บทที่ 10 เริ่มเทศกาลด้วยรอยยิ้มจบด้วยหยาดน้ำตา
โค้ด PHP:
[SIZE=4]SATORIซาโตริ
ซาริจังเจ็บมากมั้ยจ๊ะ ริมิ.... นี่ผมตายแล้วเหรอ สงสัยโดนแผ่นป้ายทับตายแน่เลย
อื้ม..สบายมาก
เธอนี่จริงๆเลยน้า ยัยถั่วเน่า จะเอาตัวไปขวางแผ่นป้ายทำม้ายโง่รึเปล่า ปากคอเลาะร้ายชอบเรียกผมว่าถัวเน่า มีแค่คนเดียว....นากาเนะ
แต่.... ผมยังไม่ทันได้ชี้แจง เสียงเย็นชาพูดขัดขิ้นมา
โดนแผ่นไม้ยาวตั้งสองเมตรทับก็สมควรตายอยู่หรอก ผมหน้าซีดทันที
ตาย...ฉันตายแล้วหรอ
ยังหรอกจ้ะ โอ้!!!โล่งนึกว่าตายแล้วซะอีก ริมิทำแก้มป่องๆ พลางเชิดใส่ผมทำไปทำไม
เป็นอะไรริมิ
เชอะ สะบัดหน้าหนี ทำเป็นกระเง้ากระงอด เนื้อคู่ใครเนี่ยน่ารักจริงๆ
งอนอะไรของเธอ
เชอะ ไม่ธรรมดาแล้วไง แปลกๆนะ
ริมิโกรธอะไรฉันบอกได้มั้ย
.......... เงียบ.... เพี้ยะ!!!หน้าผมหมุนไปตามแรงปะทะของมือสาวขี้วีน ผมใช้มือลูบหน้าบรรเทาความเจ็บปวด
ตบฉันทำไม
เธอลืมพวกเราไปแล้วล่ะสิ ดูจะมีความสุขเหลือเกิ๊นกับเพื่อนใหม่ ชื่ออะไรนะยูกิโกะ นากาเนะหันไปถามความเห็นยูกิโกะ
เซ็ทสึกิ เรรินะ ค่ะ ยูกิโกะตอบ อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้น ผมกำลังพยายามช่วยทุกคนอยู่นะ
แต่....
ซาโตรินอกใจริมิ คนนิสัยไม่ดี คนหลายใจริมิเกลียดซาโตริแล่ว!!! ริมิโพล่งออกมา น้ำตาไหลพราก ผมไม่อยากเห็นเธอร้องไห้ได้โปรดหยุดเถอะ
ซาโตริ เสียงนี้มัน...เรรินะ
ไปสิ..ไปอยู่กับยัยนั่นซะ พวกเราเกลียดเธอกันหมดแล้ว นากาเนะเอ่ยปากไล่ผม ริมิยังคงร้องไห้ไม่หยุด ผมยื่นมือจะคว้าร่างนั้นเข้ามากอด ทว่ามือของผมกลับผ่านตัวของเธอไปเฉยๆเหมือนเธอไม่มีตัวตน
ซาโตริจังเหม่ออะไรอยู่ เมื่อกี๊ผมเห็นไปเองเหรอ ค่อยยังชั่ว ผมส่ายหัวไปมาเพื่อสะบัดภาพเมื่อครู่ออกจากความทรงจำ แต่ผมทำไม่ได้ภาพของริมิร้องไห้มันชัดเจนเกินจะลบเลือน
ป...เปล่า ผมโดนแผ่นป้ายทับแต่ไม่เป็นอะไรเลยแค่ถลอกนิดหน่อย มันเหลือเชื่อชาวบ้านบางคนถึงกับมองผมแบบแปลกๆแต่ผมไม่แคร์หรอก การเตรียมงานเทศการได้ดำเนินต่อไปและเร่งให้เสร็จทันตามคำขอของสาวขี้เอาแต่ใจ คนนี้ ซึ่งงานก็เริ่มทันหนึ่งทุ่มพอดีเรรินะตื้นเต้นสุดๆกับเทศกาลเหมือนเคยเป็นครั้งแรกที่เธอได้มางานนี้ ในงานมีอะไรให้เล่นหลายอย่าง ผู้ใหญ่เอยเด็กเอยแน่นไปหมด
งานเริ่มมาได้สักพักจนเวลาล่วงเลยมาถึงห้าทุ่มคนเริ่มซาลงบ้างแล้ว เฮ้อ จนแล้วจนรอดผมยังไม่เจอเรื่องเศร้าที่จะเปลี่ยนเรรินะเป็นมิสเทสได้เลยอะ คิดสิ คิดสิ คิดซี้
นี่จ้ะ อร่อยนะ เรรินะยื่นโอโคโนมิยากิให้ผม(กินมากไม่ดีนะเดี๋ยวอ้วน)
ขอบใจ
เราขอบคุณซาโตริมากนะ ถ้าไม่ได้เจ้าเราคงตายไปแล้ว เธอบอกขอบคุณผมเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
เรรินะถ้าให้ลุงเดานะ เรื่องแผ่นป้ายเป็นฝีมือของอิชิดะอย่างไม่ต้องสงสัย ลุงโยสึเกะคาดการณ์ ตาแก่คนนี้อาจดูเป็นมิตรกับทุกๆคน แต่ผมไม่รู้สึกอย่างนั้นเพราะแววตาที่เขามองผมมันเหมือนเขากำลังมองสิ่งที่น่าขยะแขยงสุดๆ
เราก็คิดเช่นนั้นค่ะ
ใครคือ อิชิดะ ผมถาม
เขาเป็นคนที่ไม่กินเส้นกับคุณปู่ เราไม่เข้าใจจะช่วยกันพัฒนาเมืองไม่ได้เหรอ ทำไมต้องแย่งชิงดีชิงเด่นกันด้วย นั่นสินะ ในยุคของผมก็เป็นแบบนี้เหมือนกันนี่นา
อีกนานมั้ยคะกว่าจะเริ่มจุดดอกไม้ไฟ สาวผิวหิมะถามลุงโยสึเกะ
ประมาณเที่ยงคืน จะไปที่เนินนั่นอีกใช่มั้ย ตาลุงพูดอย่างรู้ทันพลางมองเรรินะ สายตาจริงจังขึ้นมาทันที
ใช่ค่ะ
ไม่ได้ๆต้องมีใครไปด้วยไม่งั้นไม่ต้องไป ผมรู้แล้วล่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
ซาโตริไปเป็นเพื่อนเราหน่อยนะ ว่าแล้ว ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไรสาวเจ้าหันไปหาลุงโยสึเกะ
ทีนี้ไปได้แล้วใช่มั้ยคะ ผมยังไม่ได้ตกเลยนะ ยัยนี่เหมือนริมิชะมัด
เออๆระวังตัวด้วยล่ะ ป่าตอนกลางค่ำกลางคืนมันตราย
ค่าาาาาาาาาาาาา เรรินะรับคำสีหน้าระรื่นเชียว
ซาโตริไปกันเถอะ
ที่ไหน
ก็ตรงที่เราบอกว่าซาโตริเป็นปีศาจ... จำไม่ได้หรอ จำได้สิ ใครจะไปลืมกันเล่า
ด...เดี๋ยว เหวอ เรรินะ เล่นจับมือผมแล้วพาวิ่งไปเนินเขาโดยไม่ถามความสมัครใจเหมือนริมิจริงๆ
เนินเขาเมืองฮิโรชิมา
RERINA
แฮ่กๆ แฮ่กๆ พากันวิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมาบนเนิน มันเป็นที่พิเศษสำหรับเรา คนที่รู้มีน้อยคนนัก เราอยากให้ซาโตริได้เห็นวิวที่อันจะสวยงาม สีของดอกไม้ไฟ บึ้ม บึ้ม ท..ทันเวลาพอดี
ว้าว ดอกไม้ไฟสวยจัง ซาโตริเอ่ยปากชม พลางยิ้มกว้าง
ใช่มั้ยล่า มันสวยจริงๆนะสีแดง สีส้ม สีม่วง แตกกระจายเป็นวงกว้างกลางอากาศแล้วค่อยๆสลายหายไปกลางนภาเป็นเพียงเถ้าธุรี สวบๆๆๆ เสียงฝีเท้าวิ่งเหยียบหญ้า เราหันไปมองร่างที่ทำให้เกิดเสียงนั้น
คุณหนูแย่แล้วขอครับ ท..ท..ท่านซาโต้ ท่านซาโต้ อยู่ดีๆโรคเก่าเกิดกำเริบ ตอนนี้นอนเจ็บปวดอยู่บ้านขอรับ
คุณปู่!!!
คุณหนู!!! เสียงนากามุระ
เรรินะซาโตริ... เราเหลียวหลังไปมอง ซาโตริวิ่งตามเรามาพร้อมกับนากามุระที่วิ่งตามมาติดๆ บ้าน่าเมื่อตอนเย็นคุณปู่ยังดูแข็งดีอยู่เลยทำไมจู่ๆอาการถึงกำเริบได้ คุณปู่รอหนูก่อนนะคะหนูจะไปหาเดี๋ยวนี้ เราวิ่งลงเนินแล้วตรงดิ่งเข้าหมู่บ้าน น้ำใสๆคลอเคลียเบ้าตาเราร้องทำไมคุณปู่ยังไม่ตายซักหน่อย เข้มแข็งไว้สิเรรินะคุณปู่ไม่มีทางตายหรอก ไม่มีทาง
บ้านของเรรินะ
วิ่งเข้ามาในบ้านญี่ปุ่นแบบโบราณมีสองชั้นคุณปู่อยู่ชั้นสองแน่นอน ขึ้นมาชั้นสองคุณปู่นอนซมด้วยความเจ็บปวด มือขวายื่นไปกลางอากาศเหมือนควานหาอะไรสักอย่าง
คุณปู่คะ เรรินะอยู่นี่แล้ว เราตรงเข้าไปประคองมืออันเหี่ยวย่นอย่างหลวมๆ
แค่กๆ แค่กๆ เรรินะหลานที่น่ารักของปู่
คะ หนูอยู่นี่แล้ว อย่าตายนะคะ เราพยายามกลั้นน้ำใสๆที่เรียกว่าน้ำตาไม่ให้ไหล
ไม่ได้หรอก ถึงเวลาที่ปู่ต้องไปแล้ว
แต่คุณปู่คะ...หนู...หนู ฮึก เราเสียงสั่น คุณปู่ใช้มือข้างที่เหลือเอื้อมมาลูบหัวเราอย่างเอ็นดู
อย่าร้องไห้เลยนะ โรคคนแก่ก็อย่างนี้แหละ แค่กๆ จากนี้ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปหลานอย่าได้ท้อเด็ดขาดนะ แค่กๆ แค่กๆๆๆๆๆๆๆๆ.............
คุณปู่!!!!!! เสียงไอหายไป คุณปู่หลับตาลง พร้อมกับมือที่อ่อนแรง เราจับมือนั้นแน่น คุณปู่แค่หลับไปใช่มั้ยคะ นากามุระเห็นดังนั้นเดินมาจับชีพจร ก่อนจะหันมาส่ายหน้าให้เรา จะไม่มีแล้วใช้มั้ยความอบอุ่นที่เคยได้สัมผัส ไม่ว่าเราจะมีความสุขมีเรื่องทุกข์ใจ หรือเสียใจมือนี้มักลูบหัวเราเสมอ บัดนี้ไม่มีอีกแล้วความรู้สึกนี้ได้จากไปพร้อมกับคุณปู่ที่จากลาอย่างสงบ น้ำตามันไหลออกมาเจ่อนองสองแก้ม ซาโตริโอบกอดตัวเราจากด้านหลัง
ฮึก ขอบคุณนะซาโตริ ฮึก ฮืออออออออออออออ.....
ไม่เป็นไรข้าเข้าใจ ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูอย่างบ้าคลั่ง นากามุระเดินลงไปดูผู้มาเยือนในยามวิกาล
ฮือออออออออออออออ
หยุดร้องเถอะ ปู่ของเจ้าคงไม่ชอบแน่ๆ
อื้ม...เราจะ ฮึก หยุดร้องไห้ ฮึก นากามุระวิ่งขึ้นมาหน้าตาตื่น แถมชักดาบคู่ใจออกมาถือไว้เช่นนั้น ต้องมีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นเป็นแน่
คุณหนูรีบหนีไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลยขอรับ
ทำไมใครมาเหรอ เราถามชายหน้าตื่น
อิชิดะ มันกำลังพังประตูเข้ามาขอรับ อิชิดะ??? แสดงว่าข่าวไปไวจริงๆ และนี่จะมาทำไม หรือว่าจะมาฆ่าเรา ต้องใช่แน่ๆ
จะหนีไปยังไง ซาโตริถามนากามุระ
ทางหน้าต่างขอรับ กระผมจะลงไปขวางพวกนั้นให้ นากามุระวิ่งลงไปแล้ว ด....เดี๋ยวเราจะปีนลงยังไงตั้งสูงแหน่ะ ซาโตริมองหน้าเรา แล้วคลี่ยิ้ม ท่าทางร้อนรนของเรามันน่าตลกขนาดเลยเหรอ เราไม่ใช่ตัวตลกนะ
ข้ารู้นะว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ วิธีปีนลงไม่ยาก แค่เพียงเจ้ากับข้าช่วยกันเอาเสื้อมาผูกกันเป็นเชือกแล้วมัดกับอะไรสักอย่างให้แน่นก็ปีนลงไปได้แล้ว ไอเดียบรรเจิดมาก พูดจบเรารื้อเสื้อผ้าที่คิดว่าไม่ได้ใช้แล้วแน่ๆ มาให้ซาโตริผูกเป็นเชือก
พอแล้วแค่นี้น่าจะพอ ในมือของซาโตริเป็นเสื้อผ้าที่ผูกกันเรียบร้อยเร็วแท้ ก่อนจะจัดการมัดมันเข้ากับเสาหลักของบ้าน เรากับซาโตริค่อยๆปีนลงทางหน้าต่าง ถึงแม้มันจะลำบากนิดนึงก็ตามทำไงได้เราใส่ยูคาตะอยู่นะ
เอาไงต่อดี เราขอความเห็นซาโตริ
วิ่งเข้าป่าดีมั้ย
ไม่เอา มีหวังได้หลงป่ากันพอดี
เจอแล้ว ยัยปีศาจอยู่นั่นไง ป...ปีศาจ มีปีศาจอยู่แถวนี้หรอ หันไปมองเจ้าของเสียงนั้น ลุงโยสุเกะนั่นเองค่อยโล่งหน่อย
แกไอ้ปีศาจจะไปไหน ลุงโยสึเกะว่าพลางชี้หน้าเรา ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ เมื่อตอนหกโมงยังเรียกเราว่าเรรินะอยู่เลย เพราะอะไร นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ต้องหนีก่อน ทว่าพอหันมาอีกด้านนึงปรากฎว่ากลุ่มชาวบ้านในมือถืออาวุธไม่ว่าจะเป็นดาบ มีด กระทะ(เอามาทำไม) วิ่งมายืนล้อมปิดทางหนีไว้เรียบร้อย
เฮ้ย ทำไมปีศาจมันมีสองตนวะ ชาวบ้านคนนึงพูดขึ้น ม..ม..หมายความว่าไง เราไม่ใช่ปีศาจนะ ซาโตริก็ไม่ใช่ปีศาจเหมือนกัน
ทำไมต้องว่ากันแบบนี้ด้วยล่ะคะ เราเอ่ยถาม
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หัวเราะ??? หัวเราะทำไมไม่ใช่เรื่องตลกสักหน่อย
ยัยเด็กโง่เจ้าคิดว่าพวกข้าพูดคุยกับเจ้าจากใจจริงรึ ลุงโยสึเกะบอก เราพยักหน้าด้วยความเป็นคนซื่อ
ไม่ใช่!!!เพราะเงินต่างหาก ปู่ของเจ้าให้เงินกับพวกข้าแลกกับต้องทำดีกับเจ้า รู้ไหมว่าชาวบ้านเขาเกลียดแก....ไม่ใช่สิเรียกว่าขยะแขยงกันหมดน่าจะถูกกว่า เพราะแกเป็นลูกครึ่งมันเป็นสิ่งอัปรีย์ของหมู่บ้าน ในเมื่อปู่เจ้าตายก็ไม่มีใครจ่ายเงินพวกข้าดังนั้นเจ้าออกไปจากหมู่บ้านซะถ้าไม่อยากตาย
ล้อเล่นใช่มั้ยคะ ชายแก่ปรายตามองเราอย่างรังเกียจ
ยังไม่ชัดเจนอีกใช่มั้ย ข้าจะพูดแทนคนทั้งหมู่บ้านเลยนะว่าแกเป็นตัวประหลาดก็แค่ปีศาจในคราบมนุษย์ไสหัวออกไปซะ แสดงว่าทุกคนตรงนี้ไม่มีใครจริงใจกับเราสักคน ทุกอย่างที่เรารู้สึกกับหมู่บ้านนี้เป็นแค่สิ่งลวงหลอกถูกสร้างขึ้นมาเท่านั้นด้วยอำนาจเงินตรา จากนี้ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปหลานอย่าได้ท้อเด็ดขาดนะหนูเข้าใจแล้วค่ะว่าปู่ต้องการจะบอกอะไรหนู
ม..ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่เกียจเรา อย่างน้อยเรียวจิคนนึงที่ไม่คิดเช่นนั้น
เมื่อเช้ามีจดหมายจากทางการสอดอยู่หน้าบ้านข้า ตอนแรกข้าไม่กล้าเปิดอ่านแต่พอคิดว่าอาจเป็นจดหมายจากเรียวจิ ข้าเปิดอ่านเนื้อหาในจดหมายบอกว่าเรียวจิตายอย่าผู้กล้าในสนามรบ อีนังปีศาจ เพราะแกลูกของข้าถึงได้ตาย อุตส่าย้ำนักย้ำหนาแล้วแท้ๆว่าอย่ามายุ่งกับตัวอัปรีย์ ไม่งั้นจะมีอันเป็นไป รู้ไว้ด้วยนะทุกคนที่เข้าใกล้แกจะต้องตายห่ากันหมดดูอย่างปู่แกสิเมื่อกี๊ยังดีๆอยู่เลยไหงจู่ๆพอเที่ยงคืนโรคที่ว่าน่าจะรักษาหายไปแล้วกลับมากำเริบซะได้ไหนจะลูกของข้าอีกทำไมถึงตายได้ คำตอบนั้นง่ายมากเพราะแกไงอีนังชั่ว ผิวของแกคิดว่าสวยนักเรอะ ขาวอย่างกะปีศาจหิมะ เอาชีวิตของลูกข้าคืนมา!!!เอาชีวิตของลูกข้าคืนมา!!! ป้าชิสึกะก่นดาเราอย่างเกี้ยวกราดพลางกัดฟันกรอดด้วยความโกรธแค้นก่อนจะเปลี่ยนมาร้องไห้แทน
เราทรุดตัวลงนั่งปล่อยหยาดนำเม็ดใสสมเพศในความโง่ของตัวเอง......นี่เราเป็นตัวอะไรกันเป็นปีศาจ หรือเป็นสิ่งอัปมงคลของหมู่บ้านเราเป็นใคร.....
