ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 3 หน้า หน้าแรกหน้าแรก 123 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 26 ถึง 50 จากทั้งหมด 53
  1. #26
    Shockolate
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Rayong , Bangkok
    กระทู้
    922
    กล่าวขอบคุณ
    352
    ได้รับคำขอบคุณ: 368
    ผมว่ามันก็ต้องใช้ทั้ง 2 อย่างแหละครับ บางคนก็ไม่เรียนเอาแต่อ่านหนังสือมันก็ไม่เข้าท่านะ ถ้าคุณคิดว่าควรให้โอกาสคนเกรดน้อย แต่คะแนนสูง ทำไมไม่คิดถึงคนคะแนนน้อยแต่ขยันจนเกรดดี บ้างละ
    ผมว่าประเด็นมันอยู่ที่ เกรดของแต่ละรร อัตราการได้เกรดมันต่างกัน ตรงนี้มากกว่า

  2. #27
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    315
    กล่าวขอบคุณ
    77
    ได้รับคำขอบคุณ: 260
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ tentaethaibio อ่านกระทู้
    ที่จริง การศึกษาไทย ครูเค้า สอน ตามจุดประสงค์ที่รัฐบาลกำหนด
    ต้องเข้าใจด้วยว่า สมัยก่อน ไทยเคยเชื่อพวกผี เลยกำหนดให้เรียนวิทยาศาสตร์แบบหนักๆไงละครับ ถ้าต่างประเทศ เค้าพัฒนาบุคลากร เค้าจะกำหนดว่า ให้เรียนยังไง

    สำหรับผม ผมว่า การแบ่งยังงี่ มันทำให้เด็ก เครียดไปกว่าอีก

    ผมให้คุณสังเกตนะ ลองถามพวกเพื่อนคุณซิว่า วันๆคุณกับ พ่อ กับ แม่ มั้งป่าว และบ่อยไหม
    ผมว่ามันน่าจะคุยนะครับเพราะตอนไปซื้อของเหนมันอยู่กับแม่ทุกที อัทยาสัยดีัมาก(กวนตีนมากแต่มันวาดรูปโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆเก่งง)~
    หรือที่เพิ้ลผมเรียนเก่งเพราะได้มาจากพี่ตัวเองเพราะพี่สาวเพิ้ลผม สอบติด ม.ธรรมศาสตร์ สถาปัต อะครับ

  3. #28
    !!{Falling Away}!!
    วันที่สมัคร
    Jan 2012
    ที่อยู่
    NakhonSawan
    กระทู้
    1,526
    กล่าวขอบคุณ
    744
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,735
    คะแนนสอบ บ่งบอกความรู้

    เกรด บ่งบอกความรู้ และความรับผิชอบ ครับ

  4. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  5. #29
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    315
    กล่าวขอบคุณ
    77
    ได้รับคำขอบคุณ: 260
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Volcanus อ่านกระทู้
    คะแนนสอบ บ่งบอกความรู้

    เกรด บ่งบอกความรู้ และความรับผิชอบ ครับ
    ถูกเผงเลยครับ เกรดบ่งบอกความรู้ ความรับผิดชอบ และยังบ่งบอกความตั้งใจของเด็กครับ..

  6. #30
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    699
    กล่าวขอบคุณ
    26
    ได้รับคำขอบคุณ: 174
    ตรงๆเลยนะ ไม่ซักอย่าง

  7. #31
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    438
    กล่าวขอบคุณ
    125
    ได้รับคำขอบคุณ: 166
    ใช่ครับ คนเก่ง หรือจะมาสู้ คนขยัน อันนี้ของจริงบทเรียนจริง
    คนขยัน + ไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ??? มันอยู่ไม่ได้ตลอดชีวิตหรอกครับซักวันเค้าจะ "ค้นพบตัวเอง"
    คนขยัน + เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ "ผู้มีคุณวุฒิคนนึง ไม่ขอเอ่ยนามกล่าวไว้ว่า กว่า90% ของคนบนโลกนี้ เรียนจบแล้วไปทำงาน แล้วหลังจากนั้น "ค้นพบตัวเอง" "

