UN สั่งคว่ำบาตรเกาหลีเหนือจากการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่อย่างเป็นเอกฉันท์ เพื่อตอบโต้การทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเมื่อเดือนก่อน หลังการบรรลุข้อตกลงระหว่างสหรัฐและจีน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 15 ชาติ ได้ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 15-0 สนับสนุน "มติ 2094" ประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งรวมถึงความเข้มงวดข้อจำกัดด้านธุรกรรมทางการเงิน และการเดินทาง
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงฯ เกาหลีเหนือได้ประณามการซ้อมรบระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ พร้อมระบุว่า กองทัพเกาหลีเหนืออาจชิงโจมตีด้วยนิวเคลียร์ก่อนเพื่อทำลายฐานที่มั่นของผู้รุกราน นางซูซาน ไรซ์ ทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็น กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรใหม่จะยิ่งโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือ จำกัดความสามารถในการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ และผู้นำเกาหลีเหนือจะได้รับบทเรียนราคาแพงกรณีท้าทายประชาคมระหว่างประเทศ พร้อมเตือนว่ายูเอ็นจะดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดต่อไป หากเกาหลีเหนือยังคงทดสอบนิวเคลียร์อีกครั้ง
ด้านนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อเกาหลีเหนือเป็นการส่งสัญญาณว่าประชาคมระหว่างประเทศจะไม่ยอมให้เกาหลีเหนือพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์แต่อย่างใดส่วนนายหลี่ เป่าตง ทูตจีนประจำยูเอ็นเปิดเผยว่า เรื่องที่มีความสำคัญเร่งด่วนที่สุดในขณะนี้ก็คือ การปลดชนวนความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และจะต้องมีการจัดการเจรจา 6 ฝ่ายโดยเร็วที่สุด ขณะที่นายคิม ซุก ทูตเกาหลีใต้ประจำยูเอ็นกล่าวว่า การทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นการกระทำที่คุกคามความมีสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีและทั่วภูมิภาค
ซึ่งวันนี้ (8 มีนาคม) สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า โฆษกกระทรวงต่างประเทศว่า การเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามเกาหลีครั้งที่ 2 คงเป็นไปไม่ได้ เพราะสหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ ไม่ยอมทำตามที่เกาหลีเหนือ เรียกร้อง ที่ขอให้ยกเลิกการซ้อมรบร่วม ที่จะเริ่มในวันจันทร์หน้า ซึ่งถือเป็นการจุดชนวนสงคราม และกองกำลังปฏิวัติของเกาหลีเหนือ จะใช้สิทธิ์ชิงโจมตีด้วยนิวเคลียร์ เพื่อทำลายที่มั่นของกลุ่มผู้รุกรานก่อน
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือ ขู่มาตลอดว่าจะโจมตีกองกำลังอเมริกันในเกาหลีใต้ พร้อมอวดอ้างว่า ขีปนาวุธพิสัยไกลของเกาหลีเหนือ สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ และยิงได้ไกลถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งคำขู่ครั้งล่าสุด มีขึ้นหลังจากกองทัพเกาหลีเหนือ ประกาศจะฉีกข้อตกลงสงบศึกปี 2496 เมื่อ 2 วันก่อน
ส่วนทางสหรัฐระบุมีศักยภาพสูงในอันที่จะปกป้องตัวเองจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ หลังเปียงยางขู่ชิงโจมตีก่อนด้วยระเบิดนิวเคลียร์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ว่า นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า กองทัพสหรัฐสามารถรับมือกับการโจมตีไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม และย้ำถึงคำเตือนก่อนหน้านี้ว่า เกาหลีเหนือทำอะไรไม่ได้นอกจากคำขู่คุกคามและท่าที่ก้าวร้าวเท่านั้น
คำแถลงของโฆษกทำเนียบขาว ก็เพื่อตอบโต้คำขู่ของเกาหลีเหนือซึ่งระบุว่า จะชิงลงมือก่อนด้วยการโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์ เพื่อตอบโต้สหรัฐ หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ เพราะการทดลองนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา
โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า การคว่ำบาตรเกาหลีเหนือก็ยิ่งทำให้เกาหลีเหนือถูกโดดเดี่ยวยิ่งขึ้นและยังทำให้ผู้นำเกาหลีเหนือรู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้น หากยังฝ่าฝืนต่อประชาคมโลก
เครดิต www.matichon.co.th,Toptenthailand