SATORIซาโตริ
ขี้แยไปได้ เรียกสิว่า...คุณปู่มาช่วยหนูด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พวกแก!!!ผมผลักชายคนที่ด่าเรรินะ แล้วนั่งคร่อมมันไว้จากนั้นประเคนหมัดไม่ยั้งจนคนโดนต่อยหน้าบวมเป่งคางแตกฟันหัก ผมเหล่ตามองชายหน้าปลวกที่ยืนลังเลเป็นเสียนาน เริ่มตัดสินใจง้างดาบหมายจะฟันคอผม กึก (หยุดเวลา) อ้อมไปด้านหลังของมันจัดการเตะกล่องดวงใจไม่ยั้ง กึก (เวลาเดิน)
โอ๊ยยยยยยยยยยย เสียงร้องโอดโอย มันหน้าเขียวปั๊ดเพราะความจุก พูดก็พูดเถอะน่าจะขอบใจผมสักหน่อยอุตส่าทำหมันให้ฟรีไม่คิดตังค์สักบาท ชาวบ้านบริเวณรอบๆ ต่างเหวอไปตามๆกัน ไม่คิดกันล่ะซี้ ว่าผู้หญิงสวยแบบผมจะบู๊เป็น
ฮือออออออออออออออออ เรรินะ....
ข้าถามพวกเจ้าหน่อยเถอะ ทำไมถึงเกลียดเรรินะขนาดนั้น ผมจ้องเข้าไปยังนัยน์ตาของแต่ละคน ใครก็ตามที่สบตาผมต่างหลบสายตาเบือนหน้าหนี
.......... ตอบไม่ได้สักคน
เพราะมันเป็นลูกครึ่ง เจ้าก็เป็นเฉกเช่นเดียวกับมัน ใครฟะเนี่ยปิดตาข้างนึงอย่างกับโจรสลัด
ช...ใช่ๆ ท่านอิชิดะพูดถูก ชาวบ้านเสริมขึ้นมาทันที.... อ้อ ไอ้อิชิดะที่เมื่อกี๊จะพังประตูเข้ามานั่นเองหน้าตาอย่างนี้หรือนี่หน้ายาวๆคางแหลมๆผมยาวกระเซอะกระเซิง แล้วคนที่บอกจะถ่วงอิชิดะไว้ล่ะ
แล้ว..
นากามุระน่ะรึ มันตายไปแล้ว รู้ด้วยว่าผมจะถามอะไร ช่างแสนรู้(ไม่ใช่หมา)
เจ้าใช้เหตุผลแค่นั้นมาเกลียดคนนี่นะ
ใช่ คำเดียวสั้นๆ
ไอ้เลว ไอ้ชั่ว แค่นั้นไม่ได้เรียกว่าเหตุผลหรอกนั่นมันเรียกว่าอคติส่วนตัว
แก!! ชายหัวเถิกเกิดปี๊ดขึ้นมาทันทีทำท่าจะชักดาบแต่อิชิดะยกมือห้ามปราม
สาวน้อยข้าชอบเจ้านะ ฝีปากจัดจ้านดีอีกอย่า.....
ข้าไม่อยากได้รับคำชมจากเจ้าจำไว้ อิชิดะปลายคิ้วชนกันบ่งถึงความโกรธเล็กน้อย
แต่เรื่องมารยาทต้องปรับปรุงสงสัยข้าต้องสั่งสอนเสียหน่อย เผื่อเจ้าจะไ.... สั่งสอนเรอะ ผมนี่แหละจะด่ามันกลับให้สาสมเลยคอยดู๊
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ พวกเจ้ารังเกียจอะไรในตัวเรรินะกันแน่รูปลักษณ์ภายนอก หรือนึกหมั่นไส้ เพราะเป็นลูกครึ่งแค่นั้นเหรอไร้สาระสิ้นดี เรรินะเคยไปฆ่าใครรึไง เคยสร้างเรื่องวุ่นวายในหมู่บ้านรึเปล่า ข้าจะบอกให้ความหมายของคำว่ารังเกียจคืออะไรไม่ใช่อยู่ดีๆจะเกลียดก็เกลียดมันต้องมีสาเหตุเช่นเกลียดจากการกระทำอันเลวทราม หรือเกลียดสิ่งที่คนๆนั้นคิดจะทำ พวกเจ้าอาจไม่รู้ตัวแต่การกระทำและความคิดของพวกเจ้ามันน่ารังเกียจยิ่งกว่าสิ่งเรรินะเป็นอยู่เสียอีก โดยเฉพาะเจ้าอิชิดะ อย่างแกคงเป็นได้แค่คนเลวทรามต่ำช้ายิ่งกว่า.....ยิ่งกว่าอะไรลองคิดดูแล้วกัน แบร่ๆๆ ผมแลบลิ้นปริ้นตาใส่อิชิดะมันหน้าแดงกล่ำเพราะความโกรธ สะใจจริงๆ
แก!!!ย้ากกกกกกกกกกก ไอ้เถิกตัวเดิมชักดาบข้างกายอย่างรวดเร็ว คิดว่าจะฟันผมโดนเหรอ กึก (หยุดเวลา) ผมเดินไปแตะไหล่เรรินะ เพื่อเธอจะสามารถขยับได้ ยังไม่หยุดร้องไห้อีกเหรอ น่าสงสารจัง
เรรินะเลิกร้องได้แล้วทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะ
จริงนะ เธอปาดน้ำตาบนหน้าพลางลุกขึ้น
ข้าไม่หลอกเจ้าอยู่แล้ว
ก..เกิดอะไรขึ้นทำไมทุกคนไม่ขยับเลยล่ะเพราะอะไร เรรินะมองหน้าผมสลับกับมองชาวบ้านถึงเวลาที่ผมต้องบอกความจริงสักที
ข้ามีเรื่องจะสารภาพ ข้าไม่ใช่คนในยุคนี้หรอก ข้าเดินทางข้ามเวลามา
อย่ามาล้อเล่นนะ จ..เจ้าเป็นปีศาจใช่มั้ย
ข้าไม่ใช่ปีศาจ แต่...
ไม่ต้องพูด อย่ามาใกล้ข้านะถอยไป ข้าเกียจเจ้าคนโกหก เกียจเจ้า สาวหิมะว่าพลางเดินถอยหลังเรื่อยๆก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นกลับหันหลังร้อยแปดสิบองศาแล้วออกวิ่งทันที ผมก้าวเท้าจะวิ่งตาม ทว่า....
ท่านซาโตริเจ้าคะ รู้เลยว่าใคร สำเนียงการพูดแบบนี้ นึกจะมาก็มาเวลาต้องการตัวไม่เคยอยู่
มีอะไรอีก
ขณะนี้เป็นเวลา เที่ยงคืนสามสิบนาทีเจ้าค่ะ น้ำเสียงนิ่งเรียบเช่นเดิม เคยมีอารมณ์กับเค้ามั้ยเนี่ยแม่คุ้ณ
แล้ว....ยังไง สัญชาติญาญของผมบอกว่ากำลังจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
ระเบิดปรมาณูจะลงตอนเวลาตีหนึ่งเจ้าค่ะ เห็นมั้ยทำไมเวลาผมซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้บ้างนะ แสดงว่าเหลือเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง เรื่องเศร้าที่จะใช้เปลี่ยนเรรินะเป็นมิสเทสก็ยังหาไม่เจอผมมืดแปดด้าน ไม่รู้จะทำยังไง เอ....บางทีระหว่างวิ่งหาเรรินะผมอาจเผอิญคิดออกก็ได้ ว่าแล้วก็หันหลังเตรียมจะวิ่งแต่.....
จะไปไหนเจ้าคะ ถามอะไรโง่ๆ ผมคงไปวิ่งเล่นมั้ง
หาตัวเรรินะให้เจอ
แค่ครึ่งชั่วโมง ท่านซาโตริคิดว่าจะทันหรือเจ้าคะ
ทันสิ
หึๆๆๆ สีหน้าไม่มั่นใจเลยเจ้าค่ะ ข...ขำอะไรของเธอ คำว่าทันสิมันน่าขบขันขนาดนั้นเชียว แล้วหน้าผมมันบ่งแบบนั้นหรอ
ในเมื่อรู้ว่าไม่ทันพยายามต่อไปรังจะเจอแต่ความสูญเปล่าไม่จำเป็นต้องช่วยก็ได้นี่เจ้าคะ นิสัยคนเราจะเปลี่ยนบ้างไม้ได้เลยหรือ อ๊ะไม่สิปริทาด้าไม่ใช่คน แต่เป็นภูตต่างหาก
เธอจะให้ผมทำยังไง
ง่ายมากเจ้าค่ะ ทางเลือกของท่านคือลืมเรื่องของมิสเทสคนอื่นๆไปซะแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อิฉันรู้จักมนุษย์ดี เท่าที่สังเกตุมามนุษย์อย่างพวกท่านมีสี่ประเภท พวกแรกเป็นพวกเข้าใจอะไรหลายๆสิ่งได้ยากมากพอสมควร พวกสองมักทำอะไรโดยไร้เหตุผล พวกที่สามกระทำบางสิ่งโดยไม่หวังผล พวกสุดท้ายกระทำเพราะความปรารถนาเป็นแรงผลักดันช่วยแม้ว่าปลายทางที่รออยู่จะเป็นบ่อน้ำตา พวกนี้น่ากลัวสุด ท่านซาโตริคิดว่าตัวเองเป็นพวกไหนเจ้าคะ
........... พวกไหนล่ะไม่เห็นจะตรงกับผมสักข้อ
หากตอบไม่ได้อิฉันตอบให้เจ้าค่ะ แบบท่านเป็นประเภทที่สี่เหตุผลง่ายๆ การกระทำของท่านตอนนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดี เป็นการฝืนในเรื่องไม่ควรนั่นก็คือชะตากรรมเจ้าค่ะ ดังนั้นอิฉันขอแนะนำว่ากลับไปเวลาปัจจุบันแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ของท่านเถอะ ผมกำหมัดแน่น พยายามหักห้ามตัวเองไม่งั้นสาวเลือดเย็นตรงหน้า มีรอยประทับห้านิ้วไปแล้ว นายต้องใจเย็นเข้าไว้ ใช่แล้วนายต้องใจเย็น
อย่าทำเป็นรู้จักมนุษย์ดีไปหน่อยเลย เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมนุษย์ด้วยซ้ำ
ถ้าอย่างนั้นท่านจะอธิบายเรื่องการกระทำอันโง่เขลาของมนุษย์อย่างไรเจ้าคะ ย..ยัยนี่คิดว่าตัวเองเป็นใคร
มนุษย์น่ะ ทำทุกอย่างเพราะศรัทธาและเชื่อว่ามันจะเป็นจริงได้ในสักวันถึงแม้ครั้งแรกต้องเสียใจ ครั้งที่สองยังคงต้องเสียน้ำตา ไม่แน่บางที แค่บางทีครั้งที่สามอาจเกิดฟลุ๊คหรือดวงดีสำเร็จก็เป็นได้ สั่งสอนเสร็จ ผมกลับหันหลังก่อนจะออกวิ่งตามหาเรรินะปล่อยคนเลือดเย็นให้ยืนเดียวดาย เธอจะอยู่ไหนได้บ้าง งานเทศกาลเธอไม่ไปที่นั่นแน่ ความเป็นไปได้ทั้งหมดน่าจะเป็น......เอ้อรู้แล้ว ต้องเป็นที่นั่นแน่ๆ
เฮ้ย!!!นังปีศาจมันอยู่นั่น ผู้ชายเอ่อ....ผอมเนื้อติดกระดูก ตะโกน ด...เดี๋ยวดิผมหยุดเวลาอยู่ไม่ใช่เหรอทำไมไอ้บ้าพกดาบสองตัวถึงขยับได้ฟะ
หยุดดดดดด ชายร่างท้วมสั่ง ใครจะไปหยุดให้โง่ ผมวิ่งออกนอกเมืองจุดหมายคือเนินเขาขอให้เธออยู่ตรงนั้นบริเวณที่เธอกับผมเจอกันครั้งแรก แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมต้องจัดการชายสองคนที่วิ่งตามหลังมา พอเข้าเขตป่าก็หันกลับไปประจันหน้า พวกมันผงะก่อนจะชักดาบอยู่ในท่าเตรียมพร้อม
ตายยยยยยยยยยยยยยยยย โอยยยยยยยยย หนวกหูอยู่แค่นี้จะตะโกนทำไม ชายผอมเนื้อติดกระดูกยกดาบขึ้นเหนือหัวอย่างยากลำบากมือสั่นงักๆๆ โอ๊ยคุณพี่ถ้ามันทรมานขนาดนั้นฟันปกติธรรมดาก็ได้ แล้วฟาดลงมา ผมเอี้ยวหลบผลักดาบออก ก่อนจะพลุ่งหมัดใส่ท้องมันจังๆ ชายร่างท้วมหน้าถอดสีมองผมพลางตวัดดาบฟันอากาศไปมา
อย่าเข้ามาไอ้ปีศาจไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน
เฮ้อ ต้องให้บอกสักกี่ครั้งกัน ข้าไม่ใช่ปีศาจ ผมล่ะหน่ายใจจริงๆ
อ๊าาาาาาาาาาาาาาา ดาบพลุ่งทะลุท้องชายร่างท้วม ร่างที่ถูกแทงลงไปนอนจมกองเลือด ผมมองเจ้าของดาบยาวนั้น ชายปิดตาข้างเดียวซึ่งน่าจะโดนหยุดเวลาเอาไว้แต่กลับขยับได้ ใช่แล้วเบื้องหน้าผมคืออิชิดะ สายตาแดงฉานจ้องมองผมไม่กระพริบ หากผมไม่ได้ตาฝาดบนหน้าผากของมันมีตาที่สามเปิดอยู่
เข้าใจแล้ว แกเองสินะคนที่ทำให้เวลาของข้ากลับมาเดินตามปกติ มันแสยะยิ้ม แบบนี้แสดงว่ามันเป็นคนทำแน่นอน
เข้าใจถูกแล้วมิสเทสเอ๋ย หืม.....มันรู้จักมิสเทสด้วย เป็นไปไม่ได้ มันต้องไม่ใช่ปีศาจในยุคนี้แน่ๆ
เจ้ารู้จักมิสเทสได้ยังไง
อันตัวข้าไม่ใช่ปีศาจในยุคนี้ แต่เป็นปีศาจแห่งเวลาใช้พลังเดินทางย้อนมาหาความสงบเท่านั้นไม่เคยฆ่าใครหรือกินเลือดมนุษย์แม้แต่น้อย โกหก โกหกหน้าตายด้วย ผมไม่เชื่อ เมื่อกี๊มันยังฆ่าชายร่างท้วมอยู่เห็นๆ
เจ้าไม่เชื่อข้า แต่ข้ามีเหตุผลก่อนทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ มาตอนแรกข้าเป็นเพียงปีศาจที่น่ารังเกียจต้องหนีหัวซุกหัวซุนขโมยกินของๆชาวบ้านไปวันๆสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว จนครั้งนึงข้าคิดว่าจะยอมอดตายเพื่อไม่ให้ชาวบ้านต้องคอยระแวงข้าอีก..... อิชิดะเล่าเรื่องของตัวเองไม่ถามผมเล้ยว่าอยากฟังมั้ย และยังคงเล่าต่อสีหน้าจริงจัง
จนกระทั่งข้าได้เจอกับเธอคนที่ฉุดข้าขึ้นมาจากความทุกข์ โอ้..ซานาเอะยอดรักของข้า นางเป็นหญิงสาวหน้าตาอัปลักษณ์แต่จิตใจนางนั้นช่างงามล้ำเหลือจะเอ่ยนางเกลี้ยกล่อมชาวบ้านให้เชื่อว่าข้าเป็นเพียงชายอัปลักษณ์เท่านั้น ตอนแรกเกือบจะไม่มีใครเชื่อแต่เพราะนางเป็นคนดีเกินกว่าจะโกหก ชาวบ้านทุกคนต่างเชื่อสนิทใจ หลังจากนั้นข้าได้ใช้ชีวิตอยู่กินกับนางจนมีลูกด้วยกัน ทว่า...... เล่าต่อเซ่ อย่าทิ้งวรรคให้อยากแล้วจากไปได้มั้ย ทำหน้าเศร้าแบบนั้นคงเกิดเรื่องไม่ดีใช่ไหม
มันเกิดอะไรขึ้น ผมถาม ไม่ได้ละลาบละล้วงนะ
ซ...ซานาเอะ..ธ..เธอโดนฆ่าตายโดยมนุษย์ ลูกข้าก็ด้วย อิชิดะตะกุกตะกักในการตอบ
คนฆ่าลูกเมียเจ้าเห็นหน้ามันรึเปล่า เฮ้ย!!!ทำไมมองผมเขม็งแบบนั้นอ่ะน่ากลัวนาอย่างกะกินเลือดกินเนื้อกันนั้นแหละ
เจ้านั่นแหละที่ฆ่าลูกเมียข้า ข้าไม่เคยลืมสาวผมแดงดั่งเพลิงดวงเนตรราวกับอัคคีเสมือนรุกไหม้ตลอดเวลา ข้าอุตส่าหนีมาหลังจากสงครามหอคอยซาบิน่า เจ้ากลับตามมาราวีข้าถึงที่นี่ ในนามของปีศาจแห่งเวลาหากฆ่าเจ้าไม่ได้จะไม่ขอมีชีวิตอีกต่อไป อิชิดะตะพูดขณะกัดฟันกรอดอย่างโกรธแค้น ผม??? ไปฆ่าใครตั้งแต่เมื่อไหร่ถ้าให้เดาคงเป็นตัวผมในอดีตแน่ โอย ทำไมต้องพาเรื่องซวยมาให้ด้วยนะ เขาหนีไปแล้วปล่อยเขาไปไม่ได้รึไง จะบ้าตาย นี่ก็เหลืออีกแค่ครึ่งชั่วโมงจะทันมั้ยเนี่ย
มา!!!หยิบดาบตรงนั้นแล้วมาตัดสินกันให้รู้แพ้รู้ชนะ พร้อมแล้วเข้ามาเลย!!! อิชิดะโพล่งจบพร้อมกับอยู่ในท่าเตรียม เฮอะ สู้ก็สู้ฟะผมหยิบดาบขึ้นมาจับกระชับให้แน่นมือ
ก่อนอื่นข้าขอบอกว่า คนที่ฆ่าลูกเมียเจ้าไม่ใช่ตัวข้าในตอนนี้แต่เป็นชาติก่อนของข้าดังนั้นข้าขอโทษด้วย เอาล่ะข้าพร้อมแล้ว อิชิดะจัดการเหวี่ยงดาบทันที ตัวดาบสีขาวด้ามจับเป็นสีทองมันรวยเว้ย เคลื่อนมาอย่างเร็วชนิดที่ว่าดูแทบไม่ทัน ฉึก ผมเอี้ยวตัวหลบแต่ไม่แคล้วหัวไหล่ขวาต้องชิมปลายดาบของอิชิดะ มือขวาผมถือดาบใช้มือข้างที่เหลือปิดบาดแผลไว้ เลือดสีแดงไหลไม่หยุด มันแสบเหมือนมดกัด
เป็นไงล่ะ อิชิดะเยาะเย้ย หน็อย ถ้าหยุดเวลาแล้วฟันมันจะได้มั้ยนะ ผมดูแท่งโซลริมิทปรากฎว่ามันเหลือเพียงก้นแท่งจะพอรึเปล่า ต้องลองดู
ขำไปเหอะ ข้ายังมีไม้ตายอยู่
ฮ่าๆๆๆๆๆ อิชิดะจู่ๆเกิดระเบิดหัวเราะซะอย่างนั้นมีอะไรน่าขำหรือว่ามันกลัวจนเป็นบ้า
แกจะต้องขำไม่ออก กึก(หยุดเวลา) เอาล่ะ ผมฟาดดาบเข้ากลางกบาลบนร่างของชายที่ค้างในท่าหัวเราะ ก่อนจะจัดการไล่ฟันลงมาเรื่อยๆนับได้เกินยี่สิบแผล กึก(เวลาเดิน) ฟุบ ห..หายไปแล้วได้ไงยังอยู่ตรงนี้อยู่เลย
เปล่าประโยชน์น่า เจ้าคงลืมไปแล้วว่าข้าก็ใช้พลังเกี่ยวกับเวลาเช่นกัน ล...ลืมเสียสนิทเลย ซวยล่ะเสียงมันมาจากด้านหลัง ผมรีบหันกลับมาทว่าเบื้องหน้าคือปลายดาบซึ่งกำลังจะแทงทะลุผ่านตัว ผมทำอะไรไม่ได้เลยใช้พลังวิญญาณหมดไปแล้วด้วย อืม......ไม่น่าจะเจ็บมากหรอกมั้ง ฉึกกกกกกกกก
อัก มันเจ็บและเจ็บมากทีเดียว ดาบที่ผมถือหลุดจากมืออัตโนมัติ
ในที่สุดก็ฆ่าเจ้าได้สำเร็จ อา.....ผมจะตาย ทำไมโลกช่างโหดร้ายแบบนี้ ปีศาจร้ายอิชิดะผลักผมออกจากดาบของมัน ร่างของผมในชุดยูคาตะสีฟ้าถูกย้อมด้วยโลหิตแดงฉานค่อยๆล้มทั้งยืน
อย่ามาว่ายัยถั่วเน่านะฉันไม่ยอมจริงๆด้วย........จากอัตราการคำนวณของฉันแค่โดนแทงท้องไม่ถึงตายหรอก.......ซาริจังห้ามตายนะจ๊ะ นากาเนะ....ยูกิโกะ.....ริมิ.....ผมขอโทษ ขอโทษจริงๆ คนห่วยๆอย่างผมได้ริมิเป็นเนื้อคู่ถือว่าโชคดีไม่น้อย คนโชคร้ายคงเป็นริมิ ขอโทษนะทุกคนหากตัวผมมีพลังมากว่านี้อาจจะเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้ โถ่โว้ย
สายตาผมเริ่มพร่ามัวมัน...เลือนรางขึ้นเรื่อยๆ เห็นเป็นเงารางๆรู้ว่าเป็นอิชิดะแน่ มันยกมืนขึ้นเหนือศรีษะคาดว่าของในมือน่าจะเป็นดาบ ใจคอจะซ้ำให้ตายเลยหรือไงไอ้เลวเอ๊ย นี่ผมกำลังถอดใจยอมแพ้ใช่มั้ย ไม่ได้ผมจะยอมแพ้ไม่ได้ ขอโอกาสให้ผมอีกสักครั้งเถอะแท่งโซลริมิทหรือใครก็ได้มอบพลังให้ผมทีเถอะได้โปรด!!!วิ้งงงงงงงงงงงงงง
ต...ตาข้า แสบตาโว้ย โอ๊ยยยยยย อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาา แสบตา??? เสียงร้องโหยหวนนั่นอีก เกิดอะไรขึ้น???