    ผมเห็นด้วยกับความเห็นที่ว่า "คนเก่ง หรือจะมาสู้ คนขยัน" ครับ จากประสพการณ์ในมหาลัยฯ 3 ปี
    ถ้าประเทศนี้จะหวังพึ่งแต่คนเก่งมันก็ไม่ได้ครับมันจะมีซักกี่%ของประเทศครับ เราคือทรัพยากรอันมีค่าของประเทศ,เรามีความสามารถ

    เพราะการที่คนเราจะประสบความสำเร็จชีวิตนั้นมีขึ้นอยู่กับความขยันอย่างเดียวหรอครับ ?
    ไม่หรอกมั้งครับ.. = ถูกต้องครับ
    ความซื่อสัตย์ล่ะ = ใช่ครับต้องมีครับ
    ขยันไปแต่ทุจริตไม่ซื่อสัตย์ ก็ไม่มีใครเอาครับ = ใช่ครับ
    เก่งไปแต่ทุจริตไม่ซื่อสัตย์ ก็ไม่มีใครเอาครับ
    คุณธรรมล่ะ ? ความรับผิดชอบล่ะ ? ทัศนคติล่ะ ? = ผมคิดว่าคุณรู้คำตอบอยู่แล้วครับ
    แล้วที่เราเรียนกันมาตั้งแต่ ประถม มัธยมเนี่ย มันมีคะแนนในส่วนนี้เอาไปสอบแข่งไหมล่ะครับ??? ไม่มีครับ
    มันต้องถูกปลูกฝังโน่นแหละครับ ปลูกจากอะไรคิดว่าคุณคงรู้คำตอบครับ
    พรสวรรค์ล่ะ ? หรือจะสู้ พรแสวง, "โลกใบนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่มีพรสวรรค์" ครับ
    พวกเค้าเหล่านั้นคือคนที่ได้ของขวัญมา
    แต่พวกเราคือคนที่แสวงหา ด้วยหยากเหงื่อ แรงกาย แรงความคิด ด้วยความสามารถของตัวเอง!!! ครับ มันน่าภูมิใจกว่าเยอะ

  8. #32
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    17
    กล่าวขอบคุณ
    55
    ได้รับคำขอบคุณ: 0
    ก็ต้องเป็นงี้เเหละครับเพราะว่าเค้าฝึกให้คนมีระเบียบเพราะถ้าเพื่อนคุณเป็นหมอผ่าตัดหัวใจเเต่เสือกลืมเย็บปิดปากเเผลคนไข้ยังไง
    ก็ต้องตายห่าไม่เค้าคงไม่เก็บคะเเนนส่งงานขนาดนั้น เเต่ รร ผม คะเเนนสอบ 50% คะเเนนเก็บ 50%

  9. #33
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    17
    กล่าวขอบคุณ
    55
    ได้รับคำขอบคุณ: 0
    เเละอีกอยางคนที่จะเก่งได้ก็ต้องขยันก่อนเพราะถ้าเก่งอยางเดียวเเต่ไม่ใส่ใจการเรียนก็ล้มครับ เเละถ้าขยันอยางเดียวเเต่ไม่ไฝ่หาความรู้ก็ล้มเหมือนกันครับ
    คนเก่งมันหาที่ไหนก็ได้ครับเเต่เก่งด้วยขยันด้วยคนพวกนี้อนาคตสูงครับ

  10. #34
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    กระทู้
    320
    กล่าวขอบคุณ
    56
    ได้รับคำขอบคุณ: 253
    เกรดวัดความขยันในการปั่นงาน
    คะแนนสอบวันความสามารถในการลอก
    555+

  11. #35
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Feb 2012
    ที่อยู่
    กะลาแลนด์ 4.0
    กระทู้
    2,314
    กล่าวขอบคุณ
    1,843
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,598


