. . . .
หลังจากไม่ได้เข้ามาเป็นเวลา 9 วันรู้สึกๆอะไรก็เปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียวแหะ = ="
แม้แต่ FB ก็เปลี่ยนไปเยอะพอตัว (แค่สัปดาห์เดียวเองเปลี่ยนเยอะ "เรือ" ) - -*
เอา่ล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า มาดูกันกว่ายุคนั้นกว่าจะได้เป็นนั้นยากขนาดไหน?
~::Warning::~
ว่าด้วยที่เรื่องเกี่ยวกับอัศวิน . . . .
( เอิ่ม......อย่าทำผมนะ =x=" ) //Facepalm
"อัศวิน"
ในสังคมยุโรปพัฒนาขึ้นในช่วงสมัยกลาง ก่อนปี ค.ศ. 1200 อัศวินเป็นชนชั้นทางสังคมหนึ่งต่างหากที่อยู่เหนือชาวนา แต่ก็ยังต่ำกว่าขุนนาง แต่หลังปี ค.ศ. 1200 ช่องว่างระหว่างอัศวินกับขุนนางก็สิ้นสุดลง จนกระทั่งสิ้นสุดสมัยกลาง อัศวินและขุนนางก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของชนชั้นสูงเช่นเดียวกัน
อัศวิน (knight หรือที่เรียกว่า milites ในภาษาละติน) ปรากฏขึ้นในปลายศตวรรษที่ 10 ในฐานะที่เป็นกลุ่มชนชั้นเฉพาะของคนติดอาวุธ ที่ขุนนางจ้างมาสำหรับป้องกันปราสาทให้กับตน
อัศวินและขุนนางเป็นชนชั้นที่ยังแยกกันอยู่เรื่อยมาจนกระทั่งประมาณ ค.ศ. 1200 ขุนนาง (noble หรือที่เรียกว่า nobiles ในภาษาละติน)
ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินผู้สั่งสมความมั่งคั่งเรื่อยมาจากรุ่นสู่รุ่น จนอาจเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีข้อจำกัดในการใช้อำนาจในเขตแดนของตน
และอัศวินที่รับใช้ขุนนางเหล่านั้นก็มักจะยากจนและมีกำเนิดมาจากครอบครัวชาวนาผู้ต่ำต้อย
~เพิ่มเติม~ : หากคุณคิดว่าอยากจะเป็นอัศวินแค่ไปรบแล้วมาชนะก็ได้เป็นคุณคิดผิดถนัด เพราะ ในยุคที่เริ่มมีอัศวินตั้งขึ้นมาผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งหรือเป็นอัศวินนั้นจะต้องเป็นสายเลือดเดียวกันกับอัศวินชึ่งคนธรรมดา,ทาส,ชาวนา ฯลฯ จะไม่สามารถเป็นได้ยกเว้นเพียงแต่ว่าจะได้รับการแต่งตั้งโดยองค์กษัตริย์เท่านั้น
ในเวลาต่อมา
อัศวินเริ่มเข้าไปผสมกับชนชั้นสูงมากขึ้นโดยการได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากชนชั้นสูงและผ่านการแต่งงานเข้าสู่ตระกูลขุนนางเหล่านั้นด้วย
ดังนั้น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเช่นนี้ จึงมีการเรียกขุนนางว่าเป็น domini (เจ้า - lord) อีกทั้งมีอัศวินบางคนที่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกับ พวกเจ้า เช่น การสร้างป้อมค่ายต่าง ๆ รอบที่ดินของตน เป็นต้น
ศาสนจักรก็มีส่วนช่วยในการเพิ่มพูนสิทธิพิเศษให้แก่อัศวินโดยการเน้นบทบาทของนักรบในฐานะที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ของชาวคริสต์ที่ได้รับมาจาก พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับบทบาทของพระ
