ผมว่าการศึกษาไทยน่าจะเป็นแบบนี้นะครับ

[Type-7442]

ผมคนหนึ่งที่มีปัญหากับระบบ แต่ไม่ได้มีัปัญหากับความรู้
ก็เลยลองคิดแบบจำลองโครงสร้างการศึกษาไทยคร่าวๆดู ลองดูกันนะครับว่าเหมาะไหม ผมว่าดูเหมาะดีนะ

[ บังคับใช้ ม1 - ม6 ]
การเรียนการสอนจะเป็น ความรู้ และแบบฝึกหัด + โจทย์ ไม่มีพวกงานส่งที่ลอกกันได้ หรือพวกงานกลุ่ม PowerPoint อะไรต่างๆ
แต่งานจะเป็นรูปแบบ ความรู้เน้นๆเลย สอนก็ความรู้ ส่วนในส่วนงานกลุ่ม งานของงานกลุ่มนั้นก็จะเป็น งานกลุ่มแบบวิเคราะห์โจทย์ ในกรณีวิชาคำนวณ
หากเป้นวิชาอ่านหรือความจำ ก็สร้างโครงเรื่อง และ วิเคราะหฺ์ เสริมสร้างจินตนาการของผู้เรียนเป็นหลัก ให้คิดใหม่ๆ

ที่สำคัญ เกรดไม่มีผลต่อการเข้ามหาวิทยาัลัย ต้องใช้ความรู้ล้วนๆ [ เพราะเกรดกว่า 50 %++ มาจากส่งงาน แล้วงานนั้นทำเองหรือปล่าวก็ไม่รู้ ไหนจะ้ สอบฟอร์แบบลอกเพื่อนได้อีก ]
เมื่อผู้เรียนเห็นว่า เกรดไม่มีความสำคัญ พวกเขาจึงให้สำคัญกับความรู้แทน


แน่นอนครับ , การสอบเข้ามหาลัยใช้ความรู้เพียวๆ และไม่มีการเอาวิชาที่ไม่มีส่วนเกี่ยวกับคณะนั้นๆมาเกี่ยวข้องให้ไร้ประโยชน์
เช่น วิศวะ ข้อสอบ 400 ข้อ คณิต 125 ฟิสิกส์ 125 เคมี 125 อังกฤษ 125
เช่น เศรษศาสตร์ ข้อสอบ 400 ข้อ คณิต 150 สังคม 150 อังกฤษ 100
เช่น สถาปัตย์ ข้อสอบ 400 ข้อ คณิต 100 ความถนัดเฉพาะทาง 200 อังกฤษ 100
เช่น ศิลปกรรม ข้อสอบ 400 คะแนน ก็ 300 คะแนนเป็นความถนัดเฉพาะทาง ภาษาอังกฤษอีก 100
[ แต่เมื่อสอบเข้าไปแล้ว แล้วติด หน่วยกิตการเรียนก็ยังมี พวก ภาษาไทย , จริยธรรม อะไรประมาณนี้นะครับ เพื่อไม่ให้ผู้เรียนโง่ดักดานเกินไป ]

สอบมี 2 รอบครับ และโจทย์ก็จะเปลี่ยนไปด้วยไม่ซ้ำเดิม แต่ถ้าหากสองรอบนี้ไม่ติดสักรอบ ก็ไม่ติดครับ ไม่มียื่น ไม่มีโควต้าห่าเหวอะไรทั้งนั้น [ มีโควต้านักกีฬาอ่าวเดียวครับ ]
ไม่มี GAT PAT

ส่วน ONET นั้นมีครับ มีผลต่อตัวการเรียนต่อ 1 เทอม
เช่น นาย ก คะแนน อังกฤษ ไม่ดี พอเข้าไปเรียน ก็ต้องเรียนเพิ่มอีก 2 ตัว

[waterc4t]

ผมก็ว่าอยู่นะครับ เกรดมันไม่ได้วัดผลว่าใครเก่งกว่าใคร ความรู้ต่างหากที่เป็นตัววัดผล

เด็กเกรดสูงๆความรู้เทียบกับเด็กเกรด 3 กว่าๆไม่ได้ มีถมไป

ส่วนงานที่ให้มานั้น ให้มากไปก็ไม่ใช่ว่า นร. จะทำนะครับ // ทำกันอยู่ไม่กี่คน ที่เหลือก็ขอแบ่งกันลอก ๆๆ
ความรับผิดชอบควรมีขอบเขตบ้าง ไม่ใช่ว่าให้งานแบบท่วมหัว ทำกันไม่ทัน
คนทำจริงๆมีไม่กี่คนหรอกครับ แล้ว นร. จะได้อะไรจากการได้งานเยอะๆ ??

[as784125]

ผมอยากให้ลดชั่วโมง เรียนมั่ง เรียนทั้งวัน ตารางเรียนผมเจอวิทย์ 1 วัน 6 คาบ อยากจะบ้าตาย

[yogurtkun]

เห็นด้วยอย่างมากกกกก..ที่สุดเลย ว่าเกรดไม่ควรจะมีผลต่อทุกๆอย่าง
ตัวอย่างมีให้เห็นค่อนข้างเยอะ ว่าคนที่เกรดต่ำๆ ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ดีกว่าคนเกรดสูง
"ถ้าจะวัดกัน ก็วัดที่ความรู้ไปเลย โดยทดสอบต่างๆ ให้วิเคราะห์โจทย์เป็นวันๆไปเลย บางคนคิดเร็ว คิดช้า แต่ความคิดต่างกันนะ"
อยากให้ลดชั่วโมงด้านความรู้ทฤษฎีมาบ้าง แล้วใส่ ปฏิบัติเข้าไป ทำงานให้เป็น เตรียมความพร้อมในวันข้างหน้า