    พ่อ : ราณี วันนี้ลูกเรียนอะไรที่โรงเรียนบ้าง?
    ราณี : หนูเรียนรู้ว่าระบบโรงเรียนกำลังพังทลาย มีแต่การคอร์รัปชั่น ผู้บริหารโรงเรียนล้วนแต่ไร้คุณภาพ ครูไม่มีความรู้และความตั้งใจ ส่วนตำราเรียนก็ล้าสมัยหรือโกหก หนูเรียนรู้ว่าไม่มีนักเรียนคนไหนสนใจเรียน นอกจากจะมีรางวัลและสินบน
    ทุกคนรู้ดีว่าหลักสูตรแบบนี้ เรียนจบไปก็ตกงาน แต่ยอมให้ถูกส่งมาเข้าโรงเรียนเพื่อฆ่าเวลา หรือไม่ก็เพื่อสร้างความมั่นคงทางจิตใจให้กับพ่อแม่
    พ่อ : .........................................



    จากแบบเรียนกึ่งสำเร็จรูปของ เรณู ปัญญาดี

  12. #36
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    987
    กล่าวขอบคุณ
    1,102
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,439
    คนที่มีพรสวรรค์ทำไมเค้าจะขยันไม่ได้ครับ พูดเหมือนว่าคนที่มีพรสวรรค์เค้าจะขยันไม่ได้เลย
    ถ้าคนมีพรสวรรค์ขยันในสายด้านเฉพาะนั้นๆ ก็คงไม่มีที่ยืนสำหรับคนที่มีแต่ความขยันแต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งที่ตนเองลงมือทำอยู่ ยิ่งเป็นสังคมแห่งการแข่งขันด้วยครับ

    ทัศนคติคนไทยชอบคิดว่า เก่งทุกๆด้านจะดีครับ เหมือนกับ Stats ตัวละครในเกมที่ มัน 6 ทั้งหมดอะครับ[เต็มที่ 10] ไม่มีอะไรเด่นเลย นึกออกใช่ไหมครับ

    ทุกวันนี้ที่เรามีคอมพิวเตอร์ใช้ มีสมาร์ทโฟนใช่ ไม่ใช่เพราะคนที่ Born for this และหมกมุ่นในสิ่งทีั่ตนเองชอบ + พรสวรรค์อย่าง บิลล์ เกต , สตีป จ็อบส์ , สองพี่น้องตระกูลไรท์
    คนที่คิด ไมโครชิปทุกวันนี้ก็คือคนเก็บตัวและเป็นคนที่มีพรสวรรค์ [ ยอมรับความ + ความขยันด้วยในส่วนหนึ่ง ] หรอครับ ?

    แต่งานอะไรที่มัน Epic หรือเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมทีี่ยิ่งใหญ่จริงๆ กว่า 50 % ก็เป็นของคนที่มีพรสวรรค์ไม่ใช่หรอครับ ? ผมยังมีตัวอย่างให้ชัดเจนอีกครับ
    โน้ส อุดมไงครับ ขยันขนาดไหนแต่ไม่ใช่พรสวรรค์ก็ทอล์คโชว์ไม่ได้นะครับ
    วินเซนต์ แวนโกะห์ไงครับ ต่อให้ขยันขนาดไหน แต่ชีวิตไม่ได้รับรสชาติแห่งความเจ็บปวดอยางเขา คุณไม่สามารถสร้างรูปภาพที่ สามารถรู้สึกด้วยเซนส์ได้หรอครับ



    ในอีกมุมมองหนึ่งนะครับ เหมือนกองทัพทหารครับ เราต้องการ ทหารที่มี Status ที่ 6 ทั้งหมดทำไม ?
    ลองนึกภาพมาทำสงครามคนพวกที่เก่งทุกอย่าง แต่ไม่เก่งจริงสักอย่างกันนะครับ
    ขับฮอ ก็ขับได้แต่ขับฮอไล่บุกหรือขับหลบมิสไซล์ไม่ได้
    ยิงจรวด ก็ยิงได้ แต่ยิงไม่แม่้น
    วางแผนก็งวางได้ แต่วางไม่เฉียบแหลม ไม่ Unique
    ขับรถถัง ก็ขับได้ครับ แต่ไม่มีมีเทคนิคประจำตัว

