Diablo III - พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น+เทคนิคการเล่นครับ

[Skybluesakura]

DIABLO III
ตำนานบทใหม่ของจ้าวปีศาจ

Update
V 0.1 - แก้ไขข้อความในส่วนของพรีวิวรีวิวและอื่นๆเล็กน้อย
V 0.2 - แก้ไขในส่วนของไกด์ WD ในส่วนของวิธีการเล่นและปรับปรุง Build และเพิ่มสเป็คสเตตัสในระดับความยากต่างๆ

Server: หลักของผู้เล่นชาวไทยจะอยู่ที่ North Americas นะครับ

TS3(Teamspeak): สำหรับผู้เล่น Diablo III ใน JKG อภินันทนาการจากท่าน GeneS[i]S26 ครับ
IP : nest.ts3sv.com

Trailer




Buy it or Not

ซื้อหรือไม่ เช็คห้าข้อด้านล่างนี้เลยครับ

1. คุณชอบเกม RPG ที่มีเนื้อเรื่อง(เฉพาะเควสหลัก, เควสย่อย)มากกว่า 20 ชั่วโมง
2. คุณชอบเล่นเกมที่มีกราฟิกเป็น 3D ระดับสูงสวยงาม (Skyrim, Crysis etc)
3. คุณไม่ชอบเกมที่มีลักษณะของเกม MMORPG (เก็บเลเวล, หาของ, สู้บอส, pvp)
4. คุณนิยมเล่นเกม RPG ที่ไม่มีระบบมัลติเพลย์เยอร์ (Final Fantasy ภาคแรกๆ, Mass Effect สองภาคแรก, Dragon Age etc)
5. คุณไม่ชอบเล่นเกมนั้นๆซ้ำหากคุณจบเกมนั้นไปแล้วรอบหนึ่ง (ไม่เล่นระดับความยากอื่นๆ, ไม่ปลดล็อคความลับต่างๆของเกม, ไม่ปลดล็อค Achievement)

ภายใน 5 ข้อนี้ ถ้าคุณมีมากกว่า 3 ข้อ ผมไม่แนะนำให้ซื้อเกมนี้ครับ


Battletag

รวบรวม Battletag ของผู้กล้าชาวไทยใน JKG ครับ /สำหรับผู้ที่ยังไม่มีชื่อ BT ของตัวเองอยู่ในนี้ จะโพสไว้หรือ PM มาก็ตามสะดวกเลยครับ

1. MinatsugiTH#1410
2. AUNNNN#1143
3. Poringe#6787
4. Jetplane#6456
5. Ball#1254
6. Squalo#6515
7. LaquaZ#1513
8. GildFord#6740
9. chimera#6997
10. oI3lacKLisTo#6384
11. Paoyaaha#6522
12. ValkyrieZ#6475
13. Silversnowl#6329
14. killerMe#6714
15. Donz#1776
16. CannaBizss#6484
17. DeinNomoS#6296
18. RAMBOKUN#1699
19. Babekunz#1903
20. SkyNet#6857
21. Prometheus#6488
22. PeaceExile#1980
23. AnU3IZ#6992
24. WolFKiLL#6160
25. ironhuman#6144
26. Wuttichai#6391
27. Kellidev#1817
28. UndeFineteD#1897
29. SlainTackle#1250
30. DarthZilius#6725
31. Arebarozz#6737
32. bkl#6955
33. Pure#1246
34. MrGEAR#6260
35. homokid#1662
36. kuriko77#1847
37. ironhuman#6144
38. DarkNight#1927
39. MrCooL#1429
40. Satayu#1356
41. N4l7#1796
42. FroZenZone#1584
43. OHMMY#1473
44. GeneSiS26#6767
45. ArielCross#6218
46. RoMeOz#1368
47. humanzolo#6698
48. Spartan#6245
49. DeviLlorE#1122
50. DOLLARS#1155
51. Zixth#1326
52. Indy4KE#6880
53. Mon#6510
54. Messiah#6630
55. huggyth20#6976

Preview & Mini Review

เนื้อหาตรงส่วนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจแต่ต้องการข้อมูลเล็กๆน้อยๆประกอบการตัดสินใจครับ

กว่าสิบปีที่ผ่านมา



ที่ Diablo II ได้เผยโฉมออกมาและกลายมาเป็นตำนานที่เป็นที่กล่าวขานมาได้จนถึงทุกวันนี้ Diablo II มอบความสนุกสนานที่เปี่ยมไปด้วยความสดใหม่แต่ยังสามารถคงความคลาสสิกของตำนานบทแรกไว้ได้ในเวลาเดียวกัน จนแทบจะเรียกได้ว่าตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมาหาเกมเมอร์ผู้ที่ไม่รู้จักเกมนี้ได้ยากยิ่งไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศไทยของเราเอง

Diabloเป็น Action RPG ซีรี่ส์แรกและซีรี่ส์เดียวของ Blizzard ที่ใช้มุมมองจากด้านบนลงมาด้านล่าง (Bird’s-eyes View) ส่วนมอนสเตอร์ที่มีรูปร่างหน้าตาและชื่อที่คุ้นเคย สภาพแวดล้อมของแผนที่ในเกมที่จะเปลี่ยนแปลงไปทุกครั้งที่เข้ามาเล่น ต่างก็เป็นจุดเด่นที่สังเกตได้ง่าย และระบบอาวุธชุดป้องกันของซีรี่ส์นี้นั้นถือเป็นเสน่ห์และมนตราที่ลึกล้ำจนหาเกมใดมาเปรียบได้ยากยิ่ง จนบอกได้เพียงแค่ว่ามันจะทำให้คุณถอนตัวไม่ขึ้นอย่างแน่นอน กระทั่งระบบมัลติเพลย์เยอร์ในยุคสมัยนั้น ก็ทำได้อย่างล้ำคิดล้ำสมัยจนได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางแม้จะมีปัญหาอยู่บ้างก็ตามที



จนกระทั่งปัจจุบัน



ที่ตำนานบทที่สามได้ข้ามกาลเวลามาให้เรายลโฉมไปเมื่อวันที่ 15 ที่ผ่านมา และได้รับเสียงครหารวมทั้งข้อกังขาอยู่ตลอดเวลาว่ามนต์ตราของตำนานบทที่สามนี้จะคงเสน่ห์ที่ผ่านมาไว้ได้หรือไม่?

ยังคงความคลาสสิกของตัวเกมไว้ ผู้ที่เคยเล่น Diablo II มาแล้วจะรู้สึกคุ้นเคยกับ Diablo III ทันทีที่สร้างตัวละครเสร็จและเข้าไปในตัวเกม Diablo III ยังยึดมุมมอง Bird’s-eyes View ที่ใช้มาตั้งแต่ต้นเอาไว้ นอกจากนี้ตัวเกมและเมนูต่างๆล้วนเข้าใจได้ง่าย แม้กระทั่งระบบที่ซับซ้อนนิดๆก็สามารถศึกษาและเข้าใจได้ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อเทียบกับเกม RPG อื่นๆ และแม้ Diablo III จะคงความคลาสสิกรวมถึงบรรยากาศเก่าๆไว้ ก็ไม่ได้หมายความว่าภาคต่อของซีรีส์ในตำนานนี้จะขาดความสดใหม่ไปด้วย



อย่างแรกคือเรื่องของกราฟฟิก ซึ่งซีรีส์นี้นั้นแม้จะเป็นเกมแนว RPG เช่นเดียวกันกับซีรีส์ชื่อดังอื่นๆอย่าง Final Fantasy หรือ ซีรีส์ของ Bioware อย่าง Mass Effect หรือ Dragon Age แต่เป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจว่าซีรีส์ Diablo นั้นไม่ได้มีจุดขายมาจากกราฟฟิกระดับท็อป แต่มาจากระบบการเล่นและระบบการสุ่มต่างๆในตัวเกม ซึ่งกราฟฟิกของ Diablo III นั้นอยู่ในขั้นที่เรียกได้ว่าดี เอฟเฟกสกิลต่างๆอลังการ รายละเอียดของฉากนั้นสวยงามสมจริง และข้อดีที่สุดของ Diablo III ในด้านกราฟฟิกนั้นคือไม่กินสเป็คเครื่องเหมือนกับเกม RPG ที่มีกราฟฟิกระดับท็อปๆอย่าง Skyrim หรือ Mass Effect 3 ทำให้ผู้เล่นที่มีเครื่องสเป็คต่ำๆสามารถเล่นเกมนี้ได้โดยไม่ต้องกังวลถึงการอัพเกรดคอมของตนแต่อย่างใด



ต่อมาคือการเล่าเรื่อง เนื้อเรื่องของซีรีส์ Diablo นั้นมีความลึกและเป็นตัวของตัวเองสูง แต่สำหรับขาเสพเนื้อเรื่องนั้น Diablo III อาจจะให้คุณไม่ได้มากเท่าไหร่ เหมือนกันกับภาคที่แล้ว Diablo III แบ่งเป็น 4 Chapter ซึ่งใช้เวลารวมกันอย่างมาก 30-40 ชั่วโมงในการเล่นแบบ Normal และสามารถจบแบบสปีดรันในเวลาเพียง 15-20 ชั่วโมง ซึ่งถือได้ว่าเป็นทั้งข้อเสียที่มีเนื้อเรื่องให้เสพน้อยและเป็นข้อดีที่ทำให้เนื้อหาของเกมกระชับในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้สไตล์การเล่าเรื่องของ Diablo III จะเป็นสไตล์ที่ Blizzard ใช้ในยุคหลังๆซึ่งใครเคยสัมผัส Starcraft II มาก่อนจะคุ้นเคยดี ( Cg-Cutscene, Real-time Cutscene)



ในส่วนของเสียงประกอบต่างๆ พูดได้คำเดียวเลยว่า “กระหึ่มอลังการ” ไม่ว่าจะเป็นเสียงพูดบทสนทนาแบบ Full-Voiced ของ NPC ทุกตัวในเกม เสียงเอฟเฟกต่างๆ เสียงมอนสเตอร์ เสียงดนตรีประกอบฉาก ฯลฯ ล้วนแต่อยู่ในระดับท็อปด้วยกันทั้งสิ้น เรียกได้ว่า Blizzard ทำการบ้านตรงส่วนนี้มาอย่างดีทีเดียว

ระบบสกิลได้ถูกพัฒนาขึ้นให้ใช้งานได้ง่ายและมีความยืดหยุ่นสูงรวมทั้งสะดวกในการปรับแต่ง ระบบชูโรงอย่างการสุ่มรูปแบบและจำนวนของมอนสเตอร์และการสุ่มแมพใหม่ทุกครั้งที่เข้ามาเล่นเกม ต่างก็ได้รับการพัฒนาขึ้นและใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้ประสบการณ์ของผู้เล่นแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน และตื่นเต้นท้าทายยิ่งขึ้นเมื่อขึ้น Act ใหม่ๆหรือระดับความยากใหม่ๆ รวมทั้งระบบสุ่มออฟชั่นของอาวุธเครื่องป้องกันที่ยังคงเค้าโครงเดิมเอาไว้ และปรับปรุงการแลกเปลี่ยนค้าขายที่เคยประสบปัญหาเมื่อสมัย Diablo II ให้กลายมาเป็น Auction House ที่อำนวยความสะดวกในการซื้อขายไอเท็มให้กับผู้เล่นเป็นอย่างมาก และมีความปลอดภัยในระดับที่สูงกว่าสมัยที่ใช้เว็บบอร์ดเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยน



แม้จะมีปัญหาในด้านเน็ตเวิร์คอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้ว ระบบเน็ตเวิร์คของ Diablo III ก็ยังมีประสิทธิภาพพอใช้ และเริ่มจะดีขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่ Blizzard ได้คอยทำการปรับปรุงแก้ไขอยู่ทุกๆวัน แต่ก็ยังคงข้อเสียข้อสำคัญที่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการเล่นเกมแม้จะเล่นคนเดียว ถึงแม้ว่าจะมีความประสงค์ดีในการป้องกันโปรแกรมช่วยเล่นหรือลดการโกงในการเล่นลงไปได้ก็ตามที



สุดท้ายนี้ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมด โดยรวมแล้ว Diablo III เป็นเกม RPG แบบคลาสสิกที่เข้าถึงได้ง่าย ทั้งยังสามารถดึงผู้เล่นให้อยู่กับตัวเกมได้นาน ผ่านทางระบบมัลติเพลย์เยอร์และระดับขั้นความยากของตัวเกม รวมถึงระบบการสุ่มออฟชั่นของไอเท็ม ที่สอดคล้องและสนับสนุนระบบ Auction House ไปในขณะเดียวกัน ทำให้ Diablo III เป็นเกมที่มีความสมบูรณ์แบบในตัวของมันเองสูงรวมถึงมีช่องทางและความสามารถในการสร้างภาคเสริมต่างๆออกมาได้อีกแทบไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นที่แน่นอนว่า Diablo III นี้จะยังคงได้รับความนิยมอยู่ได้แม้ว่าจะผ่านไปอีกนับสิบปี ดังที่ Diablo II เคยทำสำเร็จมาก่อนในครั้งอดีต

[Skybluesakura]

FAQ
รวบรวมคำตอบสำหรับคำถามที่น่าจะถามกันบ่อยครับ

คำถามเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานในการเล่น

คำถามเกี่ยวกับตัวเกม, เซอร์เวอร์ และคำถามสำหรับปัญหาอื่นๆที่เข้าข่ายเดียวกัน

• สำหรับคนที่อัพเดทตัว Setup แล้วค้างที่ 60%-90% หรือ Error Code 00009
  1. ไปที่ Control Panel > Administrative Tools > Services
  2. หา Services ที่ชื่อ Secondary Logon ดับเบิ้ลคลิกเข้าไปแก้จาก Disabled เป็น Automatic กด Apply แล้วกด OK
  3. รันไฟล์ Setup อีกรอบหนึ่ง ถ้าไม่มีปัญหาอะไร จะขึ้นหน้าต่าง Install มาให้อย่างรวดเร็วครับ
  (เสริม) ถ้ายังมีปัญหาอยู่แนะนำให้ก๊อปไฟล์ทั้งหมดในแผ่นมาใส่โฟลเดอร์ในคอมก่อนครับ
  
  
• ล็อคอินแล้วค้างอยู่ที่ Retrieving Hero List หรือ Error 3009
  รีโมเด็มหรือ Router แล้วล็อคอินใหม่ครับ หรือรอสักพักแล้วล็อคอินใหม่ครับ
  
  
• ล็อคอินแล้วได้รับแจ้งว่าเซอร์เวอร์เต็มหรือไม่สามารถเข้าเซอร์เวอร์ได้
  ลองเช็คสเตตัสของเซอร์เวอร์ที่เราเล่นดูครับว่าปิดอยู่รึเปล่าที่ลิงค์นี้ดูก่อนครับ

[RECOMMEND]สิ่งที่ผมอยากรู้ก่อนเข้ามาเล่น Diablo III
aka Tips สำหรับมือใหม่ครับ

1. วางแผนเรื่อง Build ให้พร้อม
ถึงแม้ในภาคนี้ทางผู้ผลิตได้เปลี่ยนแปลงเรื่องของระบบสเตตัสและสกิลไปในอีกรูปแบบหนึ่ง ทำให้ผู้เล่นมีความยืดหยุ่นในการเล่นสูง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถเล่น(โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับ Nightmare ขึ้นไป)ได้อย่างสบายโดยไม่มีการวางแผนเรื่อง Build skill และ สเตตัสของอาวุธเครื่องป้องกัน ซึ่งเป็นการดีที่คุณจะวางแผนเรื่องพวกนี้ไว้ตั้งแต่เริ่มเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในช่วงท้ายเกม

2. Auction House คือระบบที่เยี่ยมยอด
ศึกษาและทำความเข้าใจกับมันตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าเกม แล้วชีวิตของคุณจะสบายขึ้นอีกโข คุณสามารถหาไอเท็มแรร์ราคาถูกได้ถ้าคุณมีความอดทนและโชคมากพอใน Auction House รวมถึงสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำถ้ามียุทธิวิธีทางการตลาดดีในระดับหนึ่ง

3. Co-op ตั้งแต่เริ่มเกม สบายยันท้ายเกม
คุณจะได้อะไรมากมายจากการเล่น Co-op Multiplayer ใน Diablo III นี้ ผู้พัฒนาสร้างระบบนี้ให้มีแต่ข้อดีแทบไม่มีข้อเสีย เริ่มจากระบบเก็บไอเท็มที่แยกผู้เล่นออกจากกันต่างหากโดยสิ้นเชิง คุณสามารถเก็บของทั้งหมดในจอของคุณได้โดยไม่ต้องกังวลอะไร รวมทั้งคุณภาพไอเท็มที่ได้จะสูงขึ้นตามจำนวนผู้เล่นในเกมนั้นๆ แลกกับการที่มอนสเตอร์มี Hp และพลังโจมตีที่มากขึ้นตามไปด้วย แต่ก็ถือเป็นข้อเสียที่ดูด้อยลงไปเมื่อเทียบกับข้อดีที่มีอยู่

4. เงิน = พระเจ้า
ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็แล้วแต่ Diablo III ไม่ใช่เกมสไตล์ Monster Hunter ที่เน้นทักษะการเล่นมากกว่าของสวมใส่ ใน Diablo III นี้ของสวมใส่ที่มีสเตตัสระดับสูงคือสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณต้องการ และจะเห็นผลทันทีเมื่อขึ้นไปในระดับความยากสูงๆ แม้ไม่ได้หมายความว่าทักษะการเล่นจะไร้ประโยชน์ แต่ประโยชน์ของทักษะในการเล่นก็จะด้อยค่าลงไป ถ้านำไปเทียบกับการเปลี่ยนอุปกรณ์แต่ละครั้ง ดังนั้นแล้วเงินคือสิ่งที่คุณขาดแทบไม่ได้เลยในเกมนี้

5. ระบบการคราฟกับช่องเก็บของคือตัวถลุงทองโดยแท้
เป็นที่ทราบกันดีว่ามีการเพิ่มระบบการคราฟเข้ามา แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า ถึงแม้ระบบนี้จะมีประโยชน์ในการหาอาวุธชุดป้องกันใหม่ๆแต่เป็นระบบที่สามารถผลาญเงินคุณลงไปได้อย่างรวดเร็ว และมีประโยชน์น้อยมากถ้าเล่นระดับ Normal (อาจจะรวมไปถึงในระดับ Nightmare)เมื่อเทียบกับการใช้ Auction House และยิ่งน้อยลงไปเมื่อเทียบกับการนำเงินไปใช้เปิดช่องเก็บของเพิ่มเติม
ดังนั้นแล้วรูปแบบการใช้เงินหลักๆจะอยู่ในรูปแบบ(เรียงจากความสำคัญมากไปน้อย) เพิ่มช่องเก็บของ > Auction House > อัพเกรดร้านเพชร > อัพเกรดร้านคราฟอาวุธ/เครื่องป้องกัน นี้