เจ้าลุกไหวมั้ย ส...เสียงใคร ทำไมเป็นผู้หญิง หรือว่าหูฝาดหว่า ผมพยายามกระพริบตาหลายๆครั้งเพล่งมองคนตรงหน้า พร้อมกันนั้นผมรวบรวมแรงทั้งหมดที่มียันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน
ให้ช่วยมั้ย... เธอว่าพลางยื่นมือมา ผมจับมือนั้นเธอช่วยดึงผมให้กลับไปยืนได้อีกครั้ง ผมก้มมองแผลที่ท้องมันหายไปแล้วรวมทั้งไหล่ด้วยราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น ผมผู้มาช่วยผมอย่างฉงนเธอเป็นใครกัน ผมแดงตาสีแดงหน้าตางี้โคตะระคุ้นคลับคล้ายคลับคราว่าจะเป็นคนรู้จัก ใส่ชุดนักเรียนญี่ปุ่นด้วยนะเป็นชุดกะลาสี ดำสนิท เหลือบไปเห็นร่างของอิชิดะนอนตายเป็นศพเรียบร้อย ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันฆ่าอิชิดะได้อย่างง่ายดาย
เรารู้จักกันรึเปล่า ผมถามเธอ
(คิกๆๆๆยิ่งกว่ารู้จักอีก ฉันคือเธอในชาติที่แล้ว เรียกฉันว่าโฮคุระ อาโอย....) แนะนำตัวเองเสร็จสรรพ ห๊า ย...ย..อย่าบอกนะว่าเป็นผี ปากเธอไม่ขยับทว่าผมกลับได้ยินเสียงของเธอดังก้องอยู่ในหัว
(ที่ถูกต้องเรียกว่าวิญญาณมากกว่าอ่ะนะ ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ) อย่า..อย่ายิ้มหน้าบานอย่างนั้น แถมรู้ความคิดผมด้วยไม่จริ๊งงงงงงงงงง เอ้อ...รู้แล้วหน้าเหมือนใครเหมือนผมไงต้องโม้แน่ๆเรื่องอย่างนี้มันโกหกทั้งเพผมไม่เคยมีฝาแฝดสักหน่อย
(เป็นความจริงจ้ะ ฉันกับเธอเป็นคนๆเดียวกัน) ยืนยันด้วย...
เอ่อ...ผม...เอ่อ..ฉัน
(แทนตัวเองว่าผมก็ได้ พวกเรารีบไปหาเรรินะจังกันเถอะ) น..นั่นสินะผมลืมไปได้ไงเดี๋ยวค่อยถามลายละเอียดทีหลังก็ได้ ผมกับอาโอย วิ่งขึ้นเนินต่อตามหาเรรินะ อาโอยไม่ได้วิ่งนะแต่พี่แกลอยตามมาติดๆ
ทำไมบาดแผลของผมถึงหายไปเฉยๆล่ะ
(เมื่อกี๊ซาโตริต้องการมีชีวิตต่อใช่มั้ยล่ะ)
ก็ใช่แต่มันเกี่ยวข้องกันยังไง
(ดังนั้นฉันซึ่งหลับใหลอยู่ในส่วนลึกของนายจึงตื่นขึ้นมาช่วยนายไว้ โดยใช้พลังเปลี่ยนแปลงบางสิ่งซึ่งไม่ต้องย้อนเวลาให้เมื่อย เปลืองพลังวิญญาณเพียงนิดเดียว) ง่ายแบบนั้นเชียว วิ่งมาได้สักพักเลยเนินขึ้นมาอีก ไม่เจอสักทีฟะ
ฮืออออออออออออออออออ คนร้องไห้ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร เรรินะ ผมมองหาสาวผมแดงในชุดยูคาตะสีชมพู เธออยู่นั่นนั่งร้องไห้อยู่ตรงต้นไม้ใหญ่ ผมเดินเข้าหาร่างบางตัวสั่นเทาอย่างช้าๆก่อนจะกอดเธอจากด้านหลัง ทว่าเรรินะสะบัดออกแล้วหันหน้ามากอดผมแทน เธอจะเห็นอาโอยรึเปล่านะ
(ไม่เห็นแน่นอนคนที่เห็นมีแต่ซาโตริเท่านั้น) อาโอยบอก
ฮึก เราขอโทษซาโตริที่จู่ๆบอกเกียจเจ้า ฮึกๆ พอดีตอนนั้นเราเสียใจเพราะเรียวจิตาย เรียวจิ??? เธอบอกพร้อมลูกสะอื้น
ไม่เป็นไร ข้าไม่โกรธ แต่บอกได้มั้ยใครคือเรียวจิ
(ละลาบละล้วงไปแล้วนะ) อาโอยตำหนิผม ก็คนมันอยากรู้อ่ะ
เราบอกเจ้าไม่ได้หรอกขอโทษด้วย เรรินะตอบ เรียวจิคงเป็นคนสำคัญของเรรินะถึงได้บอกไม่ได้
อื้ม ข้าเข้าใจหยุดร้องเถอะเรียวจิรู้คงไม่ชอบเป็นแน่รวมปู่เจ้าด้วย เธอใช้แขนเสื้อเช็ดคราบน้ำตา ก่อนจะฝืนยิ้มแบบสุดๆ
ซาโตริเจ้าเป็นมนุษย์หรือปีศาจก็ช่างแต่ช่วยอะไรเราอย่างนึงได้มั้ย หน้าตาของเธอตอนนี้น่าสงสารจับใจผมเหลือเกิน
อ..อะไรถ้าข้าช่วยได้จะช่วยเต็มที่ ทำไมผมรู้สึกแปลกๆหมือนจะเกิดเรื่องไม่ดียังไงไม่รู้
ช่วยทำให้เราพบกับเรียวจิทีเถอะนะ
อ...เอ๋เรื่องนั้นมัน...... จะทำยังไงดีเรรินะทำหน้าจะร้องไห้อีกรอบ ผมไม่อยากเห็นเธอเสียใจอีกแต่จะ....นี่แหละเรื่องเศร้าที่ผมตามหามานาน ปริทาด้าไปอยู่ไหนซะล่ะเวลาต้องการไม่เคยเจอตัว
(ปริทาด้า??? ยังอยู่อีกหรอ) อาโอยถาม ผมไม่ชอบยัยปริทาด้าเลย อาโอยไม่รำคาญยัยนั่นมั่งเหรอ
(ไม่อ่ะ งั้นฉันจะบอกวิธีเรียกปริทาด้าให้) วิธีเรียก??? ทำไมผมไม่เคยรู้ ว่าแต่เรียกยังไง
(คิดตามคำพูดฉันนะ ปริทาด้า มาหาฉันมิสเทสของเธอ มาหาฉันนายหญิงของเธอ) ปริทาด้า มาหาฉันมิสเทสของเธอ มาหาฉันนายหญิงของเธอ จะมาจริงๆเร้อออออออออออออ
ทำให้เราได้มั้ย เร..ริ..นะ ผมอยากช่วยเธอจริงๆแต่ปริทาด้าไม่มาสักที
เรียกอิฉันรึเจ้าคะ ปริทาด้ายัยนี่มันวาร์ปมาใช่ม้ายยยยยยยยยยยยย
เออใช่มาช้าชะมัด สาวผิวหิมะหน้าซีดเมื่อเห็นยัยภูต มือจับชายเสื้อผมแน่น ผมต้องบอกเธอว่าไม่ต้องกลัวปริทาด้าหรอกเพราะยัยนี่ไงที่จะทำให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริง
ไม่ต้องกลัวนะผู้หญิงคนนี้ชื่อปริทาด้า จะทำให้ทุกอย่างที่เรรินะต้องการเป็นจริงได้
จริงเหรอ เรรินะไม่เชื่อ ผมจึงพยักหน้าหงึกๆให้เธอรู้ว่าตัวผมไม่ได้โกหก
จริงเจ้าค่ะ อิฉันช่วยท่านเรรินะได้ เชิญอธิฐานเจ้าค่ะ เสียงไร้อารมณ์สุดๆ เรรินะบีบมือผมแน่นเธอหลับตาพริ้มปากขยับมุบมิบเหมือนบ่นอะไรบางอย่าง ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็นจริงจัง
อย่างน้อย ขอให้เราได้เจอกับเรียวจิเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี ทันใดนั้นแสงสีชมพูเปล่งรัศมีเจิดจ้าจากตัวเรรินะ มันจ้ามากเสียจนผมต้องถอยมาตั้งหลักข้างๆปริทาด้า เมื่อแสงนั้นจางลงปรากฎร่างของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหน้าตาดีในเครื่องแบบทหารญี่ปุ่นสูงกว่าเรรินะ พื้นที่รอบๆเปลี่ยนไปด้วยจากต้นไม้ที่เหี่ยวเฉากลับกลายเป็นต้นซากุระผลิใบสวยงดงามดั่งกับว่าธรรมชาติเป็นใจให้เธอ
เรียวจิ เรรินะเรียกชายตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา เธออาจไม่เชื่อด้วยซ้ำว่ามันจะเป็นจริงได้
เรรินะ เรียวจิเรียกเรรินะกลับ
ผม...ผมตายไปแล้วนี่นา เรียวจิบอก การพูดของเขาแตกต่างจากคนอื่น
เรารู้...เรารู้ สาวผิวหิมะคุมเสียงไม่ให้สั่น จับเสื้อทหารนั้นพลางเขย่าระคนโดนขัดใจ
แต่เรรินะไม่ตายใช่มั้ย เรรินะพยักหน้า เรียวจิเป่าปากดังฟู่อย่างโล่งอก
คนผิดสัญญา คนนิสัยไม่ดี เจ้าสัญญาแล้วแท้ๆ เราโกรธเจ้า เราโกรธเจ้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีกแล้ว คนงอนสะบัดหน้าหนีพร้อมกันนั้นก็หมุนตัวร้อยแปดสิบองศาแล้วยืนกอดอก เรียวจิจับไหล่เรรินะหมุนตัวเธอให้กลับมาหาก่อนจะสวมกอดก่อนอย่างแนบแน่น
ผมมีอะไรจะบอกเรรินะ ชายหนุ่มในชุดทหาร มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยของสาวผิวหิมะ
..................... เธอเงียบ รอฟังคำพูดของชายตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น
ผมรักเรรินะมาตลอด แค่เรรินะปลอดภัย ถึงร่างกายนี้จะต้องสูญสลายผมก็ยอม เสียงที่เปล่งออกมาเจือปนไปด้วยความห่วงใยและรักมากเกินจะบรรยาย เรรินะน้ำตาคลอ
เรียวจิ....เรารักเจ้าเหมือนกันรักมากว่าเจ้าหลายร้อยเท่าเลยด้วย คนถูกบอกรักยิ้มน้อยๆที่มุมปาก ก่อนจะเปลี่ยนมาซีเรียส
ลืมผมเถอะ เรรินะ เรรินะหัวใจแทบสลายเรียวจิไม่ได้รักเธอเลยหรือ ถึงได้พูดคำว่าลืมออกมาได้ง่ายๆ
เราทำไม่ได้หรอก เพราะไม่อยากจะเสียความรู้สึกนี้ไป เรียวจิมีสีหน้าลำบากใจ
แต่..มนุษย์กับคนตายไม่อาจรักกันได้ เรรินะก็รู้ดีไม่ใช่หรือ เรรินะกำลังจะร้องไห้อย่างไม่ต้องสงสัย เธอพยายามกล้ำกลืนฝืนมันไว้ใต้ดวงตาร้อนผ่าว
เราขอโทษถ้าเราบอกเจ้าให้เร็วกว่านี้ก็คงจะดี อย่างน้อยเราคงทำให้ใจเจ้ามีความสุขมากกว่านี้เป็นแน่
รู้ไหมความสุขของผมคืออะไร เรรินะส่ายหน้าขวับๆ เรียวจิมองร่างบางตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม
การเห็นคนที่รักยังมีชีวิตอยู่ถึงไม่มีผม เรรินะต้องมีชีวิตอยู่ให้ได้นะสัญญากับผมได้มั้ย
เราสัญญา ชายหนุ่มค่อยๆโน้มตัวบรรจงจูบริมฝีปากชมพูอวบอิ่มของสาวผิวหิมะ ฉับพลันนั้นร่างของเรียวจิมีอันต้องกลายเป็นกรีบดอกซากุระ ล่องลอยบินวนรอบๆตัวเรรินะ
เรียวจิ ไม่ว่ายังไงเราจะไม่ลืมเจ้า ได้ยินมั้ยเราจะไม่ลืมเจ้าเรียวจิ!!! ดอกซากุระปลิวไปตามสายลม ลอยสูงขึ้นและสูงขึ้นจนลับตา เรรินะมองตามซากุระเหล่านั้น เธอปล่อยหยาดน้ำตาให้หลั่งไหลไม่ขาดสายพลางทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นสองมือปิดหน้า สีหน้าบิดเบี้ยวเมื่อต้องสูญเสียคนรักไปตลอดกาล บริเวณรอบๆกลับคืนสภาพเป็นต้นไม้สีเขียวดังเดิม
ร่างสั่นเทาของสาวผิวหิมะส่องแสงรัศมีสีชมพูเรืองรองก่อนจะถูกดูดกลืนด้วยแท่งโซลริมิทแล้วเลือนหายเข้าไปในตัวเธอ เรรินะลุกขึ้นยืนหยุดร้องให้ซะเฉยๆ สายตามองตรงมายังผม เธอเดินมาใกล้ จากนั้นเธอโผลเข้ากอดผม
เรารู้แล้วว่าเจ้าเป็นใครและเราเป็นใคร พูดอะไรแปลกๆ เธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเรรินะคนเมื่อกี๊หายไปไหนแล้ว
อย่าทำหน้างงอย่างนั้นสิซาโตริ เจ้ามาหาเราเพราะอะไรลืมแล้วหรือ มาหาเพราะ.....
เออใช่....เรื่องยารักษาโรคของข้า แต่เจ้ารู้ได้ยังไง เรรินะคลี่ยิ้มบางๆ
ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เท่านั้นที่เรารู้ยังมีเรื่องของปริทาด้าและก็มิสเทสด้วย อ้อ...เรื่องที่เจ้าเป็นผู้ชายด้วย ม...ม..หมายความว่า...