    เทียบกับ


    คนที่มี Status เด่นด่านใดด้านหนึ่งแม้ว่าอีกด้านหนึ่งของพวกเขาจะด้อยก็ตาม แต่เมื่อพวกเค้ามารวมกัน
    พวกเค้าจะอุดข้อเสียและเสริมข้อดีของกันและกัน
    ในส่วน ขับเครื่องบินขับไล่ ก็ให้คนที่ถนัดมาขับ ก็ชนะกองทัพที่ Status 6 ทั้งหมด ได้อย่างสบายครับ
    และรวมถึงส่วนอื่นๆด้วย



    นี่คือเหตุผลครับว่า ความขยันไม่ใช่ทุกอย่าง
    และพรแสวงไม่เคยเหนือพรสวรรคเสมอไปครับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Type-7442 : 19th May 2012 เมื่อ 21:56

  13. #37
    คนเดินดิน
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ที่นี่แหละ
    กระทู้
    704
    กล่าวขอบคุณ
    830
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,563
    ปัญหาอยู่ที่ว่าโรงเรียนต่างจังหวัดที่ปล่อยเกรดอ่ะนะ
    "He who loses money, loses much; He who loses a friend, loses more; He who loses faith, loses all."

  14. #38
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    35
    กล่าวขอบคุณ
    16
    ได้รับคำขอบคุณ: 5
    ผมไม่รู้สิ ถ้าจะวัดกันด้วยคะแนนสอบอย่างเดียว แต่หากพลาดไปนิดก็คือจบเลยนะครับ แต่ตอนนี้หากเราสอบไม่ดี แต่ก็ยังมีพวกคะแนนงานมาช่วย แต่ของผมมักจะมาจากคะแนนสอบซะมากกว่า เพราะงานทำมันไม่ค่อยจะดี ลายมือเขี่ย (โคตรตั้งใจเขียนเป็นอย่างมาก แต่ดันโดน อ. ว่า "เขี่ยมาให้ชั้นหรือ") ทุกวันนี้ก็เลยปลงกับงานครับ เกรดเลยออกมาไม่ค่อยคุ้มกับความตั้งใจเรียนสักเท่าไหร่ (พวก วิทย์ คณิต ที่เน้นสอบ ได้ 4 ตลอด แต่พอมาเจอ ศิลป์ ไทย อย่างอื่นเข้าไป เจ๊ง -*- โดน 1 โดน 2 โชคดีได้ 3)

    สรุปๆ ผมคิดว่า มันก็ ... ไม่รู้สิ ถามว่าอันไหนสำคัญ เกรดมันก็ช่วยได้เยอะนะครับ จริงๆน่ะ แต่ถ้าจะเอาเกรดมาตัดสิน ผมคิดว่ามันไม่ค่อยจะสมควรเท่าไหร่ เพราะส่วนตัวผมเรียนสายวิทย์ ไม่ถนัด ไทย สังคม ศิลป์ ดนตรี ถนัดแต่ วิทย์ คณิต อังกฤษ แต่เกรดออกมาไม่ค่อยดี เพราะโดนฉุดจากวิชาที่ไม่ถนัด แต่มันก็ฉุดไม่มาก เกรดพอถูไถ 3.6 3.7

  15. #39
    Joe Hisaishi
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,419
    กล่าวขอบคุณ
    794
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,657
    คะแนนสอบสิ

    เกรดวัดอะไรได้

  16. #40
    คิดถึงวันวาน
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    กรุงเทพฯ
    กระทู้
    769
    กล่าวขอบคุณ
    870
    ได้รับคำขอบคุณ: 500
    ผมว่าการศึกษาในไทยเหมือนกับวุฒิลมๆแล้งๆที่สร้างความมั่นคงทางจิตใจให้พ่อแม่เรา บอกตรงๆนะการศึกษาเรามีปมอยู่เยอะมาก