6. Vit หรือ Hp นั้นสำคัญกว่าที่คุณคิดเอาไว้มากนัก
แทบจะเรียกได้ว่าทุกสายอาชีพทุก Build นั้น Vit เป็นสเตตัสที่สำคัญเป็นอันดับที่ 2 หรือ 3 และจะเห็นผลชัดเจนเมื่อเล่น Co-op หลายๆคนที่มอนสเตอร์โจมตีแรงขึ้นและอึดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับความยากสูงๆ หาก Hp คุณมีน้อย โอกาสที่จะรอดชีวิตก็จะน้อยตามไปด้วย

7. DoT (Damage over time) ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
สืบเนื่องจากข้อที่ 6 เมื่อขึ้นไปในความยากระดับ Nightmare เวทย์ประเภท DoT หรือพิษ, ลาวา และเวทย์มนต์ที่มอนสเตอร์ใช้นั้น เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าอันตรายที่สุดในเกม มีหลายครั้งที่หลายๆคนเลือดละลายไปจดมิดหลอดเพราะยืนเหยียบพิษหรือเวทย์ประเภทนี้ ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงเวลาที่วุ่นๆอยู่ เวทย์ประเภทนี้คือตัวชี้แพ้ชนะของทั้งปาร์ตี้เลยทีเดียว

[Skybluesakura]

ผู้เขียนยินดีอย่างยิ่งหากมีผู้ที่ต้องการนำไกด์นี้ไปเผยแพร่ที่อื่น ซึ่งแนะนำว่าควรจะทำลิงก์มายังหน้านี้เพราะมีเนื้อหาเยอะกว่าที่บอร์ดบางทีรองรับในหนึ่งโพส แต่หากต้องการก็อปปี้เนื้อหาไปไว้ในเว็บหรือบอร์ดของท่าน ถ้าให้เครดิตกับผู้เขียนไว้ซักนิดจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ

The Complete Guide to Witch Doctor



คำเตือนก่อนอ่าน
โปรดทราบว่าตัวผมเองนั้นถือเป็นเพียงผู้เล่นชั้นธรรมดาเท่านั้น มิใช่ผู้เล่นระดับโปรหรือระดับท็อปแต่อย่างใด ดังนั้นข้อมูลที่ผมเขียนขึ้นมาทั้งหมด มาจากประสบการณ์ในการเล่นส่วนตัวของผม อาจจะมีผิดพลาดในหลายๆด้านไม่มากก็น้อย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและปฏิบัติตามคำแนะนำด้วยนะครับ

Witch Doctor นั้นคืออะไร

ผมได้คำตอบนี้มาเมื่อไม่นานมานี้ Witch Doctor(จากนี้จะขอย่อว่า WD ครับ) นั้นคือ King, Queen และ Jack ตามลำดับครับ

ในด้านของการทำแดมเมจ WD ใช้เวทย์ประเภท DoT (Damage over time) ที่ค่อยๆลดเลือดของศัตรูเป็นหลัก แต่ถือว่าเป็นรอง Wizard และ Demon Hunter อยู่หลายขุม และเหนือกว่า Monk กับ Barbarian อยู่ไม่มากนัก เรียกได้ว่าสำหรับหน้าที่ DD(Damage Dealer)ประจำปาร์ตี้ แล้ว WD เป็นเหมือนกับ Jack คืออยู่ในระดับกลางๆ ครับ

ในด้านการแทงค์นั้น แม้ว่า WD จะมีซัมมอนอย่างน้องหมาหรือน้องบึก(Gigantuan)ก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าซัมมอนพวกนี้จะตายไม่เป็น อีกทั้ง WD ยังมีค่า Vit และ Hp ที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Babarian ในระดับเดียวกัน ผมจึงบอกได้ว่า WD เป็นอาชีพที่แทงค์ได้ดีเมื่อ Build สกิลและออฟชั่นของไอเท็มมาถูกทาง แต่ยังด้อยกว่า Monk และ Barbarian ที่ Build มาในด้านแทงค์ ซึ่งถือเป็นกึ่งๆ Queen ครับ

มาถึงในด้านของสกิลที่ WD ดูจะเด่นที่สุดในเรื่องการดีบัฟศัตรูและ CC(Crowd Control) สกิลหลักของ WD เรียกได้ว่าเป็น CC ที่รุนแรงที่สุดในเกมก็ว่าได้ Slow ของ WD นั้นหากใช้ถูกสถานการณ์และกะจังหวะ CD(Cool Down)ได้ถูกต้อง จะทำให้ศัตรูทั้งกลุ่มเดินมาถึงคุณและปาร์ตี้จของคุณไม่ได้เลยทีเดียว อีกทั้งยังมีสกิลประเภททำให้ศัตรูสับสน(ตีกันเอง), กลัว(วิ่งหนี) หรือ Disables ศัตรูตัวใดตัวหนึ่ง(กลายเป็นไก่ โจมตีกลับไม่ได้) ทั้งยังมีบัฟสำหรับเพื่อนทั้งแบบ Passive(หากศัตรูติดพิษซึ่งสกิลของ WD มีสกิลที่ทำให้ติดพิษอยู่มากทั้งแบบหมู่และเดี่ยว จะลดแดมเมจของศัตรูไป 20%)และแบบ Active(Totem เพิ่มค่าสเตตัสต่างๆถ้าอยู่ในวง) เรียกได้ว่าสำหรับการซัพพอร์ทในรูปแบบของการดีบัฟแล้ว WD คือ King ที่ทิ้งห่างทุกๆสายอาชีพในเกมนี้ครับ

เพราะฉะนั้น WD คืออาชีพที่เป็น Jack of all trade(ทำได้หมดทุกอย่าง)และ Master of debuff(จ้าวแห่งการดีบัฟ) จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเล่นสายอาชีพที่เน้นการดีบัฟและซัพพอร์ทเป็นหลัก และสามารถทำหน้าที่อื่นๆได้ดีในระดับหนึ่ง รวมทั้งผู้เล่นที่เน้นการเล่นแบบปาร์ตี้อยู่เป็นประจำ Witch Doctor นั้นถือเป็นอาชีพสายซัพพอร์ทที่สามารถพลิกสถานการณ์ของการต่อสู้ให้กลับตาลปัตรได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอยู่ในปาร์ตี้ในความยากระดับสูงๆครับ

จะเล่น WD ต้องเน้นสเตตัสอะไรบ้าง

Witch Doctor มีสเตตัสหลักอยู่ด้วยกัน 2 สเตตัสครับคือ Int กับ Vit
(ในรูปจะเห็นได้ว่า สเตตัสเพียวๆของ WD นั้น Int กับ Vit จะไม่หนีกันมากครับ)



Int นั้นเพิ่มค่า Damage ของสกิลของ WD และค่า Resistance(ทนทานต่อการโจมตีธาตุต่างๆ) และ Vit คือสเตตัสที่ส่งผลต่อ Hp ของทั้ง WD และซัมมอนของ WD ครับ ส่วนเรื่องของ Mana จะขึ้นตาม Level เป็นหลัก ในขณะที่ Str จะช่วยเพิ่ม Armor และ Dex จะเพิ่มเปอร์เซนต์การหลบครับ

เช่นนั้นแล้วสเตตัสที่ WD ควรจะเพิ่มมากที่สุดคือ Int ที่ช่วยให้ WD สร้างความเสียหายได้มากขึ้น, ออฟชั่นอย่างเพิ่มโอกาสติดคริติคอล, แดมเมจธาตุต่างๆ ที่เพิ่มความเสียหายของ WD โดยตรงและ Vit ที่ช่วยให้ WD รับความเสียหายได้มากขึ้นก่อนจะตายตามลำดับ ในส่วนของระดับการเล่นแบบ Normal, Nightmare(และอาจจะรวมถึง Hell) การเพิ่มค่าสเตตัสในสัดส่วนเท่าๆกัน กล่าวคือ Int และ Vit ห่างกันไม่เกิน 50-100 นั้นถือว่าเป็นสัดส่วนที่ดีและสามารถใช้งานได้ แต่เมื่อขึ้นความยากในระดับ Inferno(รวมถึง Hell สำหรับบางคน) ถ้าไม่สามารถเพิ่ม Int และ Vit ในระดับที่สูงเท่าๆกันได้ WD ของคุณจะกลายเป็น WD ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ดีพอสมควร หากไม่โจมตีเบาไปก็ตายบ่อยเกินไป ดังนั้นทางเลือกสำหรับ WD ในช่วงท้ายๆเกมนั้นคือการเน้นสเตตัสที่ Int หรือ Vit เพียงด้านใดด้านเดียว นอกเสียจากว่าคุณจะมีเงินถุงเงินถังในการซื้อของที่มีออฟ +สเตตัสสูงๆมาใส่ได้ โดยสรุปสำหรับผู้ที่มีงบน้อยรวมถึงผู้ที่มีงบปานกลาง ควรจะตัดสินใจตั้งแต่ต้นเกมว่าจะปั้น WD ของคุณไปทางไหน จะเป็น WD ที่ยิงแรงแต่ตัวบาง หรือตัวหนาแต่ยิงเบา หรือใกล้เคียงกันทั้งสองอย่าง ก็อยู่ที่รสนิยมและวิถีในการเล่นเกมทีไม่เหมือนกันโดยมีเงินเป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงเป็นหลัก

ส่วนสเตตัสรองทั้งหลายอย่างรีเจนเลือด, รีเจนมาน่า, เพิ่มแดมเมจคริ, สะท้อนแดมเมจกลับ หรือเพิ่มระยะการเก็บทองกับลูกแก้วเลือดนั้น ขึ้นอยู่กับ Build ส่วนตัวของแต่ละคนครับ

วิธีการเล่น WD แบบพื้นฐาน

WD เป็นสายอาชีพที่เน้นการโจมตีระยะไกล-กลาง เป็นหลัก และมีบ้างที่บางสกิลจะนำเสนอการโจมตีระยะประชิด แต่เนื่องจาก WD (ที่ไม่ได้เล่นสาย Vit และ Resistance)เป็นสายอาชีพที่มีเลือดและความทนทานในด้านต่างๆน้อยและมีสกิลหลบหนีที่มี CD ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสายอาชีพอื่นๆ จึงไม่เหมาะนักในการเข้าไปโจมตีในระยะประชิดตัว

วิธีการเล่น WD ในระดับ Normal และ Nightmare นั้น ค่อนข้างง่ายและไม่จำเป็นต้องใช้หาช่องทางในการเดินหลบหลีกหรือหาจุด Choke point(มักจะเป็นสะพานหรือทางใดๆก็ตามที่มีลักษณะแคบหรือเป็นคอขวดในการล่อมอนสเตอร์เข้ามาติดกับ)ในการเล่น(รวมๆขอเรียกสั้นๆว่าสเต็ปเท้า)มากนัก เนื่องจากเลือดและระดับการโจมตีเของมอนสเตอร์ต่างๆยังน้อยและไม่ค่อยมีพิษมีภัยมากหากมีสเตตัสที่ดี แต่เมื่อขึ้น Hell และ Inferno แล้วสเต็ปเท้าของ WD ควรจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีหรือดีมากเป็นอย่างต่ำ เช่นนั้นแล้วสิ่งที่ WD มือใหม่(โดยเฉพาะผู้เล่น Diablo III)หน้าใหม่ควรจะและต้องทำความเข้าใจเป็นสิ่งแรกคือการกะระยะเวลา CD รวมถึงการกะระยะเวลาที่สกิลมีผลอยู่กับศัตรูไม่ว่าเดี่ยวหรือกลุ่ม, การมองหาช่องทางหลบหลีกสกิลที่ศัตรูปล่อยมาหรือหลบการโจมตีที่ค่อนข้างช้า, การกะระยะและเวลาในการลงสกิลที่มีพื้นที่ในการลงต่างกันออกไป, การมองหาจุด Choke Point ไว้ล่วงหน้า, การ Kite(การวิ่งล่อมอนสเตอร์เป็นกลุ่มๆและค่อยๆโจมตีหรือใช้สกิลไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดวิ่ง)และการบริหารเลือดและมาน่า ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาคือการวิธีการบังคับขั้นพื้นฐานของ WD ที่จำเป็นต้องฝึกมันให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดหากต้องการรอดชีวิตในระดับ Inferno(รวมถึง Hell สำหรับบางคน)ได้ ซึ่งสิ่งที่สามารถสอนคุณได้ดีที่สุดมีเพียงประสบการณ์ของตัวคุณเองเท่านั้น

สเตตัสที่เหมาะสมในแต่ละช่วงการเล่นของ WD

ดังที่ผมกล่าวไว้ในข้างต้นแล้วสำหรับสเตตัสของ WD ทั้งสเตตัสหลักและสเตตัสรองที่แต่ละคนจะมีสเตตัส Build ในความคิดของตนเองต่างกันออกไป เพียงแต่ว่า Diablo III นั้นเป็นเกมที่เน้นสเตตัสของตัวละครเป็นอย่างมาก ในจุดๆหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขึ้นระดับความยาก Nightmare จาก Normal และระดับความยากอื่นๆ ความยากของตัวเกมจะยกระดับในถึงขนาดที่สามารถทำให้บางคนหมดความอดทนในการเล่นสายอาชีพบางสายได้ WD ก็ไม่ได้หนีสมมุติฐานนี้ออกไปมากนัก ซึ่งสเตตัสหลักๆ(ไม่รวมสเตตัสรองของแต่ละสาย)ที่ WD ควรจะมีไว้ในระดับต่างๆนั้นมีดังต่อไปนี้

- ค่าสเตตัสในระดับที่ต่ำกว่า Hell นั้นอาจจะมีการคลาดเคลื่อนเนื่องจากผมผ่านระดับความยากนั้นๆมาค่อนข้างนานแล้ว จึงขออภัยล่วงหน้าหากข้อมูลผิดพลาดไปบ้างครับ -

Normal Act I-IV
Minimum Requirement(คือสเตตัสขั้นต่ำที่สามารถผ่านความยากระดับนั้นๆและ Act นั้นๆไปได้แต่ไม่ถือว่าผ่านได้อย่างสบายเท่าไหร่นัก)
Damage ต่ำกว่า 300
Hp ต่ำกว่า 2000

Recommend Spec(คือสเตตัสที่แนะนำซึ่งสามารถผ่านความยากระดับนั้นๆและ Act นั้นๆ ไปได้อย่างสบาย)
Damage มากกว่า 600
Hp มากกว่า 3500

ความยากระดับ Normal นั้นถือเป็นโหมดฝึกหัดสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ ที่ไม่ต้องการสเตตัสของตัวละครสูงมากนัก ซึ่งใน Act แรกๆระดับสเตตัสที่ต่ำกว่านี้ก็สามารถผ่าน Act นั้นๆไปได้อย่างสบายครับ

Nightmare Act I-II
Minimum Requirement
Damage 700-800
Hp 4000-4500

Recommend Spec
Damage มากกว่า 1000
Hp มากกว่า 5000

Nightmare Act III-IV
Minimum Requirement
Damage 1200-1500
Hp 6000-8000

Recommend Spec
Damage มากกว่า 2000
Hp มากกว่า 10,000

Nightmare เปรียบเสมือนการเริ่มเล่น Diablo III แบบจริงๆจังๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าความต้องการสเตตัสขั้นต่ำพุ่งขึ้นไปสูงมาก ทั้งนี้ทั้งนั้นคือระดับ Hp และพลังโจมตีของมอนสเตอร์ที่เริ่มสูงขึ้น และบอสที่สมกับเป็นบอสของเกมมากขึ้น ในระดับนี้ผู้เล่นควรจะเริ่มมีสเต็ปเท้าที่พอใช้ได้ในระดับหนึ่ง

Hell Act I-II
Minimum Requirement
Damage 4000-5000
Hp 10,000-13,000

Recommend Spec
Damage มากกว่า 7000
Hp มากกว่า 15,000
Optional (สเตตัสที่มีประโยชน์แต่จะมีตามนี้หรือไม่มีก็ได้ครับ)
All Resistance มากกว่า 50
Armor มากกว่า 1000

Hell Act III-IV
Minimum Requirement
Damage 8000-9000
Hp มากกว่า 20,000

Recommend Spec
Damage มากกว่า 10,000
Hp มากกว่า 25,000-30,000
Optional
All Resistance มากกว่า 100
Armor มากกว่า 2000

Hell เปรียบเหมือนหัวโค้งของวิธีการเล่นของผู้เล่นเกือบทุกคนครับ ทั้งมอนสเตอร์ธรรมดาที่โจมตีได้หนักหน่วงราวกับ Champion(มอนตัวฟ้า)หรือแรร์(มอนตัวทอง)ของระดับ Nightmare หรือมอนสเตอร์ประเภทแรร์ที่ทำคุณตายได้โดยไม่ทันกระพริบตาด้วยซ้ำ ดังนั้นสเต็ปเท้าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากเหมือนกับเป็นสเตตัสหลักอีกอันหนึ่งของคุณ รวมทั้งการกำหนดศัตรูตัวที่อันตรายที่สุดที่ต้องกำจัดไว้ตั้งแต่แรกเห็นก็ช่วยคุณได้เป็นอย่างมาก


Inferno Act I
Minimum Requirement
Damage 11,000-12,000
Hp มากกว่า 30,000
Armor มากกว่า 2000
All Resistance มากกว่า 150

Inferno คือระดับความยากที่ทำขึ้นมาสำหรับท้าทายความสามารถของมนุษย์ในการเล่น สเตตัสทุกสเตตัสมีผลมากกว่าระดับ Hell เกือบเท่าตัว มอนสเตอร์ทุกตัวสามารถเขี่ยคุณกระเด็นได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว และสกิลทุกสกิลกับดักทุกชนิดสามารถฆ่าคุณได้หากไม่ระวังตัว ดังนั้นการจัดการสเตตัสที่ดีคือกุญแจสำคัญในการพิชิตหรือถูกพิชิตโดยระดับความยากนี้ ซึ่งในทุกๆ Recommend Spec ของ Inferno จะมีความคิดเห็นของผมใส่เพิ่มเข้าไปอยู่ด้วยในทุกๆทางเลือก แต่เนื่องด้วยในแต่ละ Act ของ Inferno ความยากจะทวีขึ้นไปแทบจะเรียกได้ว่า Act ละเท่าๆ จึงไม่สามารถลงสเป็คของทุกๆ Act ได้ในเวลาเดียวกันโดยไม่ตรวจสอบเสียก่อน จึงอาจจะเว้นช่องว่างในการลงแต่ละ Act ไปพอสมควรครับ

Recommend Spec

สเป็คเน้นด้านสร้างความเสียหาย
Damage มากกว่า 15,000
Optional
Hp มากกว่า 15,000-25,000
Armor มากกว่า 1500
All Resistance ประมาณหรือมากกว่า 100

ในสเป็คนี้จะสังเกตได้ว่า มีการเน้นด้าน Damage เป็นหลักโดยลดพลังป้องกันพื้นฐานรวมถึงเลือดลงมา โดยผู้ที่เล่นสเป็คนี้นั้นจำเป็นต้องมีสเต็ปเท้าในขั้นที่ดีมาก ความรู้พื้นฐานของศัตรูประเภทต่างๆในเกม, การกะระยะจากตัวศัตรูถึงตัวเราและการจัดเรียงลำดับความสำคัญในการฆ่าศัตรูที่มาเป็นกลุ่มมีความสำคัญมากถึงมากที่สุด เพราะถือเป็นสเป็คที่เน้นฆ่าศัตรูก่อนที่ศัตรูจะเข้าถึงตัวเรา โดยหากศัตรูเข้าถึงตัวเราได้แม้แต่ตัวเดียวจะสามารถฆ่าเราได้ทันที

สเป็คเน้นการ Kite(การวิ่งล่อมอนสเตอร์เป็นกลุ่มๆและค่อยๆโจมตีหรือใช้สกิลไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดวิ่ง)
Damage มากกว่า 12,000
Hp มากกว่า 25,000
Armor มากกว่า 2000
Optional
All Resistance ประมาณหรือมากกว่า 100

สเป็คนี้เรียกได้ว่าเน้นการวิ่งไปตอดไป ซึ่งไม่เหมือนกับสเป็คแรกที่ยึดถือหลักฆ่าก่อนถูกฆ่า สเป็คนี้จำเป็นต้องมี Hp และ Armor มากพอที่จะซื้อเวลารอขวดเลือดหรือสกิลฮีลดีเลย์และไม่ถึงกับตายจากการถูกโจมตีครั้งหรือสองครั้ง แต่ก็ต้องมี Damage ที่มากพอจะสร้างความเสียหายให้กับศัตรูได้ การเคลื่อนไหวพร้อมกับหลบหลีกและหาจุด Choke Point ได้อย่างรวดเร็วถือเป็นข้อสำคัญสำหรับสเป็คนี้ครับ

สเป็คตะลุยอินเฟอร์โนแบบสบายๆหรือสเป็คหรูหรา
Damage มากกว่า 17,000
Hp มากกว่า 35,000
Armor มากกว่า 3000
All Resistance มากกว่า 200

เป็นสเป็คที่มีประสิทธิภาพในการตะลุยหรือฟาร์ม Act I ในระดับ Inferno ได้ดีที่สุด แม้ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ตายเลยสักครั้งก็ตามที แต่ข้อเสียที่มาพร้อมกับสเป็คนี้คือต้องใช้รายจ่ายมหาศาล ซึ่งของบางชิ้นอาจจะต้องการเงินมากกว่า 1 ล้านต่อชิ้น จึงเหมาะสำหรับผู้มีเงินถุงเงินถังเท่านั้น


ติดตามสเป็คสำหรับ Inferno Act II-IV ได้เร็วๆนี้ครับ
Coming Soon!