(หมายความว่าพวกเราได้ความทรงจำของเรรินะมาด้วยไง) อาโอย.... เรื่องผมเป็นผู้ชายมีคนรู้เพิ่มอีกคนแล้วหรือนี่
เราจะผสมสมุนไพรให้รอแป๊ปนึง ไม่ต้องเครียดเรื่องที่เจ้าเคยเป็นผู้ชายเราไม่บอกใครหรอก โอ้!!!โล่ง เรรินะเรียกกล่องยาออกมาอย่างชำนาญพลางนั่งคุกเข่าเปิดวัตถุทรงสี่เหลี่ยม ภายในเต็มไปด้วยเอ่อ....ผมจะอธิบายยังไงดี มันมีแต่ใบไม้ล้วนๆ ซึ่งผมไม่รู้เลยว่ามันเป็นใบของต้นอะไรบ้าง แหะๆ
ท่านซาโตริเจ้าคะระเบิดลงแล้วเจ้าค่ะ ระเบิด!!!ผมหันขวับมองปริทาด้า สีหน้าเรียบเฉยได้โล่จริงๆ อ้อเกือบลืม น้ำเสียงด้วยนิ่งไร้อารมณ์สุดๆ
มันปล่อยลงมาแล้วเหรอ
เจ้าค่ะ
ปริทาด้ามาช่วยเราหน่อย เรรินะเรียกยัยภูตให้ไปเป็นลูกมือผสมยา ผมเงยหน้ามองท้องฟ้า บนนั้นมันไม่ได้มีแค่พระจันทร์ดวงกลมเพราะลูกระเบิดปรมาณูสีดำสนิทกำลังล่วงลงมาเรื่อยๆจุดที่จะตกคาดว่าน่าจะเป็นใจกลางเมืองฮิโรชิม่า ต้องใช้หยุดเวลา กึก(เวลาไม่หยุด) เฮ้ย พลังวิญญาณของผมมันหมดไปแล้วนี่หว่า ตายๆๆๆๆ
(ไม่ตายหรอกน่า นายลืมฉันไปแล้วเหรอ) อาโอยเตือนสติผม บอกมาสิว่าจะให้ทำยังไง
(ฉันจะแบ่งพลังของฉันให้นายไปใช้) แบ่งพลัง อาโอยพูดจบแท่งโซลริมิทของผมเพิ่มมากระจึ๋งนึงจะไปพออะไร เอาเถอะลองดูก่อน กึก(หยุดเวลา) สำเร็จ ผมแตะตัวเรรินะกับปริทาด้าเพื่อให้ทั้งสองคนขยับตัวได้
(นายรู้อะไรเกี่ยวพลังแห่งเวลามั่งเนี่ย) รู้แค่ว่าหยุดเวลาได้ตามใจต้องการ อย่าบอกนะว่ามันมีมากกว่านั้น
(ก็ใช่น่ะสิ!!! พลังของเราสองคนทำอะไรได้มากกว่านั้นเสียอีกยกตัวอย่างเช่นเมื่อกี๊ ถ้าซาโตริคิดว่าให้ระเบิดนั่นหยุดอย่างเดียวมันก็จะหยุดแค่อย่างเดียวจำไว้อะไรจะหยุดบ้างขึ้นอยู่กับใจของเรา เข้าใจมั้ย) ค...ครับเข้าใจแล้ว จู่ๆอาโอยขึ้นเสียง เล่นทำผมตกใจเลยอะ
ซาโตริ ดื่มนี่ซะแล้วเจ้าจะหายจากโรคของเวลาไม่หวนคืน เรรินะยื่นถ้วยน้ำชาให้ ผมรับมันมาถือสองมือไอร้อนระเหยเป็นระยะ
ทำไมมันร้อน
ในกล่องของท่านเรรินะจะมีทุกอย่างที่ใช้ทำสมุนไพรเจ้าค่ะ ผมมองน้ำขุ่นสีเขียวข้นยืนทำใจอยู่สักพักก็คนกลัวขมผิดมั้ยล่ะ คงไม่ขมเท่าไหร่หรอกมั้ง ว่าแล้วก็กินมันรวดเดียวเลย ร..ร้อน ปากพลองแล้วเนี่ย ผมใช้มือพัดปากเป็นพัลวัลร้อนนนนนนนนนนน
ฟู่ ฟู่ ค่อยยังชั่ว โดนขนาดนี้ถ้าไม่หายผมจะฆ่าปริทาด้าเป็นคนแรกเลยคอยดู
ลองหมุนเวลาดูเจ้าค่ะ เออรู้แล้วไม่ต้องบอก ผมเรียกนาฬิกาพกคู่ใจออกมา จัดการหมุนมันโดยคิดเรื่องของริมิอยู่ มันขยับได้ไม่มีติดขัด
ทำหน้าแบบนั้นแสดงว่าได้สินะเจ้าคะ ปริทาด้าจับแขนผม ยัยนี่ไม่น่าให้กลับหรอก
เรรินะไปกับข้าได้ไหม เธอตีหน้าเศร้าขึ้นมาทันที
จะดีหรือ แต่.... ผมสวนเธอกลับก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา
ดีสิ ดีแน่นอน ข้าอยากให้เจ้าไปด้วย เธอกำลำลังเลสินะ
เจ้าสัญญากับเรียวจิแล้วไม่ใช่หรือ ดังนั้นมากับข้าเถอะ ผมใช้เรียวจิเป็นข้ออ้างซึ่งมันได้ผลเพราะสาวผิวหิมะเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋าแล้วทำให้มันหายไปก่อนจะกำมือผมแน่น แท่งโซลริมิทของผมแทบไม่เหลือให้ใช้คงต้องฝืนกันหน่อยล่ะ ริมิผมกำลังไปหารอก่อนนะผมจะเปลี่ยนชะตาชีวิตของเธอ จะสร้างเส้นทางที่มีแต่ผมเท่านั้นสามารถทำได้
แสงสีฟ้าเปล่งแสงเจิดจรัสจากตัวซาโตริ มันดูดกลืนสี่สาวให้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เวลาทุกอย่างกลับมาเดินอีกครั้งระเบิดปรมาณูล่วงลงสู่ฮิโรชิมาร่างเงาดำมืดมองดูสามสาวหายไปอย่างเงียบๆ ก่อนจะพูดว่า
เมื่อไรที่มิสเทสทั้งห้ารวมตัวกันครบอีกครา
ครานั้นคือหายนะ
เด็กน้อยเอ๋ยวาระสุดท้ายของพวกเจ้าเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้วล่ะ
"หากจะแก้ไขอีกครั้ง ไม่ได้แล้วนะ"
ร่างเงาแสยะยิ้มอันชั่วร้ายเพียงนึกถึงแผนการที่เตรียมไว้อย่างดีความชั่วสะท้อนเด่นชัดอยู่ในกมล ก่อนจะเลือนหายไป ก่อนระเบิดลงเพียงเสี้ยววินาที... ร่างนั้นคือใคร มีจะจุดประสงค์อะไรกันแน่[/SIZE]
บทที่ 11 ใครกันแน่ที่ไร้สาระ
โค้ด PHP:
RIMI ริมิ
ซาริจังอย่าตายนะ ลืมตาสิจ๊ะ จู่ๆซาริจังก็ไม่หายใจ เพราะอะไร หรือว่าขี้เกียจเอาอากาศเข้าปอด บ้าไปแล้วริมิ บ้าๆๆๆเธอไม่ได้เอาหัวคิดใช่มั้ย
ยัยถั่วเน่าเป็นไงมั่ง ถ้าเป็นลมแดดแม่จะตบให้ล่วงอีกรอบ นากะจัง...
ซาริจังเขา...ซาริจังเขา...ซาริจังต...ตายแล้วจ้ะ ริมิตอบเสียงสะอื้น นากะจังหน้าขึงขังในบัดดลพร้อมกันนั้นผลักตัวริมิออก แล้วกระชากร่างไร้วิณญาณขึ้นมาตบซะหลายฉาด ย..หยุดนะนากะจัง เพี้ยะ เพี้ยะ
อย่ามาล้อเล่นนะซาโตริฉันไม่ขำด้วย ยัยถั่วคั่ว ยัยถั่วเน่า ยัยสวยโง่ ยัย...ยัย...ฉันยังมีคำด่าเธออีกมากมายลุกมาฟังสิ.....ตื่นมา....ทะเลาะกับฉันเดี๋ยวนี้!!! นากะจังตะคอกซาริจัง ว่าแต่ยูกิจังหายไปไหนแล้ว
เฮ้...เพื่อนเธอแค่เป็นลมใช่มั้ย เปะโปะ..อ๊ะพวกวงมาสเตอร์อยู่ด้วยนิ บรรดาแฟนเพลงที่ตอนแรกส่งสายตาอาฆาตซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แต่บัดนี้สายตาเหล่านั้นที่มองมาบนเวทีกลับมีเพียงความสงสารถึงแม้บางคนจะคิดว่านี่เป็นการแสดงจัดฉากสร้างเรื่องก็ตาม
ปริทาด้าหายไปไหนไม่รู้ ยูกิจัง...ไปขอให้ปริทาด้าช่วยนี่เองหัวแหลมมาก เอ๊ะ!!! เมื่อกี๊ว่าไงนะปริทาด้าหายไป แล้วใครจะช่วยซาริจังล่ะทีนี้
รีบหนีไปจากที่นี่เร็วเข้า นี่คือสิ่งที่ซาริจังพูดก่อนจะไม่หายใจจ้ะ ต้องมีอะไรแปลกๆแน่เลย
หืม...ฉันว่ามันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้วล่ะ นากะจังก็คิดเหมือนริมิใช่มั้ยจ๊ะ
ให้ฉันเดานะ ซาโตริเป็นมิสเทสแห่งเวลา ไม่แน่บางทีเธออาจจะเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าก็ จึงคิดจะบอกพวกเรารวมทั้งคนบนหาดด้วย แต่เพราะอะไรสักอย่างที่ทำให้เธอไม่สามารถบอกได้สังเกตได้จากอาการปวดหัวแบบไม่ทราบสาเหตุ อ้อ..และบางทีอาจจะยังไม่ตายด้วย จริงหรอจ๊ะถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ ริมิจะได้ไม่ต้องร้องไห้ เสียน้ำตาไปโดยเปล่าประโยชน์
พวกเธอจะคุยกันสามคนรึไง สรุปเพื่อนเธอเป็นลมรึเปล่า นายเปะโปะ....คนไม่มีมารยาทไม่เห็นเหรอว่าคนเขาคุยกันอยู่ยังจะแทรกเข้ามาอีก นั่นดูทำหน้าเข้าสิ ริมิรู้สึกไม่ถูกชะตากับนายนี่อย่างแรงหน้าก็สวยกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก
นายยุ่งอะไรด้วย ริมิถาม
เฮ้...นี่มันเวทีพวกฉัน พวกเธออยู่บนนี้ จะให้ว่าไงดีเพื่อนเธอเป็นลมได้ไง เสียการแสดงหมด ชายหัวฟ้าเป็นมือเบสของวงมาสเตอร์ตอบแทนเปะโปะ นิสัยไม่ดี ไม่ห่วงคนเลยนี่นา
นาย..นาย... ไม่ได้ๆริมิเธอจะทะเลาะกับคนพรรค์นี้ไม่ได้ รีบหนีไปจากที่นี่ดีกว่าแต่ก่อนอื่น.....
ทำไม เธอจะว่าอะไรฉัน สีหน้ายียวนกวนประสาทวอนหาบาทามันน่า....จริงๆ(ตบ) ใจเย็นริมิ ใจเย็นๆ พอใจเย็นได้ระดับนึง ริมิแย่งไมค์จากนายหัวฟ้า มาถือในมือ
ทุกคนจ๊ะ รีบหนีไปจากที่นี่กันเถอะ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ไม่ต้องถามเพราะริมิ ก็ตอบไม่ได้เหมือนกันจ้ะ ริมิยื่นไมค์คืนเอ่อ....นายหัวฟ้าไม่รู้ชื่ออะ
นายก็ควรหนีด้วย หันไปบอกเปะโปะ เขาขยับปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ริมิไม่รอฟังหรอกไม่ใช่เรื่องซะหน่อย รีบซอยเท้าหนีลงเวทีดีกว่า
ฉันอุ้มยัยนี่เอง เสียงนี้ใช่เลย นายเปะโปะ ริมิหันกลับไปมอง เปะโปะกำลังอุ้มร่างของซาริจัง ไม่น้าาาาาาาาาาาาาา
กรี๊ด เหมือนเจ้าชายเลยค่า เสียงผู้หญิงคนนึงแปร๋นขึ้นมาเหมือนช้างเชียวพาให้ผู้หญิงอีกหลายคนกรี๊ดตามเป็นระยะ ใช่เหมือนเจ้าชาย แต่เป็นเวอร์ชั่นเจ้าชายอสูรน่าเกลียดน่ากลัวตัวละบาทนะ
นายปล่อยซาริจังเดี๋ยวนี้เลยนะ ริมิว่าพลางชี้หน้าชายหน้าสวย
ไม่ปล่อย อ๊ายยยยยยยยยยยยยย
เปะนายจะยุ่งเรื่องคนอื่นทำไม ชายใส่แว่นกรอบทองว่าเปะโปะ นายหน้าหวานทำสีหน้าไม่พอใจมองชายสวมแว่นแบบงอนๆ ริมิรู้ดี เพราะงอนซาริจังบ่อย(เรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งนั้น)
ก็ได้ ก็ได้ อ่ะยัยหัวส้มฉันคืนให้ เพื่อนของเธอฉันไม่เอาไปไหนหรอก เปะโปะหันไปหานากะจัง สาวผมแกละรับร่างนั้นมาอุ้มต่ออย่างสบายๆ
หนักเว้ย บ่นทำม้ายยยยยยยยยยยยยย อุตส่าชม พวกเราสามคนพากันเดินไปห้องพัก โดยมีเสียงบ่นของนากะจังตลอดทางบ่นได้บ่นดีจริงๆ ปากบอกหนัก บอกว่าจะไม่อุ้มแล้ว แต่พอริมิบอกเปลี่ยนกันมั้ยพี่แกบอกไม่เป็นไรสบายมาก แล้วจะบ่นทำไมจ๊ะ แม่สาวขี้วีน
ร่างของซาริจังถูกวางบนเตียงอย่างนุ่มนวล ริมินั่งอยู่ข้างๆ เหลือบไปเห็นยูกิจังกับนากะจังจะเดินออกประตูห้อง
ทั้งสองคนจะไปไหนกันจ๊ะ ริมินึกว่าทั้งสองคนจะช่วยกันเก็บสัมภาระใส่กระเป๋าซะอีก
จะไปหาปริทาด้า นากะจังตอบ
เอ๊ะแล้วพวกเราไม่รีบหนีไปจากที่นี่เหรอจ๊ะ ยูกิเดินมานั่งข้างๆริมิพลางกุมมือแน่นมองเข้ามายังนัยน์ตาสีม่วง
ไม่ต้องห่วงนะ จำสีหน้าของซาโตริได้มั้ยว่ากระวนกระวายแค่ไหน.. ริมิพยักหน้าหงึกหงัก
นั่นแสดงว่าเรื่องร้ายๆที่ควรจะเกิด กำลังถูกเลื่อนเวลาออกไป ไม่งั้นพวกเราคงตายกันหมดแล้ว ทั้งหมดนี้ที่มันเปลี่ยนเพราะซาโตริต้องลงมือทำอะไรบางอย่าง ยูกิจังอธิบายต่อ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับนากะจัง เหลือริมิกับซาริจังสองคนซะงั้นอ่ะ
ซาริจังฟื้นขึ้นมาสักทีสิจ๊ะ
...... เงียบ
ซาริจัง ริมิเสียงสั่นเครือ
ฟื้นขึ้นมาซี่...ฟื้นขึ้นมา...ริมิยังไม่ได้บอกซาริจังเลย ว่าริมิดีใจขนาดไหนที่ได้เป็นเนื้อคู่กับซาริจังน่ะ ริมิทั้งเรียกทั้งเขย่าร่างนั้น แต่ซาริจังกลับไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นแม้สักนิดก็ไม่มี ริมิพยายามกลั้นน้ำใสๆบริเวณขอบตาซึ่งล้นปริ่มหน่อยๆให้หยุดเสีย ก่อนจะลุกไปหยิบกระเป๋าเดินทางสีน้ำตาลใบใหญ่ซึ่งอยู่มุมห้องขึ้นมาจัดของ เอ...เสื้อผ้าพวกนี้พับของตัวเองใส่ไว้ล่างๆก่อนดีกว่าแล้วค่อยเอาของซาริจังพับเก็บทับทีหลัง ถ้าซาริจังรู้ล่ะก็ต้องโกรธแน่ๆเลย แหมะ น...น้ำตา...ทำไม...ริมิร้องไห้ทำไม
อ๋อ....รู้แล้ว ตัวเราคงกลัว กลัวจะเสียซาริจังไป.......อย่าคิดอะไรบ้าๆเชียวริมิ ซาริจังไม่มีทางที่จะตายเด็ดขาด ซาริจังได้ยินเสียงริมิมั้ย ได้โปรดกลับมาทีเถอะจ้ะ ริมิคงอยู่ไม่ได้หากต้องอยู่คนเดียว หมับ ใครกำลังกอดริมิจากด้านหลัง ไม่ใช่นากะจัง หรือ ยูกิจัง แน่ๆ หรือว่า!!! สัมผัสแบบนี้จะเป็น
ซาริจัง ริมิหันกลับไปมอง....ผิดคาดถึงจะไม่ใช่สาวผมแดงแต่เป็นชายร่างท้วม ซึ่งริมิจำได้ดีว่าเป็นใคร ซาริจังในร่างผู้ชาย
เรียกซาโต้ได้มั้ย ซาริจังบอก ริมิพยักหน้า
แล้วนี่ทำไมซาโต้ถึงได้กลับไปเป็นผู้ชายเหมือนเดิมล่ะจ๊ะ
แหะๆคงเป็นเพราะผมใช้พลังเกินขีดจำกัดล่ะมั้ง
ซาโตริผู้หญิงคนนี้ใคร หืม...เสียงผู้หญิงไม่ใช่ปริทาด้าแน่ๆงั้นจะเป็นใครล่ะ ริมิผละจากตัวซาริจังแล้วมองหน้าผู้หญิง.....ผมสีแดงเหมือนซาริจัง สีตาเหมือนน้ำทะเลเธออยู่ในชุดยูคาตะสีชมพูโยบิสีน้ำเงิน
ริมิเป็นเพื่อนซาริจัง เธอนั่นแหละใคร
เพื่อน??? เราต่างหากเป็นเพื่อนของซาโตริ แถมรู้ด้วยว่าซาโตริเป็นผู้ชาย เจ้าล่ะรู้อะไรบ้าง การพูดจาภาษาญี่ปุ่นสำเนียงแปลกๆ แต่...อ๊ะ ผู้หญิงคนนี้รู้ความจริงของซาริจังหมายความว่าไง
รู้มากกว่าเธอละกัน ไม่ยอมเสียฟอร์มหรอก
ท่านริมิอิฉันขอแนะนำให้รู้จักท่านเรรินะมิสเทสแห่งความเข้าใจ และท่านเรรินะผู้หญิงคนนี้คือท่านริมิมิสเทสแห่งชีวิตเจ้าค่ะ ปริทะจัง... อ้อ...ชื่อเรรินะ ระหว่างสายตาที่จ้องกันไม่วางตาเหมือนมีกระแสไฟช๊อตกันดังเปี๊ยะๆ
อย่าทะเลาะกันนะ ซาริจังร้องห้ามอย่างรู้ทัน แกร๊ก ลูกบิดถูกหมุนให้เปิด ร่างที่ก้าวเข้ามาคือนากะจังกับยูกิจัง ตายล่ะสองคนนี้ไม่รู้นี่นาว่าซาริจังเคยเป็นผู้ชาย
ตาอ้วนนี่ใคร และก็ผู้หญิงคนนั้นด้วย นากะจังถามริมิ จะบอกว่ายังไงดีนะ
เอ่อ.....คือ... ซาริจังร้อนรนขึ้นมาทันที จะโกหกยังไงดีถึงจะรอดตัวไปได้คิดสิริมิ คิดสิริมี้
เราชื่อเซ็ทสึกิ เรรินะเป็นมิสเทสแห่งความเข้าใจพวกเจ้าคงเป็นมิสเทสเหมือนกันสินะ เรย์นะจังแนะนำตัวเอง นากะจังพยักหน้ารับก่อนสายตาสงสัยจะเปลี่ยนไปหยุดที่ซาริจังแทน
แล้วตาอ้วนนี่คือ.... ว่าพลางชี้นิ้ว
เอ่อ..ผม..ผม....
เป็นเพื่อนของริมิเองจ้ะ
หืม.....โกหกใช่มั้ย นากะจังจะสงสัยอะไรขนาดนั้น
ริมิไม่ใช่คนชอบพูดโกหกซะหน่อย...เป็นเพื่อนของริมิเองเหรอ ชื่ออะไรล่ะ ยูกิจังบอกสาวขี้สงสัย...ก่อนจะถามซาริจัง
ผมซาโต้ครับ
ยินดีที่ได้รู้จักนะ
.......
