ย้ำว่าถ้าพลาดงานนี้ ต้องรอไปอีก 100 ปีเลยนะครับ (เรื่องจริงเน้อ) และก็ไม่เหมือนกับการแสดงการบินในงานวันเด็ก เพราะงานนี้ ทอ.และทุกหน่วยงานเขาจัดเต็มครับ ^^
---------------------------------------------
::[ นี่คือ 10 อย่างที่ห้ามพลาดในงาน 100 ปีการบิน ณ ดอนเมือง ]::
1. อย่าลืมลางาน ลาเรียน
อันนี้พลาดไม่ได้ เพราะการแสดงภาคอากาศจะจัดขึ้นในวันที่ 29-30 มิถุนายน และ 2 กรกฎาคม 2555 เท่านั้น โดยจะงดการแสดงภาคอากาศในวันที่ 1 กรกฏาคม 2555 (แต่ยังมีเครื่องบินตั้งแสดงและนิทรรศการให้ชมเหมือนเดิม) ดังนั้นอย่าลืม ท่านใดมีธุระ รีบลา รีบเคลียร์ ณ บัดนี้
2. อย่าพลาดชมนิทรรศการ
เนื่องจากนิทรรศการเปิดอย่างต่อเนื่องทั้ง 4 วัน ท่านที่มีโอกาสไปก็อย่าลืมชมนิทรรศการที่ตั้งแสดงอยู่ เพื่อซึมซับความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การบินของชาติ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ทราบว่า กิจการการบินของชาติของเรามีการพัฒนาการด้านในบ้างในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา
3. อย่าพลาดชมแกลลอรี่ภาพถ่ายของ Katsuhiko Tokunaga
(ตัวอย่างภาพถ่ายฝีมือของ Katsuhiko Tokunaga)
ซึ่งเป็นช่างภาพอากาศยานอันดับหนึ่งของโลกชาวญี่ปุ่น ที่เดินทางมาบันทึกภาพอากาศยานของกองทัพอากาศไทย และมอบภาพทั้งหมดให้กองทัพอากาศไทยไว้ใช้โดยไม่คิดมูลค่า ภายในงานนี้เราจะได้พบกับนิทรรศการซึ่งเป็นแกลลอรี่ภาพถ่ายที่ใช้เวลาถ่ายทำกว่าสองสัปดาห์ จนออกมาเป็นภาพถ่ายที่อาจไม่เชื่อว่านี่คือภาพของอากาศยานไทย งานนี้ต้องบอกว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
4. อย่าลืมของติดไม้ติดมือ
นอกจากของที่ระลึกซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ นำมาแจกให้กับผู้เข้าชมงานแล้ว ยังมีของที่ระลึกซึ่งทำขึ้นพิเศษเพื่อฉลองในวาระครบรอบ 100 ปีการบินของไทยในครั้งนี้ นอกจากนั้นใครที่ไปชมนิทรรศการของ Katsuhiko Tokunaga แล้วชื่นชอบภาพของเขา ต้องอย่าพลาด เพราะอาจมีข่าวดีที่ทุกท่านจะได้เป็นเจ้าของภาพเหล่านั้น ตั้งแต่ได้รับกันแบบฟรี ๆ ไปจนถึงสามารถซื้อหาได้ในราคาที่ทุกท่านเอื้อมถึงแน่นอน
5. อย่าลืมชมอากาศยานที่จอดตั้งแสดง
จนถึงชั่วโมงนี้นับอากาศยานที่จอดตั้งแสดงได้แล้ว 36 ลำ จากทั้งสามเหล่าทัพ จากหน่วยงานราชการที่มีอากาศยานใช้งาน และจากสายการบินของไทยมาร่วมจอดตั้งแสดง เสมือนหนึ่งรวมงานวันเด็กจากทุกที่เข้าด้วยกัน ท่านใดไปชม ก็อย่าลืมถ่ายภาพสวย ๆ ของตัวเองกับอากาศยานเหล่านั้นไว้เป็นที่ระลึก
6. อย่าพลาดชมการแสดงภาคอากาศ
ซึ่งต้องถือว่าเป็นไฮไลต์ของงานแบบที่เรียกว่าจัดเต็มตั้งแต่ 10 โมงจนถึงบ่าย 3 โมงครึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการบินเดี่ยวผาดแผลงของ UH-60L Black Hawk ของกองทัพบกซึ่งสร้างความประทับใจมาแล้วหลายครั้ง การแสดงการค้นหาและกู้ภัยของ Bell 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือการบินเดี่ยวผาดแผลงของครูเหยี่ยวบนเครื่องบินแบบ EA300L นามเรือไฟ ด้วยท่าทางที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้
7. อย่าพลาดชมการแสดงการบินฉบับพิเศษของกองทัพอากาศ
โดยเฉพาะการแสดงชุดพิเศษของกองทัพอากาศในชุด ภารกิจพิชิตน่านฟ้า ตอน Love is in the Air รักสะท้านฟ้า ซึ่งเป็นการแสดงการบินของอากาศยานของกองทัพอากาศ ประกอบการบรรเลงเพลงของวงซิมโฟนี่ ออร์เคสตราของกองทัพอากาศ ประกอบการแสดงสื่อมัลติวิชั่นหลากหลายกว่า 1 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป รับรองความประทับใจแน่นอน
8. อย่าพลาดชมแขกพิเศษจากต่างประเทศ