Example Build - ตัวอย่างสายต่างๆของ WD

Poison Dart Kite Build

สามารถใช้ได้ถึง(ระดับความยากที่ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าใช้ได้ผลในระดับที่น่าพอใจ)Inferno Act I

Status Requirement(สเตตัสที่ต้องการขั้นต่ำที่จะทำให้ Build นี้แสดงผลออกมาได้อย่างใกล้เคียงกับประสิทธิภาพสูงสุด เรียงความสำคัญจากมากลงไปน้อย)
Attack Speed - มากกว่า 1.65-1.70
Movement Speed - มากกว่า 10%
Damage - (Normal)มากกว่า 500, (Nightmare)มากกว่า 2000, (Hell)มากกว่า 10,000 และมากกว่า 15,000 ใน Inferno Act I
Critical Chance - (Normal, Nightmare)มากกว่า 5.0%, (Hell)มากกว่า 10% และมากกว่า 15% ใน Inferno Act I
Critical Damage - มากกว่า 100%
Life Steal - (Normal,Nightmare)มากกว่า 2.5-3.0%, (Hell)มากกว่า 5% และมากกว่า 10% ใน Inferno Act I
Hp - (Normal)มากกว่า 4000, (Nightmare)มากกว่า 10,000, (Hell)มากกว่า 20,000 และมากกว่า 30,000 ใน Inferno Act I
Optional (จะมีหรือไม่มีก็ได้ครับ)
สถานะผิดปกติอื่นๆ(สับสน, แช่แข็ง) - ใช้ค่าเดียวกับ Life Steal
Armor - (Normal)มากกว่า 300-400, (Nightmare)มากกว่า 600-700, (Hell)มากกว่า 1000 และ มากกว่า 2000 ใน Inferno Act I
All Resistance - (Normal, Nightmare และ Hell)มากกว่า 100 และมากกว่า 150-200 ใน Inferno Act I

อธิบายสกิลใน Build

เหมือนกับชื่อ Build, Poison Dart คือสกิลที่คุณใช้โจมตีกว่า 90% ของเวลาทั้งหมดที่คุณใช้ Build นี้เป็น Build หลัก ซึ่งแม้ความเสียหายโดยรวมของ Poison Dart จะมีความรุนแรงสูงเมื่อเทียบกับมาน่าที่เสียไปและมีความรวดเร็วตาม Attack Speed ของ WD แต่เมื่อใช้รูน Splinter ที่เป็นคอร์รูนของ Build นี้แล้วจะทำให้ยิงลูกดอกได้สามดอก แต่ความเสียหายของแต่ละดอกนั้นจะมีเพียง 60% ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่สเตตัสของ Build นี้จะเน้นที่ Movement Speed ที่ทำให้ WD Kite ได้ง่ายขึ้น, เน้น Attack Speed ให้ยิงลูกดอกได้รัวที่สุดเท่าที่จะทำได้และเน้นไปที่ Critical ทั้ง Chance และ Damage เพื่อเพิ่มความรุนแรงให้ได้มากที่สุด โดยที่ไม่ลืมที่จะเพิ่ม Damage โดยรวมและ Life Steal นั้นก็เพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับ WD อย่างเห็นได้ชัด

Spirit Walk นั้นเป็นสกิลหลบหนีสกิลเดียวของ WD และสามารถใช้ในการย้ายไปตั้งหลักโจมตีในบริเวณที่เป็น Choke Point หรือหนีออกมาจากการกลุ้มรุมได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งรูนที่จะใช้นั้นสามารถเลือกใช้ได้ตามแต่การปรับ Build ของแต่ละคน ซึ่ง Healing Journey ใช้สำหรับผู้ที่ใช้แต่สกิลโจมตีที่มีอัตราการใช้มาน่าต่ำเป็นหลักและต้องการสกิลที่เพิ่มเลือดได้ และ Honored Guest สำหรับผู้ที่มีสกิลที่อัตราผลาญมาน่าสูงและต้องการสกิลที่ใช้เพิ่มมาน่าได้

Grasp of the Dead คือสกิล AoE ที่ใช้ CC และ ดีบัฟมากกว่าใช้ทำแดมเมจและเป็นสกิลที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับ WD ที่เน้นการ Kite เป็นหลัก เช่นนั้นแล้ว Unbreakable Grasp ที่เพิ่มอัตรา Slow เป็น 80% นั้นคือรูนที่เหมาะจะใช้คอมโบกับสกิลนี้สำหรับ Build นี้มากที่สุด

Horrify คืออีกหนึ่ง CC และเป็นสกิลที่เหมาะที่จะใช้เมื่อโดนศัตรูเข้าประชิดตัว เป็นสกิลที่ใช้ป้องกันตัวในยามคับขันได้ดีกว่า Mass Confusion โดยเฉพาะในระดับ Hell และ Inferno ที่ศัตรูสามารถหลุดข้ามแนวโจมตีของเราระหว่างที่เราตั้งป้อมหรือวิ่ง Kite ได้ตลอดเวลา

Hex คือสกิล Disables ที่ใช้สำหรับต่อกรกับมอนสเตอร์ประเภท Champion และแรร์ในระดับความยากสูงๆโดยเฉพาะ ซึ่งสกิล Disables เป้าหมายเดี่ยวสกิลนี้นอกจากจะเพิ่มความเสียหายที่เราสร้างแก่ศัตรูและช่วยสร้างระยะห่างแก่เรากับศัตรูแล้ว รูน Hedge Magic ยังช่วยเพิ่มเลือดให้กับเรา(ถึงแม้จะไม่มาก)ได้และมี CD ที่น้อยมากเมื่อเทียบกับระยะเวลาแสดงผลของสกิล

ส่วนอีกหนึ่งช่องสกิลที่เว้นว่างไว้นั้นคือช่องฟรีที่ขึ้นอยู่กับการปรับเปลี่ยนไปตามสไตล์การเล่นของแต่ละบุคคล แต่ก็ต้องปรับเปลี่ยนรูนของสกิลอื่นๆและ Passive ให้สอดคล้องกับสกิลที่เราต้องการใช้ด้วย โดยสกิลที่แนะนำให้ใช้มีดังต่อไปนี้

สกิลโจมตีแบบ AoE ที่มีความรุนแรงแต่กินมาน่าเยอะ - Firebats(Dire Bats), Zombie Charger(Zombie Bears) หรือ Acid Cloud(Lob Blob Bomb หรือ Corpse Bomb)
Optional
ปรับรูนของ Spirit Walk ให้เป็น Honored Guest, เปลี่ยน Pierce the Vile(ลด Damage) หรือ Blood Ritual(ลดการรีเจนเลือด) เป็น Vision Quest(เพิ่มการรีเจนมาน่าเมื่อสกิล 4 สกิลขึ้นไป CD อยู่)

สกิลโจมตีแบบ AoE ที่มีระยะสั้นกว่า, ความรุนแรงน้อยกว่าแต่กินมาน่าน้อยกว่า - Plague of Toads(Rain of Toads)
Optional
ปรับรูนของ Spirit Walk ให้เป็น Honored Guest

สกิลป้องกันไม่ให้ศัตรูเข้าถึงตัว - Wall of Zombies(Barricade หรือ Unrelenting Grip)

สกิลเสริมพลังโจมตีให้กับ Poison Dart - Soul Harvest(Siphon หรือ Soul to Waste), Big Bad Voodoo(Slam Dance)
Optional
เปลี่ยนสกิล Blood Ritual เป็น Tribal Rite หรือ Grave Injustice

สกิล CC - Mass Confusion(Mass Hysteria)

สกิลโจมตีเดี่ยวสำหรับบอส - Haunt(Consuming Spirit), Spirit Barrage(The Spirit is Willing, Well of Souls หรือ Phlebotomize) และ Fetish Army(Fetish Ambush หรือ Legion of Daggers)
Optional
เปลี่ยนสกิล Blood Ritual เป็น Tribal Rite สำหรับ Fetish Army, ปรับรูนของ Spirit Walk ให้เป็น Honored Guest หรือ เปลี่ยน Pierce the Vile หรือ Blood Ritual เป็น Vision Quest สำหรับ Spirit Barrage แลพ Haunt

ส่วนในเรื่องของ Passive Skill, Pierce the Veil คือสกิลที่แทบจะสร้างมาซัพพอร์ทกับ Poison Dart เลยก็ว่าได้ สร้างความเสียหายเพิ่มได้อีก 20% แต่กินมาน่าเพิ่มเพียง 3-4 หน่วย ในขณะเดียวกันก็มี Spiritual Attunement คอยเร่งการรีเจนมาน่าในระดับหนึ่ง และ Blood Ritual ก็ช่วยด้านการเอาชีวิตรอดด้วยการรีเจนเลือดที่เห็นผลได้ชัดเจนกว่าสกิลเพิ่มพลังป้องกันหรือลดพลังโจมตีของศัตรูในระดับ Hell และ Inferno


ติดตาม Build อื่นๆ ได้เร็วๆนี้ครับ
Coming Soon!




Warning - Wall of Text Ahead
เนื้อหาด้านล่างค่อนข้างเยอะมากครับ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดของสกิลแบบเจาะลึกเท่านั้น

เรื่องของสกิล

ศัพท์ที่ผมใช้ในการอธิบายสกิล

CC = Crowd Control (ความสามารถในการควบคุมศัตรูเป็นกลุ่ม)
CD = Cool Down (ระยะเวลาที่จะสามารถใช้สกิลได้อีกครั้งหลังจากที่ใช้ไปแล้ว)
DoT = Damage Over time (เลือดค่อยๆลดลงเรื่อยๆในระยะเวลาที่สกิลมีผล)
แดมเมจ = พลังโจมตี = การสร้างความเสียหาย
มาน่า = ค่าพลังเวทย์มนต์ที่ต้องการเวลาใช้สกิล

ระบบสกิลของ Diablo III จะไม่เหมือน Diablo II ตรงที่เราไม่สามารถอัพเลเวลสกิลได้แต่จะปลดล็อคสกิลและรูน(เพิ่มความสามารถของสกิลในรูปแบบต่างๆ)เพิ่มได้เมื่อถึงเลเวลที่กำหนดและการสับเปลี่ยนสกิลจะมีดีเลย์รวมถึงหากสับเปลี่ยนสกิลซัมมอนเป็นสกิลอื่น ซัมมอนที่เรามีอยู่จะหายไป ดังนั้นการผสมผสานสกิลให้เข้ากับ Build ที่เราสร้างจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับ WD ครับ และจะแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ Active Skill(สกิลที่ต้องกดใช้)และ Passive Skill(สกิลติดตัว) ซึ่งรายละเอียดของสกิลเหล่านี้สามารถเลื่อนลงไปดูหรือกดค้นหาชื่อสกิลที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมได้ครับ

Active Skill

เป็นสกิลที่ต้องกดใช้ตามช่องลัดต่างๆจำนวน 6 ช่องจึงจะแสดงผลออกมา สามารถเลือกใช้ได้พร้อมกัน 6 สกิล และสามารถติดตั้งรูนซึ่งจะปลดล็อคตามเลเวลที่กำหนดเผื่อเปลี่ยนแปลงความสามารถของสกิลนั้นๆได้ทุกเวลาตามใจชอบ

Poison Dart - สกิลโจมตีหลัก(ปลดล็อคเลเวล 1)



ยิงลูกดอกพิษออกไปหนึ่งดอกตามรูปด้านบน มีแดมเมจเมื่อถูกเป้าหมาย 100% ของแดมเมจจากอาวุธ และ DoT พิษ 40% ของแดมเมจจากอาวุธ หลังถูกเป้าหมายเป็นเวลา 2 วินาที ไม่มี CD
CD และระดับการกินมาน่าต่ำมาก ถือเป็นสกิลโจมตีเดี่ยวที่มีพลังโจมตีสูงเมื่อเทียบกับมาน่าที่ใช้ และเป็นสกิลหลักที่น่าจะใช้บ่อยที่สุดในทุกระดับความยาก เนื่องจาก DoT เป็นพิษจึงใช้คอมโบกับ Passive Skill ได้ครับ

Rune สำหรับ Poison Dart

Splinters ปลดล็อคเลเวล 6 - ยิงลูกดอกออกไป 3 ดอกแทนดอกเดียว สร้างความเสียหายต่อลูก 60% ของแดมเมจจากอาวุธ และ DoT พิษเหมือนกับลูกดอกพิษแบบไม่ใส่รูน
เป็นรูนที่ทำให้สกิลนี้กลายเป็นหนึ่งในสกิลโจมตีเป้าหมายเดี่ยวที่ทำแดมเมจได้มากที่สุดของ WD สกิลหนึ่ง รวมทั้งยังคอมโบกับ Passive skill ได้อีกด้วย

Numbing Dart ปลดล็อคเลเวล 13 - ยิงลูกดอกหนึ่งดอกที่ทำให้ศัตรูเดินช้าลง 60% เป็นเวลา 2 วินาที
โดยส่วนตัวแล้วเป็นรูนที่ไม่คุ้มค่าเนื่องจาก WD มีสกิลสโลว์หมู่ที่มี CD น้อยอยู่แล้ว(Grasp of the Dead)

Spined Dart ปลดล็อคเลเวล 25 - ยิงลูกดอกหนึ่งดอกที่ดูด 24 มาน่ามาให้เราต่อการโจมตีหนึ่งครั้ง
อีกหนึ่งรูนที่ใช้ค่อนข้างบ่อยโดยเฉพาะเมื่อสู้กับบอส เป็นสกิลที่เหมาะสำหรับใช้ดูดมาน่าเพื่อใช้สกิลที่มีพลังโจมตีสูงแต่กินมาน่าสกิลอื่นๆหรือใช้ยามที่มาน่าหมด

Flaming Dart ปลดล็อคเลเวล 43 - ยิงลูกดอกหนึ่งดอกที่สร้างความเสียหายเป็นธาตุไฟ 180% ของแดมเมจจากอาวุธให้กับศัตรูหนึ่งตัว
แดมเมจอาจจะเท่ากับ Splinters แต่เสีย DoT พิษ 2 วินาทีไปและไม่สามารถทำคอมโบ Passive skill ได้ ทำให้โดยรวมแล้วไม่น่าใช้เท่า Splinters ครับ

Snake in the Face ปลดล็อคเลเวล 52 - ยิงลูกดอกที่กลายเป็นงูมีโอกาส 30% ทำให้ศัตรูติด Stun 1.5 วินาที
แดมเมจที่ไม่เพิ่มขึ้นและโอกาสสตั้นนั้นไม่เหมาะสำหรับศัตรูที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ แต่สำหรับบอสเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ

Grasp of the Dead - สกิลดีบัฟและ CC(ปลดล็อคเลเวล 2)



สร้างมือจากนรกขึ้นมาในพื้นที่วงกลมขนาดในรูปข้างบนในบริเวณที่เมาส์จิ้มไป ศัตรูที่เดินเข้ามาติด Slow 60% และได้รับ DoT 20% ของแดมเมจจากอาวุธขณะที่อยู่ในบริเวณที่ลงเวทย์ เป็นเวลา 8 วินาทีและมี CD 6 วินาที
อย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ นี่คือหนึ่งใน Debuff ที่ทรงพลังที่สุดในเกม(เมื่อติดรูน) CD น้อย(แทบจะเรียกได้ว่าใช้ติดต่อกันได้) มี DoT เป็นสกิลที่ CC ได้ดีที่สุดของ WD และเป็นเวทย์ดีบัฟที่ท่านจะใช้มากที่สุดทั้งตอนโซโล่และตอนอยู่ในปาร์ตี้

Rune สำหรับ Grasp of the Dead

Unbreakable Grasp ปลดล็อคเลเวล 7 - เพิ่ม Slow จาก 60 เป็น 80%
นี่คือ Rune ที่ทำให้สกิลนี้กลายเป็นดีบัฟที่แทบจะเรียกได้ว่าทรงพลังที่สุดในเกม หากกะจังหวะเวลา CD และสถานที่ดีๆท่านสามารถหยุดมอนสเตอร์ทั้งฝูงไม่ให้เข้ามาหาท่านได้ ในขณะที่ท่านหรือเพื่อนๆช่วยกันถล่มพวกมันด้วยสกิลอื่นๆครับ

Groping Eels ปลดล็อคเลเวล 15 - เพิ่มแดมเมจจาก 20% เป็น 26%
เป็น Rune ที่เหมาะสำหรับ WD สายแดมเมจหรือ WD สายซัพพอร์ทที่ต้องการให้แดมเมจของสกิลนี้มากขึ้น แต่จะเห็นผลก็ต่อเมื่อมีแดมเมจอาวุธสูงพอนะครับ