พูดอะไรซักหน่อยสินากาเนะ ยูกิจังสะกิดแขนนากะจัง
เออ...ยินดีที่ได้รู้จัก น้ำเสียงเหมือนจะออกไปทางไม่ยินดีซะมากกว่านะนากะจัง
เฮ้ พวกเธอ คลื่นยักมันมาแล้วนะ!!! เปะโปะ
คลื่นยัก!!! ทุกคนในห้องต่างพูดขึ้นมาเป็นเสียงเดียงกันยกเว้นเรย์นะจัง ซาริจังมองริมิหน้าบอกอารมณ์โกรธชัดเจน ริมิผิดไปแล้วริมิขอโทษยกโทษให้ริมิด้วยน้าาาาาาาาาาาาาาา
SATORI ซาโตริ
ผมบอกให้ทุกคนหนีไปทว่าทำไมอยู่กันครบแบบนี้ ไม่มีใครฟังผมสักคนเลยหรือไงน้า
รออยู่บนนี้คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เปะโปะพูด
อยู่บนนี้ก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่ดีพวกนายมันโง่ขนาดหนัก นากาเนะก่นด่า ที่สาวขี้วีนพูดก็ถูก เพื่อนๆคงเดากันถูกใช่มั้ยว่าพวกผมอยู่ไหนกัน.....บนดาดฟ้าไงครับคลื่นสึนามิมีความสูงเท่าตึกสามชั้น แต่ตึกที่พวกผมอยู่มีความสูงหกชั้นโชคดีแท้ พวกผมกับวงมาสเตอร์ต่างแนะนำตัวกันเป็นที่เรียบร้อย บนนี้ไม่ได้มีแค่พวกเราเหล่ามิสเทสเท่านั้นยังมีวงมาสเตอร์กับนักท่องเที่ยวจำนวนหลายชีวิตที่ต้องมีชะตากรรมร่วมกัน
เธอจะให้พวกฉันว่ายน้ำหนีกันรึไง ริเรียนหนุ่มแว่นกรอบทอง สวมเสื้อลายดอกสีฟ้ากางเกงขาสั้นลายดอก ไม่ค่อยเข้าเลยนะ
นายพูดแล้วทำได้มั้ยล่ะ
ไม่ได้เว้ย!!!หรือว่าเธอทำได้ ท่าทางสาวขี้วีนจะเจอคู่ปรับตัวฉกาจเข้าซะแล้ว แต่ช่างมันเหอะปล่อยให้สองคนนั้นทะเลาะกันไป ผมมีเรื่องจะต้องคุยกับริมิ
ริมิทำไมไม่รีบหนีไป เธอกรอกสายตาไปมา
ริมิคิดว่า....จะกลับมาเก็บของก่อนแล้วค่อยหนีจ้ะ ผมมองยัยเนื้อคู่อย่างหนักใจ ตาเธอแดงกล่ำคงร้องไห้มากล่ะสิ
(อย่าโกรธ ริมิเลยนะ ยัยนี่ไร้เดียงสามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ) อาโอย เมื่อไหร่ผมจะกลับไปเป็นผู้หญิง
(กลับไปเป็นผู้หญิง??? ฉันหูฝาดไปรึเปล่า) ไม่ฝาด ไม่เฝื่อน ตอบมาเร็วๆ
(ไม่แน่นอน แต่นายจะรู้สึกได้ถึงสัญญาณเมื่อถึงเวลา) พูดง่ายดีเนาะ
ร่างยัยซาโตริหายไปไหน เธอพอจะรู้มั้ยริมิ นากาเนะเลิกทะเลาะกับริเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่
ไม่รู้จ้ะ พอซาโต้คุงเดินเข้ามา ร่างของซาริจังก็หายไปเฉยๆจ้ะ
เหรอ อื้มๆๆ ดูนากาเนะจะไม่สงสัยแม้สักนิด
ว่าไงนะลูกติดอยู่ไหน ชายวัยต้นชรากรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์มือถือคาดว่าคุยกับลูก สีหน้าบ่งถึงความร้อนรน ปลายสายตอบกลับมาเช่นไรไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆปฏิกิริยาของชายชราคนนั้นคือมุ่งตรงไปยังประตูทางเข้าดาดฟ้าแล้วหายไปหลังประตูนั้น ก่อนจะกลับขึ้นมาด้วยหน้าตาตื่นกว่าเดิม
คุณ ช่วยลูกสาวลุงด้วย เขาร้องขอความช่วยเหลือคนนู้นทีคนนั้นที ทว่าไม่มีใครสนอกสนใจหรือเสนอตัวเข้าช่วย ต่างปฎิเสธกันทั้งนั้น
คุณลุงมีอะไรรึเปล่าคะ ริมิปรี่ตัวเข้าถามชายชราคนดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ
ลูกของลุงติดอยู่ในอาคารชั้นสามห้องสามศูนย์สี่ ช่วยลูกลุงหน่อยได้มั้ย ลุงพูดภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อเชียว
ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ ลูกคุณลุงจะต้องปลอดภัยแน่นอน อย่าตอบรับง่ายอย่างนั้นเซ่
ฉันกับยูกิโกะก็จะไปด้วย
ผมไปด้วยริมิ
เราไม่รู้หรอกนะว่ามีอะไรกัน แต่จากที่เราได้ยินคงกำลังเกิดเรื่องดังนั้นเราจะไปด้วย
พวกฉันจะไปช่วยอีกแรง วงมาสเตอร์เสนอตัวเองบ้าง
ไอ้สี่ตาอย่างนายไม่ต้องไป คนโดนหน้าแดงกล่ำ
ยัยหัว.หัว...หัว..หัวอุนจิ
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยย สาวขี้วีนของเราแพ้รึนี่
โอ้ พวกเธอมีน้ำใจเหลือเกิน ลุงซึ้งจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ชายวัยต้นชราน้ำตาคลอเคลีย
ทีมกู้ภัยจำเป็นซึ่งประกอบไปด้วยแปดหน่อสี่สาวห้าหนุ่มเดินอยู่ ณ ชั้นสี่จะยกขโยงมากันอะไรมากมายเฮ้อ แถมเรื่องที่เหมือนจะราบเรื่อนกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อ....
เอ่อ...พวกเราจะลงไปกันยังไงจ๊ะ ยัยเนื้อคู่ถามเสียงไร้เดียงสา
เดินลงไปเฉยๆไงเปียกน้ำช่างมัน เปะโปะตอบทันควัน ริมิจ้องมองชายหน้าหวานอย่างขุ่นเคือง
เฮ้ พวกนายจะช่วยกันคิดดีๆไม่ได้เหรอ สาวขี้วีนเอ่ย นายมีข้อเสนอมั้ยซาโต้
ยัยอุนจิเงียบๆไปเลย ริเรียนสั่งเอ่อ...เจ้าของฉายาอุนจิคือสาวขี้วีนพึ่งถูกแต่งตั้งเมื่อตะกี๊
แกนั่นแหละไอ้สี่ตาหุบปาก ยัยอุน..เอ๊ย นากาเนะตอกกลับ
อย่าทะเลาะกันนะจ้ะ ริมิร้องห้าม
พวกคุณมันไร้สาระ ชายสวมหูฟังเปรยขึ้นมาเสียเฉยๆ
แกเงียบปากไปซะ/อย่าแส่ ทีอย่างนี้พร้อมใจสามัคคีตอบจากที่เห็นน้ำมันสูงเกือบถึงเพดาน ถ้าอย่างนั้นน่าจะดำน้ำหาทีนึง โผล่มาหายใจทีนึงได้
แปล๊บๆ จ..เจ็บความรู้สึกนี้คือ...หรือว่า
(อาจจะเป็นสัญญาณ) สัญญาณ??? อย่าบอกนะ ผมกำลังจะกลับไปเป็นผู้หญิง
(คงงั้น)
ทุกคนเดี๋ยวผมมา ไปห้องน้ำก่อน ว่าจบผมปลีกตัวรีบแจ้นไปเข้าห้องน้ำชายในบัดดล
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก แฮ่กๆๆๆๆ พอเข้ามาในห้องน้ำ อาการก็แสดงทันที ห..หายใจถี่เกินไปแล้ว มันปวดไปทั้งตัวราวกับว่าจะระเบิดเป็นชิ้นๆนั้นแหละ
นายเป็นไรมากรึเปล่า สีหน้าไม่ค่อยดีเลยนา เปะโปะ!!!จะตามมาทำมายยยยยยยยยยยย แย่ล่ะสิขืนไอ้หน้าหวานรู้ว่าผมเป็นผู้หญิงล่ะก็...
นายออกไปซะ...อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา เปะโปะจะช่วยประคอง ผมผลักเขาออก
ความรู้สึกมันเหมือนถูกเชือกรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายกำลังเปลี่ยน แขนขาอันใหญ่มีแต่ไขมันหนาเหนอะ เริ่มเล็กเรียวบางสีผิวจากคล้ำหน่อยๆกลายเป็นขาวนวลผ่อง ดวงตาสีดำเข้มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงอมเลือดผมที่เคยสั้นสีดำสนิทกลับยาวเลยสะเอวเป็นสีแดงดั่งอัคคี ผมกลายเป็นผู้หญิงไปแล้ว แถมมาด้วยคนรู้ความจริงเพิ่มอีกหนึ่ง เป็นนากาเนะจะไม่ว่าเล้ย แต่เป็นไอ้หน้าสวยซึ่งตอนนี้ยืนหน้าเหวอหวาไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นซะได้ เวรกรรมแท้ๆ
นายห้ามไปบอกใครเด็ดขาด ผมตรงเข้ากระชากคอเสื้อคนหน้าเหวอ
เมื่อกี๊มันอะไร
ไม่ต้องถามมากแค่บอกผม ว่าจะไม่บอกใครแล้วนายจะไม่เจ็บตัว เปะโปะเหยียดยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุก
ฉันจะบอกซะอย่าง เจอเรื่องดีๆขนาดนี้ต้องประกาศให้โลกรู้
นายตายแน่ถ้าเอาเรื่องนี้ไปพูด คอยดูนะผมจะทำหมันมันแบบไม่คิดตังค์สักแดงเดียว แกไอ้เปะโปะเตรียมโดนเจาะไข่แดงได้เลย
เออน่า ไม่บอกใครหรอกแค่ล้อเล่นนิดหน่อย อีกอย่างฉันจะไปบอกใครได้เล่า แต่นายน่ารักดีนะ เดี๋ยวปั๊ดตบหัวหลุด ผมจ้องนัยน์ตาของชายตรงหน้า มันบ่งว่าไม่ได้พูดโกหก
นายสวยมากเลยน้า หน้าอกหน้าใจก็เอ่อ....คับบีป่ะเนี่ย หึยยยยยยยยยยยย แกไอ้...ไอ้ มันยิ้มแก้มแทบปริหน้าตาออกอาการอื่นมากๆ
ไอ้ หื่นหน้าสไมส์ มันยังยิ้มอยู่อีกไอ้หื่นเอ๊ย
ฉันชอบนะฉายานี้แทงกิ้ว ยังมีหน้ามาขอบคุณอีก ผมด่านายอยู่นะ
ตามผมมาแล้วอย่าพูดอะไรล่ะ พูดตัดบทก่อนจะเดินนำออกมาปลายทางคือบันไดที่เชื่อมต่อกับชั้นสาม
ซาริจังกลับมาเป...แล้วเหรอจ๊ะ รู้นะว่าจะพูดอะไรระวังหน่อยสิ
ยัยถั่วคั่ว ถั่วเน่า หายไปไหนมาฮะ รู้ไหมฉันเป็นห่วง สาวผมแกละแว้ดใส่ผม ใครว่าผมหายไปไหนก็อยู่กับพวกเธอตลอดนั่นแหละ
โทษที โทษที
ชิ คิดว่าพูดขอโทษแล้วมันจะหายรึไง ยัยนี่งอนเป็นด้วยแฮะ
ปลอดภัยก็ดีแล้วน่า ยูกิโกะช่วยพูด
ชิ งอนผมจริงสินะ
ซาโต้ล่ะ ไอ้หน้าหวาน ผมสะดุ้งนิดๆ หันไปมองชายถูกถาม มันยิ้มแสยะอย่างมีเลศนัย
เจ้านั่นป่านนี้คงกำลังถ่ายหนักอยู่มั้ง โอ้ โล่งนึกว่ามันจะบอกความจริงเรื่องผมซะอีกแต่จะหาข้ออ้างที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วเรอะ ผมก้าวเท้าลงบันไดที่มีน้ำปริ่มๆทว่า.........
จะไปไหนยัยถั่วเน่า
ไปช่วยน้องข้าว
ช่วย??? ช่วยวิธีไหนไม่ทราบ เธอแหวใส่ผม
ดูสิน้ำมันท่วมไม่ถึงเพดานพวกเราน่าจะดำหาห้องแล้วโผล่ขึ้นมาหายใจได้นะ ใครไปกับฉันบ้าง ผมชี้นิ้วไปยังชั้นสาม สลับหันกลับมาถามความสมัครใจ
คิดอะไรได้ไร้สาระชะมัดแถมบ้าอีกต่าง ฉันไม่เอาด้วยหรอกเกิดโดนน้ำแล้วตัวฉันเปลื่อยขึ้นมาทำไง ริเรียนบ่นพร้อมปฎิเสธพลางมองทุกคนอย่างกับหาแนวร่วม นากาเนะจับคางพลางครุ่นคิด
อาจจะจริงอย่างที่นายพูดความคิดนี้มันบ้าและไร้สาระ นากาเนะทำไมเธอไปเข้าข้างริเรียนอย่างนั้นเล่า
ใช่มั้ยล่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่เราสองคนความคิด........ นักร้องสาวชูห้านิ้วเป็นเชิงให้ริเรียนหยุดพูด
ถึงความคิดของยัยถั่วเน่าจะบ้าแค่ไหนฉันก็จะทำมันเพราะเพื่อนของฉันไม่ได้บ้าและไร้สาระเหมือนที่นายพูดสักนิดเดียว และที่แน่ๆฉันไม่ได้เดินลงมาเจออุปสรรคแล้วจะถอยง่ายๆ ดังนั้นฉันเอาด้วยซาโตริ ไอ้แว่นกรอบทองหน้าจ๋อยทันที เฮอะๆๆ สมควร!!!
พวกเรารออยู่นี่นะ พวกเราที่ว่าประกอบด้วยยูกิโกะ ริมิ และ เรรินะ
ริมิไปด้วยสิจ๊ะ ริมิ.....
เธอคอยอยู่นี่แหละ เกิดน้ำขึ้นแล้วพวกฉันไม่กลับมาให้เธอรีบหนีไปซะ
จ้ะ ริมิหน้าหม่นลงทันที ขอโทษ แต่ผมพาริมิไปเสี่ยงไม่ได้
ความคิดเธอแจ่มมากฉันกับมิสจะช่วยเปิดประตูให้เธอเอง เปะโปะกับมิสหรือชายสวมหูฟังออกปากช่วย มีน้ำใจเหมือนกันนิ
"ฉันกลับก่อนละ ไปกันเถอะยูซึรุ ปล่อยให้พวกบ้าทำอะไรบ้าๆไปเถอะ ริเรียนบอกลาผสมแขวะก่อนจะดึงมือกีตาร์ของวงมาสเตอร์กลับขึ้นไปดาดฟ้า ไปซะได้ก็ดี
ผมเดินนำลงไปชั้นสาม น...น้ำย..เย็นเจี๊ยบ โหยเย็นไปแล้ว ไหนฟะห้องสามศูนย์สี่ ตรงหน้าผมคือห้องสามศูนย์ห้าแสดงว่าถ้าว่ายย้อนกลับไปจะเป็นห้องสามศูนย์สี่ชัวร์ ผมโบกมือเป็นสัญญาณบอกทุกคนให้ย้อนกลับไป ก่อนจะโผล่ขึ้นมาหายใจ เฮ้อค่อยยังชั่ว ดำลงไปอีกครั้งเปะโปะกับมิสกำลังพังประตูห้องสามศูนย์สี่ ประมาณว่าอะไรใกล้มือมันคว้ามาทุบลูกเดียว ทว่าแผ่นไม้หนาไม่มีทีท่าว่าจะพังซักที ผมควักมือเรียกให้พวกมันโผล่ขึ้นมาคุยกันเหนือน้ำ
พวกนายมีแรงแค่นี้ใช่มั้ย
อย่ามาพูดดีหน่อยเลย เธอลองพังมันเองดูสินี่มันใต้น้ำนะแรงเอื่อยมันเยอะ เอื่อย??? นายแรงน้อยล่ะสิไม่ว่า
นากาเนะเธอมีแผนอะไรมั้ย
....... เงียบ อ้าว ยัยนั่นไม่ได้โผล่มาตามผมเรียกเรอะ ผมดำกลับลงไปอีกครั้งเห็นสาวผมแกละจับลูกปิดประตูแน่นก่อนจะกระชากสุดแรงไหว เปิดไม่ได้แน่ผมกวาดสายตามองหาอะไรสักอย่างที่น่าจะใช้เปิดประตูได้ นั่นข้างๆมีชะแลงตกอยู่ด้วย ผมหยิบมันขึ้นมาแล้วงัดขอบประตูด้านลูกบิดเต็มแรง เปะโปะแตะไหล่ผม โบกมือไปมาแปลได้ว่าให้ฉันช่วยเธอนะ ผมหลบแล้วให้เปะโปะงัดแทน
ประตูขยับแล้ว พยายามเข้าทุกคนอีกนิดเดียว ว่าแต่มิสหายไปไหน แลซ้ายแลขวาไม่เห็นแม้เงา แป๊กๆ ปรึง เปิดประตูสำเร็จแล้ว เย้ น้ำทะลักเข้าไปในห้องนั้น
ช่วยด้วยค่า!!! เสียงเด็กผู้หญิง น้องข้าว!!!