  17. #41
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    May 2012
    กระทู้
    15
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 5
    จากหัวข้อกระทู้น่ะจ๊ะ

    เกรด ใช้วัดความขยัน -------- ในการทำงานถ้าคุณเป็นผู้บริหารคุณต้องการคนขยันมั๊ย แน่นอนครับต้องการถ้าเขาเก่งแต่ทำอะไรไม่เคยตรงเวลาจะเสียลูกค้ามั๊ย แล้วอีกอย่างไอ้งานที่คุณเป็นผู้บริหารน่ะ บางทีมันอาจจะใช้ทักษะที่ต้องฝึกฝนจากการทำงาน อาจจะไม่จำเป้นที่คุนจะเก่งในการสอบ คิดเลข ท่องจำ บลาๆๆๆๆๆๆ

    คะแนนสอบ ใช้วัดคนเก่ง ----- แน่นอนงานบางอย่างไม่จำเป็นต้องเข้าตามเวลา ทำงานที่บ้านได้ คนเก่งๆก็ไม่จำเป็นต้องมาที่ทำงานหรือ อาจคิดอยู่ที่บ้านแล้วก็เอางานมาส่ง แต่งานต้องเป็นแบบไม่จำกัดเวลาประมาณนั้น

    ในความจริง สิ่งที่ต้องการคือ คนเก่งและขยัน ถูกมั๊ย


    แต่ผมก็ไม่เข้าใจ ว่า ไอ้วิชาที่เรียนเยอะๆ มันก็ไม่เห็นจะได้เอามาใช้กับงานที่บางคนทำอยู่

    เขาน่าจะให้เราเรียนพวกวิชาพื้นฐาน ตอนประถม น่ะ พอขึ้น มต้น มปลาย อยากเป็นนักวิทยาศาตร์ ก็เรียนวิทย์ อยากเป็นอะไรก็เรียนอันนั้นไป

    แต่น่ะ แต่นี้มันก็แค่ความคิดของผม ^^

  18. #42
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    264
    กล่าวขอบคุณ
    44
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,199
    มันคือเรื่องจริงที่สุดในสามโลก ช่วยกันกด Like หน่อยครับ

    Facebook อ.วิริยะ

  19. #43
    เสพกราฟฟิกขั้นเทพ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    6,574
    กล่าวขอบคุณ
    2,381
    ได้รับคำขอบคุณ: 4,560
    ความขยันเป็นสิ่งที่ดี แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ใช้เอามาวัดอะไรได้

    สิ่งที่ใช้วัดความรู้คือ ''คะแนนสอบ'' ไม่มีใครสนใจคุณหรอกครับว่า คุณจะขยันซักแค่ไหน แต่เขาจะดูกันที่ผลลัพธ์สุดท้าย

    การขยันเป็นเพียงหนทางหนึ่งที่ไปสู่ความสำเร็จเท่านั้น


    ในวัยทำงานก็เหมือนกัน เค้าวัดกันที่ผลงาน ไม่ได้วัดกันที่ความขยัน

    ไม่ใช่ว่าความขยันไม่ดี เพียงแต่มันไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกคุณค่าของคุณ

    เคยได้ยินมั๊ยว่า ''ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน''


    แต่ก็นะ อย่าไปซีเรียสกับชีวิตเลย เรียนจบมาก็หางานทำ ใช้ชีวิตให้มีความสุขเถอะครับ ^_^
    Intel Core i7 4790k / MSI Z97 Gaming 5 / GALAX GTX980 SOC 4GB
    AMD Phenom II X6 1090T / Asrock 890GX Extreme 3 / Power Color HD5970 2GB

  20. #44
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    May 2012
    กระทู้
    15
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 5
    ถูกต้อง ที่สู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

  21. #45
    Staring at me
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    489
    กล่าวขอบคุณ
    87
    ได้รับคำขอบคุณ: 241
    ขอตรงๆ และแรงๆ