Death is Life ปลดล็อคเลเวล 25 - มีโอกาส 5% ที่มอนสเตอร์ที่ตายในพื้นที่ของสกิลนี้จะดรอปลูกแก้วเลือด
ถึงแม้จะบอกว่า 5% แต่ก็ถือได้ว่าดรอปบ่อยกว่าที่คิด เพียงแต่ปกติลูกแก้วก็ดรอปค่อนข้างบ่อยอยู่แล้ว สำหรับผมมันไม่คุ้มจะเอารูนอื่นๆไปแลกกับ 5% นี้ครับ

Desperate Grasp ปลดล็อคเลเวล 28 - ลด CD จาก 8 วินาทีเหลือ 6 วินาที
เหมาะสำหรับ WD ที่ต้องการให้สกิลนี้สแปมได้ง่ายขึ้นครับ

Rain of Corpses ปลดล็อคเลเวล 53 - ทำให้ศพตกลงมาจากฟ้าทำแดมเมจ 80% ของแดมเมจจากอาวุธให้กับศัตรูในพื้นที่เวทย์เป็นเวลา 8 วินาที
เป็นรูนที่เหมาะมากสำหรับ WD สายแดมเมจครับ นอกจากจะได้ Slow แล้วยังได้ DoT อีกต่อหนึ่งด้วย แต่ข้อเสียหลักๆคือปลดล็อคได้ช้าเกินไปหน่อยครับ(เลเวล 53)

Corpse Spiders – สกิลโจมตีหลัก ปลดล็อคเลเวล 3



โยนไห(ข้ามสิ่งกีดขวางได้ถ้าเตี้ย)ใส่ศัตรูปล่อยแมงมุมออกมาตามรูปด้านบน สุ่มโจมตีศัตรูใกล้ๆ(มีหลายตัวอาจจะวิ่งไปกัดตัวต่อตัวแต่มีตัวเดียวก็รับเต็มๆ)ด้วยแดมเมจ 16% ของแดมเมจจากอาวุธก่อนที่จะตายลง(โยนได้เรื่อยๆตราบเท่าที่มาน่ามีพอ) ไม่มี CD
CD และมาน่าที่ใช้น้อยมาก(น้อยกว่า Poison Dart) รวมทั้งเมื่อติดรูนเข้าไปสามารถใช้งานได้หลากหลายกว่า Poison Dart แต่ก็มีข้อเสียอยู่พอสมควร ทั้งเรื่องแดมเมจที่น้อยเมื่อเทียบกับสกิลหลักอันอื่นๆและที่สำคัญคือแมงมุมที่สุ่มโจมตีโดยไม่สามารถบังคับได้

Rune สำหรับ Corpse Spiders

Leaping Spiders ปลดล็อคเลเวล 9 – ปล่อยแมงมุมที่กระโดดใส่ศัตรูได้ภายในระยะ 25 หลาและโจมตีศัตรูแบบสุ่มสร้างความเสียหาย 19% ของแดมเมจจากอาวุธ
ค่อนข้างน่าใช้กว่าแบบไม่ใส่รูน และช่วยสร้างระยะห่างให้กับ WD ได้อีกทางหนึ่งครับ

Spider Queen ปลดล็อคเลเวล 18 – ปล่อยนางพญาแมงมุมออกมาสร้างลูกๆและสร้างความเสียหายเป็นธาตุพิษด้วย 16% ของแดมเมจจากอาวุธเป็นเวลา 15 วินาที (ปล่อยได้ทีละตัว)
จำเป็นใน Build ที่เน้นพิษ(คอมโบกับ Passive Skill) และน่าใช้ใน Build อื่นๆสำหรับตัดกำลังศัตรูเป็นกลุ่มๆครับ แต่ก็ต้องคำนึงไว้ด้วยว่าปล่อยได้ครั้งละตัวเท่ากับว่าขาดสกิลหลักที่ใช้สแปมได้ไปหนึ่งสกิลนะครับ

Windowmakers ปลดล็อคเลเวล 33 – ปล่อยลูกแมงมุมที่ดูด 2 มาน่าทุกๆครั้งที่โจมตี
จุดประสงค์หลักเลยคือใช้เป็นสกิลรีเจนมาน่าครับ อย่าไปหวังกับแดมเมจและเหมาะที่สุดคือใช้กับบอสหรือมอนสเตอร์ประเภทแรร์ที่อยู่ตัวเดียวโดดๆครับ

Medusa Spiders ปลดล็อคเลเวล 45 – ปล่อยแมงมุมที่มีโอกาส 25% ที่จะทำให้ศัตรูเป็นอัมพาต(ยืนอยู่กับที่)
25% ถือว่าน้อยแต่เมื่อดูจากการปาครั้งหนึ่งได้แมงมุมหลายตัว อีกทั้งยังปาได้เรื่อยๆ จึงเหมาะกับ WD สายที่เน้นสถานะผิดปกติหรือใช้เมื่อเจอกับบอสที่ไม่ต่อต้านสถานะนี้ครับ

Blazing Spider ปลดล็อคเลเวล 55 – ปล่อยแมงมุมไฟที่สร้างความเสียหาย 21% ของแดมเมจจากอาวุธต่อการโจมตีหนึ่งครั้ง
รูนนี้ผมคิดว่าเหมาะกับ WD สายแดมเมจล้วนๆเพียงสายเดียว เพราะสายอื่นๆถ้าต้องการแดมเมจ Dart หรือสกิลหลักอื่นๆให้คุณได้มากกว่า+เลือกเป้าหมายได้ง่ายกว่าครับ

Summon Zombie Dogs – สกิลซัมม่อน ปลดล็อคเลเวล 4



ปลุกหมาซอมบี้ขึ้นมา 3 ตัว(4 ถ้ามี Passive)ตามรูปข้างบน ซึ่งหมาแต่ละตัวโจมตีด้วย 9% ของแดมเมจจากอาวุธต่อการโจมตีหนึ่งครั้ง
เป็นทั้งตัวแทงค์และทำตัวแดมเมจให้กับคุณในช่วงแรกๆที่ยังไม่มี Gargantuan และเป็นสกิลหลักสำหรับ Build หมาระเบิดและ Build Summoner ครับ

Rune สำหรับ Summon Zombie Dogs

Rabid Dogs ปลดล็อคเลเวล 12 – เรียกหมาซอมบี้ขึ้นมาโจมตีเป็นธาตุพิษด้วยแดมเมจ 9% ของอาวุธในระยะเวลา 3 วินาที
เป็นการอัพเกรดหมาที่นำไปใช้เป็นคอมโบพิษได้ครับ

Final Gift ปลดล็อคเลเวล 19 – เมื่อหมาซอมบี้ตาย มีโอกาส 15% ที่หมาแต่ละตัวจะดรอปลูกแก้วเลือด
มีประโยชน์เฉพาะกับ Build หมาระเบิดที่ต้องฆ่าหมาบ่อยๆอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่กับ Build อื่นโดยเฉพาะกับ Build Summoner ที่หมาจะตายค่อนข้างยากกว่า Build อื่นๆ

Life Link ปลดล็อคเลเวล 28 – ดูดแดมเมจที่เราได้รับ 10% ให้กระจายไปยังหมาซอมบี้ที่เรามีอยู่
หนึ่งในสกิลที่เหมาะสำหรับ Summoner รวมถึง Build อื่นๆบาง Build ด้วยซึ่งเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของ WD ให้มากยิ่งขึ้น

Bunring Dogs ปลดล็อคเลเวล 40 – เรียกหมาไฟซอมบี้ขึ้นมา เผาศัตรูใกล้ๆตัวหมาด้วยแดมเมจธาตุไฟ 2% ของแดมเมจจากอาวุธ
เหมาะสำหรับใช้เป็นตัวเสริมแดมเมจของ Build ที่เน้นทำแดมเมจแบบ AoE แต่ใช้แทงค์ไม่ดีเท่า Life Link กับ Leeching Beasts

Leeching Beasts ปลดล็อคเลเวล 54 – หมาซอมบี้ดูดเลือดศัตรู 50% ของแดมเมจที่โจมตีไป และ WD ได้รับเลือด 25% ของแดมเมจที่หมาโจมตีเช่นเดียวกัน
อีกหนึ่งสกิลและเป็นสกิลที่จำเป็นมากสำหรับสาย Summoner ซึ่งเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้ทั้งคุณและหมาของคุณได้มากกว่า Life Link ส่งผลให้สามารถแทงค์ต่อได้นานกว่าปกติมาก ถ้า Build ออฟชั่นในอาวุธและชุดมาถูกทางครับ

Firebats – สกิลโจมตี ปลดล็อคเลเวล 5



เมื่อกดใช้จะปล่อยฝูงค้างคาวไฟออกมาตรงหน้าในระยะสั้นๆตามรูปด้านบน สร้างความเสียหายเป็นธาตุไฟ 150% ของแดมเมจจากอาวุธทุกวินาทีที่กดค้างเอาไว้
แม้จะมีความรุนแรงในระดับหนึ่ง แต่เนื่องจากว่าใช้มาน่าค่อนข้างสูงและมีระยะทางค่อนข้างสั้น จึงไม่ค่อยเหมาะสำหรับ Build ทั่วๆไปโดยเฉพาะบาง Build ที่มีสกิลที่ใช้มาน่าสูงๆสกิลอื่นอยู่ด้วย

Rune สำหรับ Firebats

Dire Bats ปลดล็อคเลเวล 11 – ปล่อยค้างคาวออกไปโจมตีเป็นเส้นตรง(ระยะทาง 40 หลา)สร้างความเสียหายเป็นธาตุไฟ 220% ของแดมเมจจากอาวุธกับมอนสเตอร์ทุกๆตัวที่ค้างคาวบินผ่าน
รูนที่เปลี่ยนสกิลนี้ให้กลายเป็นสกิลโจมตีหมู่ยอดนิยมของ WD มีระยะการโจมตีไกล โจมตีโดนหลายตัว(ขึ้นอยู่กับการจัดวางมอนสเตอร์) ไม่มี CD และมีพลังโจมตีสูง(ติดอันดับต้นๆของสกิลทั้งหมดของ WD) แต่มีข้อเสียตรงที่ผลาญมาน่าไวมากในกรณีที่ไม่มีสกิลคอมโบหรือออฟชั่นรีเจนมาน่าในชุดเกราะและอาวุธ

Vampire Bats ปลดล็อคเลเวล 19 – ปล่อยฝูงค้างคาวออกไปทางด้านหน้า(ระยะเท่ากับไม่ใส่รูน) ดูดเลือด 2.5% ให้กับ WD จากแดมเมจที่ทำได้
ไม่ค่อยมีประโยชน์มากอย่างที่คิด เนื่องจาก WD เป็นอาชีพที่ค่อนข้างเปราะ การที่ใช้เวทย์ที่มีระยะทำการสั้นอาจจะทำให้เสียเลือดมากกว่าที่ดูดมาได้ อีกทั้งการรีเจนเลือดยังมีวิธีที่ปลอดภัยมากกว่านี้อีกหลายวิธีครับ

Plague Bats ปลดล็อคเลเวล 29 – ปล่อยฝูงค้าวคาวพิษออกไปทางด้านหน้า(ระยะเท่ากับไม่ใส่รูน) พลังโจมตีเพิ่มขึ้นทุกๆวินาทีที่กดค้างไว้ แดมเมจเป็นธาตุพิษสูงสุดอยู่ที่ 225% ของแดมเมจจากอาวุธ
นอกจากจะต้องการเน้นสกิลธาตุพิษจริงๆ Dire Bat มีภาษีที่ดีกว่าชนิดทิ้งห่างเลยทีเดียว(220% ตั้งแต่กดใช้, ระยะไกลกว่า, โจมตีทะลุช่อง)

Hungry Bats ปลดล็อคเลเวล 45 – ปล่อยค้างคาวติดตามตัวออกไปโจมตีเป็นแดมเมจธาตุไฟ 280% ของแดมเมจจากอาวุธ
เหมาะสำหรับการใช้เป็นเวทย์โจมตีเดี่ยวหลัก แต่ต้องมีการจัดการมาน่าที่ดี

Cloud of Bats – ปล่อยฝูงค้าวคาวไฟไปด้านหน้า สร้างความเสียหายเป็นธาตุไฟเริ่มต้น 195% ของแดมเมจจากอาวุธและเพิ่มขึ้น 10% ทุกๆวินาทีที่กดค้างไว้ สูงสุด 50%(แดมเมจต่อวินาทีสูงสุด 245%)
แม้ว่าแดมเมจจะฟังดูสูง แต่ก็เหมือนกันกับ Plague Bats ที่มีความเสี่ยงต่อการโดนโจมตีและมีความแรงกว่า Dire Bats ไม่มากนัก อีกทั้งยังปลดล็อคในเลเวลท้ายๆของเกม(เลเวล 56)

Horrify – สกิล CC และ Disable ปลดล็อคเลเวล 8



จำลองพลังแห่งความกลัวขึ้นมารอบตัวเองในระยะ 12 หลา ตามรูปภาพด้านบน ทำให้ศัตรูวิ่งหนีเราเป็นระยะเวลา 4 วินาที ยกเว้นศัตรูที่ต่อต้านสถานะนี้ได้ มี CD 20 วินาที
เป็นสกิล CC และ Disable ที่ทรงพลังอีกหนึ่งสกิลของ WD สามาถใช้หลบหนียามคับขันได้และสามารถปรับแต่ง(รูน)ได้หลากหลายพอสมควร เป็นสกิลที่ค่อนข้างจำเป็นในระดับความยาก Nightmare, Hell และ Inferno แต่มี CD ค่อนข้างสูงจึงต้องกะเวลาในการใช้พอสมควร

Rune สำหรับ Horrify

Phobia ปลดล็อคเลเวล 14 – เพิ่มระยะเวลาที่ศัตรูกลัวจาก 4 วินาทีเป็น 6 วินาที
เหมาะสำหรับ WD ทุกๆสายที่ใช้สกิลนี้ เพิ่มระยะเวลา Disables ให้นานยิ่งขึ้นและซื้อเวลาในการหนียามคับขันให้อีกเกือบเท่าตัว

Stalker ปลดล็อคเลเวล 21 – เมื่อใช้สกิลนี้เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ของเรา 20% เป็นระยะเวลา 4 วินาที
นี่คือรูนที่เหมาะที่สุดสำหรับ WD ที่กะจะใช้สกิลนี้เป็นสกิลหลบหนี

Face of Death ปลดล็อคเลเวล 34 – เพิ่มระยะของสกิลเป็นสองเท่า
ช่วยถ่วงเวลารวมทั้งเปิดฉากได้ดีมากขึ้น แต่ดูจะด้อยกว่ารูนสองชนิดแรกในแต่ละด้าน(ระยะเวลาเท่าเดิมบวกกับไม่มีผลพลอยได้อย่างความเร็วในการเคลื่อนที่) เหมาะสำหรับ WD ที่อยู่แนวในแถวกลางๆของแนวการรบครับ

Frightening Aspect ปลดล็อคเลเวล 44 – เพิ่มเกราะของ WD เป็นสองเท่าเมื่อกดใช้สกิลเป็นระยะเวลา 8 วินาที
เป็นรูนที่เพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยชีวิตยามคับขันแต่ก็ไม่ได้ทำให้ WD เป็นอมตะแต่อย่างใด จึงดูด้อยภาษีกว่ารูนในข้างต้นครับ

Ruthless Terror ปลดล็อคเลเวล 56 – ได้รับ 13 มาน่าจากศัตรูทุกตัวที่ติดสถานะ
ช่วยได้การรีเจนมาน่าได้เป็นอย่างดี ยิ่งใช้กับ Passive Skill แล้วสามารถเติมมาน่าไปพร้อมๆกับหลบหนีหรือใช้ Disables ไปในตัวได้ด้วย แต่ในกรณีที่จะเป็นสกิลหลักสำหรับรีเจนมาน่า ควรจะลองทดสอบเทียบกับสกิลอื่นๆที่มี CD น้อยกว่าแต่ให้ผลพอๆกันได้ดู(Windowmakers, Spined Dart)

Soul Harvest – สกิลบัฟ ปลดล็อคเลเวล 9



ดูดวิญญาณจากศัตรูรอบตัวในระยะ 16 หลา ตามภาพด้านบน ได้รับ 130 Int จากศัตรู 1 ตัวที่ถูกดูดวิญญาณ สูงสุด 5 ตัว เป็นระยะเวลา 30 วินาที มี CD 15 วินาที
สกิลบัฟของ WD ที่โดนกระแสต่อต้านให้ทำการลดความสามารถของสกิลลง CD น้อยกว่าระยะเวลาสกิล(15 วินาที) ใช้มาน่าน้อยแต่ให้พลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นเกินกว่าสองเท่า ส่งผลให้ขึ้นทำเนียบสกิลบัฟที่ให้ผลโอเวอร์มากสำหรับความยากระดับต่างๆ โดยเฉพาะเมื่อติดตั้งรูนเพิ่มลงไป โดยรวมแล้วเป็นสกิลบัฟเสริมแดมเมจของ WD ที่สายแดมเมจทั้งหลายไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ

Rune สำหรับ Soul Harvest

Swallow Your Soul ปลดล็อคเลเวล 15 – ได้รับ 19 มาน่าจากศัตรู 1 ตัวที่โดนดูดวิญญาณ
เหมาะจะใช้เติมมาน่าในระดับหนึ่ง แต่หากต้องการใช้เป็นสกิลรีเจนมาน่าหลักแล้ว ยังดูไม่เหมาะสมเท่ากับสกิลอื่นๆนัก

Siphon ปลดล็อคเลเวล 21 – ได้รับเลือด 48 หน่วยจากศัตรู 1 ตัวที่โดนดูดวิญญาณ(เลือดที่ได้รับเพิ่มขึ้นตามเลเวลของ WD)
เหมาะสำหรับใช้เติมเลือดในระดับหนึ่ง แต่ไม่เหมาะจะใช้เป็นสกิลเติมเลือดหลักเนื่องจาก CD ที่ค่อนข้างนานและต้องอยู่ในระยะใกล้พอสมควร

Languish ปลดล็อคเลเวล 32 – ศัตรูที่ถูกดูดวิญญาณติด Slow 60% เป็นระยะเวลา 3 วินาที
นอกจากจะต้องเข้าไปใกล้เพื่อให้ติดสโลว์แล้ว ยังสโลว์ได้สูงสุดแค่ 5 ตัว ถ้าจะเอาไว้หนีออกมาจากดงมอนสเตอร์ที่เข้าไปดูดวิญญาณก็พอถูไถ แต่ถ้าจะเอาไว้ใช้เป็นสกิล CC แนะนำให้ใช้ Grasp of the Dead แทนครับ

Soul to Waste ปลดล็อคเลเวล 39 – เพิ่มระยะเวลาคงอยู่ของสกิลเป็น 60 วินาที
เมื่อดูดวิญญาณศัตรูมา 5 ตัวสกิลนี้จะเปลี่ยนให้คุณกลายเป็นเครื่องจักรสังหาร(โดยเฉพาะอย่างยิ่ง WD สายแดมเมจ)ที่สามารถล้างผลาญศัตรูแทบทุกกลุ่มได้เป็นระยะเวลา 1 นาทีเต็มในระดับความยากระดับต้นๆ(Nightmare, Normal)