พวกผมสามคนโดนแรงดันน้ำพัดเข้าไปในห้องสามศูนย์สี่ด้วย สิ่งที่รออยู่ไม่ได้มีแค่น้องข้าว แต่คือกระจกบานใหญ่เสมือนกำแพงห้องด้านหนึ่งซึ่งมันแตกเป็นเสี่ยงๆกำแพงใสหายไปเหลือความว่างเปล่า หากจับขอบกำแพงช้ากว่านี้นิดเดียวคงตกไปนอนกลายเป็นศพข้างล่างแน่ ผมจับขอบขวา นากาเนะจับขอบซ้าย เปะโปะมัน.....จับขาผม โอย นายกินอะไรเป็นอาหารเนี่ยน้องโคกระบือรึไง ขาผมจะหลุดอยู่แล้ว
พี่ค้าช่วยหนูด้วย น้องข้าวยึดขอบตึกแน่นและคงได้อีกไม่นานดูจากสีหน้าที่แดงกล่ำก็พอรู้ ผมจะทำยังไงดี นากาเนะกำลังตกอยู่ในอันตราย เปะโปะด้วย แถมต้องช่วยน้องข้าวอีก
ฟึบ อะไรแว้บๆ นั่นมันมิสนี่หว่า ถ้าผมตาไม่ได้ฝาดเอวของเขามีเชือกผูกติดอยู่ ผมมองไล่เชือกจากตัวมิสไปถึงปลายอีกข้างหนึ่งถูกผูกติดกับเสาบันได
มิสแกเอาน้องข้าวขึ้นไปก่อน เปะโปะตะโกนบอก
อย่ามาสั่ง มิสตะคอกกลับอย่างหัวเสีย มือหนึ่งประคองร่างน้องข้าวไว้แน่นก่อนจะใช้มือข้างที่เหลือจับเชือก
แล้วสาวตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆในที่สุด มิสก็พาน้องข้าวไปถึงบันไดผ่านพ้นเรื่องอันตรายมาได้ แล้วพวกเราสามคนล่ะจะเอาตัวรอดกันยังไง
เฮ้ ฉันหนักมากมั้ย ยังมีหน้ามาถามอีกเรอะไอ้บ้า ไปตายซ้า
เออ โคตรหนัก ยิ้มทำไมฟะ
ฉันชอบเธอ ผมเป็นผู้ชาย นายก็รู้
อย่าขี้โม้มมมมม อย่าขี้โม้มมมมมม ผมร้องเป็นเพลงล้อ นายหน้าหวานตีหน้าจริงจังแต่ทำไมมันดูเศร้าๆจัง นายพึ่งเจอกับผมไม่ถึงวันเลย จะมาชอบกันได้ยังไง นี่ไม่ใช่นิยายน้ำเน่าซักหน่อย
ฉันจะพิสูจน์ ให้เธอเห็นเอง น้ำเสียงซีเรียสด้วย
เฮ้ยนาย นาย อย่าทำอะไรบ้าๆนะ
มันปล่อยมือจากขาผมทำซากอะร้ายยยยย เปะโปะนายหลุดมาจากนิยายน้ำเน่าใช่ม้ายยยย นั่นยิ้มหน้าบานแบบนั้นอีก
(ทำอะไรสักอย่างสิ เค้าไม่อยากให้เปะโปะตายอะ) ผมรู้แล้วน่าอาโอย เพราะผมก็ไม่อยากให้มันตายเหมือนกัน อ้ารู้แล้ว กึก{หยุดเวลา}หัวแหลมใช่มั้ยล่า
ผมลุกขึ้นแล้วเดินไปแก้มัดเชือกที่เอวมิสก่อนจะเอาเส้นเชือกหนาไปผูกเอวของเปะโปะเงื่อนตายไปเลย กึก{เวลาเดิน}ฮ่าๆๆๆดูนายนั่นสิ หน้าเหวอไปเลย ถ้าไม่ใช่เพราะผมเปะโปะคงตายไปแล้ว ชายหน้าหวานจับเชือกแน่นเหมือนมันเป็นทางเลือกสุดท้ายก่อนจะดึงตัวเองขึ้นมาถึงระดับนึง เขาคว้าตัวนากาเนะทั้งสองคนตะเกียกตะกายจนขึ้นมาถึงขั้นบันได
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เฮ้ย เธอมาอยู่นี่ได้ไง เปะโปะถามผม หน้าตาเลิกลั่กเห็นแล้วอดขำเสียมิได้
ฉันยืนอยู่นี่ตั้งแต่ตอนมิสช่วยน้องข้าวอะ นายไม่เห็นเองมากกว่า
เธอช่วยฉันไว้ใช่มั้ย นายนี่ส่งสายตาหยานเยิ้มมา แหวะ
ใครช่วย ไม่มี ผมพูดเสียงสูง เวลาโกหกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
เดินกลับขึ้นไปสมทบกับพวกริมิ ก่อนจะพากันเดินเนิบๆไปที่ดาดฟ้า หยอกล้อกันไปตลอดทางราวกับว่าเรื่องเสี่ยงตายก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น
ไม่ชอบสายตาของริเรียนเลยให้ตายสิ ผมไม่เหมือนนายนะที่เห็นแก่ตัว ไอ้สี่ตาเอ๊ย
ลูกพ่อ ชายวัยต้นชรากอดลูกสาวน้ำตาเจ่อนองสองแก้ม
พ่อคะ น้องข้าวตอบรับพ่อของเธอเสียงใสเจื้อแจ้ว
พ่อขอโทษนะที่ทิ้งลูกไว้ในห้องนั้น
หนูผิดเองค่ะพ่อ หนูต่างหากที่ต้องขอโทษ
ดีจังเลยนะจ๊ะ ริมิยิ้มอย่างมีความสุขผมก็เหมือนกัน ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นความรักอันบริสุทธิ์ของพ่อกับลูกและก็ไม่บ่อยนักเช่นกันที่จะได้เจอคนเห็นแก่ตัว
เธอเรียนอยู่ที่ไหน ไอ้หน้าหวานยื่นหน้ามาถามผม
โรงเรียนสปิริตไฮส์ ถามทำไม
เดี๋ยวเธอก็รู้ เอ๊าไอ้นี่มีอุบอิบด้วย
ว...ว้าย เสียงริมิร้องว้าย ลมกรรโชกพัดมาจากไหนไม่รู้แต่พอมองไปจุดเกิดลมก็นั้นคือฮอร์สามลำสีดำสนิท บินเทียบดาดฟ้าด้านละลำ มารับใครฟะเนี่ย ลุงแก่ผมสีดอกเลาในชุดสูทก้าวเท้าฉับๆๆลงมาโค้งให้ริเรียน เฮ้ย!!!ไอ้ริเรียนเป็นคนสำคัญของประเทศไหนกันเล่นบินมารับถึงที่
(อิจฉาหรอ เค้าเข้าใจนะ.......) อาโอยไม่ต้องยุ่ง
อ...อะไรอะ มันคือปีศาจใช่มั้ย เรรินะถลามาเกาะแขนผม ยัยเนื้อคู่มองมาด้วยสายตางอนๆก่อนจะสะบัดหน้าหนี ไม่ใช่ปีศาจ มันคือเฮลิคอปเตอร์เป็นยานพาหนะอย่างนึงใช้บรรทุกคน เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ผมกระซิบตอบ
แต่ยังไงเราก็กลัวอยู่ดี
ท่านริเรียน ขอโทษครับที่มาช้า ลุงผมสีดอกเลาพูดภาษาไทย
ไม่เป็นไร ฉันไม่ซีเรียส พูดจบไอ้แว่นกรอบทองเดินทอดน่องไปนั่งบนฮอร์ สบายใจเหลือเกินนะ
คนพวกนี้ล่ะครับ
ฉันจะเลือกเองว่าใครไปได้บ้าง ไอ้แว่นกรอบทองมองแต่ละคนอย่างพินิจพิจารณา
เลือกฉันสิคะ
เลือกฉันต่างหาก สาวๆแฟนคลับต่างทะเลาะกันเอง แขกเหรื่อในตึกก็ไม่ต่างจากพวกนั้นเลย บางคนคาดว่าอาจเป็นเพื่อนกันมานานแล้วด้วยซ้ำทว่าความเป็นเพื่อนกลับต้องจบเพราะไอ้พระเจ้ากำมะลอ ใบหน้าหลังกรอบแว่นแสยะยิ้มดั่งมารร้าย ก่อนจะชี้เรียงตัวตามความพอใจของตน แน่นอนอยู่แล้วว่ากลุ่มแรกที่ได้ขึ้นไปนั่งบนฮอร์นั้นต้องเป็นพวกวงมาสเตอร์อย่างไม่ต้องสงสัย ฮอร์ลำสองเต็มไปด้วยกลุ่มแฟนคลับสาวกับบรรดาแขกที่พักในตึกแม้จะเกินมาฮอร์ลำที่สามสองสามคนก็ตาม ชายคนนี้เปรียบเสมือนพระเจ้าก็ไม่ปาน จนฮอร์เหลืออยู่ลำสุดท้าย กับคนอีกแปดคน คือกลุ่มของมิสเทสกับชายวัยต้นชราและลูกสาวของเขา
ขึ้นได้อีกเจ็ดครับ ลุงแก่ชุดสูทบอกริเรียน ไอ้กรอบทองส่งยิ้มน้อยๆให้นากาเนะ รอยยิ้มนั้นผิวเผินอาจดูเป็นมิตรทว่าดวงตาสีดำกลับส่อสันดานชั่วอยู่ในกมล
คุณลุงกับน้องข้าว และพวกเธอยกเว้นยัยอุนจิ คุณลุงกับน้องข้าวขึ้นไปนั่งบนฮอร์เป็นที่เรียบร้อยไวดีแท้ ริเรียน...จุดประสงค์ของนายคืออะไรกันแน่ถึงกีดกันเพื่อนผมไม่ให้หนีไปด้วย นากาเนะเธอด้วยอย่าเงียบซี่ ตอกอะไรกลับไปสักอย่างนึงเหอะ
ฮ่าๆๆๆๆๆ นักร้องสาวระเบิดเสียงหัวเราะลั่นราวกับว่าเรื่องที่เธอได้ยินมันน่าขันเสียเต็มประดา
เธอหัวเราะทำไม ริเรียนหน้าเสีย ทุกอย่างมันคงไม่เป็นไปตามที่เขาคิดล่ะมั้ง
คิดว่าฉันจะอ้อนวอนขอติดฮอร์ไปด้วยรึไงยะ คิดอะไรง่ายๆอีกอย่างนายใช้เวลาคิดเรื่องนี้นานมากมั้ย....ให้ฉันเดานะในหัวคงมีแต่หัวขี้เรื่อยล่ะสิ ที่นายด่าว่าพวกฉันไร้สาระแต่นายคงจะไมรู้ตัว ว่านายเองมันโคตรรรรรรรรรรรรรรร!!!ไร้สาระเลยล่ะนากาเนะตอบเสียงเจือหัวเราะไอ้แว่นกรอบทองกำหมัดแน่นๆ สีหน้าบ่งถึงความโกรธแค้นก่อนจะชักสีหน้ากลับมาเป็นอย่างเดิม
(อย่างนี้เค้าเรียกดึงหน้ารึเปล่าอะซาโตริ) คงงั้นมั้งผมก็ไม่รู้ นะอาโอย
โห่หหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห สงสัยพวกแฟนคลับเป็นลูกหลานของทาซาน พวกนี้ก็โง่จริงๆเห็นธาตุแท้ของริเรียนแล้วแต่ทำไมไม่มีใครเกลียดมันเลยฟะกลับกันดันเข้าข้างมันซะอีก
พวกเธอจะไปมั้ย มันหันมาถามพวกผม
ฉันไม่ไป ผมตอบโดยไม่ลังเล
ริมิก็จะอยู่ด้วยถ้าซาริจังอยู่นี่
......... ถึงยูกิโกะจะไม่พูดอะไรแต่พวกเราทุกคน สามารถรับรู้ได้ว่าเธอไม่อยากไปเหมือนกัน
เราไม่ไปหรอกน่ากลัว ท่าทางเรรินะจะกลัวเจ้าฮอร์นี่จริงๆด้วย
อิฉันคงไปไม่ได้เจ้าค่ะเพราะนายหญิงทั้งหลายยืนกรานจะไม่หนีไปจากที่นี่ มีคราวนี้แหละที่ยัยนี่พูดถูกใจผม ไม่อยากไป บอกออกมาตรงๆก็ได้มั้งยัยภูต แหมทำมาเป็นหาข้ออ้าง
ชายผู้ถูกปฎิเสธหน้าแดงกล่ำด้วยความโกรธดั่งภูเขาไฟคุกกรุ่นพร้อมระเบิดทุกเมื่อ ก่อนจะดึงหน้ากลับมาเป็นยิ้มหน้าบานซะอย่างนั้น อารมณ์ไหนเนี่ย
หึๆๆ ฉันรู้สึกชอบสายสัมพันธ์ของพวกเธอซะแล้วสิ อยากรู้จังจะอยู่ไปได้นานแค่ไหน ทันใดนั้นฮอร์สีชมพูอีกลำนึงก็บินขึ้นมาเทียบดาดฟ้า สีน่ารักเชียว สาวแฟนคลับต่างอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถว คงอยากจะวิ่งไปขึ้นฮอร์ลำนั้นล่ะสิ
ฉันเตรียมฮอร์ลำนี้ให้พวกเธอโดยเฉพาะ พูดจบมันส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้นากาเนะ ทว่านักร้องสาวของเรากลับไม่สนใจสายตานั่นแม้แต่น้อย บางทีเธออาจจะอยากขยี้มันทิ้งด้วยซ้ำ
บทที่ 12 The way
โค้ด PHP:
PrinceNo.9:ต้องกล่าวขอโทษจริงๆครับที่มาอัพช้าไปหน่อย
(ไม่หน่อยอะ ล่อไปตั้งครึ่งเดือน) ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วคิดว่าเนื้อเรื่องมันแปลกๆอ่านแล้วไม่เข้าใจช่วยบอกด้วยนะครับ ผมจะได้แก้ไขได้อย่างทั้นท่วงที
ขอขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจ
โค้ด PHP:
รีบเอาฮอร์ขึ้นเร็วเข้า!!! ริเรียนสั่งสีหน้าร้อนรนนั่นก็เพราะ คลื่นยักสึนามิกำลังก่อตัวเข้ามาใกล้ความสูงของมันเทียบเท่ากับตึกหกชั้น
เร็วเซ่!!!
บินไม่ขึ้นครับ น้ำหนักมันเกิน คนขับตอบกลับมามีสีหน้าไม่ต่างจากเจ้านายสักเท่าไหร่
ริมิ!!! เธอจะลงจากฮอร์ทำไมเล่า
ซาริจัง...เสียสละเพื่อพวกริมิมามากแล้ว ดังนั้นคราวนี้ให้ริมิได้
เสียสละบ้างนะ อย่ามาพูดเรื่องบ้าๆแล้วยิ้มหน้าตาเฉยนะยัยบ้า ฮ
อร์ตอนแรกที่ไม่มีทีท่าว่าจะขยับตอนนี้กลับบินขึ้นอย่างง่ายดาย
ผมเอื้อมมือหาริมิ หวังให้เธอคว้ามือผม แต่เปล่าเลยมีเพียงรอยยิ้ม
ส่งมาเท่านั้น สึนามิเข้ามาใกล้แล้ว และผมทำอะไรไม่ได้นอกจาก
ทอดสายตามองไปยังเธอฮอร์บินสูงขึ้นเรื่อยๆ จากความสูงระดับนี้
ภาพที่เห็นคือร่างเล็กๆของผู้หญิงคนนึง เธอยืนโบกมือบ๊ายบายอยู่
บนดาดฟ้าของตึกราวกับว่าตอนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อมัจจุราชผู้มี
นามว่าสึนามิมาถึง คลื่นนนนนนนนนนนนนน ร่างของเธอก็พลัน
หายไปพร้อมกับตึกที่ทลายลง สุดท้ายก็ไม่สำเร็จงั้นหรอ แล้วที่ผม
พยายามมาทั้งหมดนั่นมันคืออะไร ย้อนเวลากลับไปในอดีต ตา
มหาเรรินะ ให้เธอรักษาโรคของผมจนหาย ข้ามเวลากลับมา
ปัจจุบัน รู้สึกตัวตื่นอีกทีก็อยู่ในห้อง ต้องติดแหงกอยู่บนตึกบ้าๆนั่น
ช่วยให้พ่อกับลูกได้เจอกัน ต..แต่สุดท้ายทำไมทุกอย่างมันจะต้อง
มาจบลงตรงที่ริมิตาย ในเมื่อรู้ว่าไม่ทันพยายามต่อไปรังจะเจอแต่
ความสูญเปล่าไม่จำเป็นต้องช่วยก็ได้นี่เจ้าคะ คำพูดบ้าๆของยัย
ภูต จู่ก็ดังขึ้นมาในหัวผม
ริมิๆๆๆ ผมตะโกนเรียกชื่อเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่!!!..มันไม่ควรจบลงแบบนี้บางทีใต้ซากคอนกรีตพวกนั้นริมิอาจติดอยู่ที่ไหนสักแห่งผมต้องลงไปช่วยเธอ ในจังหวะที่ผมจะโดดลงไปมีอ้อมแขนของคนๆนึงรั้งตัวผมไว้จากด้านหลัง พอเหลียวมองเจ้าของท่อนแขน คือสาวผมแกละที่กำลังทำหน้าตาโกรธเกรี้ยว
ปล่อยฉัน ปล่อยสิวะ ผมดิ้นเต็มสุดกำลังที่มี
เป็นบ้าอะไรของเธอ นากาเนะตะคอกผม
ฉันจะลงไปช่วยริมิ
สมองเลอะเลือนเหรอยะ ยัยนั่นน่ะตายไปแล้ว
เก้าสิบเปอร์เซ็นของมนุษย์เรามักหลอกตัวเอง เพื่อให้ตัวเองมี
ความสุขกับความลวงหลอกของจิตใจทว่ามันก็เหมือนดาบสองคม
ดังนั้นอย่าหลอกตัวเองเลยนะ ซาโตริ ยูกิโกะพูดเตือนสติ ผมหยุด
ดิ้น นากาเนะคลายมือออก เรรินะดึงผมมากอดอย่างอ่อนโยน
น้ำตาที่อัดอั้นกลั้นฝืนมาตลอดได้หลั่งรินดั่งสายน้ำไหลไม่ขาด
สาย ทันใดนั้นทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวผมก็พลันสลายไปราวกับมัน
เป็นภาพลวงตา
นี่มันที่ไหนเนี่ย มีแต่ความว่างเปล่าไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็
พบเพียงความมืดมิดแผ่ปกคลุมไปทั่วอณาบริเวณเสมือนห้อง
สี่เหลี่ยมที่ไร้ซอกหลืบให้แสงเล็ดลอด
มิสเทสแห่งเวลาเอ๋ย เสียงสูงแหลมดังก้องกังวาน พร้อมแส
งอ่อนๆสีฟ้าปรากฏขึ้นเบื้องหน้า
คุณคือใคร รู้ได้ไงว่าผมเป็นมิสเทส แล้วที่นี่มันที่ไหน
ข้าคือจิตวิญญาณแห่งหอคอยซาบิน่า ที่นี่เป็นความฝันของเจ้า ความฝันถ้างั้นก็แปลว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี๊ไม่ใช่ความ
จริงสักอย่างเลยน่ะสิ ผมเช็ดคราบน้ำตาบริเวณขอบตาอย่างโล่งอก
เอ.แต่หอคอย...ซาบิน่า...เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนนะ.....อ๋อ
ปริทาด้าเคยเล่าให้ฟัง เมื่อขึ้นไปถึงยอดหอคอยเราสามารถเปลี่ยน
เส้นทางชะตาชีวิตได้
ท่านสามารถเปลี่ยนเส้นทางชะตาชีวิตได้จริงๆหรอครับ
เจ้าได้ยินมาอย่างนั้นรึ ผมพยักหน้า
ใช่ข้าเปลี่ยนให้ได้ เพียงเจ้าเลือกช่วงเวลาที่ต้องการมาก็พอ
ทว่าการเปลี่ยนแปลงเส้นทางมันก็มีผลเสียด้วยเช่นกัน ผล
เสีย??? คงไม่จำเป็นต้องรู้หรอกมั้ง
ผมอยากกลับไปเป็นผู้ชายอีกครั้ง
หึๆๆ...คิดอยู่แล้วเจ้าต้องการเปลี่ยนข้อนี้ แต่แน่ใจแล้วรึ
ทำไมล่ะครับ
อย่างที่บอกมันมีผลเสียอยู่..หากจะอธิบายคงใช้เวลานาน เอา
สั้นๆละกัน ข้าสามารถทำให้เจ้ากลับไปเป็นผู้ชายได้ โดยไม่ต้อง
มามีส่วนข้องแวะกับสาวๆมิสเทสอีก และสำหรับพวกมิสเทสเอง
ตัวเจ้าก็จะไม่มีตัวตนเป็นเพียงคนแปลกหน้าในสายตาของพวก
เธอ ...กล่าวง่ายๆข้าจะเปลี่ยนเส้นทางของเจ้า ก่อนที่จะได้พบกับ
ริมิที่ห้องประธานนักเรียน ถึงอย่างนั้นเจ้ายังคงยืนกรานคำเดิมหรือ
ไม่
เอ่อ......... ทำไมต้องลังเลด้วย จิตวิญญาณหอคอยซาบิน่า
มาเองทั้งทีอาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้วก็ได้
แต่ทั้งอย่างนั้นตัวผมกลับรู้สึกว่าหากตัดสินใจผิดเพียงนิดเดียวอาจ
จะเสียสิ่งสำคัญที่สุดไปตลอดชีวิตและมันคงจะไม่หวนคืนกลับมา
อีกครั้ง
ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบ อีกสักพักข้าจะมาหาเจ้าอีก เตรียมคำตอบไว้ด้วยล่ะ แสงสีฟ้าค่อยๆเล็กลงจนเท่าเข็มด้ายก่อนจะหายวับไปทิ้งให้ผมยืนคิดทบทวนเพียงลำพัง
ทางหัวหินเกิดอุทกภัยคลื่นยักถล่มทำให้มี...... ผมสะดุ้ง
ตื่นขึ้นมาเพราะทีวีที่ตั้งเวลาเปิดเอาไว้ เมื่อกี๊...ความฝันจริงๆ
ด้วย..ค่อยยังชั่ว หยิบรีโมทมาไล่ช่องไม่ว่าช่องไหนๆก็มีแต่ข่าวสึ