[gonegag]

ตอนนี้เด็กไทยเรียนเพื่ออะไรครับ ตอบคือเรียนเพราะไปสอบชีวิตหลังจากนี้จะเป็นยังไงก็ชั่งกูต้องทำข้อสอบ เพื่อตัวเลข ไม่กี่ตัว มาวัดชีวิต ของคนคนนึง ใครไม่ประสบความสำเร็จ ฆ่าตัวตายไปแล้วหลายคนก็ยังมี เมื่อไหร่มันจะปรับเปลื่ยนรูปแบบสักที รุ่นผมไม่ทันแล้วผมไม่ว่าหรอกครับ รุ่นลูก รุ่นหลานจะเป็นยังไงต่อ คงต้องดำเนิน ชีวิตแบบนี้ต่อไปความจริงผมโพสไปในนี้คงไม่มีความหมายอะไรแค่อยากระบายนิดหน่อย งงๆกะชีวิตของคน

[nakiann123]

ตามความคิดของผมคือ จะให้เรียนหนักๆไปทำไม

เช่น คาบพละ เนี่ย มี อาทิตย์ละ 1 คาบ เงิบกันเป็นแถว

[jurayi1992]

ผิดแล้วมั้งไม่มีโควต้าหนะ เพราะไอ่สอบโควต้าหนะแหละ รับคนเก่งเข้ามาเรียนได้มากกว่าระบบแอดจากส่วนกลางอีกครับผมว่า

[tarm2039122]

การเรียนเป็นการฝึกฝนครับ คุณจะไม่ได้รับแค่ความรู้เพียงอย่างเดียว ความคลาดหวังของการสอน ไม่ใช่แค่ให้คุณเรียนเก่ง มีความรับผิดชอบ หรืออย่างอื่นก็ตาม แต่มันเป็นการฝึกความอดทน ความอดกลั้น ประสบการณ์ เผื่อคราวต่อไปคุณจะเจอเหตุการณ์ที่มันเลวร้ายกว่าการเรียน แล้วคุณจะสามารถต่อสู้ และผ่านมันไปได้ เก่งแต่เอาตัวไม่รอดก็เยอะครับ ฆ่าตัวตาย เพราะว่าเหตุผลอันได (มันเรียนหนักเกินไปรึเปล่า)ผมว่ามันก็หนักจริงๆ นั่นแหละ แต่ถ้าคุณผ่านมันไปได้คุณก็คงเป็นยอดคน สู้ๆ ครับ (เป็นการแสดงความคิดเห็นเท่านั้นนะครับ ^^)

[earrupz]

เห็นด้วยทั้งหมดครับ ยกเว้นเรื่องโควต้าครับ อย่างที่บอกไปว่ามันสามารถรับคนเก่งได้มากกว่าแอดกลางครับ ผมว่ามันยังต้องใช้โควต้าอยู่นะครับ แต่อย่างอื่นผมสนับสนุนครับ แล้วผมว่าควรเสริมเรื่องเวลาเรียนด้วยว่า ควรเรียนให้น้อยกว่านี้ ปัจจุบันที่เรียน ส่วนใหญ่จะมีแต่น้ำๆครับไม่ค่อยมีเนื้อซักเท่าไหล่ เรียนมากไปมันทำให้เกิดการไม่อยากเรียนครับ เฉพาะฉะนั้น เราควรเรียนแค่ครึ่งวัน เย้!!!

[sattawat1979]

อยากให้การเรียนเน้นปฎิบัติมากกว่านี้ การศึกษาไทยเน้นภาคทฤษฏีจนเกินไป เข้าข่ายความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด

ถามจริงๆว่าที่เราเรียนจบไปทำงาน แล้วได้ใช้ความรู้อะไรกันบ้าง

ผมจบวิศวะ เรียนมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น thermodynamic , machine design , heat transfer , fluid mechanics บลาๆๆๆ ยากๆทั้งนั้น

แต่ทำงานจริงๆใช้แค่ บวก ลบ คูณ หาร - -* กับการใช้ไฟล์ Ms office , AutoCAD เท่านั้นเอง

อย่างดีก็ซ่อมเครื่องจักรเป็น ซึ่งไม่มีสอนในมหาลัย ต้องมาเรียนรู้ใหม่หมด = =


งานวิศวกรรมจริงๆคืองาน ''design'' แต่ปัจจุบันมันเน้นไปในทาง ''management'' ซะมากกว่า ประมาณว่า พูดดีมีหลักการ ประจบสอพลอ ก็อยู่ได้นานละ

ความรู้ถ้าไม่ได้ใช้มันก็ลงหม้อไปหมดล่ะครับ เรียนมาแทบตายไม่ได้ใช้ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เฮ้อ...



ความจริงก็คือ ''วิศวะเครื่องกลจบใหม่ ร้อยละ 80 ซ่อมรถยนต์ไม่เป็น เขียน diagram การทำงานของเครื่องยนต์ยังไม่เป็นเลย''

สู้พวกจบป.6 ทำงานอู่รถยังไม่ได้เลย มันน่าอายไหมล่ะนั่น = ='


เด็กจบใหม่หน้าละอ่อน ลองให้มันเขียนวงจร ไฮโดรลิกส์ นิวแมติกส์ สิ จะมีคนเขียนเป็นซักกี่คน เรียนไปก็ลืมกันหมดแล้ว เพราะเรียนเยอะแล้วไม่เน้นปฏิบัติ

ที่หนักไปกว่านั้นบางคนจบมายังเขียน AutoCAD ไม่เป็นเลย - -* มันจบมาได้ไงว้า

[godzaz777]

ประเทศก็แบบนี้ครับมัน.................................................บลาๆๆๆๆ ไม่อยากพูดเดี๋ยวยาว