Vengeful Spirit ปลดล็อคเลเวล 49 – ศัตรูที่โดนดูดวิญญาณโดนแดมเมจ 70% จากแดมเมจอาวุธด้วย
เหมาะสำหรับ WD สายแดมเมจที่ต้องการตอดเลือดของศัตรูครั้งหนึ่งก่อนจะโหมซ้ำด้วยแดมเมจที่เพิ่มขึ้นมาจากสกิล

Plague of Toad – สกิลโจมตีหลัก ปลดล็อคเลเวล 11



ปล่อยคางคกออกมาโจมตีตามรูปด้านบน สร้างแดมเมจเป็นธาตุพิษ 130% แดมเมจจากอาวุธต่อหนึ่งตัวที่โดนศัตรู ไม่มี CD
เป็นสกิลโจมตีหลักที่ใช้มาน่าค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับสกิลหลักสกิลอื่นๆและให้แดมเมจที่เยอะที่สุด(ถ้าโดนคางคกทุกตัว)เช่นเดียวกัน แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ว่าคางคกนั้นจะไม่วิ่งเข้าหาศัตรูอัตโนมัติเหมือนแมงมุมแต่จะกระโดดไปในทุกทิศทางแบบแรนด้อมโดยที่เราไม่สามารถจะบังคับได้ ดังนั้นหากต้องการใช้สกิลนี้เป็นสกิลหลักต้องเข้าใจถึงสภาพแวดล้อมในเกมและเล็งเห็นถึงสถานที่ๆควรจะใช้ได้อย่างรวดเร็ว(ใช้บนทางแคบๆหรือสแปมหน้าประตูห้อง เป็นต้น) แต่เป็นสกิลที่เสี่ยงต่อการโดนโจมตีกลับเพราะต้องอยู่ในระยะกลางครับ

Rune สำหรับ Plague of Toad

Explosive Toads ปลดล็อคเลเวล 17 – ปล่อยคางคกไฟออกมาระเบิดใส่ศัตรู โดยสร้างความเสียหายเป็นธาตุไฟ 169% ของแดมเมจจากอาวุธหากโดนระเบิด
หนึ่งในสกิลที่(ถ้าโดนครบทุกตัว)รุนแรงที่สุดของ WD และกินมาน่าน้อยที่สุด(เมื่อเทียบแดมเมจ) แต่ก็ต้องอาศัยการวางแผนและดวง(ว่าคางคกจะกระโดดไปทางไหน)เป็นหลัก รวมทั้งไม่มีความปลอดภัยเท่าไหร่นัก(ศัตรูที่โดนคางคกระเบิดไม่ชะงัก, มักจะมีปัญหาเมื่อเจอกับศัตรูที่เคลื่อนไหวเร็วๆ)

Toad of Hugeness ปลดล็อคเลเวล 24 – ปล่อยคางคกยักษ์ออกมากินศัตรูเข้าไป สร้างความเสียหาย 24% ของแดมเมจจากอาวุธเป็นเวลา 5 วินาที แต่เพิ่ม CD เข้าไป 5 วินาทีด้วยเช่นเดียวกัน
ไม่เหมาะสำหรับใช้เป็นสกิลโจมตีหลัก แต่เหมาะสำหรับใช้กับมอนสเตอร์เมจิคกับแรร์ที่เหลืออยู่ตัวเดียวโดดๆ เพื่อสร้างช่องว่างระหว่างตัวเรากับศัตรู

Rain of Toads ปลดล็อคเลเวล 35 – ปล่อยฝนคางคกพิษลงมาสร้างความเสียหายในบริเวณเล็กๆสร้างความเสียหายเป็นธาตุพิษ 130% ของแดมเมจจากอาวุธเป็นเวลา 2 วินาที
ระยะทำการไกล พลังโจมตีสูงพอใช้ ไม่มี CD จึงสามารถกดใช้ได้เรื่อยๆ เป็นทั้งข้อดีและเป็นทั้งข้อเสียเพราะทำให้มาน่าหมดได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับ WD ที่มีมาน่าเหลือกินเหลือใช้ และไม่แนะนำให้ใช้เป็นสกิลโจมตีหลัก(คลิกซ้าย)

Addling Toads ปลดล็อคเลเวล 51 – ปล่อยคางคกเหลืองออกมาสร้างความเสียหายเป็นธาตุพิษ 130% ของแดมเมจจากอาวุธ และมีโอกาส 15% ที่จะทำให้ศัตรูติดสถานะสับสน(ตีกันเอง)เป็นเวลา 4 วินาที
เหมาะสำหรับ WD ชอบใช้สถานะในการป่วนศัตรู อีกทั้งยังมีโอกาสสำเร็จมากกว่าและดีเลย์น้อยกว่าสกิล Mass Confusing อยู่พอสมควร(ถ้าศัตรูโดนคางคกทุกตัว)

Toad Affinity ปลดล็อคเลเวล 54 – ทำให้มาน่าในการใช้สกิลนี้เป็น 0
เหมาะที่สุดที่จะใช้เป็นสกิลหลักในกรณีที่มาน่ามีน้อยและมีพลังโจมตีค่อนข้างรุนแรง แต่ก็ยังเป็นสกิลที่ขึ้นอยู่กับดวงอยู่ดีว่าคางคกที่ปล่อยออกมานั้นจะชนศัตรูหรือไม่

Haunt – สกิลโจมตีเดี่ยวแบบ DoT ปลดล็อคเลเวล 12



ปล่อยวิญญาณออกไปเกาะศัตรูในจุดที่เมาส์เราชี้อยู่ตามรูป สร้างความเสียหาย 575% ของแดมเมจจากอาวุธภายในระยะเวลา 12 วินาที เมื่อศัตรูที่โดนเวทย์นี้ตายก่อนเวลา วิญญาณจะตามล่าศัตรูใกล้ๆต่อไป ไม่มี CD
นี่คือสกิลโจมตีเดี่ยวที่รุนแรงที่สุดของ WD และสามารถสแปมวิญญาณได้เรื่อยๆแต่แลกมาด้วยการผลาญมาน่าอย่างรวดเร็วเป็นเงาตามตัว เหมาะสำหรับใช้ซ้ำศัตรูที่โดนสกิลหมู่เข้าไปแต่จะเหมาะที่สุดสำหรับใช้กับบอสและมอนสเตอร์แรร์ที่เหลืออยู่ตัวเดียวโดดๆ

Rune สำหรับ Haunt

Consuming Spirit ปลดล็อคเลเวล 18 – วิญญาณดูดเลือด 4 หน่วยต่อวินาทีกลับมาให้ WD ในขณะที่วิญญาณเกาะศัตรูอยู่(ปริมาณเลือดเพิ่มขึ้นเมื่อเลเวลอัพ)
ถือเป็นโบนัสเอฟเฟกที่มีประโยชน์แม้ปริมาณเลือดที่ดูดมาจะไม่มากนักก็ตาม เหมาะสำหรับใช้เป็นสกิลเพิ่มเลือดใบบางกรณี แต่ไม่เหมาะที่จะใช้เพิ่มเลือดในยามฉุกเฉิน

Resentful Spirit ปลดล็อคเลเวล 23 – วิญญาณจะเข้าไปสร้างแดมเมจ 288% เป็นระยะเวลา 2 วินาที
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแดมเมจอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลาสั้นๆ

Lingering Spirit – ถ้าหากไม่มีศัตรูตัวไหนเหลืออยู่แล้ววิญญาณจะกลับมาเกาะเราเป็นเวลาสูงสุด 10 วินาทีเพื่อรอศัตรูตัวต่อไป
เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นรูนที่เหมาะที่สุดสำหรับ WD สายแดมเมจที่ต้องการใช้ Haunt และเป็นการประหยัดมาน่าในทางอ้อม

Grasping Spirit ปลดล็อคเลเวล 48 – ศัตรูที่โดนวิญญาณเกาะอยู่ติด Slow 30%
เป็น Slow ในอีกทางเลือกหนึ่งคือระยะเวลายาวนานกว่า(12 วินาที)แต่โดนแค่ตัวเดียว ซึ่งก็แล้วแต่ Build และวิธีการเล่นของแต่ละคน

Draining Spirit – วิญญาณดูดมาน่าให้ WD 5.2 ต่อวินาที
เมื่อคำนวณโดยรวมแล้ว(บวกกับ Passive Skill บางอัน)จำนวนมาน่าที่วิญญาณดูดมานั้นสูงกว่ามาน่าที่ใช้กับสกิลหลายเท่า จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสกิลเติมมาน่าและทำแดมเมจไปในตัว แต่ต้องรอค่อนข้างนานกว่าจะได้ผลลัพธ์สูงสุด(12 วินาที)

Sacrifice – สกิลหมาระเบิด ปลดล็อคเลเวล 13



เมื่อกดใช้จะเป็นการสั่งให้หมาซอมบี้ระเบิดทำลายตัวเองตามรูปและสร้างความเสียหายให้ศัตรูรอบๆตัวหมาในระยะ 12 หลา 275% ของแดมเมจจากอาวุธ ไม่สามารถใช้งานได้หากไม่มีหมาซอมบี้อยู่ในควบคุม ไม่มี CD
เป็นสกิลที่สร้างความเสียหายได้รุนแรง แต่ใช้งานยากและพลิกแพลงได้ไม่หลากหลายเหมือนกับสกิลอื่นๆ แต่เป็นสกิลหลักของ Build หมาระเบิดรวมถึงเป็นตัวเลือกในการทำแดมเมจที่ดีสำหรับ Build Summoner ด้วย

Rune สำหรับ Sacrifice

Black Blood ปลดล็อคเลเวล 18 – นอกจากระเบิดแล้วศพของหมาซอมบี้ยังทำให้ศัตรูรอบข้างติด Slow 60% เป็นระยะเวลา 8 วินาทีอีกด้วย
เป็นผลพลอยได้ที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Build หมาระเบิดและ Build Summoner ที่ใช้สกิลนี้เป็นสกิลทำแดมเมจ

Next of Kin ปลดล็อคเลเวล 24 – มีโอกาส 35% สำหรับหมาที่สั่งระเบิดไปจะฟื้นคืนชีพกลับมา
สำหรับ Build หมาระเบิดแล้วถือเป็นรูนที่ลงตัวกันพอดี การที่สั่งหมาระเบิดไป 4 ตัวแล้วถ้ามีหมาซอมบี้คืนชีพกลับมาซัก 1-2 ตัวแล้วสั่งให้ระเบิดซ้ำทันทีนั้น ถือว่าเป็นแดมเมจโดยรวมที่สูงมากทีเดียว

Pride – ปลดล็อคเลเวล 36 – ได้รับมานา 156 หน่วยต่อหมาที่ระเบิดไปหนึ่งตัว
เหมาะที่สุดสำหรับ Build หมาระเบิดที่ต้องการใช้สกิลนี้เป็นสกิลรีเจนมาน่าหลักเพื่อใช้สกิลอื่นๆที่กินมาน่าสูงในการทำแดมเมจ

For the Master ปลดล็อคเลเวล 41 – ที่เลเวล 41 ได้รับเลือด 186 หน่วยต่อหมาหนึ่งตัวที่ระเบิด (เลือดที่ได้รับเพิ่มขึ้นเมื่อเลเวลอัพ)
สลับกันกับ Pride ครับ

Provoke the Pack ปลดล็อคเลเวล 51 – แดมเมจของ WD เพิ่มขึ้น 5% ต่อหมาหนึ่งตัวที่ระเบิดไปเป็นระยะเวลา 30 วินาที
สำหรับสายหมาระเบิดที่ต้องการซัพพอร์ตกลุ่มบ้าง(ศัตรูโดนแดมเมจมากขึ้นถ้าไม่ตาย)ครับ

Zombie Charger – สกิลโจมตีแบบ AoE แนวเส้นตรงปลดล็อคเลเวล 14



สร้างซอมบี้พลีชีพขึ้นมาโดยจะวิ่งไปด้านหน้าของ WD ตามรูปด้านบน สร้างความเสียหาย 205% ของแดมเมจจากอาวุธกับศัตรูทุกตัวที่อยู่ในเส้นทาง(ตัวละหนึ่งครั้ง) ไม่มี CD
หากเลือกใช้สกิลนี้เป็นสกิลทำแดมเมจหลัก จำเป็นต้องมีการล่อศัตรูให้เข้ามาในเส้นทางการวิ่งเป็นกลุ่มทุกครั้งหากต้องการใช้ประโยชน์จากสกิลนี้ให้สูงที่สุด เพราะระยะของสกิลที่ค่อนข้างน้อยและแคบ(ซอมบี้วิ่งเป็นเส้นตรง) วิ่งผ่านสิ่งกีดขวางไม่ได้ และกินมาน่ามาก จะเหมาะที่สุดสำหรับทางหรือดันเจี้ยนที่เป็นทางตรงๆแคบๆ

Rune สำหรับ Zombie Charger

Leperous Zombie ปลดล็อคเลเวล 21 – ซอมบี้พลีชีพทิ้งกลุ่มพิษไว้เบื้องหลัง ทำความเสียหายเป็นธาตุพิษ 25% ของแดมเมจจากอาวุธกับศัตรูที่เหยียบมัน
แดมเมจเพิ่มเติมแบบ AoE สำหรับสกิลนี้ คุ้มค่าในระดับต้นๆที่ยังใช้ Rune อื่นของสกิลนี้ไม่ได้ครับ

Undeath ปลดล็อคเลเวล 27 – ถ้าซอมบี้พลีชีพฆ่าศัตรูได้ จะเกิดซอมบี้พลีชีพอีกตัวหนึ่งขึ้นมาโจมตีศัตรูใกล้ๆ(สูงสุด 2 ครั้ง)เป็นแดมเมจเท่าเดิม(208%)
ถ้าบริหารแดมเมจได้ดีและมั่นใจว่าในการปล่อยซอมบี้ครั้งหนึ่งสามารถฆ่าศัตรูได้อย่างต่ำๆ 1 ตัวใน 1 กลุ่มก็ถือเป็นรูนที่น่าใช้ครับ แต่ถ้าไม่สามารถฆ่าศัตรูได้ใน 1 ครั้งการปล่อย(โดยเฉพาะในระดับความยากอื่นๆนอกจาก Normal) เป็นการเสียสล็อทรูนเปล่าๆและไม่คุ้มค่าเท่าที่ควรครับ

Wave of Zombie ปลดล็อคเลเวล 33 – สร้างซอมบี้พลีชีพขึ้นมา 3 ตัวและสร้างความเสียหายเป็นธาตุพิษ 72% ของแดมเมจจากอาวุธ(ต่อ 1 ตัว)ให้กับศัตรูทุกๆตัวในระยะทางที่วิ่งผ่าน
เปลี่ยนสกิลนี้ให้เหมาะสำหรับพื้นที่เปิดโล่งและศัตรูที่อยู่เป็นกลุ่มกระจายๆมากยิ่งขึ้น ถือว่าเหมาะกับ Build ที่ต้องการสกิล AoE วงใหญ่ๆครับ

Explosive Beast ปลดล็อคเลเวล 42 – สร้างซอมบี้หมาขึ้นมาและวิ่งตรงไปยังเป้าหมายที่เมาส์ชี้อยู่ก่อนจะระเบิดขึ้นสร้างความเสียหายในระยะ 9 หลา เป็นแดมเมจธาตุไฟ 236% ของแดมเมจจากอาวุธ
แม้ระยะทางจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมาย แต่สามารถใช้งานได้ง่ายและหลากหลายกว่าสกิลแบบไม่ติดรูนครับ เหมาะที่สุดสำหรับบอสและมอนสเตอร์ประเภท Champion และ Rare ครับ

Zombie Bears ปลดล็อคเลเวล 54 – สร้างหมีซอมบี้ขึ้นมา 3 ตัวให้วิ่งไปยังเป้าหมาย(ทิศทางที่เมาส์ชี้) สร้างความเสียหายเป็นธาตุพิษ 236% ของแดมเมจจากอาวุธกับศัตรูทุกๆตัวที่โดนตัวหมี
เวอร์ชั่นอัพเกรดของรูน Wave of Zombie และเป็นสกิล AoE ระยะสั้น-กลางที่ดีที่สุดของ WD ครับ แดมเมจเพิ่มขึ้นรวมทั้งระยะหวังผลของตัวหมีก็ดีขึ้นกว่าซอมบี้ด้วย(หมีตัวใหญ่กว่า)

Spirit Walk – สกิลหลบหนีปลดล็อคเลเวล 16



เมื่อกดใช้ ตัว WD จะทิ้งร่างเนื้อของตัวเองให้อยู่ที่ๆกดใช้สกิล และเข้าสู่โลกวิญญาณ(ตัวโปร่งแสง)ตามรูปภาพด้านบนเป็นเวลา 2 วินาทีโดยขณะที่อยู่ในโลกนี้นั้น WD จะเดินเร็วขึ้นและทะลุตัวศัตรู รวมทั้งไม่ได้รับความเสียหายใดๆในระยะเวลาของสกิล แต่จะหลุดออกจากโลกวิญญาณเมื่อร่างเนื้อได้รับความเสียหายมากกว่า 50% ของเลือดทั้งหมดของเรา และในขณะที่อยู่ในร่างวิญญาณสามารถใช้สกิลหรือโจมตีได้ตามปกติ มี CD 15 วินาที
เป็นสกิลที่สร้างขึ้นมาเพื่อหลบหนีล้วนๆสกิลเดียวของ WD ระยะเวลาสกิล 2 วินาทีและ CD 15 วินาทีแม้จะฟังดูไม่น่าใช้ แต่ช่วยเหลือคุณในสถานการณ์คับขันหลายๆประการได้มากกว่าที่คิด รวมถึงเป็นสกิลสำหรับเอาตัวรอดซึ่งแทบจะขาดไปไม่ได้ในระดับความยากหลังๆในความคิดเห็นของผมครับ

Rune ของ Spirit Walk

Jaunt ปลดล็อคเลเวล 23 – เพิ่มระยะเวลาของ Spirit จาก 2 วินาที เป็น 3 วินาที
ฟังดูดีแต่ Rune อื่นๆของสกิลนี้เสนอความพลิกแพลงให้ได้มากกว่ารูนนี้ แต่ในขณะที่ยังไม่มีรูนอื่นใช้ รูนนี้เป็นรูนที่เพิ่มเปอร์เซนต์รอดชีวิตของคุณได้เป็นอย่างดีครับ

Honored Guest ปลดล็อคเลเวล 29 – ได้รับ 15% ของมาน่าทั้งหมดของคุณต่อวินาทีในช่วงที่สกิลนี้ทำงานอยู่(รวม 30%)
เป็นคอมโบสกิลรูนสำหรับรีเจนมาน่าที่อยู่ในอันดับต้นๆของ WD เป็นการยิงนกสองตัวในสล็อทสกิลเดียวครับ

Umbral Shock ปลดล็อคเลเวล 38 – เมื่อหมดระยะเวลาของสกิลนี้ ร่างเนื้อของเราระเบิดออกสร้างความเสียหายในระยะ 10 หลาเป็นธาตุไฟ 102% ของแดมเมจจากอาวุธ
เหมาะสำหรับ WD สายแปลกๆหรือผู้ที่ต้องการสร้างแดมเมจในขณะที่หลบหนีไปในตัวครับ