    พวกขยันแม่มได้เปรียบ พวกที่เอาคะแนนสอบคับ แม่ม ขยันส่งงานนี้3แน่นอน พวกมีความคิดฉลาดแต่ขี้เกียจ พวกนี้ก็คะแนนไม่ได้ แล้วก็ไม่สามารถเข้ามหาลัยดีๆได้

    มหาลัยดีๆ ก็ได้พวกขยันแต่เสือกโง่ เข้าไปแทน พวกที่มีสมอง ได้อยู่มหาลัยแบบกลางๆหรือท้ายๆ แล้วเวลาเขารับทำงาน เขาดูมหาลัยน่ะครับใครว่าเขาไม่ดู

    คุณลองคิดดูสิ เขาจะรับคนไหน โ่ง่ขยันกับ ขี้เกียจแต่ฉลาด แต่คนฉลาดดันได้อยู่มหาลัย ไม่ค่อยมีชื่่อไงครับ เลยไม่ค่อยมีงานทำ แล้วพวกโง่แต่ขยันเขารับไป บริษัท******ครับ

    เขาบอกว่า

    ฉลาดและขยัน ให้ไปเป็นแม่ทัพ
    ฉลาดแต่ขี้เกียจให้เอาไว้เป็นเสนาธิการ
    โง่และขี้เกียจให้ไปเป็นพลทหาร
    โง่แต่ขยันให้เอาไปประหารชีวิต

  22. #46
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    829
    กล่าวขอบคุณ
    975
    ได้รับคำขอบคุณ: 908
    ผมว่าเอาจริงๆก็วัดกันที่คะแนนสอบกันเลยดีกว่าครับ ใครว่าคะแนนสอบไมไ่ด้ความขยันหละ ก็คนที่จะสอบได้คะแนนเยอะ เขาจะต้องขยันขนขวายหาความรู้มาสอบนี่ครับ บวกกับมองของตัวเองหับหลักการคิดวิเคราะห์เข้าไปหน่อย ผมว่ามันก็เยี่ยมหละครับ

    ส่วนเกรดเหรอครับ เหอะๆ ลอกๆงานส่งไปให้ครบก็ได้แล้วครับแล้วหละครับ

  23. #47
    Call me is Cruser
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    853
    กล่าวขอบคุณ
    489
    ได้รับคำขอบคุณ: 330
    สมัยนี้ความขยันวัดไม่ได้หรอกเพราะการใช้ชีวิตแบบตื่นเช้ามารร.เพื่อลอกการบ้าน

  24. #48
    ชอบเกรียนเป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    อยู่ในใจคุณ
    กระทู้
    413
    กล่าวขอบคุณ
    2,313
    ได้รับคำขอบคุณ: 223
    จะไม่ใช้เกรดเลย ก็คงไม่ได้หรอกครับ เพราะเข้ามหาลัยไปคุณจะรู้ทันที พวกขี้เกรียจนะ ถึงจะเก่งแค่ไหน เรียนมหาลัยไปก็ไม่รอดหรอก

    แต่เกรดที่เอามาวัดของประเทศไทยนะ มันไร้มาตรฐานเกินไป รร แต่ละ รร มันให้เกรดไม่เท่ากัน มันวัดเด็กไม่ได้จริง

    ถ้าหากการให้เกรดแต่ละ รร ของประเทศไทยอยู่บนมาตรฐานเดียวกัน ผมว่าการสอบเข้ามหาลัยควรและจำเป็นในการใช้วัดเด็กนะครับ

    ไม่ใช่สอบอย่างเดียว เพราะจะทำให้เด็กเอาแต่ท่องจำตำรามาสอบ กลายเป็นคนที่จำได้ดีกว่าเป็นผู้ชนะ

