระทำเพื่อป้องกัน ป้องปราม และต่อต้านการก่อการร้าย
เครื่องหมายหน่วย
ภาพการฝึกสุดโหด