Severance ปลดล็อคเลเวล 47 – สร้างความเสียหายให้กับศัตรูทุกตัวที่เราเดินผ่านในร่างวิญญาณ 100% ของแดมเมจจากอาวุธ
ฟังดูดีในทางทฤษฏี แต่มาคิดในอีกแง่หนึ่งแล้วสกิลที่ทำแดมเมจได้มากกว่านี้มีเยอะแยะไปครับ ไม่รวมถึง CD 15 วินาทีของสกิลนี้แลกกับการทำแดมเมจแค่ 2 วินาทีด้วย

Healing Journey ปลดล็อคเลเวล 53 – ได้รับ 7% ของปริมาณเลือดของเราทุกๆ 1 วินาทีในขณะที่อยู่ในร่างวิญญาณ(14% โดยรวม)
นี่คือคอมโบสกิลรูนที่ดีที่สุดในการหลบหนีและเอาชีวิตรอดของ WD ในความคิดเห็นของผมครับ ไม่เพียงแค่สามารถหลบหนีในกรณีที่มอนสเตอร์หลุดข้ามแนวป้องกันมาหรือกรณีอื่นๆ แต่ยังเพิ่มโอกาสรอดให้เรา(14% รีเจนเลือด)อีกด้วย เป็นเหมือนเหรียญอีกด้านหนึ่งของคอมโบรูน Honored Guest ครับ

Spirit Barrage – สกิลโจมตีเป้าหมายเดี่ยว ปลดล็อคเลเวล 17



ยิงวิญญาณออกไปโจมตีศัตรูตามรูป สร้างความเสียหาย 190% ของแดมเมจจากอาวุธ ไม่มี CD
เป็นสกิลโจมตีเป้าหมายเดี่ยวที่แม้จะดูด้อยกว่าในเรื่องของแดมเมจ แต่กินมาน่าต่ำ รวมถึงสร้างความเสียหายในทันทีไม่เหมือนกับ Huant จึงเหมาะจะเป็นทางเลือกของผู้ที่ไม่ชอบสกิลโจมตีประเภท DoT ครับ

Rune ของ Spirit Barrage

The Spirit is Willing ปลดล็อคเลเวล 23 – ได้มาน่า 25 หน่วยทุกๆครั้งที่สกิลนี้โดนเป้าหมาย
กล่าวสั้นๆคือลดค่ามาน่าของสกิลลงไป 25 หน่วย(จาก 62 เหลือ 37หน่วย) เหมาะมากขึ้นสำหรับการสแปมสกิล

Well of Souls ปลดล็อคเลเวล 32 – สร้างวิญญาณจิ๋วออกไป 3 ดวงโจมตีศัตรูใกล้ๆกับเป้าหมายหลัก สร้างความเสียหาย 30% ของแดมเมจจากอาวุธ
ใช้สำหรับโจมตีเป้าหมายหลักแต่ต้องการกร่อนเลือดของศัตรูรอบข้างไปด้วยครับ ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนสกิลนี้จะเป็น AoE แต่อย่างใดและไม่สามารถบังคับให้วิญญาณลูกโจมตีเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงได้ครับ

Phantasm ปลดล็อคเลเวล 37 – เรียกวิญญาณขึ้นมายังพื้นที่ๆเมาส์ชี้ และบินวนในระยะ 10 หลา สร้างความเสียหายให้กับศัตรูทุกตัวในระยะของสกิล 45% ของแดมเมจจากอาวุธเป็นระยะเวลา 5 วินาที
เปลี่ยนสกิลนี้ให้เป็นสกิล AoE ขนาดย่อมๆ ใช้ตอนที่ศัตรูโดนดึงความสนใจ(จากเพื่อนในปาร์ตี้)หรือตอนศัตรูทุกควบคุมความเคลื่อนไหว(Grasp of the Dead และสกิลอื่นๆ)ได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ไม่เหมาะจะใช้เป็นสกิล AoE สำหรับทำแดมเมจหลักครับ

Phlebotomize ปลดล็อคเลเวล 44 – นำความเสียหาย 3% ที่เราสร้างขึ้นด้วยสกิลนี้มาฟื้นเลือดให้เรา
เป็นผลพลอยได้ที่ดีและเพิ่มขีดการเอาตัวรอดให้กับ WD ได้ระดับหนึ่ง แต่เป็นได้เพียงแค่สกิลรีเจนเลือดชั้นรองครับ

Manitou ปลดล็อคเลเวล 59 – สร้างวิญญาณขึ้นมาลอยรอบๆตัว WD ทำแดมเมจ 28% ของแดมเมจของอาวุธให้กับศัตรูรอบๆตัวของ WD เป็นเวลา 20 วินาที
ถ้าคุณเป็น WD สายที่อยู่ในแนวหน้า(ด้วยเหตุผลบางอย่าง)รูนนี้คือสกิลคอมโบสำหรับคุณครับ เพราะเป็นสกิลที่สร้างแดมเมจได้มากหากอยู่ในระยะประชิด แต่สำหรับ WD สายอื่นแล้วเรียกได้ว่าสร้างความเสียหายได้ไม่มากเท่าที่ควรครับ

Gargantuan – สกิลซัมม่อนปลดล็อคเลเวล 19



เรียกซอมบี้ขนาดยักษ์ขึ้นมาช่วยคุณสู้กับศัตรู สร้างความเสียหายต่อการโจมตีหนึ่งครั้งเท่ากับแดมเมจ 25% ของ WD CD 60 วินาที
ทางเลือกที่สองของสายซัมม่อนครับ เป็นซัมม่อนที่แทงค์ได้ดีกว่าหมา(มาก) และโจมตีได้ค่อนข้างรุนแรง เหมาะสำหรับใช้เป็นตัวแทงค์สำรองนอกเหนือจาก Follwer สาย Templar ในขณะที่เล่นคนเดียว(โซโล่)และเป็นตัวแทงค์เสริมเวลาอยู่ในปาร์ตี้ครับ

Rune ของ Gargantuan

Humangoid ปลดล็อคเลเวล 22 – เรียกซอมบี้ยักษ์ที่มีสกิล Cleave(โจมตีหลายเป้าหมาย)ขึ้นมาสู้กับศัตรู สร้างความเสียหายเป็น 32% ของแดมเมจจากอาวุธ
เพิ่มแดมเมจของซอมบี้และโจมตีโดนหลายเป้าหมาย เสริมด้านการรุกให้มากขึ้นไป เป็นรูนที่เหมาะสำหรับใช้เพิ่มแดมเมจของซอมบี้ในช่วงแรกๆครับ

Restless Giant ปลดล็อคเลเวล 29 – เมื่อเจอศัตรู 5 ตัวขึ้นไปหรือ Champion, Rare และบอส ซอมบี้จะขยายร่างเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 20% ความเร็วในการโจมตี 35% และเพิ่มแดมเมจ 200% (รวมทั้งหมด 225% ของแดมเมจจากอาวุธ)เป็นเวลา 15 วินาที ทุกๆ 120 วินาที
เป็นรูนที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ซอมบี้ยักษ์ในการช่วยแทงค์บอสหรือมอนสเตอร์แรร์ เพราะแม้ระยะเวลาจะสั้นแต่แดมเมจที่เพิ่มขึ้นมาช่วยในการตอดเลือดได้อย่างดีเยี่ยมครับ
ทิป: กดเรียกซอมบี้ใหม่ จะรีเซ็ท CD 120 วินาทีทิ้งครับ

Wrathful Protector ปลดล็อคเลเวล 39 – สร้างซอมบี้ยักษ์เวอร์ชั่นพาวเวอร์อัพขึ้นมาช่วยเราต่อสู้เป็นระยะเวลา 15 วินาที สร้างความเสียหายเป็น 55% ของแดมเมจจากอาวุธและโจมตีให้ศัตรูกระเด็นได้
ไม่คุ้มค่าหากต้องการใช้ซอมบี้เป็นตัวแทงค์เพราะมีเวลาจำกัดแค่ 15 วินาทีไม่เหมือนรูนอื่นๆที่ไม่จำกัดเวลาในการเรียกครับ ส่วนหากต้องการใช้ซอมบี้เป็นตัวแดมเมจนั้น ระยะเวลา 15 วินาทีกับ CD ในการใช้สกิล 60 วินาที ผมขอแนะนำให้ใช้สกิลโจมตีอื่นๆจะสร้างความเสียหายได้มากกว่านี้ครับ

Big Stinker ปลดล็อคเลเวล 48 – เรียกซอมบี้ยักษ์ที่มีกลุ่มควันพิษอยู่รอบตัว สร้างแดมเมจเป็นธาตุพิษ 15% ของแดมเมจจากอาวุธทุกๆวินาทีกับศัตรูรอบข้าง
เป็นซอมบี้ที่เหมาะจะใช้ยืนแทงค์และสร้างแดมเมจแบบ DoT ไปในตัวด้วย ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นรูนที่เพิ่มแดมเมจให้กับสกิลนี้ได้มากที่สุดครับ

Bruiser ปลดล็อคเลเวล 56 – เรียกซอมบี้ยักษ์ที่มีโอกาสโจมตีศัตรู สร้างความเสียหาย 100% ของแดมเมจจากอาวุธและสตั้นศัตรู 3 วินาทีขึ้นมาช่วยสู้
แม้ว่าจะฟังดูเข้าท่า แต่ไม่ได้ออก 100% เต็ม ซึ่งในด้านของแดมเมจ Big Stinker หรือ Restless Giant(ในตอนที่ได้รับผลของรูนอยู่)นั้นกินขาดครับ แต่ถ้าจะหวังสตั้น 3 วินาที ก็ถือได้ว่าเป็นรูนที่ดีในระดับหนึ่งถ้าแสดงผลมากกว่าสองถึงสามครั้งในระยะเวลาสั้นๆ

Firebomb – สกิลโจมตีหลักปลดล็อคเลเวล 21



โยนกระโหลกไฟใส่ศัตรูตามรูป สร้างความเสียหายเป็นธาตุไฟแก่ศัตรูในระยะ(ระเบิด) 8 หลาเป็นจำนวน 85% ของแดมเมจจากอาวุธ สามารถโยนข้ามสิ่งกีดขวางได้ ไม่มี CD
แม้ว่าแดมเมจของสกิลจะน้อย แต่ถือว่าเป็นสกิลหลักที่โจมตีเป็น AoE แท้ๆสกิลเดียว(ไม่นับรวม Spider กับ Toad ที่แรนด้อมเป้าหมายการโจมตี) และใช้ได้สารพัดสถานการณ์กว่าเมื่อเทียบกับสกิลหลักอื่นๆ(เนื่องจากสกิลนี้โยนหัวกระโหลกหมายความว่าสามารถโยนข้ามสิ่งกีดขวางได้)และกินมาน่าน้อยเมื่อเทียบกับสกิล AoE สกิลอื่นๆครับ

Rune ของ Firebomb

Flash Fire ปลดล็อคเลเวล 28 – ทำให้หัวกระโหลกไฟเด้งไปยังศัตรูตัวอื่นๆแทนที่จะระเบิดสูงสุดถึง 6 ตัว แต่สร้างความเสียหายน้อยลง 15% ในทุกๆการเด้ง
เป็นสกิลที่เหมาะที่สุดในการใช้ทำลายสิ่งของภายในฉาก(ไห, หีบ เป็นต้น)และใช้ตอดศัตรูที่มาเป็นกลุ่มได้ในระดับหนึ่ง

Roll the Bones ปลดล็อคเลเวล 31 – กระโหลกไฟสามารถเด้งไปโดนศัตรูตัวอื่นได้สูงสุด 2 ครั้งก่อนที่จะระเบิด(ความเสียหายเท่ากับสกิลปกติไม่ติดรูนและไม่ลดลงตามการเด้ง)
เหมาะที่สุดสำหรับการโจมตีศัตรูหลายๆตัว และสามารถใช้สแปมได้ จึงเหมาะจะใช้เป็นสกิลทำแดมเมจหลักที่สามารถโจมตีศัตรูตัวข้างๆนอกเหนือจากศัตรูตัวหลักได้

Fire Pit ปลดล็อคเลเวล 38 – หลังจากระเบิดแล้วสร้างหลุมไฟที่สร้างความเสียหายเป็นธาตุไฟ 8% ของแดมเมจจากอาวุธให้กับศัตรูที่อยู่ในบริเวณนั้นเป็นระยะเวลา 3 วินาที
เพิ่มแดมเมจของสกิลดั้งเดิม แต่ก็แลกกับการสแปมได้ถี่น้อยลงหากต้องการสร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุด

Pyrogeist ปลดล็อคเลเวล 47 – สร้างเสาไฟขึ้นมาพ่นลูกไฟใส่ศัตรูที่ใกล้ที่สุดสร้างความเสียหายเป็นธาตุไฟ 140% ของแดมเมจจากอาวุธในระยะเวลา 3 วินาที
เป็นรูนที่เปลี่ยนสกิลนี้ไปคนละทิศทาง จากสกิลที่สร้างความเสียหายโดยตรงและสแปมได้ เปลี่ยนให้กลายเป็นสกิลที่สแปมไม่ได้(หากกดใช้ซ้ำเสาไฟเก่าจะหายไป)และสร้างแดมเมจประเภท DoT แทน ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวของผู้เล่นแต่ละคน

Ghost Bomb ปลดล็อคเลเวล 60 – นอกจากการระเบิดปกติแล้ว ยังสร้างแรงระเบิดขนาดใหญ่(36 หลา)ขึ้นมาสร้างความเสียหายเพิ่มเติมเป็นธาตุไฟ 20% ของแดมเมจจากอาวุธ
เป็นรูนที่ทำให้สกิลนี้ เพิ่มผลลัพธ์ของสกิล AoE ขนาดใหญ่เข้าไปด้วย และถึงแม้ว่าความเสียหายโดนรวมจะไม่มากนักแต่การที่สแปมได้ทำให้สกิลนี้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะเวลาใช้กับศัตรูที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ๆ

Locust Swarm – สกิลโจมตีแบบ DoT ปลดล็อคเลเวล 21



ปล่อยฝูงแมลงออกไปด้านหน้าของ WD ตามรูป สร้างความเสียหายเป็นธาตุพิษ 360% ของแดมเมจจากอาวุธภายในระยะเวลา 8 วินาทีและแมลงที่เกาะอยู่กับศัตรูนั้นมีโอกาสกระโดดไปเกาะศัตรูตัวอื่นๆได้ ไม่มี CD
อาจจะดูเหมือนกับสกิล Firebat มาด้วยแดมเมจแบบ DoT ที่สูงกว่าและมีโอกาสที่แมลงจะโดดไปเกาะศัตรูตัวอื่นๆ จึงเป็นสกิลที่เหมาะสำหรับการใช้งานมากกว่า Firebat แต่ก็มีข้อเสียที่ใช้มาน่าสูงมากกว่าสกิลอื่นๆ(เป็นสกิลที่กินมาน่ามากที่สุดของ WD) จึงทำให้ผู้ที่ต้องการใช้สกิลนี้ควรวางแผนในการหาสกิลอื่นๆมารองรับสกิลนี้ด้วย(สกิลสำหรับหนีและสกิลสำหรับรีเจนมาน่า)

Rune ของ Locust Swarm

Pestilence ปลดล็อคเลเวล 27 – แมลงมีโอกาส 100% ในการโดดไปหาศัตรูตัวอื่นๆหลายๆตัวแทนที่จะเป็นตัวเดียว(สกิลหลักนั้นแมลงมีโอกาสโดดไปหาศัตรูเพิ่มเติม 1 ตัว 100% และลดหลั่นไปเรื่อยๆทุกๆครั้งที่โดดเกาะศัตรูเพิ่ม)
เป็นรูนที่ทำให้สกิลนี้ประหยัดการใช้มาน่าลงไปได้มาก(ใช้สกิลครั้งเดียวและรอให้แมลงกระโดดไปหาศัตรูตัวอื่นๆเอง)หรือใช้สำหรับการตอดเลือดของศัตรูกลุ่มใหญ่ๆได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าสกิลดั้งเดิม

Devouring Swarm ปลดล็อคเลเวล 33 – ได้รับมาน่า 22 หน่วยต่อศัตรูหนึ่งตัวที่ถูกสกิลนี้
นี่คือรูนที่ทำให้สกิลที่กินมาน่ามากที่สุดของ WD กลายเป็นสกิลที่ในบางครั้งสามารถใช้รีเจนมาน่าได้มากกว่าที่เสียไปหากมีศัตรูมาก ซ้ำยังสร้างความเสียหายได้ค่อนข้างมากในเวลาเดียวกัน

Cloud of Insects ปลดล็อคเลเวล 37 – เพิ่มระยะเวลาของสกิลเป็น 10 วินาที
สร้างแดมเมจได้มากขึ้นกว่าสกิลดั้งเดิม และใช้มาน่าน้อยลงหากมองในอีกมุมหนึ่ง

Diseased Swarm ปลดล็อคเลเวล 42 – ศัตรูที่ถูกแมลงฆ่าจะทิ้งกลุ่มหมอกพิษไว้ สร้างความเสียหายธาตุพิษ 25% ของแดมเมจจากอาวุธ ซึ่งหมอกพิษจะลอยอยู่นาน 3 วินาที
เหมาะสำหรับการเก็บกวาดศัตรูกลุ่มใหญ่ๆที่มีเลือดน้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งจะสามารถทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นและเหมาะสำหรับการใช้ตอดเลือดของศัตรูที่มีเลือดเยอะกว่าตัวอื่นๆในกลุ่ม

Searing Locusts ปลดล็อคเลเวล 59 – ปล่อยฝูงแมลงไฟออกมาด้านหน้าสร้างความเสียหายเป็นธาตุไฟ 468% ของแดมเมจจากอาวุธภายในระยะเวลา 8 วินาที
เพิ่มความเสียหายให้มากขึ้น แต่ต้องวางแผนการใช้อย่างระมัดระวังเนื่องจากเป็นสกิล+รูนที่กินมาน่ามากที่สุดสำหรับ WD

Acid Cloud – สกิลโจมตีแบบ AoE และ DoT ปลดล็อคเลเวล 22



ปล่อยฝนพิษลงมาใส่ศัตรูในพื้นที่ๆเมาส์ชี้อยู่ดังรูป สร้างความเสียหายเบื้องต้น 100%(เมื่อฝนพิษเทลงมา)และสร้างความเสียหาย 75% ของแดมเมจจากอาวุธในระยะเวลา 3 วินาทีกับศัตรูที่เหยียบน้ำพิษที่ขังอยู่เป็นธาตุพิษ ไม่มี CD
เป็นสกิลโจมตีที่ถือได้ว่ายืดหยุ่นที่สุดของ WD แม้ว่าจะกินมาน่าเยอะเป็นอันดับที่สอง รองลงมาจาก Locust Swarm แต่ก็สามารถใช้ได้ในทุกๆที่ แม้แต่ใช้เข้าไปในห้องตามดันเจี้ยนหรือใช้โจมตีได้เกินกว่าครึ่งของหน้าจอ นอกจากนี้ยังแสดงผลได้รวดเร็วและมีแดมเมจที่ไม่เลวนัก เหมาะสำหรับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสกิลประเภท AoE แบบ DoT