การตั้งอัศวิน (dubbing of a knight = การตั้งอัศวินเป็นพิธีกรรมสำคัญในการที่บุคคลจะได้รับตำแหน่งจากเจ้านายเหนือหัวของตน ในแง่นี้หมายถึงการนำดาบแตะไหล่เพื่อสถาปนาเป็นอัศวิน)
กลายเป็นพิธีรับศีลของการเป็นอัศวิน (sacrament of knighthood)
~เพิ่มเติม~ : แต่ก่อนอัศวินได้แต่งตั้งขึ้นกันเองจากบุคคลที่มีอำนาจกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งและ่ค่อยๆสืบทอดต่อกันมาจนทำให้เป็นพิธีกรรมการแต่งตั้งอัศวิน
ชึ่งแต่ก่อนพระจะทำการแต่งตั้งและให้พร แต่ในเวลาต่อมามีเพียงแต่กษัตริย์ เท่านั้นที่แต่งตั้งส่วนพระก็ให้พรตามเดิม (ลดหน้าที่กันสินะ -w-" )
ยิ่งกว่านั้นการทำสงครามครูเสดต่อต้านชาวมุสลิมในดินแดนศักดิ์สิทธิ์และชื่อเสียงของคณะอัศวินบางกลุ่ม อย่างเช่น อัศวินฮอสพิทาลเลอร์ (Knight Hospitaler) อัศวินเทมพลา (Knight Templar) และอัศวินทิวทอนิค (Teutonic Knight) เป็นต้น
รายระเอียดปลีกย่อยของอัศวินบางกลุ่มเริ่มต้นจาก สงครามครูเสด (The Crusades)
ปราสาทของ อัศวินฮอสพิทาลเลอร์
อัศวินฮอสพิทาลเลอร์ (Knight Hospitaler) ตั้งขึ้นในยุคสงครามครูเชตใน ค.ศ 1099
สัญลักษณ์ อัศวิน Saint Lazarus
อัศวิน Saint Lazarus (กลุ่มย่อยของ Knight Hospitaler) ตั้งขึ้นใน ค.ศ 1100
สัญลักษณ์ อัศวินเทมพลา
อัศวินเทมพลา (Knight Templar) ตั้งขึ้นใน ค.ศ 1118 และ ถูกยุบ ใน ค.ศ 1307
สัญลักษณ์ อัศวินทิวทอนิค
อัศวินทิวทอนิค (Teutonic Knight) เป็นกลุ่มอัศวินที่มีความรุ่งโรจน์สูงสุดและมีระยะเวลายาวนานที่สุด เริ่มใน ค.ศ. 1190 และถูกให้ไปรบในยุคสงครามชิงในดินแดนของ Prussia ถึงในปี ค.ศ 1525
ชึ่งช่วยทำให้เกียรติภูมิของอัศวินในฐานะนักรบชาวคริสต์เพิ่มสูงมากขึ้น ๆ วรรณคดีหลายเล่มอย่างเช่นเรื่อง บทเพลงแห่งโรแลนด์ (Song of Roland) และเรื่องพระเจ้าอาเธอร์ (Arthurian romance)
ล้วนแต่ยกย่องพฤติกรรมของอัศวินทั้งสิ้น อนึ่ง เมื่ออัศวินมีที่ดินเป็นของตนเอง ก็ยุติความแตกต่างที่แยกระหว่างขุนนางกับอัศวินลง พร้อมกันนั้นก็เกิดชนชั้นใหม่ที่ขยายขนาดขึ้นเป็นขุนนางและอัศวินผู้เป็นเจ้าของที่ดิน
หลักฐานต่าง ๆ สมัยกลางใช้คำอันหลากหลายเมื่อต้องเอ่ยถึงอัศวินและขุนนาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเคยมีช่องว่างที่กั้นระหว่างอัศวินกับขุนนางอยู่
ในต้นศตวรรษที่ 12 นักเขียนจึงแยกระหว่างอัศวินธรรมดา อัศวินที่เป็นอัศวินระดับกลาง และอัศวินที่เป็นขุนนางระดับสูง
ขอบคุณข้อมูลจาก
เอกสารประกอบการศึกษารายวิชา ประวัติศาสตร์ยุโรปสมัยกลาง โดย จักรฤทธิ์ อุทโธ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พ.ศ. 2545
และ
http://en.wikipedia.org/wiki/Knight เยอะมากแต่แปลเอาเนื้อๆ - -"
ที่จริงมีอัศวินหญิงด้วยล่ะเพียงแต่รายละเอียดเยอะพอสมควร (กว่าจะแปลหมด)
~::แถม::~ (ถ้าหามาลงได้อ่ะนะ) - -*
ขอบคุณภาพจาก Google Tag Left 4 Dead ครับ (ถ้ามีจริงๆตรูไม่เล่นดีกว่าแหะถ้ามีแบบนี้)