คือการแสดงการบินผาดแผลงเดี่ยวของ F-16C จากกองทัพอากาศสิงคโปร์ และการแสดงของหมู่บินผาดแผลง Jupiter ของกองทัพอากาศอินโดนิเซีย โดยกองทัพอากาศสิงคโปร์ส่ง F-16C มาเยือนประเทศไทยและร่วมฉลองวาระ 100 ปีการบินของไทยในฐานะที่กองทัพอากาศของทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างช้านาน ส่วนหมู่บินผาดแผลง Jupiter มาเยือนกองทัพอากาศไทยในฐานะเป็นรุ่นพี่ที่มาแสดงความยินดีกับรุ่นน้องอย่างหมู่บินผาดแผลง Blue Phoenix ของกองทัพอากาศไทยที่เพิ่งจัดตั้งได้ไม่นาน โอกาสแบบนี้หายากมาก ถ้าไม่อยากเสียตังค์ไปดูถึงเมืองนอกเมืองนา มางานนี้คุ้มค่าแน่นอน
9. อย่าพลาดชมหมู่บินสาธิต Green Hawk
เพราะไม่ใช่แค่เครื่องบินไอพ่นเท่านั้นที่ทำได้ แต่นักบินเครื่องบินโดยสาร/ลำเลียงแบบ C208 ของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตรก็สามารถเปลี่ยนเครื่องบินที่เชื่องช้าให้กลายมาเป็นการบินสาธิตหมู่ที่สวยงามและเที่ยงตรงภายใต้ชื่อหมู่บินสาธิต Green Hawk ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทย โดยใช้ทักษะที่สั่งสมมาอย่างยาวนานในการบินฝ่าสภาพอากาศอันโหดร้ายเข้าไปโจมตีก้อนเมฆเพื่อสรัางฝนจากน้ำพระราชหฤทัยของในหลวงให้ตกสู่ไร่นาของเกษตรกรไทยมายาวนานหลายสิบปี ทำให้ไทยเป็นชาติแรก ๆ ในโลกที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมสภาพอากาศ การแสดงจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในเกาะหมู่และท่าทางการบินที่สวยงามของหมู่บินสาธิต Green Hawk ที่สร้างความประทับใจมาแล้วทั่วประเทศ จนชื่อเสียงไปไกลถึงขั้นที่หมู่บินผาดแผลง Snow Birds ของกองทัพอากาศแคนาดาต้องเอ่ยปากชมว่า นายมันแน่จริง ๆ
10. อย่าพลาดชม Gripen, F-16 "The Century Falcon", และหมู่บินผาดแผลง Blue Phoenix
ซึ่งต้องถือเป็นไฮไลต์สำคัญที่สร้างขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปีโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น F-16 "The Century Falcon" ที่ใต้ท้องเป็นภาพของเครื่องบินแบบนิเออปอร์ท 2/4 ซึ่งเป็นเครื่องบินรบแบบแรกของกองทัพอากาศเมื่อ 100 ปี สื่อให้เห็นถึงการรำลึกและสำนึกในความสำคัญของเครื่องบินอันบอบบางที่ทำจากไม้ ผ้า และท่อเหล็กเมื่อ 100 ปีก่อนลำนี้ ซึ่งเป็นรากฐานให้กับกองทัพอากาศไทยจนสามารถปฏิบัติงานกับเครื่องบินอันทรงพลังอย่าง F-16 ลำนี้ได้ในปัจจุบัน
ส่วน Gripen เปรียบเสมือนภาพแห่งอนาคตที่กองทัพอากาศกำลังก้าวเข้าสู่ 100 ปีข้างหน้าด้วยวิสัยทัศน์ในการเป็นหนึ่งในกองทัพอากาศที่ดีที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และหมู่บินผาดแผลง Blue Phoenix ที่เปรียบเสมือนการส่งผ่านจิตวิญญาณของการบินของชาติ จากนักบินผาดแผลงรุ่นพี่อย่างหมู่บินผาดแผลงแสนเมือง ซึ่งหนึ่งในสมาชิกของหมู่บินในวันนั้น คือผู้บัญชาการโรงเรียนการบินในปัจจุบัน มาสู่นักบินรุ่นน้อง ที่จะสืบสานจิตวิญญาณของการบิน จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อการบินของไทยจะยังคงอยู่และก้าวผ่าน 100 ปีด้วยความเข้มแข็งและเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยสืบไป
ในช่วงเวลาสองสามปีที่ผ่านมา มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่ได้มีโอกาสฉลองวาระครบรอบ 100 ปีของการบินของชาติของตน ซึ่งนั่นรวมถึงประเทศไทย เนื่องจากในช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่เพิ่งผ่าน 100 ปีการขึ้นบินของพี่น้องตระกูลไรท์มาเพียงไม่นาน นั่นแสดงให้เห็นถึงรากฐานที่มั่นคงของการบินของไทย นี่จึงเป็นโอกาสพิเศษที่ทุกท่านได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และความภาคภูมิใจนี้เอาไว้ เพื่อที่จะได้ลูกหลานของเรา และให้พวกเขาช่วยกันพัฒนาการบินของชาติไทยต่อไปในอีก 100 ปีข้างหน้านี้
Credit ข้อมูล: Thaiarmedforce
-----------------------------------------
- ล่าสุด F-16C ทอ.สิงคโปร์ และหมู่บินผาดแผลง Jupiter ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว
ดูรายละเอียดงานและการแสดงการบินได้ที่นี่ >> คลิก <<