Rune ของ Acid Cloud

Acid Rain ปลดล็อคเลเวล 26 – แผ่ระยะการเทของฝนให้เพิ่มเป็น 24 หลา
กล่าวคือ เพิ่มระยะ AoE ของสกิลให้มากขึ้นนั่นเองครับ เป็นรูนที่สามารถใช้ตอนที่ยังไม่มีรูนอื่นๆ แต่จะดูด้อยกว่ารูนอื่นๆถ้าปลดล็อคได้แล้ว

Lob Blob Bomb ปลดล็อคเลเวล 30 – น้ำพิษเปลี่ยนสภาพเป็นสไลม์ที่สร้างความเสียหายกับศัตรูใกล้ๆ 25% ของแดมเมจจากอาวุธเป็นธาตุพิษ สไลม์จะหายไปหลังจากผ่านไปแล้ว 5 วินาที
หากมองในด้านแดมเมจแล้วถือว่าเพิ่มขึ้นมาจากน้ำพิษปกติ แต่ก็แลกด้วยการที่สไลม์จะเคลื่อนที่แบบแรนด้อมจึงไม่น่าใช้เท่าที่ควร

Slow Burn ปลดล็อคเลเวล 39 – น้ำพิษจะขังอยู่ 6 วินาที จาก 4 วินาที
เพิ่มแดมเมจในขณะที่ยังคงความยืดหยุ่นอยู่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มแดมเมจของสกิลนี้แต่ไม่ต้องการเสียความยืดหยุ่นของสกิลดั้งเดิมไปครับ

Kiss of Death ปลดล็อคเลเวล 46 – พ่นน้ำกรดออกจากปากของ WD ไปด้านหน้า(เหมือนกับ Firebat, Locust Swarm แต่กดค้างไม่ได้)สร้างความเสียหายเบื้องต้น 110% และอีก 83% ของแดมเมจจากอาวุธแก่ศัตรูที่อยู่ในบริเวณนั้นๆเป็นธาตุพิษ
แม้ว่าจะสร้างแดมเมจได้สูงขึ้น แต่ระยะของสกิลจะสุดแค่บริเวณช่วงเท้าของ WD เท่านั้น โดยรวมแล้วทำให้ระยะของสกิลนี้หายไปค่อนข้างมากและยืดหยุ่นน้อยลง ไม่เหมาะที่จะใช้เป็นสกิลโจมตีหลักครับ

Corpse Bomb ปลดล็อคเลเวล 55 – เสกศพขึ้นมาจากพื้นดิน ระเบิดสร้างความเสียหายให้กับศัตรูรอบๆ 200% ของแดมเมจจากอาวุธเป็นธาตุพิษ
เปลี่ยนสกิลนี้จากสกิล DoT ให้กลายเป็นสกิลโจมตีโดยตรงไป รวดเร็วและรุนแรงพอสมควร เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสกิลโจมตีแบบเห็นแดมเมจทันทีมากกว่าจะใช้สกิล DoT ครับ

Hex – สกิล Disable เป้าหมายเดี่ยวปลดล็อคเลเวล 22



เรียกชาแมนน้อยขึ้นมา ซึ่งจะเสกให้ศัตรูกลายเป็นไก่ได้(ไม่สามารถใช้กับบอสและศัตรูบางตัวได้)แบบแรนด้อม โดยศัตรูที่กลายเป็นไก่จะได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 10% และไม่สามารถโจมตีกลับได้ ชาแมนจะหายไปหลังจากผ่านไปแล้ว 12 วินาที และมี CD ของสกิล 15 วินาที
เป็นสกิล Disable เดี่ยวที่ทรงพลังมากของ WD เหมาะที่สุดที่จะใช้กับ Champion และ Rare มอนสเตอร์ให้เพื่อนๆรุมสกรัมหรือเพิ่มความเสียหายที่ตัวเองสร้างในขณะที่มอนสเตอร์ตอบโต้ไม่ได้ รวมทั้งยังใช้ถ่วงเวลาหนีได้ชั่วขณะ

Rune ของ Hex

Hedge Magic ปลดล็อคเลเวล 26 – ชาแมนน้อยที่เรียกออกมาจะฮีลเราและเพื่อนที่ 151 หน่วยในเลเวล 26 (จำนวนเลือดที่ฮีลเพิ่มขึ้นเมื่อเลเวลของเราเพิ่มขึ้น)
จำนวนที่ฮีลนั้นเป็นหน่วยและไม่มากพอในระดับความยากสูงๆที่เลือดของ WD สูงกว่า 10k จึงไม่เหมาะที่จะใช้เป็นรูนสำหรับรีเจนเลือดแต่เป็นเหมือนผลพลอยได้มากกว่า

Jinx ปลดล็อคเลเวล 31 – ศัตรูที่ถูกเสกจะกลายเป็นหมู และได้รับแดมเมจเพิ่มจาก 10% เป็น 20% แทน
เพิ่มเติมความเสียหายที่ศัตรูได้รับเป็นเท่าตัว เหมาะสำหรับ Build Support แบบเต็มตัวและใช้ได้ Build อื่นๆอย่างเห็นผลได้ชัดเจนกว่าสกิลดั้งเดิม

Angry Chicken ปลดล็อคเลเวล 35 – WD แปลงร่างตัวเองเป็นไก่ระเบิดที่สร้างความเสียหาย 215% ของแดมเมจจากอาวุธในระยะ 12 หลา โดยที่สามารถกดระเบิดเองได้ทันทีหรือสามารถรอได้มากที่สุด 5 วินาที(ก่อนจะระเบิดตัวเอง)
เหมาะจะใช้เป็นสกิลขำขันมากกว่าใช้งานจริง เพราะ CD 15 วินาทีกจึงถือเป็นสกิลแดมเมจแบบ AoE ที่สแปมไม่ได้ ทำให้กลายเป็นตัวเลือกที่ไม่ดีนัก

Painful Transformation ปลดล็อคเลเวล 43 – เป้าหมายที่ถูกเปลี่ยนเป็นไก่ได้รับแดมเมจ 12% ของแดมเมจจากอาวุธด้วย
เนื่องจากเพิ่มความเสียหายค่อนข้างน้อย และเป้าหมายหลักของสกิลคือการ Disables จึงไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ของสกิลสักเท่าไหร่

Unstable Form ปลดล็อคเลเวล 58 – เมื่อเป้าหมายที่ถูกเปลี่ยนเป็นไก่ถูกฆ่า(ในสภาพนั้น) ศพจะระเบิดออกและสร้างความเสียหาย 135% ของแดมเมจจากอาวุธเป็นธาตุพิษกับศัตรูในรัศมี 8 หลารอบศพ
เพิ่มความเสียหายแบบ AoE ให้กับสกิล Disable สกิลนี้แต่ถ้าจะใช้ให้ได้เต็มประสิทธิภาพ เป้าหมายที่กลายเป็นไก่จะต้องเป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีของเราและเพื่อนเสมอๆ

Mass Confusion – สกิล CC ปลดล็อคเลเวล 22



สร้างภาพหลอนขนาดยักษ์ขึ้นมามีโอกาสทำให้ศัตรูรอบตัวเราในรัศมีตามรูปเกิดอาการสับสนและต่อสู้กันเองเป็นระยะเวลา 12 วินาทีและมี CD 60 วินาที
เป็นสกิล CC ชั้นดีอีกสกิลหนึ่งแต่หวังผลได้น้อยกว่า Fear แต่ด้วยรูนบางอันที่เสริมประสิทธิภาพให้ สกิลนี้จึงเป็นสกิลที่สำคัญมากสำหรับ Build บางประเภท

Rune ของ Mass Confusing

Unstable Realm ปลดล็อคเลเวล 26 – ลด CD ของสกิลนี้ให้เหลือ 45 วินาทีจาก 60 วินาที
แม้จะลด CD ลงไปได้ค่อนข้างมากทำให้ใช้งานได้บ่อยขึ้นแต่โดยรวมแล้วยังมีรูนอื่นที่เหมาะสมจะติดให้กับสกิลนี้อยู่ครับ

Devolution ปลดล็อคเลเวล 34 – ศัตรูที่ถูกฆ่าในขณะที่มีอาการสับสนอยู่มีโอกาส 50% ที่จะเกิดหมาซอมบี้ขึ้นมาจากศพของศัตรูตัวนั้นๆ
เป็นสกิลรูนคอมโบที่เหมาะที่สุดสำหรับ Build หมาระเบิดและ Build Summoner ในขณะที่สำหรับ Build อื่นๆถือเป็นผลพลอยได้ที่พอใช้ได้แต่หวังใช้งานในระยะยาวไม่ได้มากนัก

Mass Hysteria ปลดล็อคเลเวล 43 – ศัตรูที่ไม่ได้รับสภาวะสับสน ติดสตั้น 3 วินาที(สูงสุด 6 ตัว)
เป็นรูนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สกิลนี้เป็นสกิล CC และสกิลหลบหนีโดยให้ผลเต็ม 100% ที่ศัตรูจะติดสภาวะอย่างใดอย่างหนึ่ง(สตั้นหรือสับสน)

Paranoia ปลดล็อคเลเวล 46 – ศัตรูที่อยู่ในรัศมีของสกิล(จะติดสภาวะหรือไม่ก็ได้)ได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น 20% ของแดมเมจหลังจากนี้เป็นระยะเวลา 12 วินาที
เหมาะสำหรับ Build ที่เน้นการทำแดมเมจเป็น AoE ซึ่งเหมือนกับการใช้สกิล Hex+รูน Jinx แบบกลุ่มซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสกิล AoE สกิลอื่นๆ

Mass Hallucination ปลดล็อคเลเวล 54 – ในรัศมีของสกิลนั้น เสกวิญญาณยักษ์สร้างความเสียหาย 26% ของแดมเมจจากอาวุธต่อวินาทีให้กับศัตรูทุกๆตัวที่มันทะลุผ่าน
แดมเมจที่ค่อนข้างน้อยและวิญญาณวิ่งชนศัตรูแบบแรมด้อม รวมทั้งระยะเวลา CD ที่ค่อนข้างนานทำให้ไม่เหมาะจะใช้เป็นสกิลสำหรับสร้างแดมเมจเท่าที่ควร

Big Bad Voodoo – สกิลซัพพอร์ทปลดล็อคเลเวล 25



เสกชาแมนขึ้นมาร่ายรำเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่และความเร็วในการโจมตีให้กับเราและเพื่อนๆ 20% ในรัศมีของสกิลตามรูป เป็นเวลา 20 วินาที มี CD 120 วินาที
เป็นสกิลสายซัพพอร์ทล้วนๆเพียงสกิลเดียวของ WD ที่สามารถเร่งแดมเมจให้กับเพื่อนๆของเรารวมถึงตัวเราเองด้วยในระดับหนึ่ง และเมื่อติดรูนเข้าไปแล้วจะเพิ่มประสิทธิภาพของสกิลนี้ให้สูงขึ้นไปอีก เหมาะสำหรับ WD สายซัพพอร์ทสำหรับใช้เวลาสู้กับบอสหรือมอนสเตอร์แรร์ที่อยู่ในพื้นที่ๆค่อนข้างจำกัดมากกว่าพื้นที่เปิดโล่งที่ต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา

Rune ของ Big Bad Voodoo

Jungle Drums ปลดล็อคเลเวล 31 – เพิ่มระยะเวลาของสกิลเป็น 30 วินาทีจาก 20 วินาที
ยืดระยะเวลาออกไปอีกทำให้ได้รับผลของสกิลนานขึ้น และเหมาะยิ่งขึ้นกับการใช้ตอนสู้กับบอสและพวกแรร์มอนสเตอร์

Rain Dance ปลดล็อคเลเวล 37 – ได้รับมาน่า 80 หน่วยต่อวินาทีเมื่อยืนอยู่ในรัศมีของสกิล
เป็นสกิลซัพพอร์ทที่เหมาะมากเมื่อมี Wizard และ WD คนอื่นๆอยู่ในปาร์ตี้ ซึ่งเมื่อเปิดใช้สกิลนี้แล้ว ทั้ง Wizard และ Witch Doctor ที่ยืนที่แถวหลังสามารถแจกสกิลเข้าไปยังฝูงศัตรูได้อย่างไม่ยั้งเลยทีเดียว

Slam Dance ปลดล็อคเลเวล 44 – เพิ่มแดมเมจของเพื่อนๆของเรา 30% ในรัศมีของสกิล
เป็นสกิลที่เร่งแดมเมจของปาร์ตี้ของเราให้สูงขึ้นไปอีกมาก เหมาะจะใช้ซัพพอร์ทกับทุกสายอาชีพแต่จำเป็นต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าจำเป็นมากขนาดไหนเนื่องจาก CD ที่สูง

Ghost Trance ปลดล็อคเลเวล 50 – ตัวเราและเพื่อนๆในปาร์ตี้ได้รับการฮีลจำนวน 5% ของจำนวนเลือดสูงสุดทุกๆวินาทีในรัศมีของสกิล
อีกหนึ่งสุดยอดรูนคอมโบของ WD สายซัพพอร์ทและเป็นสกิลรีเจนเลือดสกิลเดียวของ WD ที่เห็นผลได้ชัดในระดับความยากที่สูงขึ้น แม้ว่าจะมี CD ที่สูงมากก็ตามที ถือเป็นอีกหนึ่งรูนคอมโบที่คุ้มค่าครับ

Boogie Man ปลดล็อคเลเวล 58 – ศัตรูที่ถูกฆ่าในรัศมีสกิลมีโอกาส 50% ที่จะเกิดใหม่เป็นหมาซอมบี้
เป็นรูนคอมโบที่ผมเห็นว่าเหมาะสำหรับ Build หมาระเบิดกับ Build Summoner เท่านั้นครับ

Wall of Zombie – สกิลป้องกันและโจมตีปลดล็อคเลเวล 28



ปลุกซอมบี้ขึ้นมาในแนวแถวตอนเรียงหนึ่งตามรูป โจมตีศัตรูที่เข้ามาใกล้ด้วยแดมเมจ 80% ของแดมเมจของอาวุธเป็นระยะเวลา 5 วินาที มี CD 25 วินาที
เป็นสกิลที่ใช้ได้ทั้งป้องกันและโจมตีสกิลเดียวของ WD โดยที่แถวของซอมบี้นั้นสามารถสกัดไม่ให้ศัตรูเข้ามาถึงตัว WD ได้และยังโจมตีกลับไปได้อีกด้วย แต่ด้วย CD ที่นานและแดมเมจที่ไม่มากจึงเหมาะสำหรับใช้สกัดศัตรูที่มีความเร็วสูงๆไม่ให้เข้ามาถึงตัวเรามากกว่าจะใช้ทำแดมเมจจริงๆจังๆครับ

Rune ของ Wall of Zombie

Barricade ปลดล็อคเลเวล 32 – เพิ่มความกว้างของแถวซอมบี้ให้ขยายออกไป
ทำให้การป้องการศัตรูที่มีความเร็วสูงๆรวมทั้งศัตรูที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ๆทำได้ง่ายขึ้นครับ

Unrelenting Grip ปลดล็อคเลเวล 35 – ศัตรูที่โดน Wall of Zombie ติดสโลว์ 60% เป็นระยะเวลา 5 วินาที
ซื้อเวลาในการเข้าถึงตัวเราเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง(แต่ไม่เท่า Grasp of the Dead) เหมาะสำหรับเป็นอีกทางเลือกสำหรับใช้ถ่วงเวลาหรือกันศัตรูไม่ให้ถึงตัวเราได้ในขณะที่เราโจมตีศัตรูครับ

Creepers ปลดล็อคเลเวล 41 – ในขณะที่สกิลทำงานอยู่มีโอกาสที่ซอมบี้(สูงสุด 3 ตัว)จะลุกขึ้นมาจากพื้นดินและวิ่งไปโจมตีศัตรูใกล้ๆด้วยแดมเมจ 25% ของแดมเมจจากอาวุธ
เป็นเหมือนกับแดมเมจเพิ่มเติมของสกิลมากกว่าใช้ทำแดมเมจครับ

Pile On ปลดล็อคเลเวล 49 – สร้างหอคอยซอมบี้ขึ้นมา สร้างความเสียหาย 765% ของแดมเมจของอาวุธกับศัตรูที่โดนหอคอยนี้ทับและทำให้ศัตรูกระเด็นออกไป
หากตัด CD ที่ค่อนข้างนานออกไปสกิลนี้สามารถเป็นสกิลที่ทำแดมเมจได้รุนแรงที่สุดของ WD เลยทีเดียว แต่เมื่อสแปมไม่ได้แล้วจึงทำให้กลายเป็นสกิลแดมเมจที่ด้อยกว่าสกิลอื่นๆที่ไม่มี CD ไป

Dead Rush ปลดล็อคเลเวล 60 – ปลุกซอมบี้ขึ้นมาจากหลุม วิ่งไปทุกทิศทางและสร้างความเสียหาย 445% ของแดมเมจจากอาวุธกับศัตรูที่โดนชน
เปลี่ยนสกิลที่เด่นเรื่องป้องกันให้กลายเป็นสกิล AoE ที่ค่อนข้างแรนด้อมไป ซึ่งแดมเมจที่ได้ค่อนข้างสูงแต่สแปมไม่ได้ จึงเหมาะสมกับ Build บาง Build เท่านั้นครับ

Fetish Army – สกิลซัมม่อนปลดล็อคเลเวล 30



เรียกคนป่าจิ๋วขึ้นมา 5 คนสร้างความเสียหาย 20% ของแดมเมจจากอาวุธทุกๆครั้งที่คนป่าโจมตีศัตรู มีระยะเวลาคงอยู่ 20 วินาที มี CD 120 วินาที
สกิลซัมม่อนสกิลสุดท้ายของ WD ที่เด่นและเน้นไปในด้านการโจมตีล้วนๆ(แทงค์ไม่ได้) ซึ่งถึงแม้ว่า 20% จะฟังดูน้อยแต่นั่นหมายถึงการโจมตี 1 ครั้งต่อ 1 คน เมื่อนำไปใช้กับบอสหรือศัตรูที่ยืนอยู่เดี่ยวๆแล้วมันจะกลายเป็นซัมม่อนที่สร้างความเสียหายได้มากที่สุดไปในทันที

Rune ของ Fetish Army

Fetish Ambush ปลดล็อคเลเวล 34 – คนป่าแต่ละคนสร้างความเสียหาย 250% ของแดมเมจจากอาวุธให้กับศัตรูรอบๆข้างในตอนที่ถูกซัมม่อนขึ้นมา
หากต้องการใช้ให้เต็มประสิทธิภาพนั้นควรใช้กลางกลุ่มของศัตรูกลุ่มใหญ่ๆหรือใช้ใกล้ๆตัวบอส ซึ่งเป็นแดมเมจเพิ่มเติมที่ดีมากและเหมาะสำหรับ Build ทุกๆรูปแบบที่ต้องใช้งานสกิลนี้

Devoted Following ปลดล็อคเลเวล 40 – ลด CD ของสกิลนี้ให้เหลือ 90 วินาทีจาก 120 วินาที
ยังลด CD ได้ไม่มากเท่าที่ควรจึงเป็นรูนที่ไม่ค่อยน่าใช้ซักเท่าไหร่