นามิน่าเบื่อชะมัด หลังจากเหตุการณ์คลื่นยักวันนั้นทำให้โรงเรียน
ผมต้องปิดไปหนึ่งอาทิตย์ซึ่งตลอดห้าวันผมไม่ไปไหนเลยนอนอยู่
บ้านลูกเดียว วันนี้เป็นเช้าของวันจันทร์และผมควรลุกขึ้นยืนสะบัด
ความขี้เกียจไว้บนเตียงนอน แล้วไปอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนซัก
ที กริ๊งงงงงงงงงงงง ใครมากัน??? เช้าๆอย่างนี้ ผิดจังหวะจริงๆ
คนจะอาบน้ำ กริ๊งงงงงงงงงงงง แหน่ะกดย้ำอีก กริ๊งงงงงงงงงงง
งงงงงง เฮ้ย!!!เอาถอดกลับไปกดเล่นบ้านเลยมั้ย
มาแล้วคร้าบ เอ๊ย มาแล้วค่าาาาาาาาาาาาาาาา เฮ้อ ไม่
เคยชินสักที ทั้งๆที่ใช้ชีชิตในร่างผู้หญิงมาได้เกืยบหนึ่งเดือนเต็ม
แล้วแท้ๆ แต่ก็ยังมีบางครั้งบางคราวที่พลั้งปากมักแทนตัวเองว่าผม
หรือขานรับแบบผู้ชายออกไป
ซาริจางงงงงงงง พอเปิดประตู ยัยริมิในชุดนักเรียนก็ยื่นหน้า
มาซะใกล้.....ผมมองเลยหัวเธอไป เห็นฮอร์ลำสีชมพูแค่สีก็ทำให้
แสบตา ต้องเป็นลำเดียวกับที่มารับตอนสึนามิแน่ๆ บนนั้นมีคนนั่ง
อยู่ ยูกิโกะ นากาเนะ และ เรรินะ
ซาริจังพึ่งตื่นเหรอจ๊ะ
ทำไมรู้
ก็ซาริจัง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง แถมยังใส่ชุดนอนอยู่เลยนี่จ๊ะ
ฮิๆๆ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะ
เฮ้ย!!! ริมิดันผมเข้าบ้านพลางปิดประตู เธอเดินจูงมือผมขึ้น
ไปห้องนอน
รีบไปอาบน้ำสิจ๊ะ
อ..อื้ม ว่าแล้วผมก็หายเข้าห้องน้ำเป็นเวลาสักพักพอออกมา ริ
มิเตรียมชุดนักเรียนไว้เรียบร้อย เหลือบไปเห็นตู้เสื้อผ้าเบิดอ้าอยู่ มี
ความเกรงใจกันบ้างมั้ยเนี่ย ผมมองริมิด้วยสายตาตำหนิแต่เธอยืน
ยิ้มหน้าบานก่อนจะยื่นผ้าขนหนูผืนน้อยให้ ผมรับมันมาเช็ดหัว ไม่
ได้รับรู้ถึงสายตาของผมแม้แต่น้อย
เรรินะสร้างความรำคาญให้เธอรึเปล่า หลังจากผ่านพ้นเหตุ
การณ์สึนามิ ผมได้ฝากเรรินะให้ริมิดูแล ตอนแรกๆเธอแสดงท่าทาง
ไม่เต็มใจเห็นได้ชัด แต่ไม่รู้เพราะอะไรยัยเนื้อคู่กลับเปลี่ยนใจซะ
งั้นแถมก่อนจะออกปากยอมให้เรรินะไปอยู่ร่วมชายคาเดียวกันยัง
แสดงสีหน้าเจ้าเล่ห์อย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนชักเป็นห่วงยัยผิว
หิมะหน่อยๆแล้วสิ
เรย์นะจังนิสัยดีมากๆเลยจ้ะ แถมทำขนมเก่งด้วย แม้บางทีจะขี้
สงสัยจนสร้างเรื่องปวดหัวบ่อยๆก็เถอะจ้ะ"
ผมขอโทษ คงทำให้ริมิลำบากมากสินะ......โอ๊ยยยยยย ริมิ
หยิกท้องผมด้วยสีหน้าชื่นมื่น ดีไม่หยิกหัวนมเพราะแรงขนาดนี้ถ้า
โดนทีมีหวังหัวนมบอด
ริมิบอกแล้วไงจ๊ะว่าอย่าแทนตัวเองว่าผมอีก
โทษที มันลืมตัว
งั้นอย่าลืมบ่อยๆนะจ๊ะ...เดี๋ยวท้องจะเขียวไม่รู้ตัว
..... อึ้งพูดอะไรไม่ออก ผมเหลือบไปเห็นวัตถุบางอย่างในมือเธอ
ว่าแต่ขวดนั่นเอามาทำอะไร มันคือขวดแก้ว ภายในขวดมีม้วนกระดาษแผ่นนึง
เห....ซาริจังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เหรอจ๊ะ โรแมนติกมากๆเลยนะ ผมส่ายหน้า
จริงๆเหรอจ๊ะ ตอนจบผู้หญิงน่าสงสารมากเลยด้วย ยัยเนื้อคู่ย้ำเพื่อความแน่ใจ เธอคงคิดว่าผมล้อเล่น
ฉันจะโกหกทำไมเล่า
อยากฟังมั้ย ริมิจะเล่าให้ฟัง
ไม่อะ ไร้สาระจะตายมีแต่พวกติงต๊องเท่านั้นที่เชื่อเรื่องพรรค์นี้
มันเป็นเรื่องของคู่รักคู่หนึ่งโดยที่ผู้ชายเนี่ย...อ๊ายยยยยย ริมิ
หน้าแดงพลางใช้มือจับแก้มตัวเองยืนบิดไปบิดมาจะเขินอะไร
นักหนา ทำอย่างกะเป็นเรื่องของตัวเองงั้นแหละ คราวหน้าเธอไม่
ต้องถามก็ได้นะ ถามเหมือนไม่ได้ถามเอาแต่ใจตัวเองชะมัด
ชายหญิงคู่นี้บ้านอยู่ติดทะเลดังนั้นทุกวันก่อนพระอาทิตย์ลับ
ขอบฟ้า ผู้ชายจะเขียนข้อความยึกๆยือๆลงในกระดาษแผ่นนึงแล้ว
ม้วนมันใส่ขวดแก้ว จากนั้นเขาจะเอาขวดไปลอยทะเล แฟนสาว
เห็นเขาทำหลายครั้งแต่ไม่เคยนึกอยากถามได้แต่เก็บความสงสัย
ไว้ในใจ จนกระทั่งวันนึงเธอเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่อยู่จึงถาม
แฟนหนุ่มว่า
เอาขวดไปลอยทะเลทำไมเขายิ้มแล้วตอบกลับมา
แม่เธอไม่เคยเล่าให้ฟังเหรอว่าแต่ก่อนมนุษย์เคยสื่อสารกับ
พระเจ้าได้ เพียงแค่เราเขียนคำอธิฐานลงในกระดาษม้วนมันใส่
ขวดแก้วแล้วเอามันไปลอยทะเลให้สายน้ำพัดพามันเดินทางไปสู่
มือพระเจ้าและทางที่มันลอยไปต้องเป็นทางเดียวกับจุดที่
พระอาทิตย์อัสดง แต่ระหว่างนั้นห้ามละสายตาจากขวดเด็ดขาด
ไม่งั้นพระเจ้าจะคิดว่าเราไม่จริงใจต่อการสื่อสารกับพระองค์ต้อง
จ้องขวดไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะหายลับไป ณ ขอบฟ้า หากโชคดี
พระเจ้าจะเก็บมันไปอ่านแล้วคำอธิฐานก็จะเป็นจริง
นายอธิฐานอะไร
ขอให้เธอมีความสุข หญิงสาวหัวเราะร่วนกับเรื่องที่ได้ยิน มัน
ไร้สาระเสียจนเธอไม่คิดว่าจะมีใครเชื่อ แฟนหนุ่มไม่โกรธหรือเคือง
เธอแม้แต่น้อย เขาเข้าใจนั่นเพราะมันดูงมงาย
แล้วผู้หญิงหน้าสงสารตรงไหน
ซาริจังอย่าพูดขัดตอนคนอื่นเขาเล่าสิจ๊ะมันไม่ดีนะรู้มั้ย ฮึ๋ยยย
สอนตัวเองก่อนเหอะยัยบ้าเล่นซะผมอยากด่ากลับ ทีเธอยังเล่า
เรื่องโดยที่ผมไม่เต็มใจฟังได้หน้าตาเฉยเลย
แฟนหนุ่มของเธอต้องไปยังต่างเมืองเพื่อซื้อวัตถุดิบมาทำมา
ค้าขาย ทิ้งให้หญิงสาวอยู่บ้านคนเดียวตามลำพัง ก่อนไปทั้งสอง
คนทะเลาะกันหนักมากจนเกือบถึงขั้นต้องอย่าร้าง สภาพของแฟน
หนุ่มที่ออกเดินทางดูซังกะตายและไร้เรี่ยวแรงนั่นก็เพราะว่าหญิง
สาวโกรธจัดจึงตะโกนบอกเขาว่า
ไปตายซะแล้วไม่ต้องกลับมาอีกเธอไม่รู้หรอกว่าคำพูดของ
เธอนั้นได้สร้างความทรมานใจให้แฟนหนุ่มมากเพียงไร ผ่านไปได้
หลายวันแฟนหนุ่มไม่กลับมาสักที อาทิตย์แรกเธอคิดว่าเขาคงยัง
ไม่ได้ของที่ต้องการจึงกลับมาช้าหน่อย อาทิตย์ที่สองเธอเริ่ม
กระวนกระวายนั่งไม่ติดเก้าอี้เดินวนไปวนมาในบ้านตลอดเวลา
อาทิตย์ที่สามเธอก็ได้รู้...ว่าแฟนของเธอตายไปแล้ว
รู้ได้ยังไงว่าตายแล้ว ริมิแสยะยิ้ม
ซา...ริ..จางงงงงงง ริมิเอียงคอพูดเน้นทีละคำเสียงใสบวก
รอยยิ้มด้วยแล้วยิ่งทำให้ดูน่ารักขึ้นอีกเป็นกอง ทว่าความน่ารักของ
เธอต้องพลันหายไปเพราะ....
อ..โอ้ยยๆๆ หยุดๆเจ็บบบบบบ เพราะ...แรงหยิกอันมหาศาล
ของยัยนี่ที่เล่นหยิกท้องน้อยๆของผม แถมซ้ำแผลเดิมด้วยห..โหด
ร้ายมากยัยบ้า ชักสงสัยหน่อยๆแล้วสิว่าเป็นเนื้อคู่กันจริงรึเปล่า
ริมิก็ไม่รู้จ้ะ แม่เล่ามาอย่างนี้
แล้วไงต่อ ผมลูบท้องตัวเองตรงบริเวณที่โดนยัยเนื้อคู่หยิก
เบาๆ
หญิงสาวรู้สึกเสียใจมากต่อสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป เธอจึง
อยากเจอเขาเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อกล่าวคำขอโทษ แต่ก็ทำไม่ได้
เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะสิ้นหวังเธอนึกถึงตำนานขวดใบน้อย หญิง
สาวไม่รอช้ารีบหาขวดแก้วกับกระดาษหนึ่งแผ่นมาเขียนคำอธิฐาน
ลงไป ก่อนจะม้วนมันใส่ขวดแล้วเอาไปลอยทะเล เธอจ้องมองขวด
ไม่ละสายตาภายในใจภาวนาขอให้ได้เจอกับเขาอีกครั้ง....
สรุปผู้หญิงได้เจอแฟนหนุ่มมั้ย
ไม่รู้สิจ๊ะ แม่เล่ามาแค่นี้ ซาริจังคิดว่าไง
คงไม่เจอกันมั้ง ผู้หญิงไม่เห็นน่าสงสารเลยสักนิด สมควรโดน
แล้วด้วยซ้ำ เรื่องนี้มันออกจะงมงายไปหน่อยและพระเจ้าไม่มีจริง
หรอก ก็แค่ตำนานนิทานหลอกเด็ก เธอทำแก้มป่องๆมองผมงอนๆ ว่าแต่เธอเถอะ อธิฐานอะไร
ไม่บอกหรอก แบร่ เธอพูดพลางแลบลิ้นปริ้นตาน่ารักอะ
ไม่บอกก็ไม่เป็นไรไม่อยากรู้
ไม่อยากรู้จริงๆเหรอจ๊ะ ผมพยักหน้า ที่จริงก็อยากรู้อยู่หรอก
แต่กลัวเสียฟอร์มถ้าจะถามออกไป ริมิกลับหันหลังร้อยแปดสิบ
องศาตรงไปที่ทางออก
ริมิไปรอข้างล่างดีกว่า ว่าแล้วยัยเนื้อคู่ก็เดินหายไปหลังประตู
บานสีชมพูโดยถือขวดไปด้วย
ถ้ามาช้าโดนหยิกอีกไม่รู้ด้วยนะจ๊ะ โถ่แม่คู้ณณณณ ยังมิวาย
ส่งเสียงใส หวาน แฝงความน่ากลัวกลับมาอีกน้อ พอประตูปิดลง
ผมรีบแต่งตัวอย่างเร่งรีบบวกทะมัดทะแมงประมาณว่าคว้าอะไรได้
จับใส่ลูกเดียว ก่อนจะวิ่งลงไปหาริมิ เธอนั่งรออยู่บนฮอร์พูดคุยเล่น
หยอกล้อกับนากาเนะ โดยมีเรรินะนั่งเป็นกองหนุน และดูท่าทางนา
กาเนะกำลังเสียเปรียบ
ยูกิโกะเธอช่วยฉันเถียงยัยสองคนนี้หน่อยสิ แม่นักร้องขี้วีนร้
องขอความช่วยเหลือจากสาวเย็นชา
...... เงียบไปตามบท
ฮ่าๆๆๆๆ ผมหัวเราะลั่น มันรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง..การได้มีเพื่อน
ช่างวิเศษจริงๆมันไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้หรอก
ความรู้สึกนี้...หากใครไม่เจอกับตัวจะไม่มีทางเข้าใจ โดยเฉพาะ
พวกเธอเป็นเพื่อนกลุ่มแรกของผม เพื่อนหญิงกลุ่มแรก ตอนผมเป็น
ผู้ชายไม่เคยมีเพื่อนสักคนมันเหงามาก มีเรื่องทุกข์ใจทีไรก็ไม่รู้จะ
ปรึกษาใคร หลายๆคนอาจมีพ่อกับแม่ให้พูดระบายความเครียดใน
ใจแต่กับผมมันไม่ใช่ เพราะพวกท่านไม่เคยว่าง ผมเคยขอคุยด้วย
หลายครั้งแต่สิ่งเดียวที่ได้กลับมาคือรูปประโยคซ้ำๆที่ไม่ว่ายังไงก็
ลืมไม่ลงพ่อมีประชุม/แม่ต้องไปดูแลงานอย่าไปคิดถึงมันดีกว่า...
ไม่ต้องมาขำเลยยัยถั่วเน่ารีบๆขึ้นมาได้แล้ว นากาเนะหันมา
มองตาขวาง
อื้ม ว่าแล้วก็ขึ้นไปนั่งกั้นกลางระหว่างริมิกับเรรินะ
ไม่อยากรู้แน่นะ ริมิอยากบอกก็พูดมาเหอะ
เออไม่อยาก ผมตอบเสียงสูง ยัยเนื้อคู่หรี่ตามองผมอย่าง
สงสัย
เรรินะไม่กลัวแล้วเหรอ ถามยังไม่ทันขาดคำดี พอเครื่องบิน
ขึ้นปุ๊บ...
น....น่ากลัววว เรรินะบอกพลางเกาะแขนเสื้อผมแน่นตัวเธอ
สั่นพั่บๆๆ เห็นทำหน้านิ่งๆนึกว่าไม่กลัวที่แท้ก็เก็บอาการว่าแต่นั่ง
มาได้ยังไง
ชุดนักเรียนเธอใส่แล้วสวยมากๆเลยนะ เรรินะถูกบรรจุให้เข้า
เรียนที่โรงเรียนสปิริตไฮส์เป็นที่เรียบร้อยอันนี้ใช้อำนาจในฐานะ
ของประธานนักเรียนและในฐานะหลานของผ.อ.ต้องขอบคุณ คุณปู่
จริงๆ ชุดนักเรียนของเรรินะถูกสั่งทำพิเศษให้มีความละม้ายคล้ายยู
คาตะมากที่สุด เคยลองให้ยัยนี่ใส่ชุดนักเรียนปกติ เจ้าตัวบอกว่า
ไม่เอาใส่แล้วมันดูไม่งามวหหวิวๆขาด้วย ผมจึงถามว่าจะเอาแบบ
ไหน เรรินะใช้เวลาคิดไม่นานที่จริงไม่ได้คิดเลยมั้ง เอาแบบยูคา
ตะ โอเคตามคำขอ ผมจัดการสั่งให้ร้านค้าตัดชุดนักเรียนแบบยูคา
ตะ เอายูคาตะสีชมพูที่เธอใส่มาด้วยไปให้ร้านค้าเป็นแบบ เสียตังค์
ไปเยอะอยู่เหมือนกันแต่ไม่เป็นไรหรอกแค่ห้าชุด ชุดละห้า
พัน...เอง
(นิสัยไม่ดี เชอะเค้างอน....รู้มั้ยเค้างอน...) เรื่องของเธอไม่คุยก็
ไม่เป็น ยัยอาโอยไม่พูดกับผมเป็นอาทิตย์เพราะเรื่องนี้ ไม่พูดก็ไม่
พูด ผมไม่เห็นต้องแคร์ แต่ที่ไหนได้กลับเป็นยัยวิญญาณนั่นแหละ
ที่ทนความเหงาไม่ไหวต้องหันมาชวนผมคุยก่อนซะงั้น
ข..ขอบใจนะ
ซาริจัง ถ้าริมิใส่จะสวยมั้ยจ๊ะ เสนอหน้ามาเชียว อย่างเธอใส่
อะไรก็งั้นๆแหละ
คงจะสวยหรือไม่สวยล่ะมั้ง...ไม่สิ.....อาจจะ....ไม่รุ้ ยัยเนื้อคู่
มองผมตาเขียว สงสัยงานจะเข้า
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย ริมิหยิกผมเต็มเหนี่ยว..ที่จริงไม่น่า
เรียกหยิกควรเรียกว่าบิดซะมากกว่า ท้องของผมคงจะเขียวอื๋อแล้ว
ล่ะมั้ง
ซาโตริ เธอแน่ใจนะว่าไม่มีผลกระทบต่อเวลาแน่น่ะการพาเรริ
นะมามันต้องเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างบ้างสิ นากาเนะถามผม
หน้าตาจริงจัง หลังจากหนีสึนามิมาได้อย่างหวุดหวิด ผมก็เล่าเรื่อง
การย้อนเวลาไปหาเรรินะให้ทุกคนฟังมีการตีสีใส่ใข่นิดๆหน่อยๆ
เพื่อเพิ่มอรรถรสให้เรื่องสนุกสนานยิ่งขึ้น แต่ตอนนั้นไม่เห็นมีใคร
ถามอะไร นากาเนะทำไมเธอไม่ถามซะปีหน้าเลยล่ะ
ฉันไม่รู้ แต่ปริทาด้าบอกว่าไม่มี แต่ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกัน ยัย
นั่นน่ะมีเรื่องปิดบังตั้งเยอะแยะ
ใช่มั้ย ฉันคิดแล้วว่ายัยนี่ต้องมีเรื่องบิดบังพวกเราอีกแน่
อย่าไปว่าปริทะจังอย่างนั้นซี่จ๊ะ บางทีปริทะจังอาจจะมีเรื่อง
บางอย่างที่ไม่สามารถบอกพวกเราได้ บางเรื่องที่น่าลำบากใจแล้ว
ปริทะจังไม่อยากบอกเพราะไม่อยากทำให้พวกเราลำบากใจไงจ๊ะ
ที่ริมิพูดมาก็มีเหตุผล
เธอคิดว่าไงยูกิโกะ นากาเนะหันไปขอความเห็นเจ้าหญิง
น้ำแข็ง
......... เธอไม่สนแม้แต่เหลือบตามอง เพราะสายตาของเธอ
กำลังไล่อ่านหนังสือเล่มหนาในมือ
ยูกิโกะ!!! นากาเนะตะโกน ทว่ายูกิโกะยังคงนั่งนิ่งไม่พูดอะไร
เช่นเดิม เล่นเอาแม่นักร้องแทบคลั่ง จ้องสาวเย็นชาเขม็ง ไม่ชินสัก
ทีนะ...นากาเนะ เป็นผมนะเรียกคำสองคำไม่หันก็เลิกเรียก
ฮอร์ลำสีชมพูลงจอด ณ ดาดฟ้าของโรงเรียน สุดแสนจะนิ่มนวล
ขอย้ำว่าโคตะระจะนิ่มนวล
ถ...ถึงสักที เฮ้อ..... เรรินะปรี่ตัวลงจากฮอร์เร็วปานสายฟ้า
ล้มตัวลงนอนแผ่หลาบนพื้นซะหมดสวย
หมดสภาพเลยนะนั่น ริมิพูดเยาะเย้ย
ก็เรากลัวนี่นา สาวผิวหิมะย้ำคำเดิมเสียงอ่อย
..... ยูกิโกะเงียบได้โล่จริงๆ แสดงความเห็นบ้างสิเธอ
คราวหน้าไม่ต้องมารับพวกเราแล้วนะคะ เกรงใจจัง นากาเนะ
หันไปบอกคนขับเฮริครอปเตอร์อย่างนอบน้อม เพิ่งรู้วันนี้นี่แหละ
ว่ายัยนี่สะกดคำว่าเกรงใจคนอื่นเป็นด้วย
(คนเรามันก็ต้องมีด้านอ่อนโยนกันบ้างสิใครจะไปแข็งกระด้าง
ได้ตลอดล่ะ) พูดได้แล้วหรอนึกว่าเป็นใบ้ไปซะอีก
(นี่แหนะ นี่แหนะ) อาโอยทุบผมดังปึกๆ พึ่งรู้ว่ายัยนี่แรงน้อยก็
วันนี้แหละ ผึ้งต่อยยังเจ็บ มดกัดยังคันๆ แต่ยัยนี่ทำอะไรสะกิดผิว
หรอ
ไม่ได้หรอกครับ ท่านริเรียนสั่งมาผมต้องทำตาม
แต่ว่า.... นากาเนะทำหน้าลำบากใจ
ถ้าท่านริเรียนรู้เข้าผมต้องโดนยำเละแน่ๆครับ
ก...ก็ได้ค่ะ
ขอบคุณครับ ชายหนุ่มบนฮอร์กล่าวขอบคุณอย่างโล่งอก
ไปห้องประธานนักเรียนกันเถอะ ผมบอกก่อนจะเดินนำทุกคน
ไปจุดหมาย
เข้ามาในห้องผมหย่อนก้นนั่งปุลงบนเก้าอี้ตัวโปรด
มาห้องนี้ทำไมยะ นากาเนะถามเสียงห้วน
มาเตรียมเอกสารให้ริเรียน กับ เปะโปะ เอ้อ..พอพูดถึงแล้วเธอช่วย...
