หลังจากที่มีรายงานการค้นพบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2481 ก็ทำให้ทฤษฎีวิวัฒนาการสั่นคลอนมิใช่น้อย เพราะว่าเจ้าปลาตัวนี้มันไม่ได้สูญพันธุ์ไปตามที่คาดคิดเอาไว้ การค้นพบปลาซีลาคานท์ครั้งนี้ถูกจับได้โดยกลาสีเรือชาวสก็อตแลนด์ และได้นำปลาที่จับได้ มายังท่าเรือของเมือง East London ในประเทศแอฟริกาใต้ และเมื่อ ลาติเมอร์ นักอารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ที่นั่นได้เห็นปลารูปร่างประหลาด ได้แจ้งไปยังศาสตราจารย์ จี.แอล.บี สมิธ ผู้เชี่ยวชาญ เรื่องปลาแห่งมหาวิทยาลัยโรเดส ในประเทศแอฟริกาใต้แล้ว สมิทก็ได้ออกแถลงการให้โลกรู้ว่า ปลาสีน้ำเงิน ความยาวเกือบสองเมตร นั่นคือปลาซีลาคานท์ ที่บรรพบุรุษของมันเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน สมิธจึงได้ตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ของ ปลาซีลาคานท์ ตัวนี้ว่า Latimeria chalumlae เพื่อเป็นเกียรติแด่ นางลาติเมอร์ และตำแหน่งที่ค้นพบ คือบริเวณปากแม่น้ำ Chalumna
นั่นคือตัวแรกคับมาถึงตัวที่สองกันบ้าง ปลาซีลาคานท์ตัวที่สองนั้นถูกจับได้โดยกลาสีเรือชื่อ อาเหม็ด ฮูเซียน ในบริเวณ Comores Archipelago ที่อยู่ใกล้เกาะมาดากัสกา ในอีก 14 ปีต่อมา และฮูเซียนก็ได้รับเงินรางวัล 50,000 ฟรังก์ ในฐานะที่จับปลาดึกดำบรรพ์ได้ (ถ้ามาขายให้ผม ผมให้เยอะกว่ากว่านี้อีกนะ) และแล้วปัญหาการอ้างกรรมสิทธิ์ของปลาที่จับได้ก็เกิดขึ้น ระหว่าง สมิธ กับรัฐบาลฝรั่งเศษ เพราะว่าปลาที่ถูกจับได้อยู่ในบริเวณน่านน้ำของเกาะมาดากัสกา ซึ่งอยู่ในความปกครองของฝรั่งเศส แต่สมิธเป็นนักชีววิทยา คนแรกที่รู้จักปลาชนิดนี้ รัฐบาลฝรั่งเศสจึงตัดสินใจว่า หาก สมิธ สามารถเดินทางมารับซากปลาได้ภายในเวลา 24 ชั่วโมง เขาจะได้เป็นเจ้าของซากปลาตัวนั้น แต่ สมิธ นั้นอยู่ห่างจากฝรั่งเศสถึง 2,400 กิโลเมตร แต่ถึงกระนั้นระยะทาง 2,400 กิโลเมตรก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะว่า สมิธได้ขอร้องให้ นายกรัฐมนตรีของแอฟริกาใต้ ให้จัดเครื่องบินของกองทัพอากาศ ไปรับซากปลาภายในเวลา 24 ชั่วโมงสมิธ ได้บินไปรับซากปลาที่เขารอคอย นานถึง 14 ปี ได้ทันเวลา
ข่าวการพบปลาซีลาคานท์ ตัวที่สอง ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก และโลกก็ประจักว่าทะเล Comores Archipelago คือถิ่นที่อยู่อาศัยของฝูงปลาซีลาคานท์ เพราะปลาชนิดนี้ตัวที่ 3 นั้น ถูกจับได้ในอีก 1 ปี ต่อมา...
โห ปลาสวยมากครับ สีฟ้าด้วยว้าววววววว ส่วนใครที่รู้จักเเล้วก็ไม่เป็นไรครับ
credit : mythland , www.wiki.com