Legion of Daggers ปลดล็อคเลเวล 46 – เพิ่มจำนวนคนป่าที่เรียกขึ้นมาอีก 3 คน (จาก 5 เป็น 8)
แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มแดมเมจที่ซัมม่อนทำได้อีกเกือบเท่าตัว เป็นรูนคอมโบที่ดีที่สุดสำหรับการทำแดมเมจของสกิลนี้ในระยะยาว

Tiki Torchers ปลดล็อคเลเวล 52 – เสกหมอผีจิ๋วขึ้นมาอีก 2 คน (จาก 5 เป็น 7)และโจมตีโดยการพ่นไฟไปด้านหน้าสร้างความเสียหายธาตุไฟ 15% ของแดมเมจจากอาวุธ
ดูด้อยกว่า Legion of Daggers ในด้านของแดมเมจครับ

Head Hunters ปลดล็อคเลเวล 60 – สร้างคนป่าขึ้นมาเพิ่มอีก 2 คน (จาก 5 เป็น 7)และโจมตีด้วยการเป่าลูกดอกสร้างความเสียหายธาตุพิษ 20% ของแดมเมจจากอาวุธ
เหมือนกันกับ Tiki Torchers คือสร้างความเสียหายได้น้อยกว่า Legion of Daggers ในขณะที่ใช้เลเวลในการปลดล็อครูนมากกว่า จึงไม่คุ้มค่าและไม่น่าใช้ครับ

Passive Skill

เป็นสกิลติดตัวที่แสดงผลทันทีและตลอดเวลาที่ติดตั้งสกิลนั้นๆครับ แต่ผลของสกิลจะหายไปทันทีในกรณีที่มีการเปลี่ยนสกิลหรือเอาสกิลออก สามารถใส่สกิลติดตัวนี้ได้ 3 สกิลในเวลาเดียวกันโดยช่องสกิลจะเปิดที่เลเวล 10, 20 และ 30 ตามลำดับ

Circle of Life ปลดล็อคเลเวล 10 – ภายในรัศมี 12 หลารอบตัวเราหากมีศัตรูตายลง ศพของศัตรูตัวนั้นๆมีโอกาส 5% ที่จะกลายเป็นหมาซอมบี้ ระยะของสกิลสามารถเพิ่มขึ้นได้ผ่านทางไอเท็มที่มีออฟชั่นเพิ่มระยะการเก็บทองและลูกแก้วเลือด
สกิลติดตัวที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของ Build หมาระเบิดและ Build Summoner ทั้งสอง Build เลยทีเดียว ด้วยสกิลนี้ทั้งสอง Build มีโอกาสทำแดมเมจใด้มากขึ้นและมีโอกาสได้ตัวแทงค์แทนตัวเก่าที่ตายไป

Jungle Fortitude ปลดล็อคเลเวล 10 – ลดความเสียหายที่คุณและซัมม่อนของคุณได้รับลงไป 20%
เพิ่มเปอร์เซนต์การมีชีวิตรอดของคุณให้มากขึ้น อาจจะยังมองไม่เห็นผลมากในช่วงความยากระดับ Normal ที่ศัตรูยังโจมตีค่อนข้างเบาอยู่ แต่จะเห็นผลได้ชัดเจนเมื่อเพิ่มระดับความยากขึ้นไปในระดับ Nightmare, Hell และ Inferno

Spiritual Attunement ปลดล็อคเลเวล 13 – เพิ่มมาน่าสูงสุดของคุณ 20% และรีเจนมาน่า 1% ของมาน่าสูงสุดทุกๆ 1 วินาที
เป็นสกิลติดตัวที่ทำให้ WD สามารถใช้สกิลได้มากขึ้นและยังช่วยรีเจนมาน่าได้ในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับใช้เป็นสกิลติดตัวของ WD ทุกๆสายครับ

Gruesome Feast ปลดล็อคเลเวล 16 – ทุกๆครั้งที่คุณได้รับการฮีลจากลูกแก้วเลือด คุณได้รับ 10% ของมาน่าสูงสุดและ 10% ของ Int ของคุณเป็นเวลา 10 วินาที โบนัส Int สามารถได้รับเพิ่มได้มากที่สุด 5 ครั้ง(ลูกแก้วห้าลูกในเวลาเดียวกัน)
เป็นสกิลติดตัวที่เพิ่มแดมเมจโดยตรง 1 ใน 2 สกิลของ WD แต่ไม่มีผลเสียใดๆ(เมื่อเทียบกับอีกสกิล) ยกเว้นแต่ว่าต้องการลูกแก้วเลือดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของสกิล และสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์สูงสุดจากสกิลนี้ออฟชั่นเพิ่มระยะการเก็บทองและลูกแก้วเลือดจะช่วยคุณได้มากทีเดียว

Bad Medicine ปลดล็อคเลเวล 20 – ทุกครั้งที่คุณสร้างแดมเมจธาตุพิษให้กับศัตรู แดมเมจของศัตรูตัวนั้นๆลดลง 20% เป็นเวลา 3 วินาที
เหมาะสำหรับ Build ที่เน้นการดีบัฟและสร้างความเสียหายจากธาตุพิษเป็นหลัก 20% ที่ลดลงไปนั้นจะเห็นผลได้มากเมื่อเล่นในระดับความยากอื่นนอกจาก Normal ซึ่งหากใช้คอมโบกับสกิลธาตุพิษแบบ AoE จะช่วยเพิ่มเปอร์เซนต์การมีชีวิตรอดให้คุณได้อีกโข

Blood Ritual ปลดล็อคเลเวล 20 – เมื่อใช้งานสกิลใดๆ 15% ของมาน่าของสกิลนั้นๆจะไปหักจากเลือดของคุณแทน และในทางกลับกันคุณจะได้รับรีเจนเลือด 1% ของเลือดสูงสุดต่อวินาที
เป็นสกิลที่ไม่เหมาะที่จะใช้เมื่อคุณเลเวลยังน้อยอยู่ เนื่องจาก 15% ของมาน่าของคุณเมื่อใช้กับสกิลที่กินมาน่าสูงๆจะลดเลือดของคุณอย่างรวดเร็วและ รีเจนเลือด 1% ที่ได้รับก็ไม่น่าใช้พอเมื่อเทียบกับผลของสกิลติดตัวอื่นๆ แต่เมื่อคุณมีเลือดและมาน่ามากขึ้น ความน่าใช้ของสกิลนี้ก็จะมากขึ้นไปเรื่อยๆตามลำดับ จนกลายเป็นสกิลรีเจนเลือดแบบติดตัวที่พึ่งพาได้ในที่สุด

Zombie Handler ปลดล็อคเลเวล 24 – เมื่อติดตั้งสกิลนี้คุณสามารถเสกหมาซอมบี้ขึ้นมา 4 ตัวแทน 3 ตัวจากสกิล Summon Zombie Dogs และเพิ่มเลือดของหมาซอมบี้กับซอมบี้ยักษ์ของคุณขึ้นไปอีก 20%
อีกหนึ่งสกิลที่เพิ่มเปอร์เซนต์การอยู่รอดของหมาซอมบี้และซอมบี้ยักษ์ให้มากขึ้น เป็นสกิลติดตัวอีกสกิลหนึ่งสำหรับผู้ที่ใช้ Build Summoner รวมถึง Build หมาระเบิดควรจะเอามาเป็นตัวเลือกอีกตัวหนึ่ง

Pierce the Veil ปลดล็อคเลเวล 27 – แดมเมจของทุกสกิลของคุณเพิ่มขึ้น 20% แต่มาน่าของทุกสกิลก็เพิ่มขึ้นอีก 30% เช่นเดียวกัน
อีกหนึ่งสกิลติดตัวที่เพิ่มแดมเมจของ WD โดยตรง แต่ 30% ของมาน่าที่ใช้เพิ่มนั้นสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจนและต้องมีสกิลคอมโบที่เพิ่มมาน่าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งหากต้องการใช้สกิลเพิ่มแดมเมจนั้น Gruesome Feast ก็เป็นทางเลือกที่ดีอีกสกิลหนึ่ง

Fetish Sycophants ปลดล็อคเลเวล 30 – มีโอกาส 3% ที่จะเรียกคนป่าจิ๋วขึ้นมาช่วยต่อสู้เป็นเวลา 60 วินาทีเมื่อคุณใช้สกิลที่อยู่ในหมวดหมู่กายภาพ(Poison Dart, Plague of Toads, Zombie Charger, Corpse Spiders, Firebats, Firebomb, Locust Swarm, Acid Cloud และ Wall of Zombies)
เป็นสกิลติดตัวที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สกิล Fetish Army เพิ่มโอกาสสร้างแดมเมจจากสกิล Fetish Army ให้มากยิ่งขึ้นเมื่อใช้คอมโบกับสกิลอย่าง Poison Dart ที่ใช้มาน่าต่ำและสามารถสแปมได้

Spirit Vessel ปลดล็อคเลเวล 30 – ลด CD ของสกิล Horrify, Spirit Walk และ Soul Harvest ลงไป 2 วินาที และเมื่อคุณได้รับแดมเมจที่ทำให้คุณถึงตาย คุณจะเข้าสู่ร่างวิญญาณ(แบบเดียวกับการใช้สกิล Spirit Walk)เป็นเวลา 3 วินาทีและฟื้นฟู 10% ของเลือดของคุณ ผลของสกิลนี้จะเกิดขึ้นครั้งเดียวในเวลา 90 วินาที
ไม่เหมาะถ้าใช้เป็นสกิลสำหรับลด CD ของสกิลในข้างต้น แต่หากต้องการใช้เป็นสกิลสำหรับเพิ่มเปอร์เซนต์การมีชีวิตรอดในระดับความยากสูงๆที่โดนโจมตีทีเดียวก็มีสิทธิ์ตายได้นั้น ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่

Rush of Essence ปลดล็อคเลเวล 36 – เมื่อใช้สกิลประเภทวิญญาณ(Haunt, Horrify, Mass Confusion, Soul Harvest, Spirit Barrage และ Spirit Walk)จะได้รับ 30% ของมาน่าที่ใช้ไปคืนภายใน 10 วินาที
เหมาะสำหรับใช้เป็นสกิลลดมาน่าของสกิลโจมตีอย่าง Haunt และ Spirit Barrage ที่สามารถใช้สแปมได้ให้สามารถใช้ได้ต่อเนื่องนานขึ้น

Vision Quest ปลดล็อคเลเวล 40 – ในยามที่คุณมีสกิล 4 สกิลหรือมากกว่านั้นอยู่ในช่วง CD มาน่ารีเจนของคุณเพิ่มขึ้น 300%
ถ้าใน Build ของคุณมีสกิลที่มี CD สูงอยู่ 4 สกิลหรือมากกว่านี้ สกิลติดตัวนี้ก็เหมาะสมที่จะใช้เป็นตัวเร่งมาน่าในระหว่างที่รอ CD ของสกิลอยู่

Fierce Loyalty ปลดล็อคเลเวล 45 – ซัมม่อนของ WD (หมาซอมบี้และซอมบี้ยักษ์)ได้รับค่าสะท้อนการโจมตีและค่ารีเจนเลือดจากไอเท็มของ WD เต็ม 100%
นี่คือสกิลติดตัวที่ทำให้ซอมบี้ยักษ์ของคุณแทงค์ให้คุณได้นานขึ้นและสะท้อนแดมเมจของศัตรูกลับไปได้มากขึ้นหากคุณมีออฟชั่นรีเจนเลือดและสะท้อนแดมเมจมากพอ เหมาะสำหรับ Build Summoner

Grave Injustice ปลดล็อคเลเวล 50 – เมื่อมีศัตรูตายในรัศมี 8 หลารอบตัว WD, WD จะได้รับ 1% ของเลือดและมาน่า และ CD ของทุกสกิลจะลดลงไป 1 วินาที ระยะของสกิลนี้จะเพิ่มขึ้นตามออฟชั่นเพิ่มระยะเก็บทองและลูกแก้วเลือดของไอเท็มของ WD
เป็นอีกหนึ่งสกิลที่ช่วยรีเจนมาน่าและเลือดให้กับ WD รวมทั้งลด CD ของสกิลต่างๆที่ถึงแม้จะไม่มากมายนัก แต่ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่เบา

Tribal Rites ปลดล็อคเลเวล 55 – CD ของ Fetish Army, Big Bad Voodoo และ Hex ลดลง 25% (เหลือ 90, 90 และ 11 วินาทีตามลำดับ)
ช่วยลด CD ของสองสกิลแรกลงไป ¼ และทำให้สกิล Hex สามารถใช้ต่อเนื่องได้เรื่อยๆ(ระยะเวลาของสกิล 12 วินาทีและ CD เหลือ 11 วินาที) เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ Hex เป็นสกิล Disables หลัก

[[ManGildFord]]

จัดไป ตอนนี้รอของอยู่ น่าจะได้พรุ่งนี้ไม่ก็อีกวันนึง

ปล. เซ็งใกล้สอบซัมเมอร์ละด้วยสิ จะได้เล่นไหมเนี่ย -*-

[Skybluesakura]

จัดไป ตอนนี้รอของอยู่ น่าจะได้พรุ่งนี้ไม่ก็อีกวันนึง

ปล. เซ็งใกล้สอบซัมเมอร์ละด้วยสิ จะได้เล่นไหมเนี่ย -*-

ฮ่าๆ พอกันแหละครับ นี่ก็กะจะทำข้อมูลเบสิคไว้ก่อน แล้วตามอัพเดทจากท่านอื่นๆเอา

[Prometheus]

พึ่งลงเกมอยู่ = =

[oI3lacKLisTo]

รอของด้วยคน =_=

[Skybluesakura]

มี Battletag ลงไว้ได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมรวมๆไว้ให้

[ajujajijajuj]

add มานะครับ หาเพื่อนเล่นด้วย AUNNNN#1143

[amidaz]

ชวนเพื่อนมาเล่นด้วยกันยังไง

[thanapol2530]

Server ไหนกันครับ เอเชียปะ

[Skybluesakura]

Server ไหนกันครับ เอเชียปะ

ของผมเล่น US ครับ

ชวนเพื่อนมาเล่นด้วยกันยังไง

ขวาล่างหน้าจอ ขอ Battletag เพื่อนแล้วใส่ลงไปแอดได้เลยครับ

[zikoros]

รอแผ่นอยู่คับผม 555 สั่งทางzest เร็วสุดพรุ่งนี้คงได้ ช้าสุดคงวันพฤหัสไม่ก็ศุกร์ T_T ว่าแต่เราต้องสมัครbattlenet idก่อนใช่ป่ะครับ

[Skybluesakura]

รอแผ่นอยู่คับผม 555 สั่งทางzest เร็วสุดพรุ่งนี้คงได้ ช้าสุดคงวันพฤหัสไม่ก็ศุกร์ T_T ว่าแต่เราต้องสมัครbattlenet idก่อนใช่ป่ะครับ

ถ้ายังไม่เคยสมัครไว้เล่นเกมของ Blizzard (WoW, Starcraft 2) ต้องไปเปิด Battle net id ไว้ก่อนครับ แล้วค่อยรอเอา Cd-key ไปยืนยันในเว็บใน ID เราอีกทีนึง

[sodasa13]

- -อยากเล่นแต่เงินหมด

[Poringe]

BT : Poringe#6787

เครื่องผมไม่อ่านแผ่นอย่างเซ็งเลย ตอนนี้โหลดอยู่ 33% กว่าจะได้เล่นคงพรุ่งนี้เย็น T-T

[Skybluesakura]

BT : Poringe#6787

เครื่องผมไม่อ่านแผ่นอย่างเซ็งเลย ตอนนี้โหลดอยู่ 33% กว่าจะได้เล่นคงพรุ่งนี้เย็น T-T

น่าเซ็งอยู่ครับ จริงๆลองก็อปไฟล์ในแผ่นมาลงไว้ในเครื่องแล้วรันจากในเครื่องเอาก็ได้นะครับ แต่ถ้าก็อปไม่ได้ด้วยก็เซ็งกันไป

- -อยากเล่นแต่เงินหมด

วันนี้จริงๆอยากได้ CE แต่เงินก็ไม่ถึงเหมือนกันครับ ฮ่าๆ

[Poringe]

ลองแล้วครับ ชักเข้าชักออกจนคอมผมจะท้องแล้ว มันไม่อ่านแผ่นเลย

เรื่อง region เลือกเป็น the americas กันใช่ป่าวครับ

[amidaz]

คือตอนซื้อแ่ผ่นมันจะได้ Key Standard 1 Key กับ Guess อีก 3 Key ใช่ปะคับ

คือผมใช้ Key ที่แผ่น แล้วเอา Guess Key ให้้น้องแล้วมันชวนเล่นกันไม่ได้อะคับ

ผมกับน้อง add friend กันแล้วก็ชวนไม่ได้

[Poringe]

คือตอนซื้อแ่ผ่นมันจะได้ Key Standard 1 Key กับ Guess อีก 3 Key ใช่ปะคับ

คือผมใช้ Key ที่แผ่น แล้วเอา Guess Key ให้้น้องแล้วมันชวนเล่นกันไม่ได้อะคับ

ผมกับน้อง add friend กันแล้วก็ชวนไม่ได้

ที่ผมไปอ่านตามเว็บฝรั่งเขาบอกประมาณว่า ตัว guest ต้องเล่นกะ guest นะครับ จะหาห้องปรกติไม่เจอกัน

[amidaz]

ที่ผมไปอ่านตามเว็บฝรั่งเขาบอกประมาณว่า ตัว guest ต้องเล่นกะ guest นะครับ จะหาห้องปรกติไม่เจอกัน

กำเลยงั้น ขอบคุณที่มาบอกคับ

[Skybluesakura]

ลองแล้วครับ ชักเข้าชักออกจนคอมผมจะท้องแล้ว มันไม่อ่านแผ่นเลย

เรื่อง region เลือกเป็น the americas กันใช่ป่าวครับ

Region นี่เป็น US โดยปกติอยู่แล้วครับถ้าซื้อในไทย

ที่ผมไปอ่านตามเว็บฝรั่งเขาบอกประมาณว่า ตัว guest ต้องเล่นกะ guest นะครับ จะหาห้องปรกติไม่เจอกัน

อันนี้เพิ่งรู้ จะได้เอาไปบอกเพื่อนได้ครับ พอดีมีเพื่อนอยากลองอยู่หลายคน

[zikoros]

ไอดีของผมนะครับ สมัครรอของมาถึงบ้าน ฮ่า ๆ

battletag : Jetplane#6456

[Opt!c]

ไม่ใช่ซื้อแบบกล่องเป็นตัว Asia เหรอครับ?

[romar1]

ไม่ใช่ซื้อแบบกล่องเป็นตัว Asia เหรอครับ?

Asia จำกัดแค่4 ประเทศ คับ เพราะกฎหมายบางประเทศห้ามชื้อขายด้วยเงินจริง ไทย เลยไปอยู่กลุ่ม Us แทน ละอีกอย่างโซน Asia ไม่มีระบบ แลกเงินจริงคับ (ผิดตรงไหนก็โทษด้วยคับ)

ปล.อยากเล่นของไม่ถึงเลย คงจะวันพรุ่งนี้เหละไปดักที่ ไปรษณีย์ เลย ^ ^