  25. #49
    Shinzengumi Minor Boss
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Shinzengumi Office
    กระทู้
    2,027
    กล่าวขอบคุณ
    6,667
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,119
    3.9 กับ 4.00 เหมือต่างกันน้อยนะ แต่จริงๆต่างกัน 3 ขุมเลย
    3.9 ง่ายกว่าเยอะ 4.00 ต้องบังคับตัวเองอย่างมาก ไม่ให้พลาดเลย
    อยากได้เกรดเยอะ ต้องลงทุนลงแรงหน่อย ที่สำคัญ ต้องวางแผนด้วย รับรองเกรดพุ่ง อาจจะไม่เห็นผลแต่ผมเห็นมาแล้ว
    แล้วก็คุ้มค่าสุดๆเลย ดีใจที่วันนั่นขยันเรียนได้จนวันนี้อ่าน่ะ แต่ก็ไม่ได้ชอบหรอก
    ลึกๆขี้เกียจมาก แต่มันก็ต้องขยันกันบ้าง ผลตอบแทนแสนคุ้มค่า *0*
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ToshirO : 20th May 2012 เมื่อ 05:11

  26. #50
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    213
    กล่าวขอบคุณ
    80
    ได้รับคำขอบคุณ: 50
    จะบอกว่าเกรดคือความขยัน เอาอะไรมาคิดครับการศึกษาไทย

    ความฉลาดต่างๆหากคือความขยัน ฉลาดมากก็เท่ากับอ่านมากไงครับถ้าคนเค้าจะเก่งเค้าก็ต้องขยันมาอยู่แล้ว

    ที่ว่าคนเก่งๆขี้เกียจ เอาเวลาส่วนไหนไปดูเขาทุกเวลา คนจะเก่งได้ต้องขยันมาก่อนด้วยซ้ำ

    ผมว่าไอ้เกรดไม่สำคัญเลยไร้สาระ ถ้าผมแค่สนิทกับอาจารย์ผมก็ได้ A A A ละหญิงนอนกับอาจารย์ก็ได้ A A A ละมันจะยากตรงไหนละครับ เขาวัดกันที่ความรู้ซิ

    การศึกษาไทยมันบ้านนอกแบบนี้ไงถึงตามต่างประเทศไม่ทันสักที เหมือนหนังไทยไง วันๆคิดแต่มุขเดิมๆ ทำไมผมจะเดาทางหนังไทยไม่ออก มุขเดิม ก็ตลกๆคำพูดหยาบๆ ทำตัวเสื่อมๆเช่นแต่งเป็นกระเทยมั้งเกย์มั้ง หนังรักก็ทำตัวบิดไปบิดมา อะไรอะงง เห็นแล้วเสียดายเงินไปดู หนังต่างประเทศยังหน้าดูกว่าตั้งเยอะผมไม่เคยคิดจะเสียเงินไปดูหนังไทยเลย เอาง่ายๆ หนัง mr.bean
    พี่แกก็เดินไปเดินมาไม่พูดคำหยาบอะไรทำตัวธรรมดาๆ ยังฮาเพราะเค้าทำเป็นไงครับ ดูเอาละกันว่ามันต่างกัน

    ถ้าเป็นตอนนี้อายุ 15ปี+ ต่างประเทศพ่อแม่เค้าให้หางานทำเองมีอะไรก็คอยช่วยห่างๆ ทรงผมคิดเอาเอง หัดคิดเองทำเอง การเรียนการสอน ยกมือถามปุ้บ เค้าจะรับความคิดเห็นกัน อาจารย์ก็ไม่ว่า ใครจะมีความรู้แค่ไหนเค้าก็เกียติหรือคำถามกัน
    ถ้าเป็นตอนนี้อายุ 15ปี+ ประเทศไทย พ่อแม่บังคับให้เรียนพิเศษหรือเรียนเองก็เถอะ เตรียมสอบ gat pat ตัดหัวเกรียน การเรียนการสอน ยกมือถามปุ้บ โดนอาจารย์ว่า สอนไปแล้วยังไม่จำอีกเหรอกลับอ่านเอง

    เหอะๆคิดกันเอาเองเหอะ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย edkub : 20th May 2012 เมื่อ 10:57


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top