เอกสาร??? ไอ้สี่ตา ไอ้หน้าหวาน??? มันเรื่องอะไรกัน นัก
ร้องสาวพูดสวนกลับมาสีหน้าขึงขัง ลืมไปว่ายัยนี่ไม่ถูกกับริเรียน
ขืนให้ไปถ่ายเอกสารมีหวังไอ้สองหน่อวงมาสเตอร์อดมาเรียนที่นี่
แน่
เรื่องมาเรียนที่นี่ของริเรียนกับเปะโปะ ฉันก็พึ่งรู้เหมือนกัน
เพราะเมื่อวานคุณปู่พึ่งบอก ว่าสองคนนี้เอาเอาเอกสารข้อมูลส่วน
ตัวมาให้คุณปู่แล้วคุณปู่ก็เอาเอกสารมาเก็บไว้ในตู้ห้องประธานอีก
ทีนึงแถมมาแอบอ้างว่าเป็นเพื่อนสนิทกับฉันซะอีก ถึงว่าไอ้หน้า
หวานถามชื่อโรงเรียนทำไม แค่นึกถึงใบหน้ากวนประสาทของมันก็
ทำให้ฉันอารมณ์เสีย
งั้นก็ไม่ต้องเอาเอกสารไปถ่ายสำนงสำเนาอะไรนั่นหรอก เอา
มาเดี๋ยวฉันเอาไปเผาเอง
ไม่ต้องหรอกนากาเนะ
เอาน่าฉันจัดการเอง
บอกว่าไม่ต้องก็คือไม่ต้องสิ!!! นากาเนะสะดุ้งเฮือกพลางทำ
ปากมุบมิบเหมือนบ่นอะไรบางอย่าง
ริมิเธอเอาเอกสารของพวกเปะโปะในตู้สีดำไปถ่ายสำเนามา
อย่างละชุดนะรีบๆมาล่ะเดี๋ยวไม่ทันยื่น ริมิยืนนิ่งไม่ทำตามที่ผม
บอก
ริมิทำไม่ได้จ้ะ หือ....
ทำไม??? ขอเหตุผลดีๆสักข้อซิ
เอ่อ... ริมิกรอกสายตาคิดหาเหตุผลไปมา
ซาโตริในหัวเธอมีแต่เม็ดถั่วรึไงยะ ก็รู้กันอยู่ว่าฉันไม่ชอบริ
เรียนจะให้มันมาเข้าโรงเรียนนี้ทำไม อีกอย่างริมิเกลียดเปะโปะจะ
ตาย ใช่มั้ยริมิ นากาเนะเห็นท่าไม่ดีรีบพูดช่วยก่อนจะหันไปถามยัย
เนื้อคู่
ช...ใช่จ้ะ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนะ
ทำเป็นใจแคบไปได้น่า
อ้าว มันไม่จริงรึไงยะ...
ใครกันน้า...เมื่อเช้ายอมขึ้นฮอร์ของริเรียนมาหน้าตาเฉยแถม
ไม่ปฏิเสธซักคำ คงหลงเสน่ห์ของมันเข้าแล้วล่ะสิ สาวเย็นชา
เปรยขึ้นมาอย่างจงใจ
ยูกิโกะ อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่า
ฉันพูดลอยๆ เธอแคร์หรอ ยูกิโกะมองท่าทางแข็งกระด้างของ
คนร้อนตัว
พูดลอยๆ??? ประทานโทษเถอะมันกระทบฉันเต็มๆเลยย่ะ
หรือเธอจะบอกว่ามันไม่เป็นอย่างที่ฉันพูด สาวเย็นชาจ้อง
มองอย่างท้าทาย
ถ้าฉันชอบริเรียนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอยัยหนอนหนังสือ
เน่า
มันก็ไม่เกี่ยวจริงๆนั่นแหละแต่พอดีปากเธอมันบอกว่าเกลียดริ
เรียน ทว่าการกระทำของเธอกลับตรงกันข้ามซึ่งมันขัดแย้งอย่างไม่
ต้องสงสัย ไม่แน่นะบางที...ใจเธออาจจะชอบริเรียนแล้วก็ได้ ลอง
ถามใจตัวเองดูสิว่าใช่อย่างที่ฉันพูดมั้ย อยากตบมือให้ยูกิโกะ
จริงๆกับการคิดวิเคราะห์อันเฉียบแหลม
แต่เมื่อกี๊ฉันก็บอกให้เขาไม่ต้องมารับแล้วนี่ไง เธอไม่พอใจ
อะไรฉันอีก พูดออกมาตรงๆเซ่!!! นากาเนะชักเหลืออด
เฮอะ อย่ามาแก้ตัวหน่อยเลย...เพราะสุดท้ายก็ยอมให้
มันมารับไม่ใช่เหรอ ให้ฉันเดานะ...เธอคงอยากเป็นแฟนของ
ริเรียนจนตัวสั่นล่ะสิท่า สาวเย็นชาพูดกระแทกเสียง
เธอ!!! ยูกิโกะกับนากาเนะต่างจ้องมองนัยน์ตากันและกันไม่กะพริบ
ท..ทั้งสองคนอย่าทะเลาะกันนะจ๊ะ ริมิร้องห้ามก่อนที่เรื่องจะ
แย่ไปมากกว่านี้
เอาซี่ ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าใครจะเริ่มก่อน ไม่รู้อะไรดลใจให้
ผมพูดอย่างนั้นออกไป
ซาริจังก็อีกคน ทำไมพูดยุยงอย่างนั้นล่ะจ๊ะ ริมิหันมาต่อว่าผม
แต่ผมไม่ได้สนใจเสียงของเธอแม้แต่น้อยนั่นก็เพราะมัวแต่ใจจดจ่อ
อยู่กับเหตุการณ์ตรงหน้า นากาเนะง้างมือขึ้นเหนือหัวเตรียมเปิด
ฉาก ทางยูกิโกะนิ่งเฉยไม่มีทีท่าจะยกมือตั้งป้องกัน สายตาเย็นชา
จ้องมองเข้าไปยังนัยน์ตาของคู่กรณีราวกับว่าเธอคาดหวังอะไรบาง
อย่างในดวงตาคู่นั้น
ฉันไม่คิดจะทะเลาะกับคนที่คุยไม่รู้เรื่องหรอก พูดจบเจ้า
หล่อนไม่รอช้า ก้าวเท้าฉับๆๆออกประตูไปซะงั้น ทิ้งนากาเนะให้ยืน
มึนกับท่าเตรียมของตัวเองเหมือนคนบ้า ก่อนจะเดาะลิ้นอย่าง
เจ็บใจแล้ววิ่งตามออกไป
ซาโตรินิสัยไม่ดีทำไมไม่พูดห้าม เรรินะหันมาต่อว่าผมอีกคน
เอ่อ.. เพี้ยะ เรรินะตบผมที่แก้มขวา ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่คันๆ
เกาก็หาย
ริมิเคยคิดมาตลอดว่าภายนอกของซาริจังอาจจะดูเป็นคนไม่
เอาไหนทำอะไรก็ไม่เก่งอ่อนแอก็ที่หนึ่ง แต่บางทีภายในของซาริ
จังต้องมีอะไรพิเศษซ่อนอยู่แน่ๆเพราะไม่อย่างนั้นริมิกับซาริจังคง
ไม่ใช่เนื้อคู่กัน จากเหตุการณ์สึนามิยิ่งทำให้ริมิเชื่อว่าซาริจังคือเนื้อ
คู่ที่จะมาปกริมิในเวลาที่ริมิตกอยู่ในอันตราย แต่ริมิคิดผิดเพราะ
บางทีอาจจะเป็นแบบที่ซาริจังเคยพูดก็ได้ ริมิซวยจริงๆที่ได้ซาริจัง
เป็นเนื้อคู่ เพราะจริงๆแล้วซาริจังเป็นคนอย่างนี้เองเหรอจ๊ะ หรือว่า
เมื่อกี๊แค่พลั้งปาก ม..ไม่นะริมิน้ำตาคลอเธอกำลังจะร้องไห้ อย่า
ร้องนะได้โปรด ผมไม่อยากเห็นใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาเธออีก
แค่พลั้..... เพี้ยะ ริมิตบผมที่แก้มซ้าย แรงที่กระทบบนหน้า
ขอบอกว่าเบากว่าเรรินะหลายเท่าตัว แต่ทว่าผมกลับรู้สึกเจ็บและ
ชาไปทั้งหน้า สายตาของริมิที่มองมามันสื่อถึงอะไรบางอย่าง
คือเมี่อกี๊....
ไม่ต้องพูดหรอกจ้ะริมิไม่อยากฟัง ริมิพูดขัดอย่างรู้ทัน เธอ
พยายามประคองเสียงให้ฟังดูปกติที่สุด ริมิไม่ฟังเหตุผล นอกจาก
หยิบเอกสารในตู้แล้วเอามันมาวางบนโต๊ะ
ส่วนเอกสารพวกนี้เอาไปถ่ายเองนะจ๊ะ ยัยเนื้อคู่กับยัยผิวหิมะ
พากันเดินออกไปอย่างเงียบๆ เหลือไว้เพียงผมคนเดียว ไม่สิยังมี
รอยสิบนิ้วแยกได้ข้างละห้านิ้วกับความเจ็บนี้นี่นะ
มิสเทสแห่งเวลาเอ๋ย เจ้าตัดสินใจได้รึยัง เสียงแหลมเล็กดัง
กึกก้อง สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าผมไม่ใช่แสงสีฟ้าแต่เป็นร่างเพรียว
บางของผู้หญิง
ไม่รู้สิครับผมก็ยังไม่แน่ใจ เธอเดินมาโอบไหล่ผม
เมื่อกี๊ข้าเห็นหมดทุกอย่าง เจ้าไม่น่าพูดอย่างนั้นออกไปเลย
เธอคงเกลียดผมแล้ว
แย่เลยเนาะ ขืนเป็นอย่างนี้มิสเทสแห่งชีวิตอาจจะ....ไปรักกับ
คนอื่นที่ไม่ใช่เจ้า เป็นไปไม่ได้
ผมควรจะทำไงดีครับ
เปลี่ยนเส้นทางในอดีตสิ เจ้ายังอยากกลับไปเป็นผู้ชายรึเปล่า
ล่ะ บอกปฏิเสธซะ ซาโตริ นายก็รู้ผลเสียของมันไม่ใช่เหรอ
(ซาโตริรู้จักผู้หญิงคนนี้ด้วยเหรอ) เคยเจอในความฝันน่ะ เห็น
บอกว่าเป็นจิตวิญญาณแห่งหอคอยซาบิน่า
(อ่าฮะ ข้อเสียที่ว่าคืออะไร???) เรื่องนั้น...ผมจำไม่ได้ อาโอย
มุ่ยหน้าใส่ผม
(ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร แต่นายช่วยคิดทบทวนก่อนได้มั้ย
เพราะไม่ใช่นายคนเดียวที่จะเสียใจจากการกระทำอันงี่เง่าของนาย
แต่เค้าและพวกริมิก็จะต้องเสียใจเหมือนกันเผลอๆริมิจังอาจจะเจ็บ
ปวดมากที่สุดดังนั้นเค้าอยากให้ซาโตริปฎิเสธไปซะทำได้มั้ย)
ด..ได้
แหมๆๆ เจ้าเนี่ยคิดนานจัง ข้าจะบอกข้อดีให้ได้รู้ไว้ เจ้า
สามารถกลับไปเป็นผู้ชาย แถมได้คบกับมิสเทสแห่งชีวิตและสิ่ง
สำคัญเจ้าสามารถเลือกจะกลับมาเป็นมิสเทสหรือไม่ต้องการก็ได้
เห็นมั้ยมีแต่ได้ทั้งขึ้นทั้งร่อง ไม่ต้องใส่ใจข้อเสียหรอก นั่นสินะ
หากเปลี่ยนเส้นทางในตอนนั้น เหตุการในตอนนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นผม
กับริมิก็ไม่ต้องทะเลาะกันด้วย ข้อเสียช่างมันเหอะไม่จำเป็นหรอก
ครับ ผมอยากกลับไปเป็นผู้ชาย ช่วยทำให้มันเป็นจริงทีเถอะ
ครับ ร่างเพรียวบางเสกลูกแก้วให้ปรากฏบนมือแล้วปามันลงบน
โต๊ะ เพล้ง แสงสีขาวสว่างวาบในบัดดลมันส่องแสงเรืองรองทั่ว
ห้อง ผมได้อาบแสงนั้น รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
(ซาโตริทำอะไรของนาย ไหนบอกว่า....ช่างเหอะแล้วนายจะ
ต้องเสียใจ) อาโอยทำตาโตใส่ผมก่อนจะชักสีหน้ากลับมาเป็น
เหมือนเดิม ขอโทษที่ทำตามคำพูดไม่ได้ แต่ผมจะกลับไปแก้ไข
ทุกอย่างเชื่อผมเถอะนะอาโอย
(เชื่อ??? ฮ่าๆๆ สงสัยเค้ากับซาโตริคงไม่มีทางได้มาเจอกันอีก
แล้วล่ะ บอกลาตรงนี้เลยดีกว่า ลาก่อนนะ...นายโง่สมองฝ่อ
อ้อ..ยัยจิตวิญญาณนั่นน่ะที่จริงแล้วเป็น.....) เป็นอะไร???
ด...เดี๋ยว ทันใดนั้นทุกอย่างก็มืดสนิท เธอต้องการบอกอะไรผม
ลืมตาขึ้นมา กวาดสายตามองรอบๆ ห้องประธานนักเรียน
นั่นเอง ก้มลงสำรวจตัวเอง ผมกลับมาเป็นผู้ชายเรียบร้อยไม่มีนม
ให้เดินแบกโทงๆ ไม่มีทรงผมยาวๆให้รำคาญในเวลาตื่นเช้ามาต้อง
หวีต้องสางให้อยู่ทรง นี่แหละตัวผมร่างของผู้ชายอ้วนๆคนเดิม
กลับมาแล้ว ผมกระโดดโลดเต้นดีใจสุดขีดอย่างลิงโลด ก๊อกๆๆๆ
ใครมาฟะขัดจังหวะจริงๆ ผมกลับมานั่งเก้าอี้อยู่ในมาดประธานผู้
เรียบร้อยแทบไม่ทัน
เชิญครับ ร่างสูงเปิดประตูเข้ามา คือชายใส่แว่นผมเขียว
มีอะไรให้ผมช่วยไหม ดาร์ก ผมถามชายผู้มาเยือน ดาร์กทำ
หน้างงๆ ประมาณว่าผมรู้ชื่อเขาได้ไง
นาย... ดาร์กทำหน้าตาตื่นตกใจ มีอะไรติดหน้าผมรึไง
ผมรู้ว่าดาร์กจะถามอะไร ขอบคุณมากที่ช่วยผมไว้ และไม่ต้อง
เป็นห่วงผมหรอก ผมดูแลตัวเองได้ พูดจบดาร์กเกาหัวแกรกๆ
อย่างฉงน
น..นายรู้ก็ดีแล้ว ฉันไปล่ะ ดาร์กซอยเท้าถี่ยิบออกจากห้อง
พร้อมอาการตะขิดตะขวงใจอย่างเห็นได้ชัด เอาล่ะคนต่อไปที่จะ
เดินเข้ามาก็คือริมิ ก๊อกๆๆๆ
เชิญครับ ร่างเพรียวบางของหญิงสาวผมดำขลับยาว ตาคม
ผิวออกคล้ำหน่อยๆ ยัยนี่ไม่ใช่ริมิชัวร์ ใครฟะเนี่ย ผมไม่เห็นหน้า
เธอจึงไม่รู้ว่าใคร นั่นก็เพราะคุณเธอเล่นก้มหน้าเดินงุดๆเข้ามายืน
ตรงหน้าผมเราสองคนอยู่ห่างกันแค่ระหว่างโต๊ะ
เอ่อคุณชื่ออะไร สาวปริศนาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา โอ้
พระเจ้า ยัยนี่สวยใช้ได้หน้าตาเนียนผ่องไร้เสก็ดดาวตก
ฉันชอบประธานค่ะ กรุณาคบกับฉันได้มั้ยคะ!!! เธอ
โพล่งออกมา แก้มแดงระเรื่อก่อนจะแดงขึ้นเรื่อยๆ เอาแล้วนี่
มันไม่ใช่อย่างที่ผมนึกเลย ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ หรือว่า
จิตวิญญาณนั่นที่จริงแล้วเป็น....พวกขี้แกล้งรึเปล่า
อ..อะไรนะช...ชอบ???ผม เธอพยักหน้าหงึกๆ
ชื่อแส้ก็ยังไม่รู้ จะคบกันได้ยังไง
ถ้าฉันบอกชื่อแล้วประธานจะคบกับฉันมั้ยคะ
ก็ไม่แน่ เธอสูดอากาศเข้าปอดไปอย่างคนเตรียมใจ
ฉันชื่อ.....